กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=21)
-   -   หลวงปู่บุดดา (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=501)

เถรี 24-05-2009 02:52

หลวงปู่บุดดา
 
http://i398.photobucket.com/albums/p...u/df3bb63e.jpg
หลวงปู่บุดดา มาเยี่ยมหลวงปู่ดู่ พ.ศ.๒๕๓๑

ตัวโกรธเป็นอย่างนี้นี่เอง

หลวงปู่บุดดา ถาวโร จัดว่าเป็น "รัตตัญญู" (ผู้เก่าแก่และมีประสบการณ์มาก) รูปหนึ่งของคณะสงฆ์ไทย ด้วยท่านมีอายุยืนนานถึง ๑๐๑ ปีก่อนที่จะมรณภาพเมื่อปี ๒๕๓๗

สมัยที่ยังหนุ่ม ท่านมีโอกาสพบปะครูบาอาจารย์ที่สำคัญหลายรูปเช่น พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท) และครูบาศรีวิชัย ท่านหลังนี้เคยทักหลวงปู่บุดดาเนื่องจากเห็นท่านไม่พาดสังฆาฏิว่า "เฮาเป็นนายฮ้อย ก็ต้องให้เขาฮู้ว่าเป็นนายฮ้อย ไม่ใช่นายสิบ" นับแต่นั้นมาหลวงปู่จึงพาดสังฆาฏิติดตัวตลอดเวลา จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของท่าน

หลวงปู่บุดดา เป็นพระป่า ชอบธุดงค์ ไม่มีวัดเป็นหลักแหล่ง จนเมื่ออายุ ๘๗ ปีจึงได้มาประจำที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี กระทั่งมรณภาพ

แม้หลวงปู่บุดดาจะไม่ได้เล่าเรียนในทางปริยัติมาก แต่ความที่ท่านเชี่ยวชาญในการปฏิบัติ จึงมีความสามารถในการสอนธรรมชนิดที่สื่อตรงถึงใจ มีคราวหนึ่ง ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์คู่กับท่านเจ้าคุณรูปหนึ่งซึ่งเป็นเปรียญธรรม ๘ ประโยค ท่านเจ้าคุณรูปนั้นคงเห็นหลวงปู่เป็นพระบ้านนอกจึงอยากลองภูมิหลวงปู่ ได้ถามหลวงปู่ว่า "จะเทศน์เรื่องอะไร"

หลวงปู่ตอบว่า "เรื่องตัวโกรธ กิเลสตัณหา"

ท่านเจ้าคุณซักต่อว่า "ตัวโกรธเป็นอย่างไร"

หลวงปู่ตอบสั้นๆ ว่า "ส้นตีน ไงล่ะ"

เท่านั้นเองท่านเจ้าคุณก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่ยอมเทศน์กับหลวงปู่ วันนั้นหลวงปู่จึงต้องขึ้นเทศน์องค์เดียว เมื่อเทศน์จบแล้ว ท่านก็ไปขอขมาท่านเจ้าคุณองค์นั้น พร้อมกับอธิบายว่า

"ตัวโกรธมันเป็นอย่างนี้เองนะ มันหน้าแดง ๆ นี้แหละ มันเทศน์ไม่ได้ คอแข็ง ตัวโกรธสู้เขาไม่ได้ ขึ้นธรรมาสน์ก็แพ้เขา ใครจะเป็นนักเทศน์ต่อไปจดจำเอาไว้นะ ตัวโกรธน่ะ นักเทศน์ไปขัดคอกันเอง มันจะเอาคอไปให้เขาขัด"

หลวงปู่บุดดารู้จักตัวโกรธดี ท่านรู้ว่าตัวโกรธกลัวคนกราบ ท่านเล่าว่าตั้งแต่เริ่มบวช ท่านพยายามเอาชนะความโกรธด้วยการกราบ เวลาโกรธท่านจะลุกขึ้นกราบพระ ๓ ครั้ง โกรธ ๒ ครั้งก็กราบพระ ๖ ครั้ง โกรธ ๑๐๐ ครั้ง ก็กราบ ๓๐๐ ครั้ง ทำเช่นนี้หลายครั้ง ความโกรธก็ครอบงำท่านไม่ได้

เมื่อความโกรธเป็นใหญ่เหนือใจไม่ได้ ความเมตตาและอ่อนน้อมถ่อมตนก็ตามมา หลวงปู่บุดดาขึ้นชื่อในเรื่องนี้มาก คราวหนึ่งท่านกำลังจะเดินข้ามสะพาน ก็เห็นสุนัขตัวหนึ่งนอนขวางทางอยู่บนสะพาน แทนที่ท่านจะเดินข้ามสุนัขตัวนั้น หรือไล่มันให้พ้นทาง กลับเดินลงไปลุยโคลนข้างล่าง

ท่านว่าไม่อยากให้ผู้อื่นได้รับความขุ่นเคือง เพียงเพื่อเห็นแก่ความสะดวกของตนเอง แม้เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน ท่านก็ไม่ปรารถนาจะเบียดเบียน


ที่มา : http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=9012

เถรี 24-05-2009 03:19

นักศึกษาท่านหนึ่ง ได้เรียนถามหลวงปู่บุดดาว่า

"คนเราเกิดมาเพื่ออะไรคะ"

หลวงปู่ตอบว่า

"เกิดมาเพื่อดับกิเลสตนเองสิ!
ให้ละกามเด็ดขาดในภพนี้ ตัดให้ขาดจากการเป็นของคู่ปุถุชนเต็มขั้นหนาด้วยกิเลส ได้แต่ศึกษาไม่นำมาปฏิบัติแล้วจะรู้แจ้งอย่างไรเล่า?

เกิดมาทำไมให้ต้องวนเวียน
เกิดแล้วตายไม่สิ้นสุดจะเอาอีกหรือ?
เราชาวพุทธให้เร่งเจริญอริยมรรค ๔ อริยผล ๔
ศาสนาอยู่ที่ขันธ์ ๕ มิใช่อยู่ที่อื่นเลย

คนอื่นทุกคนล้วนเป็นอาจารย์ของเรา ทดสอบเราทั้งดี ทั้งชั่ว เมื่อเรามีสังขารครบบริบูรณ์แล้ว อย่าได้ทับโลกุตรธรรมเลย อย่ามัวแบกทุกข์อวิชชาอยู่เลย อย่าได้ประมาทนิ่งนอนใจนะ ขอให้สำรวมในกาย วาจา ใจให้เต็มตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้ศรัทธามั่นในโลกุตรธรรม จะได้รู้แจ้งธรรม พ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย"

เถรี 25-05-2009 00:52

ปุจฉา - วิสัชชนา หลวงปู่บุดดา ถาวโร

ปุจฉา ทำกรรมฐานอย่างไรจะถูกครับ

วิสัชชนา ทำอย่างไรก็ได้
ทำแล้วกิเลสระงับดับลง ไม่กำเริบ นั่นแหละถูก
ทำแล้วข่มกิเลสได้ ฆ่ากิเลสตาย คายกิเลสหลุด
ถูกทั้งนั้นแหละ

เถรี 25-05-2009 00:54

ปุจฉา หลวงปู่ครับปฏิบัติสิ้นทุกข์โดยเร็วทำยังไงครับ

วิสัชชนา ก็รู้ทุกข์แล้ว โยนน้ำเสียก็แล้วกัน ก็สิ้นทุกข์ไป

เถรี 25-05-2009 00:55

ปุจฉา อยากทำตามหลวงปู่ไว ๆ จะทำอย่างไรครับ?

วิสัชชนา อยากตามไว ๆ ก็ตามปัจจุบันซี่!
เออ ! โง่อย่างไรละ !
ตามอดีตอนาคตก็โค้งไปโค้งมาซี่ !
ดูกายดูใจปัจจุบันบ่อย ๆ ซี่ ! ถึงเองแหละ

ตัวแสบจำเป็น 25-05-2009 10:34

เรื่องนี้ได้ยินมาจากหลวงพี่เอกอีกทีหนึ่งค่ะ หลวงพี่เล่าว่า
มีคนนิมนต์หลวงปู่บุดดาไปที่บ้าน แล้วเขามีลูกชาย
ลูกชายก็เปิดทีวีให้หลวงปู่ดู พอดีวันนั้นมีการประกวด
นางงามจักรวาล เด็กน้อยก็บอกหลวงปู่ว่า

"หลวงปู่ครับ นี่เขาประกวดนางงามจักรวาลครับ
มีใส่ชุดว่ายน้ำด้วยครับ"


หลวงปู่ก็บอกว่า

"ไม่เห็นจะมีเลยนางงาม มีแต่นางขี้ ขี้เต็มตูดเลย"


เด็กน้อยก็เลยอึ้ง แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิบัติธรรม
ของเด็กคนนั้น

ตัวแสบจำเป็น 25-05-2009 15:16

แหม.. หลวงพี่เล่ามาแค่นี้นี่คะ :154218d4:

สไบเงิน 25-05-2009 16:03

จากหนังสือชื่อ "ทางพ้นทุกข์" ค่ะ

ถาม: ทานอะไรดีที่สุดครับหลวงปู่

ตอบ: อภัยทาน ธรรมทาน เหนือทานทั้งปวง อภัยทานถึงนิพพานได้ ไม่ให้อภัยก็ไม่ใช่ลูกพระพุทธเจ้านะซี พระพุทธเจ้าให้อภัยสัตว์เก่ง ลูกพระพุทธเจ้าเกิดด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา เกิดแล้วไม่ต้องตายเป็นทุกข์ ตายแล้วไม่ต้องเกิดเป็นทุกข์ ขอทุกข์อันนี้อย่าได้ติดตาม อย่าได้ตามมาในตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขอให้พ้นไป ให้มีความสุขเพราะความสงัด สุขเพราะไม่เบียดเบียน สุขเพราะปราศจากราคะ ก้าวล่วงข้ามกามเสียได้ สุขอย่างยอด คือการนำความถือตัวออกเสีย

หมายเหตุ: หนังสือเล่มนี้ ชไมเคิลได้รับมาจากเฮียยิ้ง อภิชาติ ค่ะ หากมีใครจะขอบคุณการที่ชไมเคิลโพสต์ธรรมจากหลวงปู่บุดดา กรุณาขอบคุณเฮียยิ้งนะคะ:d16c4689:

เถรี 26-05-2009 00:05

ปุจฉา หลวงปู่บอกว่า ตามันหลับก่อน ตัวรู้มันหลับทีหลัง รู้อย่างไรครับ
วิสัชชนา รู้อยู่ตรงรู้นั่นแหละ รู้อยู่ตรงไม่ติดนั่นแหละ


ปุจฉา หลวงปู่อยู่วัดอะไรครับ
วิสัชชนา อยู่วัดสองขา ... อยู่ตรงไหน ตรงนั้นก็เป็นวัด ...


ปุจฉา ลูกขอเกาะชายจีวรหลวงปู่ไปนิพพานด้วยคนนะเจ้าคะ!
วิสัชชนา ขี้เยี่ยวแทนกันได้หรือเปล่าละ?

เถรี 26-05-2009 00:07

ปุจฉา หลวงปู่ครับ ทำไมชาวบ้านใส่เกี๊ยะเดินในวัดหนวกหูจังเลย
วิสัชชนา เอ้า ! แก้หูตัวเองซี่ !
หูเราอยู่บนกุฏิไปหาบเกี๊ยะเขาทำไมละ !


ปุจฉา หลวงปู่เป่าศีรษะให้เพื่อนผมหน่อยครับ
วิสัชชนา นี่ ! มันยังไม่รู้ว่าธรรมอยู่ตรงไหนจะให้เป่าหัว
เป่าใจมันยังไม่ฟังเลย แล้วจะเป่าหัวยังไงละ?


ปุจฉา เวลาถูกด่าทำอย่างไรดีครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา เวลาถูกด่า ถอดจีวรดูซิ ! ไม่มีตัวมีตนที่ไหนนี่
คนไหนด่า ก็อยู่กับคนด่านั้นแหละ
คนไหนถูกด่า ก็ถูกที่หูนี่ ใจไม่ถูกด้วยนี่ !

เถรี 26-05-2009 00:10

ปุจฉา หลวงปู่ครับ ผมใครยุ่งที่สุดครับ ?
วิสัชชนา ไม่มีของใครยุ่งหรอก
กิเลสมันยุ่งต่างหากละ ! ผมมันไม่ได้ว่าอะไรนี่ !


ปุจฉา วิธีแก้ผมยุ่งทำอย่างไรครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา ใช้ใบมีดโกนซี่ ! แก้ยุ่งได้

:55318906::55318906: สมน้ำหน้า ไม่น่าถามเลย

ตัวแสบจำเป็น 26-05-2009 09:33

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี (โพสต์ 8039)

ปุจฉา วิธีแก้ผมยุ่งทำอย่างไรครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา ใช้ใบมีดโกนซี่ ! แก้ยุ่งได้

:55318906::55318906: สมน้ำหน้า ไม่น่าถามเลย

ลึกซึ้ง ๆ :875328cc:

อ่านแล้วนึกถึงที่หลวงพ่อพระอัสสชิกล่าวแก่หลวงพ่อพระสารีบุตร
ที่เมื่อครั้งท่านยังไม่บวชเลยค่ะ ที่ท่านบอกว่า

เย ธัมมา เหตุปัพภะวา เตสังเหตุง ตะถาคะโต
เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ

แปลว่า ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าทรงตรัสเหตุแห่งธรรมนั้น
และการดับแห่งธรรมนั้น

เถรี 26-05-2009 21:29

ฮ่า ๆ ขอบคุณท่านทั้งหลายที่ตักเตือนและชื่นชมกันมา
เอาละค่ะ มาเข้าเรื่องของหลวงปู่บุดดา กันต่อค่ะ

ปุจฉา หลวงปู่ให้หวยโยมหน่อยได้ไหมครับ
วิสัชชนา ฮือ ! ให้ทำไม ! หวยมันมีอยู่ของรัฐบาลนั่นต่างหากละ !
ของเรามีเมื่อไร ? เรามีแต่ศีลธรรม
ก็ให้ศีลธรรมดีกว่านี่ ให้วัตถุได้หรือ ?

ปุจฉา เดี๋ยวนี้พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไม่เกิดไม่ตายนั่นแหละ

ปุจฉา หลวงปู่หายตัวได้ไหมครับ ?
วิสัชนา ทำไมจะหายไม่ได้ละ !
ก็หายไปจากอดีตไงละ !
อย่าไปอนาคต อยู่กับปัจจุบันก็ไม่มีตัว
มีแต่ธรรม ไม่ใช่ตัวกิเลส แต่เป็นตัวธรรมะ

เถรี 26-05-2009 21:32

ปุจฉา หลวงปู่เหาะได้ไหมครับ ?
วิสัชชนา ทำไมจะเหาะไม่ได้
ก็เหาะไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เหาะไปมนุษยโลก สวรรค์เทวโลก
พรหมโลก โลกุตตรโลก ไปได้ทุกโลกแหละ !

ปุจฉา อยากให้หลวงปู่ด่ากระผมสักทีครับ
วิสัชชนา ถ้ามีให้ด่ามันก็ด่าซี่ ! ไม่มีให้ด่ามันจะด่าได้อย่างไร ?

ปุจฉา หลวงปู่ครับพระสูบบุหรี่เป็นพระอรหันต์ได้ไหมครับ ?
วิสัชชนา เป็นหรือไม่เป็น มันไม่ใช่คนถามหรือคนบอกหรอก !
มันจะเป็นของมันเอง
มันจะไม่เป็น ก็ไม่เป็นของมันเองต่างหากละ !
อริยมรรค ๔ อริยผล ๔ มันบอกเอง
คนบอกได้หรือ ? ของใครของมันต่างหาก !

เถรี 26-05-2009 21:35

ปุจฉา หลวงปู่คะ เมื่อไหร่ลูกจะมาอยู่วัดได้คะ ?
วิสัชชนา หมดโกรธแล้วอยู่วัดดีนะ !

ปุจฉา หลวงพ่อสงฆ์ท่านตาบอดแล้วยังเทศน์ได้หรือครับ ?
วิสัชชนา ท่านตาบอดแต่ตา แต่ธรรมะท่านไม่บอดนี่ !

ปุจฉา ถ้ามีโยมมาชวนพระสึกจะทำอย่างไรครับหลวงปู่ ?
วิสัชชนา มันยังมีกรรมพันธุ์นี่ ให้เบาก็มีกรรมข้างเดียวเสีย !
เราไม่รับกรรมเขาก็แล้วกัน

ตัวแสบจำเป็น 27-05-2009 10:08

หลวงพี่สมปองเคยเล่าถึงหลวงปู่บุดดาว่า (แหะ แหะ ไม่เคยหาอ่านเองเลย
อาศัยฟังตลอด :154218d4:) เข้าเรื่องต่อนะคะ

หลวงปู่บุดดาท่านคุยเก่งมาก ถ้ามีใครมาถามท่าน ท่านเล่า
ท่านสอนได้ไม่หยุด ต่อให้ไม่ต้องนอน ท่านก็สอน ท่านก็บอก
จนกระทั่งวันหนึ่ง ท่านเห็นว่า ถึงท่านจะพูดไป บรรดาคน
เหล่า ๆ นั้น ก็ไม่เห็นจะดีขึ้น พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์
หลังจากนั้น หลวงปู่ก็ไม่พูด ใครมาท่านก็ยิ้ม แต่ไม่พูด

แหะ แหะ ฟังแล้วหนาวเลย :cebollita_onion-08: เหมือนท่านจะเตือน
กลาย ๆ ว่า ถ้าไม่เร่งปฏิบัติ ปล่อยให้ท่านเหนื่อยเปล่า
อีกหน่อยท่านก็จะไม่สอนแล้ว เพื่อน ๆ ก็มาพยายามด้วยกันนะคะ
ก่อนที่ครูบาอาจารย์ของเราจะเห็นว่า พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์
แล้วท่านจะเลิกสอนกันหมด

เถรี 28-05-2009 11:12

ปุจฉา หลวงปู่ครับ หมอฉีดย่าฆ่าเชื้อโรคตาย บาปไหมครับ ?
วิสัชชนา ฉีดยาแก้โรคซี่! ไม่ใช่ฉีดยาฆ่าสัตว์นี่

ปุจฉา หลวงปู่เคยถอนฟันทีละซี่หรือครับ ?
วิสัชชนา บางทีวันเดียว ๓ ซี่ก็มี ถอนพร้อมกันเลย
มันไม่มีเพี่อนเอาไว้ทำไม ?
ถอนทีละซี่ก็ได้ แต่เสียเวลาคนเขาทำให้
ฟันมันนิพพานไปก่อนแล้ว ไปแล้วไม่มาหรอก
ไม่เหมือนเด็กฟันน้ำนม ไปแล้วมา กลับไปกลับมาได้

ปุจฉา หลวงปู่ครับผมควรเอาอย่างใครครับ ?
วิสัชชนา เอาอย่างธรรมซี่มันถึงจะแน่ ไปไหนก็ธรรม
ล่วงไปแล้วก็ธรรมะ
ชีวิตอยู่ด้วยธรรมะก็แล้วกัน ไปอยู่กับคนมันยุ่งเหมือนยุงตีกัน

เถรี 28-05-2009 11:14

หลวงปู่เล่าว่า "คนเรานั้นมันบ้า ขี้ออกจากตูดแล้ว ก็ยังยึดว่าขี้ของกูอีก"
“ขี้ของใครวะ? เหม็นตายห่า”
พอดีเจ้าของขี้ได้ยินเข้า โมโหใหญ่ “มึงมาด่าขี้กูเหม็นทำไมวะ!”
อีกคนบอกว่า “กูไม่รู้นี่หว่า ว่าขี้ของมึง”
ทั้ง ๒ คนก็เลยทะเลาะกันใหญ่ “ดูซิคนเรา แม้แต่ขี้ของมันถ่ายออกมาแล้ว ใครมาว่ามันก็ยังโกรธ นั่นแหละความหลง”

เถรี 28-05-2009 11:17

หลวงปู่สอนว่า "พวกเราถูกความแก่ เจ็บ ตาย คาดโทษไว้แล้ว จงรีบแก้ไขตัวเองซิ!
เกิดเป็นทุกข์ เจ็บเป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์ จะเอาอีกหรือ ?

มัวแต่มองตาคนอื่นทำไม? ตาของเราก็มี มองผิวหนังคนอื่นทำไม?หนังของเราก็มีอยู่รอบ

มองหน้าคนอื่นทำไม? หน้าของเราก็มีอยู่แล้ว ระวัง! อย่าคล้อยตามคน สัตว์ บุคคลจะหลงทางเดินไม่ถูกทางไม่ถึงที่หมายได้นะ!”

เถรี 28-05-2009 11:19

เถรีชอบใจตรงนี้ ที่หลวงปู่สอนว่า “มาวัดก็เป็นโสดาเต็มวัด เต็มโบสถ์ เต็มศาสนา พอออกจากวัดก็เป็นบ้านกู ของกู หมด เออ! โสดาหายไปไหนหมด วิ่งมาวัดหมด โสดาเฉพาะมาวัดอยู่คืนเดียว วันเดียว พอกลับไปบ้านเป็นคนหมด”


:55318906::55318906:

เถรี 29-05-2009 07:57

หลวงปู่บุดดาสอนลูกศิษย์ว่า "ระวังถูกจับติดคุกนะ จำอดีตชาติได้ไหม? การติดคุกอิสรภาพ(การแต่งงาน) ถ้าติดคุกแล้วมันไม่จบนะ เราตายไป เขาก็เอาใหม่ คุกนี้แน่นนักหนา จะอยู่กับวิชาหรืออวิชาเล่า”


“คนไทยนี่ อะไรก็ไม่เสียดายหรอก ในโลกนี้ให้หมดนะ อามิสนะ! แต่มีข้อแม้ว่า ผัวดิฉันใครแตะไม่ได้นะ ! เอาตายเชียวนะ ! จะไปนิพพานจะเอาผัวไปด้วย ปัทโธ่ ! เขาไปนิพพานเขาเอาผัวเอาเมียไปด้วยที่ไหนกัน?เขาเอาธรรมะไปต่างหากเล่า"

เถรี 29-05-2009 08:00

หลวงปู่สอนว่า "คนเราจะเป็นสุขเมื่อรู้จักพอดี ไม่มีใครได้อะไรตลอดไป หรือเสียอะไรตลอดไป ไม่มีใครหรือสิ่งไหนคงอยู่ตลอดไปโดยไม่สูญสิ้น ขอเพียงแค่รู้จักพอดี ทุกคนจะเป็นสุข"

เถรี 29-05-2009 08:06

แต่ละวันจะมีญาติโยมมากราบหลวงปู่ ถามธรรมะบ้าง ขอของแจกบ้าง วันหนึ่งมีกลุ่มชายฉกรรจ์มากราบ พร้อมกับขอเหรียญหลวงปู่ ชายคนหนึ่งก็ถามหลวงปู่ว่า

“วัตถุมงคลและของต่าง ๆ ที่หลวงปู่แจก
ถ้าเก็บไว้นาน ๆ ไป ของจะเสื่อมไหมครับ ?”

หลวงปู่ตอบว่า
“ของไม่เสื่อมหรอก
นอกจากเราจะเสื่อมศรัทธาจากของเอง”

เถรี 29-05-2009 08:08

โยมคนหนึ่งเห็นว่า เงินทองเป็นสิ่งหามาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน เวลาจะทำบุญจึงนึกอยากเลือกทำบุญให้คุ้มค่าเหนื่อย ถ้ามีโอกาสจะเลือกทำกับพระอริยบุคคลเพื่อหวังจะได้บุญมาก ๆ

ฉะนั้นวันหนึ่งขณะที่ได้ถวายสังฆทาน กำลังอุ้มผ้าไตรถวายแด่พระคุณหลวงปู่ ในใจก็นึกปิติยินดีว่า โอหนอ! วันนี้ฉันโชคดีจังเลยที่จะได้ทำบุญกับพระอรหันต์ บุญที่ได้ย่อมมากเป็นพิเศษ แค่นึกในใจเท่านั้น หลวงปู่มองหน้าแล้วพูดว่า

“ผู้รับหมดกิเลส ผู้ถวายก็ต้องหมดกิเลสด้วยนะ
จึงจะได้บุญมาก”


โอโฮ ! ผู้ถวายสะอึกไปเลย คำพูดของหลวงปู่ประทับใจมาก ทำให้นึกว่าอย่างไรเสียเราจักต้องพยายามจัดการกับกิเลสของตนให้จงหนัก เพื่อความสมปรารถนาแห่งใจตน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง สาธุ

เถรี 29-05-2009 08:09

คืนหนึ่งมีนักศึกษาสาวผู้หนึ่งแต่งชุดฟอร์มมากราบหลวงปู่

หลวงปู่ถามว่า
“ยังเรียนอยู่หรือเป็นครูเขา ?”
นักศึกษาหญิงตอบว่า
“ยังเรียนอยู่เจ้าค่ะ”

หลวงปู่บอกว่า
“ระวังอย่าไปเรียนอวิชชานะ
เรียนวิชาต้องเรียนให้หายโกรธ หายหลง หายลืมนะ
ขอให้เคารพมั่นในพระธรรม
แล้วเจริญให้ถึงจะได้พ้นแก่พ้นตาย
โลกุตรธรรมมีอยู่จริง ๆ ด้วย
ศาสนาพุทธคือพ้นเกิดพ้นตาย
ผู้ใดถึงแล้ว เป็นผู้บรมสุขนั่นเอง”

เถรี 29-05-2009 12:34

หญิงสาวกลุ่มหนึ่งมากราบหลวงปู่ แต่ละคนก็แต่งกายสวยงามรัดกุม ตอนหนึ่งหลวงปู่เทศน์ให้ฟังว่า

“อยากดูหนังก็ให้ดูหนังเรา มีให้ดูตลอดเวลา
ดูตามนี้ธรรมะดีขึ้น หนังเรามันดีลง
จะไปติดอะไรกับหนัง จะไปเสียดายอะไรกับหนัง
แค่กระดาษห่อขนมปังเท่านั้นเอง
คนรู้นะ ! เขาทิ้งกระดาษห่อขนมปังทั้งนั้นแหละ
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ท่านรู้อย่างนี้
ท่านจึงไม่หลงไม่ลืม
แล้วเราจะอวดดี ไปหลงไปลืม ทำไม !”

เถรี 29-05-2009 12:36

พระภิกษุหนุ่มองค์หนึ่ง บวชเรียนธุดงค์กรรมฐานได้หลายพรรษาแล้ว เกิดร้อนผ้าเหลืองก็มีความปรารถนาอยากจะสึกมากเพราะต้องการที่จะไปแต่งงาน ก็มากราบลาหลวงปู่เพื่อขอพร บอกหลวงปู่ครับผมจะสึก หลวงปู่ก็ถามเหตุผล ภิกษุหนุ่มผู้นั้นก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา ตอนหนึ่งหลวงปู่ก็ให้โอวาทว่า

“สึกทำไม? พระเณรสึกทำไม?
เปลืองข้าววัดแล้วยังจะเปลืองข้าวพ่อแม่อีก
อีโธ่! นึกว่าจะไปช่วยทำงาน
กลับไปช่วยให้เสียเงินเสียทองอีก
พวกโกหกตัวเองนี่
โกหกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วย
เพราะฉะนั้น อย่าหัดโกหกเลย
ถ้าไม่รู้ว่าบวชเพื่ออะไรแล้ว จะบวชทำไม?
บวชโง่ ๆ งั่ง ๆ บวชทำไมละ! เกะกะบ้านเมืองเขา
บวชแล้วต้องฉลาดซี่”

เถรี 29-05-2009 12:37

หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่ท่านยังไม่ได้บวช ท่านเป็นทหารและก็ได้อยู่ในฝ่ายทำอาหาร มีผู้หญิงชอบมาแกล้งท่าน โดยเข้ามาจับท่าน ท่านจึงพูดว่า


“อย่ามาจับนะ พ่อแม่เขายังไม่ได้อนุญาต
อย่ามาจับ อย่ามาต้อง บาปนะ”

เถรี 29-05-2009 12:38

หลวงปู่ได้มีกิจนิมนต์ไปบ้านโยมที่ศรัทธาท่านหนึ่ง เขาจัดงานแต่งงานให้กับลูกหลาน หลวงปู่ก็ไปงานนี้แล้วก็เทศน์ เทศน์ไปเทศน์มา คู่บ่าวสาวคู่นี้ก็เลยล้มเลิกที่จะแต่งงาน และขอจัดงานแต่งเป็นงานบวช ปู่กับย่า ตากับยายที่มาร่วมงานแต่ง ต่างซาบซึ้งในคำสอนของหลวงปู่ ก็เลยขอบวชตามหลานด้วย

:onion_wink::onion_wink: หลวงปู่สุดยอด ทำได้อย่างไรนี่ :onion_wink:

เถรี 30-05-2009 05:00

โยมผู้ชายคนหนึ่งมีโอกาสได้กราบหลวงปู่ และถวายการนวดให้หลวงปู่ ตอนหนึ่งแกนวดไปแล้วก็พูดไปว่า
“หลวงปู่ครับ ผมไม่อยากทำมาหากิน
อยากอยู่เฉย ๆ จะให้นั่งภาวนาผมก็ไม่อยากนั่ง”

หลวงปู่ตอบว่า
“คนไหนขยัน คนนั้นแหละ
เป็นลูกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
คนไหนขี้เกียจ ขี้คร้าน เป็นลูกของกิเลส”

เถรี 30-05-2009 05:01

ในตอนหนึ่ง หลวงปู่ท่านได้เทศน์โปรดญาติโยมจากกรุงเทพฯ ทุกคนนั่งสมาธิหลับตาฟังกันอย่างสงบ หลวงปู่ก็กวาดสายตาไปทางนั้นบ้างทางนี้บ้าง แล้วก็เทศน์เป็นช่วง ๆ ก่อนจบหลวงปู่พูดว่า


“ฟังธรรมะไม่ใช่ฟังเท ฟังทิ้งนะ
ฟังธรรมต้องทำไปด้วยซี่”

เถรี 30-05-2009 05:02

มีพระกลุ่มหนึ่งจะออกธุดงค์ ก็ได้มากราบขอพรหลวงปู่ และขอคำแนะนำก่อนที่จะไปธุดงค์ หลวงปู่ก็ให้โอวาทว่า

“เข้าป่าก็ให้เข้าป่าเป็นปัญญา
เข้าป่าโง่ ๆ ก็เป็นถูดงค์ ไม่ใช่ธุดงค์นะ”

เถรี 30-05-2009 05:04

กลุ่มสาวโสดสี่คน เป็นกลุ่มที่ผ่านการปฏิบัติมาไม่ต่ำกว่า ๑๐ ปี ได้มีศรัทธามากราบเยี่ยมหลวงปู่ ก่อนหน้าที่จะมากราบหลวงปู่ ก็ได้วิจารณ์เรื่องทุกข์ของการแต่งงาน ในกลุ่มสาวโสดทั้ง ๔ คน บางคนมีชายหนุ่มมาหมายปอง แต่หญิงผู้นั้นพยายามที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ในใจก็ยังมีจิตที่พึงพอใจ พวกเธอเลยพากันมากราบหลวงปู่เพราะบังเอิญวันหยุดงานตรงกันพอดี หลวงปู่ได้ให้ธรรมะว่า

“พวกโสดาโลกุตตระนี้ทำงานได้มากกว่าใคร
ทำงานเท่าไรก็ไม่เก้อเขิน
อนาคาโลกุตตระทำงานได้มาก
เข้าบ้านเข้าวัดได้ แต่ไม่ยอมมีคู่ไง
กายโสด จิตโสด โสดจากสังโยชน์ ๕ นี่ละ”

เถรี 30-05-2009 05:05

มีญาติโยมที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ มักจะชื่นชมความอายุยืนของหลวงปู่ และก็อยากจะให้หลวงปู่มีอายุยืนนานไปมาก ๆ ก็พยายามขอให้หลวงปู่มีอายุยืนกว่าร้อยปี บางพวกก็สงสัยอยากทราบว่า หลวงปู่จะละสังขารเมื่อไร? ก็เลยกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า
“หลวงปู่ครับ หลวงปู่จะละสังขารเมื่อไร?
บอกได้ไหมครับ?”
หลวงปู่ตอบว่า
“ตายวันไหน ก็บอกวันนั้นซี่”

เถรี 30-05-2009 05:06

มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งชอบติดตามฟังธรรมของหลวงปู่เสมอ วันหนึ่งหลวงปู่บอกว่า

“ขอให้เป็นผู้ช่วยเหลือดำรงพุทธศาสนาเอาไว้ด้วยนะ
ให้มีลมหายใจเป็นธรรมะ
ยืน เดิน นั่ง นอนเป็นธรรมะ
ลมหายใจเข้าออกอยู่กับธรรมะ
เกิดบ่อย ๆ ตายบ่อย ๆ สนุกหรือ?
อย่าตายนะ ! จะได้ไม่เกิด
คนที่ไม่ตายคือคนที่ตัดอาสวะได้ ตัดกิเลสตัณหาได้
เราพ้นจากอาสวะเดี๋ยวนี้ก็สำเร็จตลอดไป
ไม่มีเสื่อมนะ”

ป้านุช 07-06-2009 11:02

"หลวงปู่ครับ สุนัขนี่มันรู้ภาษาคนไหมครับ"


"มันรู้ แต่มันพูดไม่ได้เท่านั้นแหละ แต่พูดในใจ มันพูดรู้นะ ถ้ามองตามัน จิตใครมีธรรมมันก็เข้ามาหา มานอนด้วย ถ้าจิตใครไม่มีเมตตามันไม่เข้ามาหาหรอก มันกลัว มันมองตามันรู้นะ มันรู้สายตาน่ะ"

ป้านุช 07-06-2009 11:04

"อยากให้หลวงปู่บอกหลักสูตรการทำจิตขณะบริจาคทานครับ"


"ก็นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ซี่ เข้าหลักสูตรนะ ถ้าลืมหลักสูตรแล้วอุทิศไปไม่ถูกหลัก มันเฉย ๆ มันเป็นโมหะแล้ว ถ้าอุทิศถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันพร้อมด้วยศีล ด้วยปัญญา ด้วยทานศีลภาวนา มันไม่พร้อมก็ไม่มีปัญญาน่ะซี่"

ป้านุช 07-06-2009 11:08

"หลวงปู่ครับ พระสมเด็จองค์นี้ของจริงหรือของปลอมครับ"


"จริงหรือปลอมก็ใช้ไปเถอะ! เพราะเป็นของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ใช้ได้หมดแหละ!"

ป้านุช 07-06-2009 11:17

" คนเราเกิดมาคนแรกมันคนไหนแน่ครับหลวงปู่"


"ปูโธ่! ของใกล้ ๆ ก็มาถามได้ คนไหนเกิดก่อน? คนถามเกิดก่อนซี่! คนตอบเกิดเป็นคนที่สองไง!
โธ่! ดึกดำบรรพ์จะเอามายังไง มันอยู่ที่ไหน บ้านเมืองอยู่ไหน แค่ผมขน เล็บ ฟัน หนัง แค่นี้ยังดูไม่ทั่ว ยังจะไปถามอดีต
อ้ายดึกดำบรรพ์จะไปถามได้ความอะไรล่ะ! มีพยานที่ไหนล่ะ!"

ป้านุช 11-06-2009 21:00

หลวงปู่จะมาเกิดอีกไหมครับ


"ไม่มีเชื้อมันจะเกิดได้อย่างไร ข้าวเปลือกมีอยู่มันก็เกิดได้ ข้าวสารมันเกิดได้ไหม หมดเชื้อแล้วปลูกไม่ขึ้นก็ผุพังไป"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:36


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว