กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6345)

เถรี 29-10-2018 20:23

พระอาจารย์กล่าวว่า “ส่วนใหญ่โยมเห็นข้างฝาแล้วก็พิง พระพุทธเจ้าห้ามพระเณรนั่งพิงข้างฝา ถ้าจะพิงข้างฝาต้องมีไม้กระดานรอง เพราะว่าเวลาพิงแล้วท่านบอกว่ามลทินกายไปติด ทำให้ข้างฝาเปรอะเปื้อน ถ้านึกไม่ออกไปดูรอบ ๆ ศาลาวัดท่าขนุน ถึงเวลาหมาไปนอนขดอยู่ข้างศาลาแล้วก็เป็นรูปตัวหมาเลย ...(หัวเราะ)... คนเราถ้าพิงอยู่ที่เดียวนาน ๆ ก็เป็นลักษณะนั้น

หลังจากที่มีกระดานรองเอาไว้ ก็ปรากฏว่ากระดานเปื้อนอีก พระพุทธเจ้าท่านก็ให้เย็บผ้าคลุมกระดานไว้ ถึงเวลาจะได้ถอดผ้าไปซักได้ เรื่องพวกนี้พระองค์ท่านละเอียดมาก แต่โยมเคยชิน ถึงเวลานั่งเมื่อไรก็พิงเอาไว้ก่อน”


เถรี 29-10-2018 20:29

พระอาจารย์กล่าวกับผู้สูงอายุว่า “ถ้าลุกนั่งลำบากยืนเอาก็ได้ เอาแบบโบราณ การยืนคือการแสดงความเคารพ ตอนนี้แถวทองผาภูมิพวกมอญพม่ารุ่นเก่า ๆ ยังใช้วิธีนั้นอยู่ ถึงเวลาพระเดินผ่าน ผู้ชายก็จะยืนแสดงความเคารพ ผู้หญิงก็นั่งกับพื้นไปเลย”

เถรี 29-10-2018 20:50

พระอาจารย์กล่าวว่า “เหลือเวลา ๑๘ นาที อย่ามัวแต่ช็อปปิ้ง พระพุทธเจ้าตรัสว่าสุขของคฤหัสถ์ คือความสุขของฆราวาสมี ๔ อย่าง คือ มีทรัพย์ จ่ายทรัพย์ ไม่เป็นหนี้ ทำงานที่ไม่มีโทษ ช็อปปิ้งเป็นความสุขในการจ่ายทรัพย์ มีความสุขกันจริง ๆ เลย ทำเอาคนไทยโด่งดังไปทั่วโลกเพราะว่าช็อปฯ กันกระจาย

อาตมาเองปัจจุบันนี้ก็ยังช็อปปิ้งอยู่นะ ถึงเวลาก็เข้าไปในเว็บพระเครื่อง ถ้าวันไหนจับของดีราคาถูกได้จะมีความสุขมาก..! โทษใครไม่ได้เพราะว่าเจ้าของเขาไม่รู้จัก แต่อาตมารู้ แบบเดียวกับหลวงพ่อบ๊ะนั่นแหละ พอ "ตัวเล็ก" เอาเหรียญไปออกราคาร้อยเดียวนี่ท่านนั่งยิ้มกริ่มเลย ราคาในตลาดตั้งหลายพัน ...(หัวเราะ)...”

เถรี 29-10-2018 20:52

พระอาจารย์กล่าวกับโยมที่กำลังอ่านหนังสือว่า “ขออีกนิดหนึ่ง เดี๋ยวก็หมดแล้ว เห็นแล้วอย่าไปท้อ แค่ ๕ เล่มหนา ๆ เท่านั้นเอง นี่เล่มสุดท้ายแล้ว

อาตมาเรียนชั้น ป.๒ ก็อ่านหนังสือหมดไปหนึ่งห้องสมุดแล้ว คนได้ยินคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่เป็นเรื่องจริง สมัยนั้นเจตนาก็คืออ่านหนังสือให้แตก คำว่าอ่านหนังสือให้แตกคือแตกฉาน แปลว่าอ่านได้ทุกคำ หนังสือเล่มที่อ่านยากที่สุดก็คือตำราเพศศึกษาของ ดร.คินซีย์ อาตมาอ่านตั้งแต่ชั้น ป.๒ ที่อ่านยากเพราะว่าทับศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะ ถึงเวลาคำไหนไม่แน่ใจว่าอ่านถูกก็วิ่งไปถามครู ครูบอกไปก็หัวเราะไป ถามเธอจะอ่านไปทำไมหนังสือแบบนี้ ? บอกไปว่าผมอยากอ่านให้ได้ทุกเล่ม

เรียนประถมต้นอ่านหนังสือหมดไปหนึ่งห้องสมุด เรียนประถมปลายอ่านหนังสือหมดไปอีกหนึ่งห้องสมุด เรียนมัธยมต้นอ่านหนังสือหมดไปอีกหนึ่งห้องสมุด ประเภทเล่มหนา ๆ นี่มีชื่อยืมอยู่คนเดียว คนอื่นเขาไม่ยืมหรอก เพราะฉะนั้นอาตมาอ่านพวกวรรณกรรมคลาสสิกของฝรั่งตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวก Heidi, Wuthering Heights, The Call of the Wild เป็นต้น"

เถรี 29-10-2018 20:54

"โดยเฉพาะที่สนุกและชอบมากก็คือ The Adventures of Tom Sawyer ...(หัวเราะ)... เจ้าทอมสุดแสบจริง ๆ สามารถหลอกเพื่อนมาทาสีแทนได้แล้วแถมยังได้เงินด้วย ถ้าใครอ่านจะรู้ว่าแสบแค่ไหน ส่วนหนังสือเล่มหนึ่งที่หาด้วยความอยากได้มากคือ The Red Pony ของ John Steinbeck อ่านตั้งแต่ชั้น ป.๒ อ่านแล้วชอบมาก ปรากฏว่ามาซื้อได้อีกทีตอนอายุ ๔๐ กว่า เพราะว่าเขาไม่ได้พิมพ์ใหม่ เขาพิมพ์ใหม่เป็นภาษาไทยชื่อ "ลูกม้าสีแดง"

บางเรื่องเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น อย่าง Journey to the Center of the Earth ของ Jules Verne คนที่เขียนเรื่องใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ เขาบอกว่าคณะของพระเอกหลุดออกจากใต้โลกมาได้ เพราะว่าภูเขาไฟระเบิดแล้วดันออกมาทางปล่อง เป็นจินตนาการที่ผิดสะเด็ดยาดเลย ถ้าเป็นธรรมดาภูเขาไฟระเบิดต้องกลายเป็นเถ้าไปแล้ว ...(หัวเราะ)... ความร้อนระดับที่ภูเขาไฟระเบิดเป็นพันองศาเซลเซียส ร่างกายคนทนไม่ได้หรอก แต่ว่าหลายอย่างที่เขาจินตนาการไว้อย่างเช่นเรือดำน้ำนอติลุส เรื่องเรือดำน้ำนี้อีกเป็นร้อยกว่าปีกว่าเขาจะสร้างกันได้”

เถรี 29-10-2018 21:00

ถาม : แมวที่บ้านหายไป เป็นห่วงมาก ?
ตอบ : ไม่ต้องไปตามแล้ว แมวเขามีนิสัยว่าจะไปอยู่ที่ไหนเขาก็ไป ไม่เหมือนหมา หมาจะติดเจ้าของ เราจะสังเกตว่า วันดีคืนดีแมวใครก็ไม่รู้มาอยู่กับเราเฉยเลย แมวเขาคิดว่าเขาเป็นเจ้าของเรา เขาจะไปเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก พวกนี้เขานึกอยากจะอยู่ไหนเขาก็ไป โดยเฉพาะแมวอยู่ในเมืองนี่ไม่มีวันอดเด็ดขาด ไปทางไหนก็มีคนเลี้ยง ...(หัวเราะ)... ทำใจ...กลับมาก็เลี้ยง ไม่กลับมาก็แล้วไป

เลี้ยงหมาอย่าติดหมา เลี้ยงแมวอย่าติดแมว ไม่อย่างนั้นมัวแต่คิดถึง ตายตอนนั้นได้กลายเป็นลูกหมาลูกแมว อาตมาเองเคยเลี้ยงอีเห็น ด้วยความที่เลี้ยงด้วยนมวัวตั้งแต่เด็ก ให้กินเต็มที่ ตัวใหญ่อย่างกับหมาเลย แล้วอยู่กับหมาเขาก็เล่นกับหมาอยู่ทุกวัน เขาไม่รู้ว่าที่เขาเล่นกับหมาได้เพราะอาตมาอยู่ คราวนี้พอมารับสังฆทานที่กรุงเทพฯ อย่างนี้แหละ ก็ไปเล่นกับหมาตามเดิม แต่คราวนี้หมามันเขี้ยวฟัดตายเลย อาตมากลับไปคนงานเขาบอกว่า “อาจารย์ครับ อีเห็นตายแล้วครับ” อาตมาก็บอกว่า “เออ..แล้วเอ็งทำอย่างไรวะ ?” เขาบอกว่า “ผมเอาไปฝังครับ” อาตมาบอกว่า “ไอ้บ้า.. ทำไมไม่รู้จักผัดเผ็ด..?!”

พวกนั้นก็สงสัยมากว่าอะไรกัน เห็นอาจารย์รักนักรักหนา แต่พอตายแล้วจะผัดเผ็ด อาตมาก็บอกว่า “ตอนอยู่ก็รักมัน สงเคราะห์ไป พอตายก็ใช้ประโยชน์ให้เต็มที่สิวะ..!” ตัวใหญ่ขนาดนั้นเลี้ยงได้ตั้งหลายคน ดันเอาไปฝัง..!

เถรี 29-10-2018 21:03

ถาม : หนูเป็นเนื้องอกในมดลูกขนาดประมาณ ๒.๕ ซม. มียาที่กินแล้วทำให้ยุบไหมคะ ?
ตอบ : กล้ากินไหม ? น้ำคั้นขิงสด กินสักวันละประมาณ ๓๐ ซีซี กินเข้าไปนี่หัวหูหน้าตาร้อนไปหมด

ถาม : ต้องกินติดกันกี่วันคะ ?
ตอบ : กินจนกว่าจะยุบหมดนั่นแหละ คั้นเอาไว้เป็นขวด ๆ เลยก็ได้ พอถึงเวลาก็เก็บเข้าตู้เย็นไว้แล้วทยอยกิน จะไปทะลุทะลวงทุกอย่างจนหมด เผ็ดสุด ๆ..! กินลงไปนี่กระทั่งใบหูก็ร้อนไปหมด ...(หัวเราะ)...

ถาม : หนูวางพระหลวงพ่อกวยไว้ที่หน้าท้อง อยากให้ก้อนเนื้อยุบ จะเป็นอะไรไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าสบายใจก็ทำไปเถอะ ท่านไม่ได้ว่าอะไรหรอก รีบไปกินน้ำคั้นขิงสด แล้วอย่าบ่นนะว่าหลวงพ่อหลอกให้กินของเผ็ดฉิบหายเลย..!

ไม่ใช่แค่นั้นนะ พวกเส้นเลือดตีบตันนี่โดนทะลวงเกลี้ยงเลย กินไปวันแรกจะรู้สึกมือเท้าเบาไปหมด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ทำท่าจะลอยเอา ...(หัวเราะ)...

เอาขิงแก่มาทุบ โขลก เติมน้ำไปเล็กน้อยแล้วคั้น เหมาะที่จะกินหน้าหนาว เพราะว่ากินไปแล้วร้อน ล้างสะอาด ๆ หน่อย ใส่ครกตำไปเลย เติมน้ำสักหน่อยหนึ่งแล้วคั้นออกมา สมัยนี้เขามีครกไฟฟ้าปั่น แต่ปั่นแล้วต้องกรองนะ ถ้าไม่กรองนี่จะไม่ใช่น้ำคั้นแล้ว จะเป็นเนื้อขิงแทน ...(หัวเราะ)... เขาเรียกเครื่องปั่น แต่อาตมาเรียกครกไฟฟ้า

เถรี 31-10-2018 08:05

พระอาจารย์กล่าวว่า “พวกผักปลัง ฟัก แฟง แตง น้ำเต้า เป็นของธาตุเย็น ช่วงประจำเดือนมาอย่าไปกินเยอะ”

เถรี 31-10-2018 08:13

ถาม : อาบัติสังฆาทิเสส เวลาเราปลงอาบัติตอนเย็น จะเป็นการเปิดเผยอาบัติตอนนั้นเลยหรือเปล่า ?
ตอบ : จะถืออย่างนั้นก็ได้ เพราะท่านใช้คำว่า สัพพา ครุลหุกา ทั้งหนักทั้งเบา

ถาม : เวลาตอนเราไปเข้าปริวาส ก็นับตั้งแต่ตอนเปิดนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็แปลว่าเราปิดไว้กี่วัน ก็นับมาถึงตอนที่เปิดนั้น

เถรี 31-10-2018 08:25

ถาม : แม่เขาเป็นกังวลเรื่องลูกหลานเหลือเกิน จะพูดอย่างให้เขาคลายกังวลได้บ้าง นิดหนึ่งก็ยังดี ?
ตอบ : บอกแม่ว่าถ้าคิดอย่างนี้อีกลงนรกแน่นอน..!

เถรี 31-10-2018 08:44

ถาม : ผม ภรรยา และเพื่อนเป็นเจ้าภาพทำกฐินที่วัดแห่งหนึ่ง ปัจจัยที่รวบรวมมาสามารถหักลงในค่าใช้จ่ายได้ไหมครับ ?
ตอบ : ปกติแล้วถ้าทำอย่างนั้น จะต้องแจ้งทุกคนก่อนว่าเราจะทำอย่างนั้น ถ้าไม่ได้แจ้งนี่ไม่มีสิทธิ์ไปแตะเลย

ถาม : มีคนแนะนำมาว่า ให้แบ่งส่วนหนึ่งให้ทำอย่างนี้ ไม่ได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เขาแนะนำให้เราซวยแล้วเราจะไปเชื่อเขาหรือ ? เจตนาของคนที่ร่วมบุญคือทำบุญกฐิน เขาไม่ได้ทำมาเพื่อให้เราหักเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ยกเว้นเราประกาศชัดเจนตั้งแต่แรกว่า เงินที่ได้มาเราจะหักเป็นค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้าง แล้วเขายังร่วมบุญมา ถ้าอย่างนั้นถึงจะมีสิทธิ์ทำได้

ถาม : ที่ถูกต้องคือเราจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเองใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่..สรุปว่าถ้าอยากได้บุญเต็มที่ ส่วนที่เป็นรายจ่ายอื่น ๆ เราก็ต้องจ่ายเอง

เถรี 31-10-2018 20:25

ถาม : พ่ออายุ ๗๙ ปี แล้วก็เริ่มมีอาการสมองเสื่อมขั้นแรก เริ่มกินยาป้องกัน งานวิจัยบอกว่าช่วยได้นิดหน่อย ปัญหาคือโยมเดือดร้อน พ่อไม่เดือดร้อนค่ะ ?
ตอบ : ไข่ลวก ไข่ต้ม ไข่เจียว ไข่ทอด ไข่ตุ๋นอะไรก็ได้ ให้กินไปวันละ ๒ ฟอง ไม่ต้องกินยาอื่น

ถาม : ที่โยมเดือดร้อนก็คือถ้าสมองเริ่มเสื่อมแล้ว เวลา...?
ตอบ : ถ้าทำอย่างที่ว่าจะไม่เสื่อม สมองของเราส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบของไขมัน ๙๙ เปอร์เซ็นต์ คราวนี้เราไม่ค่อยจะมีไขมันให้ โดยเฉพาะไขมันที่เป็นประโยชน์จากไข่

ถาม : กินได้ทั้งไข่ขาวและไข่แดงหรือคะ ?
ตอบ: กินเข้าไปเถอะ เอาไว้สมองหายเสื่อม ค่อยไขมันจุกตาย..!

ถาม : เขามีไขมันในเส้นเลือดสูงด้วย ?
ตอบ : อาตมาก็มีสูงตั้ง ๒๗๖ ไม่เห็นจะตายสักที

ถาม : ที่เราเดือดร้อนเพราะเรากังวลไปก่อนค่ะ ?
ตอบ : ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากังวลไปก่อนก็ยังกังวลใช่ไหม ? เจริญมาก ไปทำอย่างที่ว่าก็พอแล้ว ไข่ลวกดีกว่า เช้า ๆ ใส่พริกไทยไปเยอะ ๆ ด้วย


เถรี 31-10-2018 20:40

พูดถึงโยมที่นั่งขวางประตูทางเข้า "คราวหน้าหัดระมัดระวัง อย่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เราไปขวางทางคนอื่นเขา ถึงเวลาอุปสรรคในชีวิตก็จะมาก"

เถรี 31-10-2018 21:50

ถาม : การแผ่เมตตากับการอุทิศส่วนกุศล พอถึงจุดหนึ่งคล้าย ๆ กัน ?
ตอบ : เป็นส่วนของพรหมวิหาร ๔ เหมือนกัน แต่ความต่างคือ การแผ่เมตตาเหมือนกับเราให้ร่มเงาคลายร้อนแก่เขา แต่การอุทิศส่วนกุศลเท่ากับเราให้อาหารเขากินแก้หิว

ถ้าทั่ว ๆ ไป เขาหิวมา เราให้ร่มเงาคลายร้อน เขาก็มีความสบายขึ้นหน่อย แต่ก็ยังหิวอยู่ เพราะฉะนั้น...ก็ควรที่จะอุทิศส่วนกุศลให้เขา แต่โดยปกติก็คือทำทั้ง ๒ อย่างนั่นแหละ


ถาม : อารมณ์ที่ใช้อุทิศส่วนกุศล ?
ตอบ : เป็นอารมณ์ของพรหมวิหารเหมือนกัน ถ้าเราไม่รัก ไม่เมตตา เราจะไปอุทิศให้เขาทำไม ?

ถาม : การอุทิศกุศลไม่เจาะจง ?
ตอบ : อุทิศไม่เจาะจง ถ้าหากว่าบุคคลที่กำลังน้อย เขาก็รับยาก พวกแข็งแรงกว่าเบียดขึ้นหน้ามาตัวเองก็แย่ เหมือนกับอยู่ในห้องนี้แล้วพูดลอย ๆ ว่าใครก็ได้ พวกกำลังไม่ดีจะขึ้นหน้ามาได้ไหม ? ก็โดนเบียดกระเด็นไปไหนก็ไม่รู้

เถรี 31-10-2018 21:56

ถาม : การแผ่พลังเมตตา ?
ตอบ : การแผ่เมตตาต้องใช้กำลังใจที่เต็มไปด้วยความหวังดีปรารถนาดีต่อเขา อยากให้เขาพ้นทุกข์ อยากให้เขามีความสุข ใครที่มีความทุกข์อยู่ ขอให้พ้นจากห้วงทุกข์ ใครที่มีความสุขอยู่ ขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ต้องวางกำลังใจให้ถูกต้องก่อนแล้วถึงแผ่เมตตา ไม่ใช่ว่าจะนึกอยากจะแผ่ก็แผ่ไปเลย ต้องตั้งกำลังใจของเราก่อน

เถรี 31-10-2018 22:01

ถาม : อารมณ์เบื่อ อารมณ์วาง ถึงจุดหนึ่งทุกคนจะต้องผ่านอารมณ์นี้ก่อน ?
ตอบ : ต้องผ่านก่อน ถ้าไม่เบื่อก็จะไม่วาง ฉะนั้น...ต้องเบื่อก่อน พอเบื่อไปจนถึงที่สุดแล้วจะเกิดปัญญาเห็นว่า ธรรมดาเป็นอย่างนี้ ในเมื่อธรรมดาเป็นอย่างนี้ ถ้าหากว่าเราพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ความเบื่อแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกิน ก็จะไม่ไปแบกเอาไว้อีก แล้วก้าวข้ามไป

ถาม : ทุกคนจะต้องผ่านในระดับอารมณ์นี้ยากเหมือนกัน ?
ตอบ : ยากหรือง่ายขึ้นอยู่กับปัญญา บางคนปัญญาดี มองเห็นก็ผ่านเลย บางคนปัญญาไม่ดี ตะเกียกตะกายปีแล้วปีเล่า ก็ผ่านไม่ได้สักที เบื่ออยู่นั่นแหละ

ถาม : ถ้าเราเบื่อทำให้เกิดอารมณ์เศร้าหมอง ?
ตอบ : ถึงได้บอกว่าต้องมีปัญญา ถ้าไม่มีปัญญา บางคนเบื่อแล้วฆ่าตัวตายไปเลยก็มี แบบเดียวกับพระ ๖๐ รูปที่พระพุทธเจ้าเทศน์ให้ฟัง แล้วพระองค์ท่านก็เข้านิโรธสมาบัติ พระทั้งหมดไปจ้างปริพาชกให้ฆ่าตัวเอง ถามว่าพระพุทธเจ้ารู้ไหม ? รู้....แต่เนื่องจากว่าในอดีตพระทั้งหมดเคยสร้างกรรมนี้เอาไว้ ต้องชดใช้เขา ในเมื่อตนเองเบื่อ ปรารถนาความหลุดพ้น ถึงคนอื่นฆ่าตัวเองก็สามารถที่จะไปได้

เถรี 31-10-2018 22:03

ถาม : ถ้าเรารู้อยู่อย่างนี้ พอเริ่มเบื่อเราก็ตัดร่างกายไปเลย ?
ตอบ : ถ้าตัดได้จริง ๆ ก็จบเลย แต่ส่วนใหญ่ตอนเบื่อปัญญาจะไม่มี เบื่อขึ้นมาก็แค่ "เบื่อจริงโว้ย...!" แต่ไม่สนใจหรอกว่าจะตัดอะไร

ถาม : ถ้าใช้กำลังสมาธิข่มความเบื่อไว้ ?
ตอบ : ถ้าอยู่กับสมาธิก็ไม่เบื่อนะสิ

เถรี 31-10-2018 22:06

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ยังไม่พอ การเข้าถึงก็คือต้องวางทุกอย่างหมดจริง ๆ คราวนี้เรายังวางไม่ได้ ก็แค่ประเภทมองเห็นเท่านั้น ยังเข้าไม่ถึงหรอก

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ทุกอย่าง....ถ้าตัดไม่ได้ ก็เป็นเครื่องถ่วงเราทั้งหมด

เถรี 31-10-2018 22:10

ถาม : เวลาจับภาพพระวิสุทธิเทพ แต่บางครั้งภาพก็เปลี่ยนเป็นภาพอย่างอื่นแทน ผิดปกติไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจเอาพุทธานุสติอย่างเดียวก็จับพระวิสุทธิเทพ ถ้าไม่ตั้งใจคิดว่าอะไรที่อยู่ในอนุสติทั้ง ๑๐ มา เราก็จะเอา เราก็เปลี่ยนได้ ถ้าจับแล้วเปลี่ยนถือว่าปกติ ถ้าไม่เปลี่ยนเลย ผิดปกติ

ถาม : ขึ้นอยู่กับอารมณ์สมาธิเราหรืออย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็ขึ้นอยู่กับว่าบางท่านก็มาสงเคราะห์ แต่เราไม่รู้ ก็แค่เห็นเฉย ๆ

เถรี 31-10-2018 22:21

พระอาจารย์กล่าวว่า "โบราณเขาบอกว่า ผิดคนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นขน แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้ สันดานคนเป็นแบบนั้น ต้องบอกว่าเป็นสักกายทิฐิรูปแบบหนึ่ง คือเห็นว่าตัวกูของกูดีกว่าเสมอ"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:04


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว