กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   บวชแล้วสึก (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1497)

เถรี 12-01-2010 14:39

บวชแล้วสึก
 
ตอนนี้พระวัดท่าขนุนที่เหลืออยู่ติดวัดจริง ๆ ไม่ได้นับพวกที่ไปเรียนข้างนอก เหลือประมาณ ๑๙ รูป ส่วนหนึ่งออกมาเรียน ที่เหลือบวชแล้วสึก

ความจริงบวชแล้วสึกนั้นมีเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน ประการที่หนึ่ง ก็คือ มีความจำเป็นจริง ๆ กำหนดเวลาบวชไว้แค่นั้น ส่วนใหญ่ก็ติดด้วยเรื่องของอาชีพการงาน ประการที่สอง กำลังใจสู้กิเลสไม่ได้ รู้ว่าอยู่ต่อไปอาจจะเกิดโทษขึ้นก็เลยสึก ประการที่สามคล้ายกับประการที่สอง กำลังของกิเลสแรงกว่า ชวนให้สึก แล้วก็เชื่อ ตามกิเลสไป

ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงพระที่บวช ๆ สึก ๆ มีประวัติความเป็นมาคล้ายคลึงกันอยู่สองรูปด้วยกัน ก็คือ พระจิตตหัตถเถระ กับ พระนังคละกูฏะเถระ พระจิตตหัตถ์จำไม่ได้ว่าท่านประกอบอาชีพอะไร ส่วนพระนังคละกูฏะเถระท่านเป็นชาวนา ทำมาหากินด้วยความเหนื่อยยาก เห็นว่าพระสงฆ์สาวกของพระสมณโคดมไม่ต้องลำบากอะไร ถึงเวลาออกไปบิณฑบาต ชาวบ้านก็ถวายอาหารให้ จึงบวชเข้ามา ท่านจิตตหัตถ์ก็คล้าย ๆ กัน คราวนี้ทั้งสองท่าน พออยู่สบายกินสบายไประยะหนึ่ง รู้สึกว่าร่างกายเริ่มดี ก็เลยสึก แสดงว่าไม่ได้รับรู้และปฏิบัติในเรื่องของธรรมะเลย พระอุปัชฌาย์อาจารย์อาจจะสั่งสอน แต่ว่าไม่ได้ทำให้เกิดผล พอสึกแล้วก็ออกไปทำมาหากิน ผอมจนหัวโตก็เข้ามาบวชใหม่ ท่านทำอย่างนี้อยู่ถึง ๗ ครั้งด้วยกัน

ปรากฏว่าครั้งสุดท้ายกลับบ้านไป จะไปหาผ้ามาสึก ประวัติตอนนี้ของทั้งสองท่านเหมือนกันเลย เหมือนกันตรงที่ว่า พอกลับไปแล้วเจอเมียนอนหลับอยู่ ภรรยาคงจะอ้วนท้วนน่าดู ท่านเห็นภรรยาเหมือนศพที่กำลังขึ้นอืด ก็เลยตัดใจ บวชใหม่ดีกว่าพระ อุปัชฌาย์อาจารย์ก็เบื่อ บ่นว่า "นี่อยากจะเอาหัวมาเป็นหินลับมีดหรืออย่างไร? บวช ๆ สึก ๆ เดี๋ยวก็โกน..เดี๋ยวก็โกน" ทั้งสองท่านให้คำมั่นเหมือนกันว่า คราวนี้บวชไม่สึกแน่ พระอุปัชฌาย์ทนอ้อนวอนไม่ได้ ก็เลยบวชให้

ปรากฏว่าท่านจิตหัตถ์เจริญกรรมฐานแล้วกลายเป็นพระอรหันต์ ส่วนพระนังคละกูฏะเถระนั้น ท่านเอาผ้าของท่านไปแขวนไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าสึกออกไปเมื่อไรก็เหนื่อยอย่างนี้ ท่านไปยืนพิจารณาธรรมอยู่ในป่า เพื่อนก็เห็นว่าท่านพอฉันภัตตาหารเสร็จก็เดินหายเข้าป่า..ฉันแล้วก็หายเข้าป่า เพื่อนเลยถามว่า "ท่านนังคละไปไหนหรือ ?" ท่านตอบว่า " อ๋อ..ผมไปหาครูบาอาจารย์ครับ" ก็คือ ท่านถือว่าผ้าเก่านั้นเป็นครูบาอาจารย์ ก็ไปพิจารณาธรรมจนกระทั่งหลุดพ้นเป็นพระอรหันต์เหมือนกัน

พอหลุดพ้นท่านก็ไม่ได้ไปอีก เพราะใจหยุดดิ้นรนจนสุดแล้ว เพื่อนพระก็ถามว่า "ท่านนังคละ วันนี้ท่านไม่ไปหาอาจารย์ของท่านหรือ ?" พระนังคละกูฏะเถระบอกว่า "ขึ้นชื่อว่ากิจในการหาอาจารย์ของกระผมไม่มีอีกแล้วครับ" นักบวชสมัยนั้นแสบใช้ได้เลย ฟ้องว่าพระนังคละพยากรณ์ตัวเองว่าเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าต้องทรงยืนยันให้ว่า พระนังคละกูฏะเถระเป็นพระอรหันต์ หมดกิเลสแล้ว จบพรหมจรรย์แล้ว


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่ายสอง หลังพิธีสึกพระ ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓

เถรี 16-06-2010 19:19

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีพระที่วัดท่าขนุนสึกไปประมาณ ๔ รูป ช่วงก่อนสึก พระอาจารย์ท่านบอกว่า

"พระกับฆราวาสต่างมีความกดดันอยู่ด้วยกัน พระ...ถูกกดดันด้วยกรอบของศีล ฆราวาส..ถูกกดดันด้วยการทำมาหากิน ดังนั้น ไม่ว่าจะพระหรือฆราวาส ควรตั้งใจพยายามในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อย่างพระก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ถึงที่สุด ฆราวาสก็ตั้งใจทำมาหากินให้ร่ำรวยไปเลย อย่างพวกเราที่สึกออกไป ก็ยังมีศีลห้าคอยคุ้มครองอยู่"

เท่าที่เถรีจำมา ก็น่าจะครบถ้วนกระบวนความดังนี้แล :4672615:


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:49


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว