กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๙ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4958)

เถรี 19-04-2016 22:07

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานวันที่ ๑ นอกจากเป็นวันศุกร์ เงินเดือนออกแล้ว ยังหวยออกอีกต่างหาก คนที่ไม่มาไม่ใช่หมดแรงเพราะเที่ยวนะ แต่หมดแรงเพราะหวยกิน..! เขาห้ามใจตัวเองไม่ได้ ทำอย่างไรก็ต้องเล่น

พี่ชายของอาตมาคนหนึ่ง คือ พี่สุรกานต์ ประเภทยอมกินบะหมี่สำเร็จรูป ซองละ ๓ บาท ๕ บาทเพื่อให้ได้เล่นหวย แล้วงวดหนึ่ง
ซื้อที ๕,๐๐๐- ๖,๐๐๐ บาท คุณเคยไหม ? ประเภทถูกทีก็รวยไปเลย

หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยให้หวย แต่ต้องจับให้เป็น หลวงพ่อบอกว่ามีเคล็ดอยู่ว่าให้ตาม ๑๒ งวด งวดแรกไม่ออกให้ตามงวดที่สอง เช่น งวดที่ ๑ หนึ่งร้อยบาทไม่ออก เล่นงวดที่ ๒ สองร้อยบาท ถ้างวดที่ ๒ ไม่ออก งวดที่ ๓ สามร้อยบาท งวดที่ ๔ สี่ร้อยบาท แกก็ตามไปเรื่อย จนไปออกงวดที่ ๙ ก็เลยบอกว่า "ถ้า ๑๑ งวดแล้วไม่ออกล่ะ ?" พี่เขาบอกว่า "ผมขายบ้านเล่นเลย" มั่นใจหลวงพ่อขนาดนั้น

หลวงพ่อท่านบอกว่า คนหมู่มาก วาระบุญไม่เท่ากัน คนที่บุญไม่ถึง เขาตามงวดสองงวดไม่ออกเขาก็เลิกแล้ว ส่วนคนที่บุญถึงเขาก็ตามไปเรื่อยจนถูกไปเอง"

เถรี 19-04-2016 22:14

"แบบเดียวกับสมัยก่อน หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ถ้าถามว่าหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เป็นใคร ? หลวงพ่อเนื่องเป็นอาจารย์ของหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน

หลวงพ่อเนื่องให้หวยทุกงวด คนก็ถูกทุกงวด ท่านเองก็ไม่ได้สนใจ คนเอาเงินมาถวาย ท่านก็โยนโครมไปข้างหลัง พอหลวงพ่อเนื่องมรณภาพ เขาไปค้นกุฏิเจอเงิน ๒๐ กว่าล้านบาท ท่านกอง ๆ ไว้ไม่ได้สนใจเลย ถึงเวลาเขามาเบิกค่าใช้จ่าย ค่าก่อสร้างบูรณะวัด ท่านก็คว้ามานับ ๆ แล้วก็ส่งให้เขาไป เหลือเท่าไรไม่ได้เหลียวแลหรอก

ท่านให้หวยอยู่ ๓๐ กว่าปี วันหลวงพ่อเนื่องมรณภาพ ถัดไปก็ลงปาฏิโมกข์ พอเข้าโบสถ์เสร็จหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอก "เออ...วันนี้มีเวลามาก มาคุยกันหน่อยไหม ? จะเอาเรื่องอะไรดี ? เอาเรื่องหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีก็แล้วกัน"

"หลวงพ่อเนื่องเป็นพระทองคำ ไม่มีใครไปหาเพื่อขอธรรมะสักคน ไปขอหวยจนกระทั่งพระอรหันต์มรณภาพไปทั้งองค์"
หลังจากมรณภาพแล้วหลวงพ่อท่านจึงบอก ถ้ายังไม่มรณภาพท่านไม่กล้าบอกหรอก กลัวคนไปกวนท่านเยอะ

หลวงพ่อเนื่องท่านให้หวยเป็นสาธารณะ เขียนขึ้นกระดานไว้ ไปเลือกเอาตามสบายใจ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า การเล่นหวยหลวงพ่อเนื่อง ถ้าอยากถูกงวดนั้นให้ตัดท้ายเล่นตัวเดียว ถ้าอยากได้ตรง ๆ ให้ตาม ๑๒ งวดอย่างที่ว่า ท่านบอกว่าคนบุญไม่ถึงจะไม่ตาม ก็จะอดไปเอง

พี่ก้องเกียรติ พี่ชายอาตมาไป ๒-๓ ครั้ง หลวงพ่อเนื่องเขียนยัดใส่มือให้เลย ก็ตามงวดที่ ๑ ไม่ออก งวดที่ ๒ ไม่ออก งวดที่ ๓ ไม่ออก เลิกเล่นเลย งวดที่ ๔ มาตรง ๆ สามตัวบน โดนไปสองครั้ง พี่ก้องเกียรติเลิกเลย บอกว่า "กูไม่มีโชคทางด้านนี้ กูไม่เล่นแล้ว" พี่เขาคิดถูก ขนาดหลวงพ่อเนื่องเขียนให้ตรง ๆ นะ ยังเล่นไม่ถูกเลย"

เถรี 19-04-2016 22:22

ถาม : แล้วพระอาจารย์เล็กละคะ ?
ตอบ : อาตมาโดนสั่งห้าม เมื่อก่อนสมัยอยู่วัดท่าซุงเคยให้พวกแม่ครัวถูกไปหลายงวด หลวงพ่อท่านสั่งห้ามเลย บอกว่า "ไอ้พวกรู้ ๆ แล้วไปบอกเขา ข้าถือว่าไปปล้นเขา ปรับปาราชิกเลยนะโว้ย..!"

เกิดจากโยมเอี่ยม (เอี่ยมศรี อ่อนคำ) โยมเอี่ยมเป็นคนที่กำลังใจยึดมั่นกับหลวงพ่อวัดท่าซุงมาก ถึงขนาดทิ้งบ้านทิ้งช่อง ทิ้งลูกทิ้งผัวมาอยู่ช่วยงานวัด เวลากลางคืนก็แบกปืนเดินท่อม ๆ เฝ้าวัด ต้องบอกว่าเป็นผู้หญิงเก่งและผู้หญิงแกร่งเลย โดยเฉพาะว่ามโนมยิทธิดีมาก ถึงเวลาเจอโน่นเจอนี่ก็มาถาม เพื่อทดสอบกันกับอาตมาว่าของแกเห็นแล้วตรงกันไหม ? พอบอกไปว่าตรง แกก็ดีอกดีใจ รีบไปปฏิบัติต่อ

ตอนนั้นแกนึกอย่างไรก็ไม่รู้ "หลวงพี่...ขอหวยตัวหนึ่งสิ" ถามว่า "เอาไปทำอะไรวะ ?" "อยากได้เงินไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ" แกอยู่วัด หลวงพ่อช่วยค่าใช้จ่ายแกเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท แล้วแกจะทำอะไรได้ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวก็หมดแล้ว แกอยากจะถวายสังฆทานชุดละ ๕๐๐ บาทกับเขาบ้าง เลยมาขอหวย อาตมาก็ไม่เคยเล่นหวย ถามว่า "ตัวเดียวเล่นได้หรือวะ ?" แกบอกว่าได้ ในเมื่อได้ก็ให้ไป

แกถูกมา ๖๐๐ บาท ก็ไม่รู้ว่าเล่นอย่างไร แกก็ไปถวายสังฆทาน ปรากฏว่าพอใกล้หวยจะออกอีก แกเดินผ่านหน้า อาตมาถามว่า "งวดนี้จะเอาไหม ?" แกว่า "เออ...ได้ก็ดี" พอได้งวดที่ ๒ ไปเท่านั้นแหละ มากัน ๗ คน ๘ คนเลย อาตมาก็แหย่เล่น ๆ ว่า "เฮ้ย...มาเยอะอย่างนี้ต้องชักเปอร์เซ็นต์นะ" เขาบอกว่าให้ก็ได้ ปรากฏว่าหวยออก เขาเอามาให้จริง ๆ เท่านั้นแหละ...หลวงพ่อด่าหูตูบเลย รู้ว่าลูกศิษย์จะระยำแล้ว เพราะเดี๋ยวคนจะมาเยอะกว่านั้นอีก ท่านก็เลยสั่งห้ามไว้

เถรี 19-04-2016 22:26

อาตมาโดนท่านห้ามอยู่ ๒ เรื่อง คือ เรื่องบอกว่าคนตายแล้วไปไหน กับเรื่องให้หวย ท่านบอกว่าคนตายแล้วไปไหน แกห้ามบอกเพราะว่า บอกไปก็มีแต่เสมอตัวกับขาดทุน ไม่มีกำไร ถามว่าเป็นเพราะอะไรครับ ? ท่านบอกว่า คนเราทำความดีมาทั้งชีวิต ก่อนตายใจไปคิดถึงความชั่วนิดเดียวแล้วลงนรก ถ้าลูกหลานเห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายทำดีมาทั้งชีวิต แต่เอ็งบอกว่าลงนรก แล้วเขาจะมีแก่ใจทำความดีกันไหม ?

ส่วนอีกคนหนึ่งชั่วมาทั้งชีวิต ก่อนตายนึกถึงพระได้ ดันได้ขึ้นสวรรค์ แล้วเอ็งบอกว่าขึ้นสวรรค์ ลูกหลานก็ชั่วกันบรรลัยจักรเลย เพราะคิดว่าทำชั่วแล้วขึ้นสวรรค์

ก่อนหน้านี้อาตมาเฮี้ยน บอกเขาไปเรื่อย ระยะหลังโดนสั่งห้ามก็เลยเงียบไป ไม่อย่างนั้นสร้างวัดสร้างวา ตูไม่เดือดร้อนหรอก ให้หวยสัก ๒ งวดก็ได้บานแล้ว

พวกนี้เก่งจริง ๆ นะ เขาช่างสังเกต พอเห็นป้าเอี่ยมถูกหวย ๒ งวดติดกัน ก็เดินเกาะตูดตามตลอดเลย ดูว่าป้าไปเอาหวยที่ไหน

เถรี 19-04-2016 22:30

เรื่องของมโนมยิทธิ จำไว้ว่าอย่าดูเพื่อตัวเอง ถ้าดูเพื่อตัวเอง รัก โลภ โกรธ หลง ที่เป็นอคติอยู่ในใจจะเข้าข้างตัวเอง ทำให้พลาดได้

อาตมาดูหวย สมัยก่อนมี ๗ ตัว ดูครบ ๗ ตัวเลย ปรากฏว่ารางวัลที่ ๑ หาซื้อไม่ได้ ไปถามเขาว่าหวยใต้ดินเล่นอย่างไร เขาบอกตัด ๓ ตัวท้ายมาเล่น ดู ๓ ตัว ออก ๒ ตัว ดู ๒ ตัวไปเล่น ออกตัวหนึ่ง ดูตัวเดียวไปเล่น ไม่ออกเลย เลื่อนไปออกงวดอื่น ถามหลวงพ่อว่าทำไมเป็นอย่างนั้นครับ ? ท่านบอกว่า "ใจแกโลภแล้ว เลยเฝือ" แต่พอบอกคนอื่นแล้วก็เป็นไปตามนั้น แปลกดีเหมือนกัน ฉะนั้น...ใครจะเล่นทอง ห้ามใช้มโนมยิทธิ ตายอย่างเขียดมาเยอะแล้ว..!

เถรี 19-04-2016 22:36

พอเวลาความโลภเกิด ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าไม่ใช่ แต่ใจไปปรุงว่าน่าจะใช่ พอไปตรวจสอบก็เฝือเลย หลังจากนั้นก็เจ๊งยาว หลวงพ่อวัดท่าซุงถึงได้แนะนำว่า ใครใช้มโนมยิทธิเพื่อเป็นหมอดู อย่าให้เขาซักถามต่อหน้า ประเภทที่ให้เขาถามต่อหน้าอย่างอาตมา ท่านบอกว่าจะต้องแกร่งจริง ถ้าไม่แกร่งจริงเดี๋ยวยุ่ง ถ้าเขาซักงี่เง่ามาก ๆ แล้วเราโกรธ โมโห ขัดใจ มโนมยิทธิก็เฝือ เพราะอารมณ์ใจไม่บริสุทธิ์แล้ว

มีอยู่วันหนึ่งที่วัดท่าซุง ท่านเข้าโบสถ์ลงปาฏิโมกข์ หลวงพ่อท่านก็ปรารภว่า "เออ...พวกแกทดสอบมโนมยิทธิกันดีไหมหว่า ?" อาตมาก็ "ดีครับ" พวกมองกันตาเขียวทั้งโบสถ์ ไม่มีใครอยากลอง มีไอ้บ้าอยู่คนเดียวที่อยากลอง ส่วนอีกคนคือลุงพุฒิ เป็นเพื่อนกัน ลุงพุฒิแกก็ไม่กลัวหลวงพ่อเหมือนกัน คือลองผิดลองถูกอย่างไรเราก็ได้กำไร ผิดเราก็รู้ว่าผิดอย่างไร ถูกเราก็รู้ว่าอันนี้ใช่

หลวงพ่อท่านถอนใจบอกว่า "พวกแกบอกว่าได้มโนมยิทธิ จริง ๆ แล้วยังไม่มีใครได้สักคน" อาตมาก็ "หา...ทำไมเป็นอย่างนั้นครับหลวงพ่อ ?" ท่านบอกว่า "บุคคลที่ได้มโนมยิทธิจริง ๆ ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น เพราะใจท่านบริสุทธิ์พอ ไม่มีสิ่งใดจะมาปิดบังท่านได้" ถ้าหากเป็นคนทั่ว ๆ ไปแล้ว รัก โลภ โกรธ หลง ที่อยู่ในใจ ชักพาให้เสียไปเยอะแล้ว จะเรียกว่ามโนมยิทธิก็ใช่ แต่ยังไม่ใช่มโนมยิทธิที่แท้ จนปัจจุบันที่เขาบอกว่า "อย่ามามโนฯ" คือประเภทคิดเอา เดาเอาเสียมากกว่า ไม่ใช่ของจริง

เถรี 19-04-2016 22:43

ไปนึกถึงตอนที่หลวงพ่อท่านไม่สบาย แล้วขึ้นไปถามพระว่า วันนี้จะมีใครมาบ้าง ? มีกี่คนที่ต้องสงเคราะห์เขา ? แต่ละคนแต่งตัวอย่างไรบ้าง ? ปรากฏว่าเป๋เข้าป่าเข้าดง ผิดหมดเลย พอร่างกายดีขึ้น ตั้งใจขึ้นไปหาพระท่านใหม่ พระท่านว่าไม่ใช่ฉัน แกโดนหลอกแล้ว ถ้าระดับต้นตำรับยังโดนหลอก พวกเราไม่ต้องห่วง มีหวังโดนแน่ ๆ

เรื่องของมโนมยิทธิต้องใจกล้าหน้าด้าน ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ถ้าประเภทผิดแล้วฝ่อไปเลย...ไม่กล้าใช้ หรือต่อให้ถูกก็ไม่กล้าให้ใครลอง ถ้าอย่างนั้นก็เอาดียาก อาตมาโดนหลวงพ่อท่านลองอยู่ ๒ ครั้งซึ่ง ๆ หน้า ต่อหน้าพระและโยมเยอะ ๆ คือท่านถามเรื่องพระศรีสุริโยทัย กับเรื่องพระยาพิชัยดาบหัก ถามห่างกันหลายปี ปรากฏว่าตอบตรงอยู่คนเดียว

ท่านถามว่าทำไมพระศรีสุริโยทัยโดนพระเจ้าแปรฟันขาดคอช้าง ? เพราะท่านเข้าผิดจังหวะ พอเห็นพระมหาจักรพรรดิเสียหลัก ท่านก็ขับช้างเข้าไปเลย แต่ไปเข้าทางซ้ายของเขา ซึ่งเป็นด้านที่เขาถนัด จ้วงได้เต็ม ๆ เลย ลองคิดดูว่าคนถนัดขวาแล้วฟันไปทางซ้าย ถ้าถนัดขวาแล้วเราเข้าขวา เขาจะฟันไม่ถนัด นี่เข้าซ้ายพอดี เลยโดนไปเต็ม ๆ

พอมาถามว่า พระยาพิชัยดาบขวาหรือดาบซ้ายหัก เพราะเห็นอนุสาวรีย์สร้างซ้ายบ้างขวาบ้าง ? ตอบว่า "ดาบขวาครับ" คนอื่นซ้ายกันหมดเลย ถามว่าทำไมถึงหัก ? ตอบว่า "ไปรับดาบแทนเพื่อนครับ" ท่านบอกว่า "เออ...ใช่" เพราะว่าพระยาศรีสิทธิสงครามโดนเขาแอบฟันข้างหลัง ท่านยื่นดาบไปรับแทน แล้วดาบก็ไม่ใช่ของตัวเอง เป็นดาบของพลทหาร ท่านเล่านอกตำราไปเยอะ

เถรี 19-04-2016 22:49

ถาม : ที่โดนปิดค่าย จนเข้าไม่ได้ ?
ตอบ : ก็คือยกทัพไปรับกองทัพพม่ากัน ปรากฏว่าข่าวศึกยังไม่มา พอตั้งค่ายเสร็จก็สบายใจ เจ้านาย ๑๐ ท่านนั่งแคร่หามเข้าหมู่บ้านไปหากระแช่กิน พอไปถึงหมู่บ้านแล้วไล่พวกคานหามกลับหมด ที่ต้องไล่กลับ เพราะเวลาเมาแล้วเหมือนหมา ถ้าลูกน้องเห็นจะไม่นับถือ เมาเสร็จตะเกียกตะกายกลับค่ายมาก็ค่ำแล้ว ตามกฎอัยการศึก กลางคืนห้ามเปิดประตูค่าย เพราะข้าศึกอาจจะหลอกให้เปิดเพื่อเข้าตี จึงต้องนอนอยู่กับพลตระเวนนอกค่าย

ปรากฏว่ายังไม่ทันจะสว่างดี ทัพข้าศึกพ้นชายทุ่งมาแล้ว ตัวเองก็รีบตีเกราะเคาะไม้แจ้งข่าว แต่อาวุธคู่มืออยู่ในค่าย คว้าดาบพลทหารได้ก็ดาหน้าเข้าประจัญบานกับเขาก่อน ดาบนายทหารสมัยก่อนทั้งหนาทั้งหนัก เพราะว่าอันดับแรก กำลังของตนดีกว่าพลทหารอยู่แล้ว อันดับสองเอาไว้จัดการกับพวกหนังเหนียว

หนังเหนียวแค่ไหนถ้าฟันไม่เข้า ทุบด้วยสันก็อยู่ ที่เขาบอกว่าดาบของขุนแผนยาว ๑ ศอกกำ สั้นเป็นอีโต้เลย ยาวแค่นั้นจริง ๆ แต่ทั้งหนาทั้งหนัก อาจารย์จักรพันธุ์วาดดาบเสียสวยเช้งวับไปเลย ที่จำเป็นต้องทำสั้น ๆ หนา ๆ เพราะเอาไว้ทุบฝ่ายตรงข้ามที่หนังเหนียว

พอตัวเองไปปะทะกับนายกองของเขา ตัวเองดันไปใช้ดาบพลทหารก็หักสิ โชคดีที่พระเจ้าตากเปิดค่ายยกทัพออกมาช่วยทัน มีความดีความชอบที่แจ้งข่าวศึกได้ทัน แต่มีความผิดที่เมาแล้วกลับเข้าค่ายไม่ได้ พระเจ้าตากชี้หน้าคาดโทษว่า "ถ้าวันนี้แพ้ กูตัดหัวหมดทุกคน" ยังโชคดีที่ชนะ..!

เถรี 19-04-2016 22:52

อาตมาดูหนังสงครามเก่า ๆ ไม่ได้ จนป่านนี้เขาเอาวีดีโอพระนเรศวรมาให้ก็ยังดูไม่ได้ เพราะว่ามีช่วงหนึ่งตามหลวงพ่อท่านไปวัดศรีรัตนาราม แล้วคุณปรีชา พึ่งแสง เอาวิดีโอสมัยที่เป็นม้วน ๆ มาให้ดู เป็นวิดีโอสงคราม ๙ ทัพ เปิดบนรถทัวร์ อาตมาไม่ได้เห็นหนังสงคราม ๙ ทัพเลย เห็นภาพซ้อนขึ้นมาเต็มไปหมด ดูไม่ได้เลย

อาตมาเคยพาเด็ก ๆ ไปดูฟาร์มจระเข้และงานแสดงช้างที่สวนสามพราน เขามีจำลองกองทัพไทยสู้กับพม่า ตอนสงครามยุทธหัตถี พอเสียงปืนใหญ่ดังตูม...! เขาไสช้างเข้าหากัน อาตมาไม่ได้เห็นตรงหน้าหรอก เห็นอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด สรุปว่าหนังพวกนี้ดูไม่ได้ ดูแล้วไปเห็นเรื่องอื่นแทน

เถรี 19-04-2016 22:54

รูปวาดพระเจ้าตากสิน อาตมายังไม่เจอที่เหมือนตัวจริงสักรูปหนึ่ง คำว่า "ตัวจริง" ก็คือตัวจริงที่อาตมาฝันเห็น ตอนที่ดูหนังสงคราม ๙ ทัพที่คุณปรีชาเปิดให้ดู เห็นสมบัติ เมทะนีเล่น ยังคิดว่าเป็นพระเจ้าตาก แต่ปรากฏว่าสมบัติ เมทะนี เล่นเป็นรัชกาลที่ ๑ หน้าตาแกใกล้เคียงพระเจ้าตากเหมือนกัน

เถรี 21-04-2016 07:58

ถาม : อัลเลาะห์ คือพระโยนกหรือครับ ?
ตอบ : อัลเลาะห์จริง ๆ คือพระโยนกธรรมรักขิต ท่านเป็นพระอรหันต์ อัลเลาะห์มาจากคำว่าอรหันต์ ลองไปดูคำสอนหลัก ๆ สิ หลักพุทธศาสนาเลย แต่คนรุ่นหลังตีความเพี้ยนไปเอง เมตตาถึงขนาดเขาตบหน้าข้างซ้าย ยื่นข้างขวาไปให้เขาตบ แล้วคิดดูว่าเปลี่ยนมาถึงขนาดนี้ได้

ลองไปศึกษาหลักการของอิสลามดู แต่ว่าอัลเลาะห์องค์ปัจจุบันคือท่านปู่พระอินทร์ นี่อาตมาเปิดเผยความลับของโลกมากเกินไปแล้ว ท่านปู่พระอินทร์ตั้งใจสงเคราะห์ ถ้าหากว่านึกถึงอย่างน้อยก็เป็นเทวตานุสติ

เดี๋ยวพวกรู้จริงก็จะว่าอาจารย์เล็กมั่วอีก แล้วไปใส่กันเละเทะในโซเชียลมีเดีย ให้เขามาใช้มโนมยิทธิแข่งกับอาตมาก็ไม่มา แต่ดันวิจารณ์เก่งฉิบหา..เลย..!

เถรี 21-04-2016 08:11

พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาบอกท่านอาจารย์วิสุทธิ์ว่า หาวัตถุมงคลของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ให้บ้างสิ เอาเฉพาะตะกรุด ท่านอาจารย์วิสุทธิ์ร้องจ๊าก บอกว่าพระดีกว่าครับ หาง่ายกว่าเยอะเลย ทั้ง ๆ ที่พระต้องลบผงต้องอะไรด้วย แต่ว่าท่านสร้างไว้เยอะ ส่วนตะกรุดท่านไม่มีเวลาจาร

ไม่มีอะไรหรอก ออกใบสั่งไว้เล่น ๆ เพราะท่านเป็นคนใจอ่อน พอของมาใครตื๊อก็ให้เขาไป อาตมาสั่งมีดหมอหลวงพ่อกวยไว้อีกเล่ม ท่านบอกว่าเพิ่งโดนเขาตื๊อไป น่าทุบจริง ๆ เลย ท่านเป็นคนใจอ่อน ใครตื๊อก็ให้เขาหมด ท่านเป็นคนที่ไม่คิดเอากำไรกับใคร เป็นคนที่น่าคบมาก เล่นวัตถุมงคลแบบมีหลักการ คือศึกษาเรียนรู้ร่วมกัน

ตอนแรกก็ไม่คิดว่าท่านจะบวชยาว คิดว่าบวชเอาพรรษาเดียว แต่พอดีท่านบวชแล้วไปอยู่กับหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ ไปเจอครูบาอาจารย์ระดับนั้นเข้าคงซาบซึ้งในพระธรรม ก็เลยอยู่มาเรื่อย ท่านเจอหลวงพ่อประสิทธิ์มาวัด.. ท่านรับดูแล เลยติดใจตามไปปฏิบัติที่วัด เป็นพรรษาเลย ช่วงนั้นพวกเราก็ลุ้นว่าท่านจะบรรลุเสียแล้ว"


ถาม: ท่านถ่ายทอดโดยไม่ปิดบังอะไร ?
ตอบ : หลักการถ้าศึกษาถึง ก็รู้ทุกคน ท่านเองก็ไม่ปิดบัง ถ้าคนรู้เยอะก็ช่วยกันยืนยันได้ แต่ถ้าวัตถุมงคลถึงมืออาตมานี่โดนแปลงโฉมหมด ประเภทไม้แห้งไม้เก่า เอามาลงน้ำมันหมด เพราะไม่คิดจะขายอยู่แล้ว

เถรี 21-04-2016 08:26

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครจองวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วโอนเงินผิดบัญชี รับประกันว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีคืนเงินให้ จะโอนเข้าไปบัญชีทำบุญตามอัธยาศัยทันที จะได้จำไปตลอดชีวิตว่าอย่าโอนผิดอีก"

เถรี 21-04-2016 13:39

ถาม : ตอนเช้าก่อนเพื่อนไปทำงาน เขาใส่รองเท้าไปใส่บาตร จะรองเท้าหนังหรือผ้าใบเขาก็จะสวมถุงเท้า การสวมถุงเท้าใส่บาตรเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่สบายใจก็ถอดเสีย ถามไปก็ไม่สบายใจอยู่นั่นแหละ

ถาม : ถ้าไม่ถอดจะเป็นการปรามาสไหมละครับ ถ้าเขาไม่สะดวก ?
ตอบ : ถ้าหากว่ามีความจำเป็นก็ไม่ต้อง แต่ถ้าทำแล้วไม่สบายใจก็อย่าทำ

เถรี 21-04-2016 15:09

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระเบียบเขาตั้งไว้ให้ปฏิบัติ ไม่ได้ตั้งไว้ให้ต่อรอง ส่วนใหญ่พวกที่ไม่รู้จักเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนดี ก็มักจะคิดว่าระเบียบต่อรองกันได้ โทรมาบอกว่าขอลาเพิ่มอีก ๕ วัน หาเงินค่ารถไม่ทัน อาตมาบอกว่านั่นเป็นปัญหาของเอ็ง กลับมาไม่ทันก็ไล่ออก..!

ระเบียบวัดก็เหมือนกับกฎหมาย ในเมื่อเป็นกฎหมายก็ต้องปฏิบัติตาม ไม่ใช่มาต่อรองกัน มีใครโดนตำรวจจับแล้วต่อรองบ้าง บ่อยเลยใช่ไหม ? จำไว้ว่าถ้าไม่ผิดตำรวจจับไม่ได้หรอก แต่ขนาดจับบิ๊กไบค์ยังต้องโทรถามเพื่อนเลยว่าผิดข้อหาอะไร ยังหาข้อหาไม่ได้แล้วทะลึ่งไปจับเขา..!

รู้สึกว่าที่วัดมีแต่โครงการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน แล้วคณะของพวกเราก็มีแต่เด็กผู้หญิงเสียเยอะ ลองบวชชีพราหมณ์ภาคฤดูร้อนบ้างไหม ? จะได้ไปอยู่วัดกันทั้งแก๊งค์เลย

วันก่อนทำตารางให้ท่านเก่ง เลขานุการวัดท่าขนุน เอาไว้ให้ควบคุมสามเณรให้ปฏิบัติตามตาราง เณรเห็นก็ร้องโอ้โห เริ่มตั้งแต่ตี ๓ ครึ่งตื่นนอน ตี ๔ เริ่มกรรมฐาน บอกว่าถ้าใครทำไม่ได้ กลับไปหลวงพ่อจะฟาดตูด หลวมตัวเข้าวัดท่าขนุนต้องโดนบ้าง อย่าได้หลงเข้าไปเชียวนะ หลงไปเมื่อไรตีกระจาย จับบวชชีพราหมณ์แล้วยึดโทรศัพท์ เอาให้คลั่งตายไปเลย...!"

เถรี 21-04-2016 15:12

"ยกตัวอย่างไม่ใกล้ไม่ไกล ทิดตู่ของเรานี่แหละ โดนไล่ออกจากวัดเพราะว่าไปให้คนอื่นมาช่วยต่อรองให้ ไปช่วยงานท่านอนันต์ที่วัดพระธาตุ ๕ ดวง ๑๕ วัน พอวันที่ ๑๓ อาตมาก็โทรไปเตือนว่าวันลาจะหมดแล้วนะ จะเดินทางกลับก็ต้องเตรียมตัวแล้ว ปรากฏว่าพอวันที่ ๑๖ มีโทรศัพท์มา บอกว่าหลวงพี่อนันต์บอกว่าจะพูดกับหลวงพ่อให้ เลยบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก อยู่ต่อไปเถอะ ถ้ากลับมาแล้วก็เก็บของออกจากวัดไปได้เลย...!

ด้วยความข้องใจและด้วยความกล้าหาญว่าตัวเองทำอะไรไม่ผิด ทิดตู่กลับมาก็ถามว่าผมผิดอะไรบ้างครับ ? น่าเหวี่ยงไหม...?! เลยบอกว่าอันดับแรก เอ็งอยู่กับข้า แต่ดันไปฟังคำพูดคนอื่น ถือว่าผิดมารยาท อันดับที่สอง ระเบียบวัดระบุให้ลาแค่ ๑๕ วันแล้วไปเกิน ถือว่าผิดระเบียบวัด อันดับที่สาม ครูบาอาจารย์สั่งแล้วไม่ปฏิบัติตามถือว่าผิดพระธรรมวินัย ตกลงว่าผิดเยอะพอหรือยัง ?

พวกเด็ก ๆ เขายังไม่รู้ ก็คิดว่าหลวงพ่อรักพวกเขาแบบแปลก ๆ เพราะถึงเวลาเขาจะกลับบ้านแล้ว ก็บอกว่าไปเถอะ เขาก็งง ๆ ว่าหลวงพ่อไม่ง้อเขาเลยหรือ ? ตอนอยู่เห็นรักนักรักหนา ตอนจะไปง้อสักนิดก็ไม่มี เลยบอกเขาว่าตูมีอุเบกขาในเมตตา จนป่านนี้เด็ก ๆ ยังตีความไม่แตกเลยว่าอุเบกขาในเมตตาเป็นอย่างไร"

เถรี 21-04-2016 20:19

ถาม : มีคนอยากรู้ว่าหลวงพ่อลาพุทธภูมิเมื่อไรคะ ?
ตอบ : พอพวกหนูเกิดนี่แหละรีบลาเลย ตูไม่ลานี่ตูคงได้เกิดอีกยาวแน่ ...(หัวเราะ)... ดูว่าไอ้เต้ยจะมาไหม ? ถ้าเต้ยมาต้องยุ่งแน่เลย รีบลาดีกว่า...!

เถรี 21-04-2016 20:20

พระอาจารย์กล่าวว่า "การประสบความสำเร็จต้องทุ่มเทความพยายาม จะนอนใต้ต้นไม้รอกระต่ายให้มาชนตายนั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว"

เถรี 21-04-2016 20:21

พระอาจารย์กล่าวว่า “ปีนี้อาตมาปล่อยชีวิตสัตว์มาเป็นปีที่ ๓๑ แล้ว นับชีวิตไม่ถ้วน ตอนแรกที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่าให้ไปปล่อยปลาที่เขาขายให้ฆ่าเดือนละตัวสองตัว ท่านบอกว่า “แกเป็นทหารมาทุกชาติ กรรมปาณาติบาตมีมาก ทำให้ป่วยบ่อย” ก็เริ่มทำมาตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ ปีนี้ก็ปีที่ ๓๑ พอดี”

เถรี 21-04-2016 21:27

ถาม : เส้นเลือดสมองแตกค่ะ ?
ตอบ : มีหมออยู่ทางอีสาน ถ้าหากว่าเส้นเลือดแตกใหม่ ๆ ไปหาหมอคนนี้เลย หายเกือบเป็นปกติ เขาสามารถเรียกเลือดเสียออกมาได้ แปลกดีเหมือนกัน เอาไข่ต้มไปคลึง ๆ พอแกะไข่ออกมา ข้างในมีแต่เลือด แล้วให้หมอปัจจุบันเขารักษาต่อ เขาช่วยได้แค่เอาเลือดเสียออก แต่ต้องตอนเป็นใหม่ ๆ ตอนนี้ไม่ทันแล้ว

ถาม : ผ่าไปแล้วครับ
ตอบ : ผ่าไปแล้วใช่ไหม ? ถ้าเป็นใหม่ ๆ ไปหาเขาเกือบปกติทุกคน แต่ไม่เป็นไร...อย่างน้อย ๆ ก็ยังไปไหนมาไหนได้


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:52


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว