"เรื่องนี้อาตมาพูดมา ให้โยมแยกให้ออกนะว่าอาตมายังเคารพหลวงพ่อ หลวงพี่ ทุกรูปในวัดท่าซุงอยู่เป็นปกติ เพราะในความเป็นพระของท่าน ศีลของท่านไม่ได้บกพร่องเลย แต่การที่ชิงดีชิงเด่นกัน เป็นเรื่องของกิเลสในใจแต่ละคน ซึ่งอาตมาถือว่าใครวางได้ก่อนก็สบายก่อน กิเลสในใจกับเรื่องศีลของพระ เป็นคนละเรื่องกันนะ ต้องแยกให้ออก
ให้สังเกตว่า อาตมาไปจะกราบท่านได้เต็มมือทุกรูป ยังเคารพกราบไหว้ท่านตามปกติ แต่เรื่องกิเลสนี่ตัวใครตัวมัน ใครวางได้ก็สบายก่อน อาตมาเคยบ่นกับหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า "ความจริงผมอยากจะโทษหลวงพ่อนะ ?" ท่านว่า "ทำไมวะ ?" "หลวงพ่อเคยมีแม่มาก ลูกแต่ละแม่ก็ชิงดีชิงเด่นกัน จนกระทั่งมาเป็นพระแล้ว ยังไม่ค่อยจะนึกถึงสภาพความเป็นพระเลย ยังชิงดีชิงเด่นกันอยู่เหมือนเดิม" โชคดีที่หลวงพ่อไปก่อนแล้ว ถ้ายังเป็น ๆ อยู่มีหวังโดนแน่..! อาตมาออกจากวัดมา คนที่ไม่เข้าใจและรักอาตมา ก็ด่าหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์กระจายเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบหน้าอาตมาก็ด่าตามหลังอาตมาไป เป็นอะไรที่สนุกมาก จะได้รู้ว่าเรายังแบกอะไรอยู่บ้าง ถ้าเราไม่แบกก็ให้เขาด่า ๆ ไป ต้องบอกว่า หลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ท่านเป็นผู้เสียสละ เพราะคนชอบหน้าอาตมามีเยอะ ก็เลยด่าท่านเสียจมดิน..! ทุกวันนี้เวลาลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงไปรวมกันหลาย ๆ รูป คุยเรื่องความหลังกันเมื่อไรก็เฮกันไม่จบ เพราะบางทีบางเรื่องแต่ก่อน คุยกันในวัดไม่จบจริง ๆ ต่างคนต่างเก่ง ถึงขนาดเคยปิดห้องจะตีกันมาแล้ว ดันประชุมพระเกือบสามสิบรูป แล้วยัดกันอยู่ในห้องเดียว คุยกันไม่รู้เรื่อง คนนี้ก็จะเดินออกคนนั้นก็จะเดินออก หลวงตาวัชรชัยโดดขวางประตูเลย "ใครออกผมอัด..! ต้องคุยกันให้จบก่อน" |
"จากที่เล่ามาทำให้เห็นความน่ากลัวของอนุสัย คือ กิเลสที่นองเนื่องในสันดาน ข้ามชาติข้ามภพมาชาติแล้วชาติเล่า ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือนักบวช ไม่ได้ละไม่ได้เว้นเลย อะไรที่กิเลสพอจะจูงจมูกเรา ก็ร้อยรัดให้เราติดอยู่กับวัฏสงสาร ทุกเล่ห์ทุกรูปแบบ คนที่ไม่รู้ไปด่าท่าน หรือว่าคนที่ไม่รู้มาด่าอาตมา จากเสมอตัวนี่แทบไม่มีเลย ไม่ต้องพูดถึงกำไรเลย มีแต่ขาดทุนล้วน ๆ..!
อันดับแรก..ในสภาพของความเป็นพระ ศีลท่านมากกว่าเราอยู่แล้ว ต่อให้ศีลท่านขาดทั้ง ๕ ข้อ ท่านก็ยังเหลือตั้ง ๒๒๒ ข้อ..! คนเรามักจะลืมตรงนี้ อันดับต่อไป..เป็นการทำตนให้ห่างจากมรรคผลไปโดยปริยาย เพราะขาดความเคารพในพระรัตนตรัย โบราณเขาเก่ง เขาถึงบอกว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ปล่อยให้ท่านไปจัดการกันเอง เราอย่าไปยุ่งด้วย" |
พระอาจารย์กล่าวถึงมีดหมอเพชราวุธที่จะออกให้บูชาปี ๒๕๕๘ ว่า "กติกาในการจอง ๑ username ต่อ ๑ เล่ม เท่านั้น ห้ามจองเผื่อคนอื่นเด็ดขาด จองหน้าเว็บอย่างเดียว ฝากจองทางโทรศัพท์ก็ไม่ได้ ยังไม่มี username ให้รีบสมัครตั้งแต่บัดนี้ แต่ถ้าสมัครหลาย username เพื่อเอาไว้จอง ตรวจพบจะโดนตัดสิทธิ์ไปเลย เดี๋ยวปีหน้ามีดหมอถึงจะออก ต้องมีประกาศล่วงหน้าก่อนสามวันไหม..ว่าจะเปิดกระทู้เวลาไหน ? ถ้าจองมาเกิน ใครโอนเงินก่อนก็ได้ก่อน ขืนเป็นแบบนี้ผู้รับจองโดนฆ่าตายแน่..!"
|
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้ทางคณะสงฆ์ให้ส่งบัญชีรายรับรายจ่ายประจำปีของวัดตอนสิ้นเดือนกันยายน ท่านเจ้าคณะภาค ๑๔ รูปใหม่ คือ หลวงพ่อพระเทพสุธี วัดนิมมานรดี ท่านให้ส่งบัญชีตามปีงบประมาณของราชการ ปกติให้ส่ง ๑ มกราคม - ๓๑ ธันวาคมของทุกปี ปีนี้ท่านให้ส่ง ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗
บัญชีที่วัดติดลบ ๓๗ ล้านบาทเศษ ตัวเลขแดงโร่ อาตมาบอกกับกรรมการวัดว่า "ไม่ต้องกังวล อาตมาไม่รบกวนพวกคุณหรอก อาตมาพ่อรวย ขาดเท่าไรไปเอาจากพ่อได้" จนป่านนี้กรรมการวัดยังสงสัยเลยว่า พ่อของหลวงพ่อเล็กเป็นเศรษฐีอยู่บ้านไหน ?" |
พระอาจารย์กล่าวว่า "รู้ไหมว่าที่บ้านสมัยก่อนเขาเลี้ยงหมาดุ ๆ นอกจากเอาไว้กันขโมยแล้ว ยังเป็นการทดสอบความสามารถของว่าที่ลูกเขยด้วย ว่าจะฝ่าเขี้ยวหมาเข้าไปหาลูกสาวบ้านนั้นได้หรือเปล่า ? ใครใช้คาถาเมตตาได้ผล ใครหนังเหนียวประเภทยืนให้หมากัดไปจนเหนื่อยเดี๋ยวก็เลิกไปเอง หรือใครจะใช้คาถาหัวใจราชสีห์ เดินเข้าไปหมาร้องเอ๋งวิ่งหนีหมดทั้งฝูง ถ้าใครสามารถเข้าไปโดยที่หมาไม่ยุ่งไม่วอแวด้วย ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ว่าที่พ่อตาก็ต้องพิจารณาแล้ว ว่าคนนี้สามารถที่จะดูแลคุ้มครองรักษาลูกสาวของตนได้
เมื่อวานมีข่าวว่า โจรเอาไก่ย่างคลุกยาให้หมาพิทบูลกิน เพื่อนหมาตายไปสองตัว แต่พิทบูลตัวนี้นอกจากไม่ตายแล้ว ยังฟัดโจรจนกระจายเลย เจ้าของกลับมาเอาส่งโรงพยาบาล ล้างท้องไม่ทัน" |
ถาม : หนุมานของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ?
ตอบ : หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน ที่นนทบุรี ไม่ใช่หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ จังหวัดสุพรรณบุรี ถาม : หนุมานมีคุณด้านไหนคะ ? ตอบ : หนุมานสมัยก่อนท่านเอาเคล็ดว่าเป็นผู้ไม่ตาย ทำอะไรก็สำเร็จ ลองไปอ่านรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบดูว่า มีเรื่องไหนที่หนุมานอาสาแล้วไม่สำเร็จบ้าง สำเร็จทุกเรื่อง ต่อให้โดนทำร้ายหนักแค่ไหน ถ้าถึงแก่ชีวิต ลมพัดมาก็ฟื้นใหม่ เขาก็เลยเอาเคล็ดตรงที่เป็นผู้ไม่ตายและทำอะไรสำเร็จ มาสร้างหนุมาน สมัยก่อนจะมีหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน หนุมานของท่านจะเอาดีจริง ๆ ต้องแกะจากรากพุดซ้อน หลวงพ่อสุ่นจะปลูกต้นพุดซ้อน ตอนเช้า ๆ เสกน้ำล้างหน้าและรดไปด้วย พอถึงเวลาจะทำการพลี ก็คือทำพิธีขอกับต้นไม้ เอาเฉพาะรากที่ชอนไปทิศตะวันออก ขุดมาตากแห้งแล้วให้ลูกศิษย์แกะเป็นรูปลิง ตอนหลังต้นพุดก็ไม่ใช่ว่าจะปลูกโตได้เร็วทันใจ จึงกลายเป็นมาแกะด้วยงา แล้วก็มีของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างลิงจับหลัก เพราะลิงของท่านจะถือกระบอง และหลวงพ่อเชย วัดบางกระสอบ จังหวัดสมุทรปราการ ท่านสร้างเป็นองคต รุ่นหลังก็ต้องหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ของท่านหล่อเป็นโลหะ แล้วก็มาของหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ท่านสร้างเป็นลูกอมหนุมานครองเมือง |
พระอาจารย์กล่าวว่า "โบราณเขามีมหาอำนาจพระยาครุฑ เอาไว้ปกครองคน ถ้าเป็นผู้นำคนก็ควรที่จะมีไว้ ของสายเราก็พระหลวงปู่ปานพิมพ์ขี่ครุฑไปเลย"
|
:4672615:เก็บตกเดือนตุลาคมปี ๕๗ หมดแล้วค่ะ:4672615: ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน |
อ้างอิง:
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:09 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.