กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๙ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5185)

เถรี 02-09-2016 19:47

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๙
 
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้มีโครงการที่ทำอยู่ คือ โครงการห้องสมุดรักษ์ธรรมรักษ์ไทย ของโรงเรียนบ้านจันเดย์ ต้องการงบประมาณเจ็ดแสนบาท ตอนนี้ได้มาประมาณหนึ่งแสนกว่าบาทแล้ว ส่วนอีกโครงการก็กฐินปลดหนี้วัดตะเคียนงาม เป้าหมายอยู่ที่หนึ่งล้านบาท ตอนนี้ขาดประมาณสองแสนเศษ ๆ เท่านั้น

โครงการที่สาม สร้างพิพิธภัณฑ์ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อวัดท่าซุง ที่วัดท่าขนุน ตอนนี้อาตมาซื้อของเข้าพิพิธภัณฑ์ไปร่วมสิบล้านบาทแล้ว แต่ค่าออกแบบและสร้าง ๔๓,๒๐๐,๐๐๐ บาท ห้องแรกที่จะทำ คือ ห้องพุทธประวัติ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและบุคคลตัวอย่าง ห้องนี้ราคา ๒๕ ล้านบาท ทำไมถึงแพงขนาดนั้น ? ก็เพราะพื้นที่ประมาณสี่พันตารางเมตร จะจัดเป็นนิทรรศการลักษณะให้เดินดู น่าจะมีแสงสีเสียงอะไรสักนิดหน่อย

ผู้ออกแบบแนะนำว่า ถ้าจะให้ดีควรเป็นระบบปิดทั้งหมด ก็แปลว่าต้องเพิ่มเครื่องปรับอากาศอีกเยอะเลย ใครมีเงินเหลือกินเหลือใช้ก็ช่วยเข้าไปบูชาวัตถุมงคลในกระทู้คนมีเงินฯ ด้วยนะ แต่ได้มาเท่าไรก็ไม่พอหรอก"


เถรี 02-09-2016 19:49

"เสียดายที่พวกเราไม่ค่อยรู้จักของกัน โดยเฉพาะพระเก่า ๆ พวกเราดูไม่เป็น เมื่อเช้านี้มีนักเลงดีกวาดพระปิดตาไปสามองค์ ราคาหนึ่งแสนบาท เพราะเขาไปดูแล้วว่าองค์สุดท้ายที่อาตมาลงไว้ห้าหมื่น ราคาในตลาดแค่ห้าล้านเท่านั้น...! คราวนี้รู้หรือยังว่า กระทู้คนมีเงินฯ ของอาตมา ลดแลกแจกแถมขนาดไหน

พระปิดตาพิมพ์ยันต์น่อง วัดทอง เนื้อสัมฤทธิ์เงิน ...(หัวเราะ)... ที่เขียนไว้ไม่บอกชื่อเพราะกลัวว่าเซียนจะเข้ามากวาดหมด ลงไว้แค่พระปิดตาเนื้อโลหะ คนตาดีก็ได้ไป"

เถรี 02-09-2016 19:52

"เล็งไว้แต่ไม่ทันจองใช่ไหม ? ไม่ทันกินแล้ว เมื่อเช้าเขามาถึงก็จ่ายเงินสดเลย ปกติพระปิดตายันต์ยุ่งจะเป็นเนื้อทองผสม ส่วนเนื้อสัมฤทธิ์เงินหายากที่สุด

บางคนคิดว่าอาตมาตั้งราคาแพงเกิน เช่น ราคา ๒๐๐,๐๐๐ บาท หารู้ไม่ว่าในตลาดราคาหลายล้านบาท แต่ไม่ต้องเอาไปเข้าตลาดหรอกนะ เพราะจะโดนเซียนเล่นหงายท้องเลย

เซียนใหญ่ท่านหนึ่ง เคยเป็นประธานชมรมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ปล่อยพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ พิมพ์ใหญ่ ราคา ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท อาตมาดูแล้วว่าสวยสู้ของอาตมาไม่ได้แน่ ก็เลยให้ลูกศิษย์ลองไปแหย่ให้เขาดู เขาให้ตั้ง ๑๐๐,๐๐๐ บาท...! คนอย่างนี้ก็มีด้วยนะ เล่นจะเอารวยคนเดียว

ตอนนี้เขากำลังตามล่า เสือหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย ของอาตมาอยู่ ตัวเล็กนิดเดียว เขาบอกให้สองล้าน อาตมาไม่ขาย เพราะว่าเสือตัวเล็กจิ๋ว แกะจากเขี้ยวเสือไฟ หายากสุด ๆ ส่วนใหญ่เขี้ยวเสือโคร่งจะแกะได้ตัวใหญ่ "

เถรี 02-09-2016 20:24

"พวกนี้เขาจะหาของชิ้นทีเด็ดเอาไว้อวดพรรคพวก เพื่อให้เห็นว่ามีของหายาก เขาบอกว่าถวายเงินช่วยสร้างวัดสองล้าน อาตมาบอกว่า "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูไปหาจากคนอื่นได้" พวกนี้เอาไปเดี๋ยวก็ไปปล่อยเอากำไรอีก

เหมือนอย่างกรณีที่คนบอกขายวัตถุมงคล ๕๐๐ บาท เซียนต่อเหลือ ๓๐๐ บาท แล้วไปปล่อยราคา ๗ ล้านบาท..! แสบมากเลย ให้เขาสักห้าพันบาทก็ยังดี ไร้จรรยาบรรณจริง ๆ วงการนี้อาตมาไม่คบหรอก

ลูกศิษย์เอาพระสมเด็จไปประกวด เขาตีปลอมทันทีเลย คนที่หนึ่งก็บอกว่าปลอม คนที่สองก็บอกว่าปลอม ถือของเดินมาจะขึ้นรถกลับ เขาตามมาบอกว่า "ขอซื้อหน่อยพี่ ผมให้สามหมื่น จะเอาไว้ดูเป็นตัวอย่าง ปลอมได้สะเด็ดมากเลย" ถ้าปลอมแล้วมึงจะเอาทำไม ?

พอเข้าไปแล้วถ้าไม่ใช่พวกเขา หรือไม่ใช่ของเขา เขาจะตีปลอมเพื่อให้หมดกำลังใจไว้ก่อน เขาเรียกว่า ช่วยกันแห่ ปากที่หนึ่งว่าปลอม ปากที่สองว่าปลอม เราก็เหี่ยวเป็นผักบุ้งโดนน้ำร้อนลวก ไปถึงคนท้าย ๆ เขาให้สามร้อยบาทห้าร้อยบาทก็ยังดี ยังได้ค่ารถกลับบ้าน แต่ที่ไหนได้เขาเอาไปปล่อยได้เจ็ดล้านบาท..! วงการนี้หาคนที่มีคุณธรรมยากมาก พูดง่าย ๆ ว่าเขาตั้งใจขายพระกินอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น...คงไม่ต้องไปหวังเรื่องคุณธรรมหรอก คนดีจริง ๆ มีอยู่แค่ไม่กี่คน"

เถรี 04-09-2016 18:27

ถาม : พี่สาวถูกล่อลวงด้วยไสยศาสตร์จากนักบวชผู้หนึ่ง แล้วได้พานักบวชกับหญิงสาวที่นักบวชใช้ไสยศาสตร์ล่อลวงมา ไปอยู่ในห้องนอนของตนเอง ซึ่งพี่สาวอยู่นอกห้อง ถ้านักบวชได้ทำกิจปาราชิกกับหญิงสาวผู้นั้น พี่สาวผู้เป็นเจ้าของห้อง จะมีโทษลงบัญชีนรกระดับขุมไหนครับ ?
ตอบ : เกี่ยวอะไรกัน ? รู้อยู่ว่าพี่สาวโดนล่อลวง ก็เท่ากับทำความผิดโดยไม่เจตนา พระพุทธเจ้าตรัสว่า เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ ต้องมีเจตนาจึงจะเป็นกรรม ฉะนั้น...พยายามคิดมาก ๆ เข้าไว้ จะได้ลงลึก ๆ หน่อย...!

เถรี 04-09-2016 18:35

ถาม : เมื่อก่อนเคยชักชวนให้น้องต่างมารดาเข้ามาทำในทาน ศีล ภาวนา แต่ตอนนี้หมดโอกาสแล้ว เพราะน้องต่างมารดาและมารดาของเขาหลงเชื่อในคนทรงเจ้า แล้วมาแอบขโมย นำพระเจ้าพรหมหาราชทรงช้างพลายประกายแก้วที่ได้บูชาจากวัดท่าซุง สมเด็จพระนารายณ์ทรงฤทธิ์ที่ได้บูชามาจากวัดเขาวง ช้างเอราวัณที่บูชามาจากวัดถ้ำป่าไผ่ และวัตถุมงคลอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ที่ไม่ใช่เป็นรูปพระพุทธเจ้า แต่ก็ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าขนุนมาหลายวาระ เอาไปทิ้ง ซึ่งผมสงสัยว่าอาจจะนำไปทิ้งในบ่อร้าง แล้วเอาดินกลบทับ ดังที่กล่าวมา น้องต่างมารดา และมารดาของเขา จะมีโทษระดับภูมิเปรต หรือภูมินรกครับ ?

ตอบ : ตราบใดที่ยังไม่ขาดใจตาย ไม่สามารถบอกคติที่แน่นอนของใครได้ เพราะมีกรรมบางตัว คือ อาสันนกรรม กรรมก่อนตาย ที่สามารถมาเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

ถ้าเขาไปดีแล้วจะดีใจตามเขาไหม ? ดูสุปติฏฐิตเทพบุตรทำชั่วมาตลอดชีวิตได้ขึ้นสวรรค์ พระนางมัลลิกาเทวีทำดีมาตลอดชีวิตแต่ลงนรก ฉะนั้น...ตราบใดที่ยังไม่ขาดใจตายลงไป คติก็ยังไม่แน่นอน ต่อให้ตายลงไปถ้ากรรมไม่หนักพอ เมื่อผ่านการตัดสินของพระยายม ถ้านึกถึงความดีได้ก็รอดไปอีก

เถรี 04-09-2016 18:36

ถาม : ถ้าในอดีตผมเคยโดนคนควักตาและโดนทรมาน พอมาในชาติปัจจุบันผมจำได้ และผมอโหสิกรรมให้คนทำ แปลว่าคนทำก็รอดจากผลกรรมนั้นไป ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : อโหสิกรรมที่มีผลจะต้องทำต่อหน้า ทั้งโจทก์และจำเลยเอ่ยปากเลิกแล้วต่อกัน ไม่ใช่เราไปอโหสิกรรมให้อยู่ฝ่ายเดียว

เถรี 04-09-2016 18:42

ถาม : ผมได้นำแก้วจุยเจีย ช้างแก้ว ม้าแก้ว ไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกงานเป่ายันต์วันที่ ๙ ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้อธิษฐานอะไร แล้วผมจะใช้งานของพวกนี้อย่างไรครับ ?
ตอบ : จะไปใช้ได้อย่างไร ? ก็เป็นแก้ว ถ้าจะใช้งานก็ต้องเป็นม้าจริง ๆ ช้างจริง ๆ...! งานเป่ายันต์เกราะเพชรเป็นการขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ ถ้ามั่นใจคำว่า "พุทโธ อัปปมาโณ" ก็อธิษฐานเอาตามอัธยาศัย

เถรี 04-09-2016 18:44

ถาม : ในขณะที่ข้าพเจ้าภาวนาพระคาถาเงินล้านด้วยการจับลมหายใจเข้าออกอยู่ ปรากฏว่ามีพระ หลวงปู่ หลวงพ่อ พระภูมิ ผี มาคุยด้วย แต่ข้าพเจ้าไม่ต้องการจะคุย เพราะอยากภาวนาพระคาถาเงินล้านให้ครบ ๓๐๐ จบ ควรจะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : เดิน...! นั่งอยู่สมาธิทรงตัวลงล็อกก็เห็น สามารถพูดคุยเห็นได้ ก็เปลี่ยนเป็นเดิน พอสมาธิเคลื่อน ไม่ได้อยู่ตรงจังหวะนั้น ก็ไม่สามารถที่จะเห็นได้แล้ว

เถรี 04-09-2016 18:49

ถาม : ผมได้ไปฝึกมโนมยิทธิที่ท่าลาน ขณะที่ตอบคำถามครูฝึกตามความรู้สึกทางใจ ช่วงหนึ่งมีอาการหัวหมุนจากเบา ๆ ไปจนเเรงมากเเทบจะทรงตัวไม่อยู่ หัวใจเต้นเเรง เหงื่อออกเยอะมาก ตอนนั้นอารมณ์เกิดกลัวขึ้นมาเลยลืมตาขึ้น ลืมตาเเล้วอาการหมุนยังอยู่ ภาพที่เห็นสั่นไปหมด ลักษณะอาการเช่นนี้คืออะไร ? เเละต้องวางกำลังใจอย่างไรเพื่อที่จะผ่านไปครับ ?
ตอบ : ถ้าถามหมอ หมอจะบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน แต่ถ้าถามอาตมาก็คือจะหลุดออกไปแบบมโนมยิทธิเต็มกำลัง แต่มีความกลัวก็เลยไปไม่ได้ ฉะนั้น...วิธีเดียว ก็คือ นึกถึงคำที่เราสมาทานกรรมฐานว่า เราขอมอบกายถวายชีวิต ตั้งใจว่าถึงตายลงไปเราก็จะทำ ถ้าสามารถตัดใจได้เด็ดขาดจริง ๆ ก็จะหลุดออกไปได้เลย


เถรี 04-09-2016 18:50

ถาม : เวลาข้าพเจ้าไม่สบายใจ มีความทุกข์ มีความฟุ้งซ่าน ก็ดูลมหายใจเข้า หายใจออก ก็รู้สึกว่าใจมีความสุข ไม่ฟุ้งซ่าน ข้าพเจ้าจึงอยากทราบว่า มีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขได้มากกว่าการดูลมหายใจเข้า หายใจออก ?
ตอบ : เป็นพระอรหันต์..!

เถรี 04-09-2016 19:00

ถาม : ปกติเวลาผมอยู่บ้านจะไม่ได้สวมเสื้อ ใส่แต่กางเกงขาสั้นถึงหัวเข่า เวลากระผมไหว้พระ สวดมนต์ ก็ไม่ได้สวมเสื้อใส่แต่กางเกงขาสั้น เช่นนี้แล้วถือเป็นการปรามาสพระพุทธเจ้าด้วยหรือไม่ครับ ? ถ้าเป็นการปรามาสพระพุทธเจ้า ผลของวิบากกรรมนี้ กระผมจะได้กรรมเช่นไรครับ ?
ตอบ : เรารู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่เหมาะสม ? ถ้ารู้แล้วยังตั้งใจทำก็เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องถาม การปรามาสพระรัตนตรัยปิดมรรคผลแน่นอนอยู่แล้ว เหลืออยู่อย่างเดียวคือกราบขอขมาพระและทำใหม่เสียให้ถูก

เถรี 04-09-2016 19:03

ถาม : ผมกราบขอคำแนะนำจากพระอาจารย์ ว่าพอจะมียาที่ช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือดบ้างไหมครับ ? ผมเป็นโรคนี้อยู่
ตอบ : มี...วิ่งให้ได้วันละ ๕ กิโลเมตร อย่าได้ไปกินเชียวพวกยาลดไขมัน กินเมื่อไรไขมันจะโดนดึงไปอยู่ในตับ แล้วจะกลายเป็นไขมันพอกตับ และท้ายสุดก็กลายเป็นมะเร็งตับ ฉะนั้น...วิธีมักง่ายโปรดอย่าใช้ ให้ไปออกกำลังกายแทน

เถรี 04-09-2016 19:06

ถาม : การออกกำลังกายโดยวิธีเต้นประกอบเพลง เช่น เต้นซุมบ้า ผิดศีล ๘ หรือไม่คะ ?
ตอบ : ออกกำลังกายหรือเต้นเอาสนุก ? ต้องดูเจตนาด้วย ถ้าเราออกกำลังกาย เพียงแต่ว่าเอาเพลงเป็นจังหวะเท่านั้น แต่ถ้าเราตั้งใจจะเต้นเอาสนุกก็ผิดศีล ๘

เถรี 04-09-2016 19:16

ถาม : ในเวลานี้ศาสนาพุทธโดนศาสนาอื่นสร้างความวุ่นวายให้ ตามอย่างที่หลวงพ่อกล่าวมา ผมเลยสงสัยว่าสมัยพุทธกาล ตั้งแต่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ ในยุคนั้นมีหลายศาสนามากมาย ศาสดาบางท่านมีปัญญามาก ๆ และมีอภิญญาด้วย คำถามคือ ศาสนาพุทธเคยโดนศาสนาอื่นเบียดเบียนหนัก ๆ เหมือนสมัยนี้ไหมครับ ?
ตอบ : เคยอ่านพระไตรปิฎกไหม ? เอาแค่ตอนที่พระพุทธเจ้าต้องแสดงฤทธิ์แข่งกับเดียรถีย์ก็พอ ไปหาอ่านเอาเอง

ถาม : ในฐานะที่ผมเป็นชาวพุทธแต่ไม่ได้มีอำนาจ พอจะมีอะไรที่เราสามารถช่วยเหลือพระศาสนาให้อยู่ถึงอีกห้าพันปีไหมครับ ?
ตอบ : ทำตัวเป็นพระอรหันต์ แล้วไปเผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้า

เถรี 04-09-2016 19:19

ถาม : พระอรหันต์ หรือพระพุทธเจ้าก็ดี ท่านหมดกิเลสแล้ว ท่านจะเข้าฌานสมาบัติทำไมหรือครับ ในเมื่อท่านไม่มีกิเลสให้กดอีกต่อไปแล้ว ?
ตอบ : เพราะท่านไม่ฉลาดเหมือนคุณ...! พระที่ทำได้ไม่มีใครประมาท ท่านก็ต้องเข้าเพื่อความอยู่สุขในปัจจุบันของท่าน เป็นการระมัดระวังป้องกันไม่ให้กิเลสเกิด คนที่ทำได้ไม่มีใครมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ท่านต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ยกเว้นไอ้โง่บางคนที่ไปคิดว่าหมดกิเลสแล้วทำไมถึงต้องเข้าฌานอีก..!

เถรี 04-09-2016 19:21

ถาม : หลวงพ่อเคยบอกว่าคนที่จะหลับได้ สมาธิอย่างต่ำต้องเป็นฌาน ๑ หยาบ ๆ ผมเลยสงสัยว่าบุคคลที่ทรงฌานสมาบัติ ๘ ท่านไม่ต้องนอน แค่เข้าฌานสูง ๆ ก็เท่ากับว่านอนเต็มอิ่มใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ใช่ครับ...!

เถรี 04-09-2016 19:25

ถาม : เรื่องนี้เหตุเกิดจากผมอธิษฐานขอรู้ว่าผมบำเพ็ญบารมีมาได้นานเท่าไร ต่อหน้าหิ้งพระ และขอให้คำตอบปรากฏในหนังสือสมบัติพ่อให้ เมื่ออธิษฐานจบเปิดหนังสือ ไปยังหน้าเรื่องเกี่ยวกับการทำน้ำมนต์ มีข้อความเป็นตัวหนังสือแทรกขึ้นมาให้เห็นว่า "แค่ ๑,๐๐๐ กัปเอง ยังอ่อนอยู่มาก" พอไปเล่าให้คุณพ่อฟัง คุณพ่อขอร้องให้ลาพุทธภูมิเพราะกลัวผมจะลำบาก ท่านอยากให้ผมไปพระนิพพานได้ในชาตินี้ครับ (ตอนนั้นผมอายุได้ ๑๗ - ๑๘ ปี)

พอโตขึ้นได้อ่านคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่าหากจะลาพุทธภูมิ เขาลากันตอนบารมีเต็ม ถ้าไม่เต็มเขาไม่ลาพุทธภูมิกัน ผมได้รู้ดังนั้นจึงไปอธิษฐานต่อหน้าหิ้งพระที่บ้านว่า "ขอให้การลาพุทธภูมิทุกครั้งของผมที่ลามาในชาติก่อนที่แล้วมาก็ดี ชาตินี้ก็ดี หรือในอนาคตหากจะลาพุทธภูมิอีกก็ดี ขอให้การลาพุทธภูมิของผมทุกครั้งเป็นโมฆะ ขอให้สำเร็จพระโพธิญาณในอนาคตด้วยเถิด"

ผมอธิษฐานอย่างนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็อธิษฐานไปแล้ว...ได้ไหมเล่า ?

ถาม : จะต้องนับเวลาการบำเพ็ญเพื่อพระโพธิญาณใหม่เลย หรือนับต่อจาก ๑,๐๐๐ กัป ที่ได้รู้มาครับ ?
ตอบ : แสดงว่าขาดความมั่นใจตนเองอย่างรุนแรง ต่อให้คุณนับหนึ่งใหม่หรือนับต่อจาก ๑,๐๐๐ กัป ก็แย่พอกันนั่นแหละ แรกเริ่มแค่น้ำจิ้มก็ ๑ อสงไขยกัปแล้ว ฉะนั้น...ไม่ต้องเสียเวลาไปคิดหรอก...ทำไปเถอะ

เถรี 04-09-2016 20:09

ถาม : ถ้าการปล่อยปลา ไถ่โคกระบือ ช่วยในเรื่องอุปฆาตกรรม หรือโรคภัยไข้เจ็บได้ แล้วถ้าผมชอบให้อาหารสัตว์ มักบริจาคค่าอาหารให้มูลนิธิหรือหน่วยอาสาที่รับดูแลแมวหมา บุญนี้จะส่งผลอย่างไรครับ ?
ตอบ : เกิดชาติไหนก็ตาม ร่อนเร่พเนจรขนาดไหนก็ตาม ก็จะมีคนเลี้ยง

ถาม : ถ้าเราช่วยเหลือผู้อื่น โดยที่เขาไม่ได้รับรู้ว่าเราได้ช่วยเขา ชาติต่อไปเขาจะมาช่วยเหลือเราตามกฎแห่งกรรมไหมครับ ?
ตอบ : ช่วย...แต่ช่วยแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าละเมอช่วยนะ เช่น เขาอาจจะเตะหมาทีหนึ่ง ปรากฏหมาตัวนั้นตั้งใจจะกัดเรา พอโดนเขาเตะเข้าพอดีก็เลยเลิกกัดเรา เขาก็ไม่ได้เจตนาช่วยเรา แต่เราก็พ้นภัยไปแล้ว

ถาม : ระหว่างคนที่ทำบุญ ทำความดี แต่ไม่ได้ประกาศบอกกล่าวให้ผู้อื่นรู้ กับคนที่ทำความดี และประกาศบอกกล่าวให้ผู้อื่นรู้ อย่างไหนส่งผลดีกว่ากันครับ ?
ตอบ : ถ้าวางกำลังใจให้ถูก การประกาศบอกคนอื่นทำให้เขาได้อนุโมทนาด้วย ถือว่ามีผลดีกว่า แต่ถ้าทำกำลังใจไม่ถูก ไปประกาศเพื่อจะอวดว่าเราสร้างความดี ก็มีโทษมากกว่า

เถรี 04-09-2016 20:38

ถาม : จิตวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว จะรับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่ตัวเขาเองไม่เคยรู้มาก่อนตอนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ครับ ? ยกตัวอย่างเช่น กรณีเพื่อนคนหนึ่งที่เข้าใจเราผิดมาตลอด ว่าเราทำสิ่งนี้กับเขา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทำ และอาจจะจองเวรเรา เมื่อเขาเสียชีวิตไปแล้ว เขาจะเข้าใจทันทีว่าเขาเข้าใจผิดมาตลอด และเลิกจองเวรเราต่อไปไหมครับ ?
ตอบ : สำคัญที่ว่าจิตของเขาตอนนั้นสนใจใคร่รู้ในเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าไม่ได้สนใจก็ไม่รู้ โดยเฉพาะหลายท่านที่โดนลงโทษอยู่ ไม่มีเวลาคิดแบบเรื่องนี้หรอก นอกจากเดือดร้อนไปกับการลงโทษเฉพาะหน้าของตัวเอง

เถรี 04-09-2016 20:41

ถาม : ปีติที่อุปจารสมาธิ กับฌาน ๑ และ ฌาน ๒ อารมณ์เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นฌานก็ไม่มีปีติแล้ว

เถรี 04-09-2016 21:56

ถาม : ผมมีเพื่อนที่นับถือศาสนาอื่น เขาพยายามชักชวนผมให้พิจารณาถึงการนับถือพระเจ้าในศาสนาของเขา โดยเล่าเรื่องให้ฟังว่าเขาได้พบปาฏิหาริย์จากการมอบกายถวายชีวิต ตั้งจิตอธิษฐานและมีศรัทธาจดจ่อต่อพระเจ้าสูงสุดในศาสนาของเขา ทำให้ได้พบทางออกของชีวิตไปในทางที่ดี ฐานะการเงินดีขึ้นอย่างมาก กิจการงานรุ่งเรือง ชีวิตครอบครัวอบอุ่น ด้วยการตั้งมั่นศรัทธาและตั้งจิตระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าอย่างมั่นคง อีกทั้งมักจะได้รับการสื่อสัมผัสจากพระเจ้าผ่านความรู้สึกเป็นความรู้ต่าง ๆ เข้ามาเพื่อให้คำตอบกับปัญหาต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีเสมอ และมักมีหมอดู หรือผู้มีญาณ ทักตรงกันอยู่เสมอว่า เขามีองค์เทพสององค์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้า คอยปกปักษ์รักษาเขาอยู่รอบกาย

คำถามของผมคือ สิ่งที่เพื่อนของผมได้ทำไปนี้ สามารถเปรียบเทียบได้เทียบเท่ากับการที่ชาวพุทธเราฝึกการตั้งจิตไปที่พระพุทธเจ้าบนนิพพานอย่างต่อเนื่อง อันเป็นวิธีตัดกิเลสโดยอัตโนมัติที่สุด และสามารถกราบขอพรขอบารมีพระบนนิพพานโดยตรงเพื่อให้เกิดความสำเร็จตามที่ปรารถนา อย่างเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรครับ ? พระเจ้าสูงสุดของศาสนาต่าง ๆ บางท่าน อยู่บนนิพพานเช่นเดียวกันด้วยหรือไม่ ?
ตอบ : เลือกเอาเองแล้วกันว่าจะเอาแบบไหน

ถาม : ผมควรจะแสดงความคิดเห็นกลับไปต่อเพื่อนคนนี้อย่างไรถึงจะสอดคล้องกับความเป็นจริง และได้ให้ปัญญาต่อกันอย่างดีที่สุดครับ ?
ตอบ : เอาอย่างสมเด็จพระนารายณ์มหาราชสิ พระองค์ท่านตอบพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ไปว่า "ถ้าหากว่าพระเจ้าต้องการให้ข้าพเจ้านับถือศาสนาคริสต์จริง ก็จะดลบันดาลให้ศรัทธาเกิดขึ้นในพระหทัยของข้าพเจ้าเอง"

เถรี 04-09-2016 22:06

ถาม : ถ้าผมจะนำเอาธรรมะของพระพุทธเจ้าและคำสอนของครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ทั้งเรื่องบาปบุญ, ผลของการทำบุญทำบาป, เรื่องการรักษาศีล, ปฏิบัติสมาธิ, วิธีไปพระนิพพาน โดยผมจะนำเอาคำสอนนั้น ๆ มาอ่านออกเสียง แล้วทำเป็นไฟล์ VDO นำไปอัพลง Youtube เพื่อเป็นธรรมทาน อยากทราบว่าผมจะได้บุญแบบเต็ม ๆ ไหมครับ ?
ตอบ : ได้

ถาม : ถ้าผมเปิดการสร้างรายได้จากคลิปธรรมะนั้น ๆ ด้วย โดยจะได้รับเงินจากการที่มีคนเข้ามาฟังคลิปธรรมะที่ผมอัพลง Youtube นั้น ผมจะยังได้บุญแบบเต็มจำนวนตามเดิมหรือไม่ ?
ตอบ : ลดไปตามจำนวนเงิน..!

ถาม : ผมจะบาปหรือไม่จากการที่หารายได้จากคลิปธรรมะนั้น ๆ ครับ ?
ตอบ : จะเรียกว่าบาปก็ไม่ใช่บาปโดยตรง แต่ว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ แทนที่จะได้บุญธรรมทานที่เป็นบุญใหญ่มาก ก็กลายเป็นอำนวยความสะดวกให้คนอื่นได้เข้าถึงธรรม ซึ่งเป็นส่วนของเวยยาวัจจมัยเท่านั้น และส่วนเวยยาวัจจมัยก็ได้ไม่เต็มที่ด้วย เพราะดันไปเก็บเงินเขา

เถรี 04-09-2016 22:12

ถาม : ขอกราบเรียนถามเรื่องการสวดมนต์กับหมู่คณะครับ เวลาไปวัด มีการทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็น เวลาสวดผมพยายามสวดให้พร้อมเพรียงกับเพื่อน ๆ ด้วยน้ำเสียงในระดับเดียวกัน แต่ผู้ปฏิบัติธรรมบางท่าน มักจะตั้งใจสวดอย่างจริงจัง (ซึ่งผมเคารพในความตั้งใจของเขาจริง ๆ ครับ) แต่ความตั้งใจอย่างแน่วแน่มากของเขา ทำให้เสียงของเขาดังกว่าเพื่อน และไม่กลมกลืนไปด้วยกัน ช่วงที่เขาเสียงดังโดดออกมามากกว่าท่านอื่น ผมได้ยินแล้วรู้สึกสะกิดใจครับ คล้ายกับว่าเขากำลังตะโกนสวด ซึ่งผมรู้สึกไม่ชอบใจครับ

กราบเรียนถามว่า หากท่านที่สวดมนต์ดังเกินไป ทำให้สะเทือนความรู้สึกผู้ร่วมสวดมนต์ท่านอื่น ทำให้ท่านอื่นเสียสมาธิ จิตตก จะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ท่านเองไปดีแน่ ๆ เพราะท่านตั้งใจสวดด้วยความเคารพ ส่วนเราเองไปสนใจจริยาคนอื่น จนเกิดกิเลสขึ้นในใจของเรา ทำให้ใจเศร้าหมอง เราจะลงนรกเสียเอง..!

เถรี 04-09-2016 22:15

ถาม : มีคนเข้ามาพักในห้องพักรายวันตอนกลางคืนประมาณ ๒.๐๐ น ถึง ๓.๐๐ น แล้วพอตอนเช้าเข้าไปเก็บห้อง แล้วเจอแก้วน้ำใส่เกลือวางอยู่ ๔ มุมเตียงครับ แล้วก็เหรียญประมาณ ๑๒ เหรียญ ไม่ทราบว่าเป็นพิธีกรรมอะไรหรือครับผม ? และวิธีแก้ไขทำอย่างไรครับผม ?
ตอบ : เอาวิธีแก้ก่อนก็แล้วกัน เก็บกวาดเรียบร้อยเสียก็จบ ถ้าเป็นพวกแก้วใส่เกลือน่าจะเป็นพวกถือลัทธิทางศาสนาคริสต์ เพราะเขาถือว่าเกลือสามารถไล่สิ่งชั่วร้ายและปัดเป่าเสนียดจัญไรได้

เถรี 04-09-2016 22:21

ถาม : ถ้าเราจะสมัครงานในสถานที่หนึ่ง ที่เรารู้ว่าเขารับเฉพาะคนในเหมือนมีระบบอุปถัมภ์ เรียนถามว่าเราต้องทำอย่างไรถึงจะได้งานนี้ ? หรือมีคาถาใช้สมัครงานหรือวิธีอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ยัดเยียดตัวเองเข้าไปเป็นคนในก็หมดเรื่อง ก็รู้อยู่ว่าเขารับเฉพาะคนใน

เถรี 04-09-2016 22:22

ถาม : ผมนั่งภาวนาไปแล้วคำภาวนาเปลี่ยนเป็นคำว่า ว. เวรา สัตโต นะ สักกะ จึงเรียนถามหลวงพ่อว่าบทนี้หมายถึงอย่างไรครับผม และสามารถใช้ภาวนาต่อได้หรือเปล่าครับผม ?
ตอบ : คาถาเขาไม่ให้แปล แปลเมื่อไรก็หมดขลัง ลองไปภาวนาดูสักพักหนึ่งว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะฟังคำแปลไหม ? เวราก็คือเวร นะก็คือไม่ สัตโตก็คือหมู่สัตว์ สักกะคือสวรรค์ สรุปง่าย ๆ ว่า ตราบใดที่ยังจองเวรอยู่ หมู่สัตว์ก็ไม่มีทางที่จะเข้าถึงสวรรค์

เถรี 04-09-2016 22:26

ถาม : ตอนนี้น้าผมเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่สองครับ ผมเลยแนะนำให้น้ารักษาด้วยสูตรยารักษามะเร็งของหลวงพ่อฤๅษีลิงดํา แต่กินอย่างไรก็ไม่หายครับ ครั้งแรกกินตามสูตรเมื่อหมอตรวจพบจึงรีบกินเลย เว้นระยะไปเกือบเดือนแล้วไปตรวจอีกรอบ หมอก็แจ้งว่ายังไม่หาย เป็นถึงระยะที่สองครับ กลับมาน้าจึงทำกินตามสูตรอีกรอบ แต่ก็ยังไม่หายครับ หลวงพ่อมีสูตรยาอื่น ๆ หรือวิธีรักษาอื่น ๆ อีกไหมครับ ? เพราะตอนนี้น้าสาวลำบากมาก ไปรักษาแบบเคมีบำบัด ทรมานมาก ทำให้ไม่มีแรงทำงาน จึงขาดรายได้เลี้ยงลูกครับ
ตอบ : เรื่องของมะเร็ง สำหรับผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งท่อรังไข่ หรือของผู้ชายก็มะเร็งต่อมลูกหมาก พวกนี้เกิดจากความเครียด ทำให้ฮอร์โมนแปรเปลี่ยนแล้วเกิดโรค วิธีที่ดีที่สุดคือควรจะฝึกภาวนา ถ้าหายเครียดก็จะหายจากโรคไปเอง

เถรี 05-09-2016 08:59

ถาม : ชาวต่างชาติมีพลังจิตตั้งแต่เกิด สามารถทำให้สิ่งของเคลื่อนไหวได้ ทำไมเขาเหล่านี้ไม่ต้องฝึกสมาธิ เวลาใช้ก็ไม่ต้องใช้สมาธิ ก็สามารถใช้พลังจิตเลื่อนสิ่งของได้ครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่เขาแล้วทำเป็นเสือกรู้อีก..! รู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่เคยฝึก ? ไม่เคยฝึกแล้วจะทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ? ชาติก่อน ๆ เขาฝึกมาเสียเต็มที่แล้ว สภาพจิตของเขาก็คล่องตัวอยู่ในระดับเป็นวสีแล้ว ระดับนี้แค่คิดก็เป็นแล้ว

เถรี 05-09-2016 09:14

ถาม : โยคีอินเดียจะเพ่งจักระเจ็ดจุดตามตัว เพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์ ทำไมการเปิดจักระแบบโยคีอินเดียจึงทำให้มีฤทธิ์ได้ครับ ?
ตอบ : จักระเป็นแหล่งพลังงานซึ่งมีกันอยู่ทุกคน ถ้าใครสามารถเปิดแหล่งพลังงานได้ ก็จะมีพลังงานมากกว่าคนอื่น คนที่มีพลังงานมากกว่าคนอื่น เขาก็เห็นว่ามีฤทธิ์มากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง

เถรี 05-09-2016 09:26

ถาม : ดูละครเรื่องพิษสวาท มีวิญญาณที่ถูกตัดคอแล้วเฝ้าสมบัติของแผ่นดิน ก็เลยทำบุญแล้วอุทิศน้อมให้ท่านที่เฝ้าสมบัติของแผ่นดิน ปรากฏว่ารู้สึกวูบวาบตอนอุทิศ ตอนนอนก็เห็นชุดไทยลายดอกไม้สีส้ม ครูบาอาจารย์บางท่านก็เล่าว่ามีจริง ๆ กราบเรียนถามว่าท่านที่เฝ้าสมบัติมีภูมิระดับเทวดาใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถามคุณอุบลสิ...! อาตมาไม่ได้ดูโทรทัศน์มา ๓๓ ปีแล้ว ไม่รู้เรื่องหรอก

ถาม : ท่านจะหลุดพ้นจากหน้าที่ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ที่เคยเจอมา เพราะความยึดมั่นว่าเป็นหน้าที่ก็เลยไปไหนไม่ได้ เคยไปเจอผีทหารญี่ปุ่นเฝ้าขุมทรัพย์ บอกอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ บอกเขาว่าญี่ปุ่นแพ้สงคราม จนกระทั่งตอนนี้เจริญกลายเป็นมหาอำนาจของโลกแล้ว เขาบอกว่าไม่เชื่อหรอก เพิ่งจะแค่วันสองวันเอง ญี่ปุ่นจะแพ้สงครามได้อย่างไร

เพราะก่อนหน้านั้นญี่ปุ่นยึดไปค่อนโลก ส่วนในภูมิของเขา
๑ วันของเขาเท่ากับ ๕๐ ปีของเรา เพราะฉะนั้น...บอกให้ตายเขาก็ไม่ฟัง เราไม่มีสิทธิ์บอกให้เขาไปไหนหรอก เพราะเขายึดมั่นอยู่ตรงนั้นเอง

เถรี 05-09-2016 09:45

ถาม : มีวิธีอะไรที่จะแก้ กรณีที่มีคนเขาคิดว่า โดนคนอื่นทำร้ายและให้โทษอยู่ตลอดเวลา จะสวดมนต์หรือแผ่เมตตา ?
ตอบ : ไปหาหมอ ไปสารภาพกับหมอว่าฮอร์โมนพร่อง และให้หมอจัดยาให้ก็หายแล้ว แก่จนวัยทองเกิดอาการแปลก ๆ กับตนเอง ดันไปโทษว่าคนอื่นเขาทำ

เป็นหมอผีสมัยนี้หากินง่าย เพราะคนวัยทองเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสุขอนามัยของเราดีขึ้น ทำให้คนอายุยืนขึ้น พออายุยืนขึ้น ถึงวัยทองเกิดอาการประหลาด ๆ ไม่รู้ตัวขึ้นมา ก็คิดว่าโดนคนทำไสยศาสตร์บ้าง โดนคนทำร้ายบ้าง บางรายมีสภาวะทางจิตไปเลยเพราะฮอร์โมนพร่องมาก พอได้รับยาจากหมอไปกลับกลายเป็นปกติ ก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมหมอสมัยใหม่รักษาโรคไสยศาสตร์ได้ด้วย ?

เถรี 05-09-2016 09:46

พระอาจารย์กล่าวว่า "น่าเสียดายว่าคำถามส่วนใหญ่ไปสนใจสิ่งรอบตัวมากเกินไป นักปฏิบัติที่ดีควรมุ่งหน้าเอามรรคเอาผลของตนเอง เพราะชีวิตของเราเป็นของน้อย จะตายลงไปเมื่อไรก็ไม่แน่ มัวแต่ไปสนใจภายนอกอยู่ ถ้าหากตายลงไปก่อนที่ตนเองจะหมดกิเลส ก็กลายเป็นเสียชาติเกิดไปอีกชาติหนึ่ง..!"

เถรี 05-09-2016 09:49

พระอาจารย์ประกาศว่า "แจ้งให้ญาติโยมได้ทราบทั่วกันว่า อาตมาจะรับสังฆทานที่บ้านวิริยบารมีเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ เป็นเดือนสุดท้าย และมอบคืนบ้านให้แก่เจ้าของไป

หลังจากนั้นถ้ามีคนให้สถานที่ใหม่ ก็จะไปรับสังฆทานและสอนกรรมฐานที่นั่น ถ้าไม่มีก็ไปพบกันที่วัดท่าขนุน..!"

เถรี 05-09-2016 14:27


พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครจะสนับสนุนชมรมปกป้องพระพุทธศาสนาที่อาตมาเป็นที่ปรึกษาเขาบ้าง ? สามารถซื้อหนังสือเพื่อช่วยชมรมเขา อยู่ข้าง ๆ อาตมานี่เอง ราคาเล่มละ ๒๐๐ บาท อ่านดูจะได้รู้ว่าพระพุทธศาสนาเราโดนเบียดเบียนอย่างไร และควรจะมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไร

คนไทยเรานิ่งดูดาย ไม่ได้มีการกระทำอะไรที่แสดงออกถึงการปกป้องพระพุทธศาสนา ก็เลยต้องมีตัวบุคคลที่จัดตั้งขึ้นมาเป็นคณะ เป็นชมรม เป็นสมาพันธ์ และอาจจะถึงขนาดตั้งพรรคการเมือง เพื่อที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ อาตมาเป็นที่ปรึกษาก็ช่วยเขาหาทุน โดยการรับหนังสือมาจำหน่ายให้ เขาคิดเล่มละ ๑๙๙ บาท แต่อาตมาขี้เกียจทอนเลยคิด ๒๐๐ บาทเต็ม ๆ ไม่ต้องถึงขนาดซื้อไปต้มกินนะ เอาแค่พอสมควรก็พอ"

เถรี 05-09-2016 14:33

ถาม : กรณีที่เขาเบียดเบียนและส่งผลแล้ว แต่เราเพิ่งจะมารวมตัวกันทำบ้าง ต้องเร่งมือออกแรงช่วยกันให้ส่งผลโดยเร็ว ทำอย่างไรจึงจะไม่กลายเป็นข้อขัดแย้งระหว่างกันคะ ?
ตอบ : เขาทำอะไรเกิดผลดีกับเขา เราก็ทำอย่างนั้น...! ไม่เห็นต้องขัดกับใคร วิชานี้ตระกูลมู่หยงถนัด..!

เถรี 05-09-2016 14:34

ถาม : ฝันคืออะไร ?
ตอบ : Dream...! อาการที่สภาพจิตหลับแล้วออกไปรับรู้สิ่งต่าง ๆ ที่จำเอาไว้บ้าง ทั้งที่ไปสัมผัสใหม่บ้าง เขาเรียกว่าความฝัน

เถรี 05-09-2016 14:55

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมที่ร่วมบุญสร้างพระทองคำมา ตอนนี้ใกล้เป้าหมายแล้ว จากการสำรวจครั้งสุดท้ายมีทองคำอยู่ ๙๓ กิโลกรัมเศษ เราต้องการแค่ ๑๐๐ กิโลกรัมเท่านั้น

และอาตมาก็เปลี่ยนใจแล้ว สร้างทั้งทีทำเอาดังไปเลย ก็เลยคิดจะหล่อพระพุทธรูป ๓ องค์ เป็นสามกษัตริย์ มีองค์หนึ่งสีนาก องค์หนึ่งสีทอง องค์หนึ่งสีเงิน กำลังคิดอยู่ว่าเงินกับนากจะทำอย่างไรไม่ให้ดำ

ถ้าใครจะบริจาคร่วมบุญไม่ต้องระบุมา เพราะอาตมาอาจจะเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ เน้นทำบุญสร้างพระพุทธรูปทองคำอย่างเดียวก็เท่ากับสร้างทั้งสามองค์"

เถรี 05-09-2016 15:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนนี้มีงานใหญ่ที่วัด ๒ งาน ก็คือ วันที่ ๙ กันยายนนี้ มีงานเจริญพระพุทธมนต์ถวายในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ส่วนวันที่ ๑๔ กันยายน เป็นงานทำบุญครบรอบมรณภาพ ๒๔ ปี หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า ถ้าอาตมากำหนดวันเองก็จะกำหนดในวันหยุด แต่เนื่องจากทางคณะกรรมการชาวทองผาภูมิ เขาจะทำบุญตรงวัน ในเมื่อไม่ตรงกับวันหยุด ท่านที่ทำงานก็ต้องลางานกันตามระเบียบ แต่ปีนี้สงสัยกันว่าจะลางานกันมาก เพราะเปิดให้บูชาเหรียญพุทธบารมีรุ่น ๒ ด้วย..!"

เถรี 06-09-2016 09:20

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่องานวันแม่ ๑๒ สิงหาคม มีเพื่อนสหธรรมิก ๓-๔ ท่าน ติดงานไปไม่ได้ หลังจากนั้น ๑๖ วัน คือ วันที่ ๒๘ สิงหาคม ไปพบกันที่งานหล่อพระวัดสระพัง ของพระครูไพโรจน์ภัทรคุณ หลายท่านมาขอโทษขอโพย มีพระครูพิพัฒน์กิติสาร (หลวงพ่อสรวง) วัดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พระครูปฐมจินดาภรณ์ (หลวงพ่อสายชล) วัดไร่แตงทอง พระครูสุวรรณกิติธาดา (หลวงพ่อปิยะพงศ์) วัดเขาตะเภาทอง

เหตุที่ไม่ได้มาเพราะทางราชการขอตัวไปเจริญชัยมงคลคาถา ในงานทำบุญถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อาตมาเองก็เป็นขาประจำของเดือนธันวาคม ทางทองผาภูมินั้น พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิท่านจัดการได้ดี ท่านแบ่งอำเภอเป็นสองฟาก วันที่ ๑๒ สิงหาคม ฟากเหนือตั้งแต่ลิ่นถิ่นลงมา จนกระทั่งถึงสหกรณ์นิคมรับผิดชอบไป

พอมาวันที่ ๕ ธันวาคม ฟากใต้ตั้งแต่ตำบลท่าขนุนลงไปจนถึงตำบลปิล็อกรับผิดชอบ หาพระที่มีสัญญาบัตรพัดยศไปเจริญชัยมงคลคาถาให้ได้ จังหวัดอื่นระบบการจัดการยังไม่ดีแบบนี้ หรือไม่ก็อาจจะหาพระครูสัญญาบัตรได้ยาก พอถึงเวลาจึงต้องมาล็อกคอพรรคพวกไปหมด ก็น่าเห็นใจ เพราะพระครูสัญญาบัตรขึ้นไป นั้น ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงเวลางานหลวงก็ต้องไปออกงานโดยใช้พัดยศด้วย

อาตมาก็บอกว่าไม่เป็นไร งานของท่าน ถ้าอาตมาติดงานก็ไม่ได้ไปเหมือนกัน หลวงพ่อสายชลบอกว่า ไม่ได้ไปท่าขนุนมา ๖ ปีแล้ว ส่วนงานของท่าน อาตมาไม่ได้ไปมา ๒ ปีแล้ว ปีนี้กำลังเป็นปีที่ ๓ อยู่ ท่านทำบุญพรุ่งนี้ แต่ปีหน้าไปได้ ปีนี้ติดรับสังฆทานที่นี่จึงไปไม่ได้"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:20


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว