กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6870)

เถรี 24-01-2020 23:51

ถาม : ท่านว่าท่านรักษาแบบเอาเข้าตัว ? ?
ตอบ : การไปยุ่งกับกรรมคนอื่น อย่างไรเราก็ต้องรับ จะมากจะน้อยก็ต้องรับ เราจะสังเกตว่าหมอนวดบางคนที่เขาขึ้นครูมาถูกต้อง บางทีพอนวดให้เราเสร็จ เขาต้องให้เราเทน้ำล้างมือให้ เป็นการล้างทิ้งไปโดยตัวของเราเอง เขาจะได้ไม่ต้องรับ

ถาม : คนที่ไม่ใช่ญาติกัน มาถามแทนให้รักษาให้กัน ท่านจะไม่รับรักษา ต้องเป็นญาติกันเท่านั้น ?
ตอบ : ถ้าเห็นหน้าก็แปลว่าญาติกัน ...(หัวเราะ)... พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดแล้ว บุคคลที่เกิดมาเจอกันในชาตินี้ ในอดีตไม่เคยมีความสัมพันธ์มานั้นไม่มี อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเคยเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ หรือว่าเป็นผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาอะไรกันมาก่อน

เถรี 24-01-2020 23:53

ถาม : พูดถึงญาณ เราสามารถนำมาใช้ช่วยในการลดกิเลสหรือกำจัดกิเลสได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้...แต่ต้องบวกปัญญาไปด้วย เพราะว่าญาณคือรู้อย่างเดียว ถ้าไม่มีปัญญากำกับ บางทีก็เตลิดเปิดเปิง อย่างเช่นเรารู้ว่าเราเกิดเป็นโน่น เป็นนี่เป็นนั่น กี่ชาติ ๆ รู้ไปเรื่อย นี่คือปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้ แต่ถ้าไม่มีปัญญาก็สักแต่ว่ารู้ ๆ ๆ โดยที่ไม่ได้เห็นว่าเราเกิดมากี่ชาติก็ทุกข์ เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของญาณถ้าจะใช้เป็นประโยชน์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีปัญญากำกับ

เถรี 24-01-2020 23:54

ถาม : การที่เราเห็นตัวเราน้ำเหลืองเน่าเฟะ หรือตัวคนอื่นเป็นของเน่าเฟะ เป็นญาณไหมครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าอสุภกรรมฐาน หรือว่ากายคตานุสติกรรมฐานบางส่วน แต่ว่าเรามีพื้นฐานกสิณเก่ามา ก็เลยมองเห็นในลักษณะอย่างนั้น ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็ต้องคิดเลยว่าตัวเขาก็เป็นอย่างนี้ ตัวเราก็เป็นอย่างนี้ ไม่มีอะไรที่น่าอยากได้ใคร่ดี เพราะว่าสภาพที่แท้จริงเขาแสดงให้เห็นชัดแล้ว ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายแบบนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก นี่คือการใช้ปัญญากำกับเข้าไป

ถาม : แล้วแบบนี้ไม่เรียกว่าญาณใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ทิพจักขุญาณ..เป็นญาณเหมือนกัน

เถรี 24-01-2020 23:55

ถาม : ญาณต้องใช้กำลังสมาธิขั้นต่ำคืออุปจารสมาธิใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ญาณเครื่องรู้จะเกิดขึ้นใน ๒ ลักษณะ ลักษณะแรกคืออุปจารสมาธิ แต่ว่าไม่มั่นคง ลักษณะที่สองคือฌานสี่เต็มระดับ อันนี้จะมั่นคงกว่า แต่ถึงจะมั่นคงแค่ไหนก็ตาม ถ้าหากว่าไม่มีการมาย้อนทวนใหม่ ใช้ไปนาน ๆ ก็เฝือ เหมือนกับว่ากำลังตก ต้องย้อนมาหาการภาวนาใหม่ แล้วค่อยเริ่มต้นรู้อีกทีหนึ่ง

เถรี 24-01-2020 23:56

ถาม : การที่เราสาธุ ถ้าเราคิดในลักษณะว่า สิ่งที่เขาทำดีแล้ว แต่ไม่ได้คิดว่า เราไม่มีโอกาสทำแต่เขาได้ทำ แบบนี้เราก็สามารถได้บุญใช่ไหมครับ ?
ตอบ : บอกแล้วว่าถ้าวางกำลังใจไม่ถูกก็ได้น้อย ต้องเป็นความยินดีในลักษณะที่ประกอบไปด้วยมุทิตาจริง ๆ เห็นเขาทำความดีขณะที่เราไม่มีโอกาสทำ เราก็พลอยยินดีกับความดีของเขา

ถ้าหากว่าเราวางกำลังใจผิด ซึ่งปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่ผิดกัน ก็คือสาธุปัจจุบันของเรานี้ก็คือ "กูจะเอาบุญของมึง" วางกำลังใจผิดจะได้น้อย และขณะเดียวกันเราเองไม่ได้อยู่ในลักษณะที่ไม่สนใจหรือสักแต่ว่าทำ สักแต่ว่าทำนี้มี ๒ อย่าง อย่างแรกคือกำลังใจเกินจนกลายเป็นอุเบกขาไปแล้ว ถ้าลักษณะอย่างนั้นจะได้ เพราะว่าเราเองรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่วก็พลอยยินดีไปด้วย เพียงแต่สภาพจิตประกอบด้วยอุเบกขา ไม่มีตัวมุทิตาที่ประกอบไปด้วยความปีติอย่างแท้จริง

แต่ขณะเดียวกันอีกอันหนึ่งก็คือ ไม่ได้ใส่ใจ สักแต่ว่าสาธุไป อันนั้นก็เท่ากับวางกำลังใจผิด อานิสงส์ที่ควรได้ก็จะน้อยลง

เถรี 24-01-2020 23:57

ถาม : ภาวนาคาถาเงินล้าน ๑ นาที ได้ ๖-๗ จบ ถือว่าใช้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าทำได้ ๑๐๘ จบยิ่งดี..! สมัยก่อนที่เขาเร่งความเร็วภายในชั่วอึดใจ ที่เขาเรียกว่าคาบหนึ่ง คาบลมหายใจหนึ่งต้องได้ ๓ จบ ๕ จบ ๗ จบ อันนั้นจริง ๆ แล้วเป็นลักษณะของสมาธิ ยิ่งคุณสมาธิสูงเท่าไร คุณจะใช้ลมหายใจน้อยเท่านั้น จะภาวนาได้มากจบกว่า อย่างที่อาตมาถึงเวลาให้พรโยม บทมงคลจักรวาลน้อยจะหยุดหายใจทีเดียว แต่พระอื่นอย่างน้อยต้อง ๓ ครั้ง ก็เพราะว่าระดับสมาธิที่ต่างกัน

เถรี 24-01-2020 23:57

พระอาจารย์กล่าวว่า “เป็นหน้าที่ก็ต้องทำ แม้ว่าบางอย่างจะเหนื่อยจะยากก็ต้องทนทำไป ...(หัวเราะ)... โยมเขาข้องใจว่าให้พรแล้วให้พรอีก ไม่เบื่อหรืออย่างไร ?”

เถรี 24-01-2020 23:58

ถาม : เนื่องจากเราเป็นมนุษย์มีลมหายใจ ถ้าไม่มีกายก็ไม่มีลมหายใจ ถ้าเราฝึกสมาธิอยู่กับปัจจุบัน ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม แต่กลัวว่าตายไปเป็นเทวดาแล้วไม่มีลมหายใจ จะไปใช้วิธีไหน ?
ตอบ : เทวดาเขาก็ทำของเขาเป็นปกติอยู่แล้ว คุณจะไปกังวลอะไร ?

ถาม : คือตัวเราเองใช้ลมหายใจเป็นปกติอยู่แล้ว เลยกลัวว่าพอเป็นเทวดาแล้วไม่มีลมหายใจ เราจะไม่ชินหรือเปล่า ?
ตอบ : เขาเรียกว่าถอดกางเกงผายลม แปลว่าไม่มีความจำเป็นต้องไปเสียเวลาคิด ...(หัวเราะ)...

เถรี 25-01-2020 00:00

พระอาจารย์แจกลูกอมให้เด็ก “กิน ๒ เม็ดจะได้ไม่เป็นเบาหวานนะ ถ้าเยอะกว่านี้เดี๋ยวจะเป็น

ที่ขำที่สุดก็คือท่านอาจารย์จันทร์ วัดซายากง จริง ๆ แล้วท่านชื่อวิลเลียม ถึงเวลาออกธุดงค์ด้วยกัน เย็น ๆ พวกเราก็นั่งล้อมวงต้มน้ำร้อน ชงน้ำตาลแจกกัน พอส่งไปถึงท่าน ท่านก็ “ไม่เอา..ผมไม่กินหวาน” พอไปได้สัก ๓ วัน ท่านก็ไปยงโย่ยงหยกอยู่แถวย่ามของพวกเรา อ๋อ...ไปค้นหาน้ำตาล..หมดสภาพ ที่บอกว่าไม่กินหวานก็ตะกายไปหาเองเลย เพราะว่าพวกเราเดินวันหนึ่งอย่างน้อย ๆ ก็ ๔๐ กิโลเมตร แดดร้อน ๆ นี่เหงื่อท่วมตัวเลย ร่างกายสูญเสียพลังงานเกลือแร่ไปเยอะ ถึงเวลาท่านก็เลยต้องไปค้นหาเอาเอง

แต่ตลกตรงที่ว่าพระพม่านิสัยเหมือนกันหมด ก็คือข้าวของจะเป็นของใครก็ตาม ถ้าท่านค้นได้ก็คือของท่าน ...(หัวเราะ)... ถ้าเป็นพวกเราก็ต้องบอกเจ้าของก่อน ไม่กล้าค้นใช่ไหม ? แต่ท่านเป็นแบบนั้นกันทุกคน ข้าวของอะไรวางอยู่ ถ้าไปรถคันเดียวกัน บางทีท่านก็ค้นไปเรื่อย เจออะไรฉันได้ก็ฟาดโลด..!”

เถรี 25-01-2020 09:13

มีโยมถวายน้ำขวด "น้ำยิ่งสะอาดมากเท่าไร สารอาหารก็จะมีน้อยเท่านั้น ฟังแล้วงง ๆ ไหม ? ประมาณว่าอย่างน้ำกลั่น เป็นต้น"

เถรี 25-01-2020 09:13

พูดถึงตะกรุดของหลวงพ่อสุด "หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ท่านเป็นอาจารย์ของจอมโจรตี๋ใหญ่ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ท้ายสุดตี๋ใหญ่ก็ตายจนได้ เพราะว่าเหนียวแค่ไหนแต่ก็ลืม ไม่ได้พกตะกรุดไปด้วย"

เถรี 25-01-2020 09:14

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่องานสวดมนต์ข้ามปี มีบางวัดสวดตั้งแต่ ๔ ทุ่ม ไม่กลัวเหนื่อยกันเลยนะ ตอนนี้มีกระแสเรียกร้องว่าให้สวดมหาสมัยสูตรด้วย มหาสมัยสูตรนี้ยาวกว่าธรรมจักรฯ ตั้ง ๓ เท่า อาตมาไม่ได้หนักใจหรอก คนอื่นจะหนักใจ พอถึงเวลาเหนื่อยขึ้นมาอาตมาก็หยุด

แต่หลายวัดก็ตั้งใจทำเป็นพิธีใหญ่ แล้วก็ตั้งโอ่งน้ำมนต์ เพราะว่าคนมามากจะได้พอแบ่งกัน วัดท่าขนุนตั้งโอ่งน้ำมนต์ไม่ได้หรอก...โอ่งแตกแน่..! สังเกตไหมว่าระยะหลัง ๆ นี่งานบวงสรวงอาตมาไม่ตั้งขันน้ำมนต์แล้ว เพราะว่าคนมัวแต่ไปแย่งน้ำมนต์กัน จะเหยียบกันตาย เปลี่ยนเป็นสั่งน้ำดื่มบรรจุขวดมาทำน้ำมนต์ อยากได้ก็ไปซื้อเอา"

เถรี 25-01-2020 09:26

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปกติพอขึ้นปีใหม่อาตมาจะหลง เขียน พ.ศ. ผิด พิมพ์ พ.ศ. ผิด แต่ปีนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ อะไร ๆ ก็เป็น พ.ศ. ๒๕๖๓ อย่างกับอาตมาใช้มาเป็นปี ๆ แล้ว ยังไม่ผิดเลย โดยเฉพาะตอนลงกองทุนรักษาพยาบาล ซึ่งปกติแล้วถ้ามีบริจาคตอน ๒๕๖๒ บ้าง ๒๕๖๓ บ้างนี่จะพลาด ยังแปลกใจว่าปี ๒๕๖๓ นี่อย่างกับอาตมาอยู่มานาน พร้อมที่จะรับมาใช้งาน

ส่วนปฏิทินฤกษ์พรหมประสิทธิ์ที่ทางด้านคณะสะพานบุญทำออกมา ถ้าใครจะใช้ฤกษ์ให้ใช้ตามนั้น เพราะว่าปฏิทินส่วนหนึ่งที่ออกมาของปีนี้เขาผิด แต่ในเมื่อเขาออกเป็นสาธารณะก็เลยกลายเป็นว่าของเขาถูก เพราะว่าปีนี้จะว่าไปแล้วแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๗ ไม่มี เนื่องจากเป็นปกติวาร

อธิกมาส ปกติวาร ก็คือเดือนเกินแต่วันปกติ เพียงแต่ว่าคนคำนวณเห็นว่าเป็นเดือนเกิน ก็ใส่เป็นวันเกินไปด้วย กลายเป็นอธิกวาร เพราะฉะนั้น..ของเขาจะเกินมา ๑ วัน ตั้งแต่ ๒๐ มิถุนายนเป็นต้นไปจะไม่ตรงกับของเรา แต่เดี๋ยวพอปีหน้าไปชนกันก็จะตรงกันไปเอง

เพราะฉะนั้น..ถ้าเอาแน่ ๆ ก็ครึ่งปีแรกทำเสียให้พอ ครึ่งปีหลังฤกษ์เคลื่อนแล้วก็หยุดทำ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปวดหัวของทางโหราศาสตร์ ท่านที่ไม่รอบคอบก็จะมีผิดเป็นประจำ โดยเฉพาะปฏิทินโหราศาสตร์"

เถรี 25-01-2020 09:30

"ปฏิทินหลวงเป็นอธิกวาร...วันเกิน ไม่ใช่ปกติวาร แล้วปฏิทินหลวงเขาคิดตามแบบในหลวงรัชกาลที่ ๔ ถ้าไปเจอวันพระธรรมยุตก็จะไม่ตรงกับของเราเลย หลายท่านก็คงจะยึดตามนี้ถึงได้มีวันเกิน

อันนี้เป็นอธิกวาร อธิกสุรทิน เกินทั้งคู่ เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาลที่ ๑๐ รัตนโกสินทร์ศก ๒๓๘ ตอนนี้จนถึง ๑๕ เมษายนยังเป็นปีชวด เอกศก จุลศักราช ๑๓๘๑ ตั้งแต่ ๑๖ เมษายนไปถึง ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เป็นปีชวด โทศก จุลศักราช ๑๓๘๒"

เถรี 25-01-2020 09:33

"ปีที่ผ่านมามีสุริยุปราคาส่งท้าย อาตมาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะว่ามัวแต่ทำงานอยู่ จนกระทั่งเลยเวลาแล้วเขาบอกว่าวันนี้มีราหูอมพระอาทิตย์ อาตมาก็ เออ...ทำงานจนไม่รู้เหนือรู้ใต้จริง ๆ สรุปแล้วราหูอมพระอาทิตย์ปีนี้ ไม่มีผลกระทบต่อเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เพราะว่าไม่รู้เรื่องเลย คนอื่นที่รู้ก็ได้รับผลกระทบเยอะหน่อย..!"

เถรี 25-01-2020 09:45

มีโยมเอาวัตถุมงคลมาให้ดู "ถ้าหากว่าเอามานี่ให้ถอดกรอบมา จะได้ดูได้ ถ้ามาพร้อมกับเลี่ยมแบบนี้ไม่มีใครเขาดูหรอก จะไปดูอีท่าไหนก็เพี้ยนหมด เพราะว่าดูขอบดูข้างอะไรไม่ได้ ส่วนใหญ่สมัยนี้ถ้าเลี่ยมทองมาให้ตีปลอมเอาไว้ก่อนเลย เพราะว่าตั้งใจทำมาให้เราดูทองแทน"

เถรี 25-01-2020 09:51

ถาม : ประเทศที่นับถือศาสนาพุทธเหมือนกับเรา เขามีแรมค่ำเหมือนเราไหมครับ ?
ตอบ : เอาแค่พม่าก็ยังไม่ตรงกับเราเลย

ถาม : จีนนิกายเขาก็นับถือศาสนาพุทธเหมือนเรา ?
ตอบ : เหมือนกัน แต่ของเขาเป็น พ.ศ. ๒๕๖๔ คือทันทีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานก็นับเป็น พ.ศ. ๑ ส่วนเราปรินิพพานครบปีถึงนับเป็น พ.ศ. ๑ เราจะสังเกตว่าทำไมพุทธชยันตีของทางด้านโน้นถึงเป็น พ.ศ. ๒๔๙๙ เพราะว่าเป็น พ.ศ. ๒๕๐๐ ของเขา

เถรี 25-01-2020 09:53

กล่าวกับพระนักเรียนบาลี "สาธุ..ขอให้เจริญรุ่งเรืองมาก ๆ ถึงเวลาก็ช่วยกันแบกภาระหน่อย"

ถาม : อ่วมอรทัยเลยครับ ?
ตอบ : ธรรมดา สถานการณ์ประเทศชาติตอนนี้ไม่อ่วมไม่ได้หรอก มีแต่ประเภทพาลงต่ำเยอะแยะไปหมด เราจะไปงัดเขาไหวไหม ? ไม่โดนทับแบนก็บุญแล้ว คราวนี้เราใช้คำว่ามอบกายถวายชีวิต ก็แค่ตาย..ไม่เกินนั้นหรอก

เถรี 25-01-2020 09:55

พระอาจารย์เล่าว่า "เคยมีเพื่อนพระธุดงค์ต้มถั่วเขียว ๗ ชั่วโมงแล้วไม่ได้กิน เพราะว่าท่านใส่น้ำตาลลงไปก่อน อาตมาจัดการไปเทล้างน้ำใหม่แล้วค่อยเอามาต้ม ๑๕ นาทีก็ได้กิน ใส่น้ำตาลลงไปก่อน ภาษาเก่าเขาใช้คำว่า น้ำตาลรัดทำให้ถั่วไม่สุก แต่จริง ๆ คือไปลดจุดเดือด ทำให้ความร้อนเข้าไม่ถึง ประมาณหุงข้าวไม่สุก ยังเป็นแกนแข็งอยู่"

เถรี 25-01-2020 09:57

พระอาจารย์กล่าวกับพระนักเรียนบาลีว่า "คนเราความประพฤติเปลี่ยนกันได้ เขาเรียกว่าสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อชีวิต คุณไม่เร่งตัวเอง คนข้าง ๆ ก็แซงหมด ผมถึงได้พยายามบอกรุ่นหลัง ๆ ว่า ถ้าจะเรียนบาลีต้องท่องหนีครูไว้เยอะ ๆ ถ้าปล่อยให้ครูนำได้นี่คุณตายอย่างเดียวเลย

เวลาจะท่องจำก็ต้องท่อง เวลาทำการบ้านก็ต้องทำ แล้วจะเอาเวลาที่ไหน ? เวลาเรียนอยู่ในห้องท่านเจ้าคุณอาจารย์โสภา “เฮ้ย...เล็กก้มหน้าก้มตาทำอะไรวะ? เงยหน้าบ้างสิ กูสอนอยู่” บอกว่าทำการบ้านที่เจ้าคุณอาจารย์ให้แหละครับ เดี๋ยวเพื่อนเขาจะลอก “เออ...ถ้าอย่างนั้นก็ทำไป” แค่หูฟังก็เข้าใจ แต่เพื่อนทำหลายอย่างพร้อมกันไม่ได้"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:27


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว