กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4180)

เถรี 09-10-2014 12:40

พระอาจารย์บอกว่า "อนุโมทนาบัตรงวดนี้ที่ต้องใช้มาก เพราะว่าคณะของคุณนก (สิรีธร น้อยเจริญ) ถวายเครื่องสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ๒๒ ชุด เพื่อที่จะเอาไปติดตั้งที่ห้องน้ำใหม่ข้างศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย แล้วทางคณะขออนุโมทนาบัตรมา รายชื่อก็เลยยาวเป็นหางว่าว ทั้งหมด ๒๐ กว่าคน ก็ต้องขอโมทนากับโยมที่มีจิตศรัทธาร่วมกันถวาย ซ้ำยังบอกว่า ถ้ามีวัดไหนทำห้องน้ำอีก ก็เต็มใจที่จะถวายอีก"

เถรี 09-10-2014 12:41

ถาม : มีทำบุญอะไรบ้างแล้วโรคลดลง ?
ตอบ : ไม่มี..ให้เว้นจากการทำบาปจ้ะ ไม่ใช่ทำบุญแล้วโรคจะลดลง เว้นจากปาณาติบาตทุกชนิด หมั่นแผ่เมตตาบ่อย ๆ ชาติต่อไปก็โรคน้อยไปเอง หรือไม่ก็สร้างส้วมถวายวัด จะได้อานิสงส์แบบพระพากุละ

ถาม : ไปช่วยเขาสร้างห้องน้ำ เขาทำบุญกันทั้งศาลาได้แค่สามร้อยกว่าบาท ?
ตอบ : บางทีต่างจังหวัดเขาไม่ค่อยมีกำลังเงิน อาตมาไปอยู่ทองผาภูมิใหม่ ๆ หมู่บ้านมอญยกผ้าป่ามาถวาย มากันหมดหมู่บ้าน ถวายผ้าป่ามา ๒๑๗ บาท เขาทำต้นผ้าป่ามาสวยมากเลย แล้วเอากระดาษตัดเป็นดาวบ้าง เป็นดอกไม้บ้าง ห่อเหรียญบาทมา นับมาได้ ๒๑๗ บาท อาตมาแจกวัตถุมงคลหมดไปหมื่นกว่าบาท เพราะฉะนั้น..บางทีต่างจังหวัดมีแต่แรงงาน ถ้าเราต้องการแรงงานเขามีให้ แต่ว่าเรื่องเงินเขาไม่ค่อยจะมี ก็เลยเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า ญาติโยมมีจิตศรัทธามาก ศรัทธาล้นเกินตัวเงินที่ได้ทำบุญมา

เถรี 09-10-2014 13:12

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้ามีใครอยากจะไปรับลูกระเบิดที่ปักษ์ใต้กับอาตมา ก็ไปจองรถที่คุณหญิง (ณญาดา) นะจ๊ะ รับแค่ ๘๐ คน เพราะว่าไปรถไฟตู้นอนปรับอากาศ ตอนนี้เหลืออยู่แค่ ๕ ที่ ไปกันหลาย ๆ คน เผื่อว่าใครเคราะห์กรรมหนัก ๆ เพื่อนจะได้ไปช่วยเฉลี่ยให้บ้าง..!"

เถรี 10-10-2014 19:24

พระอาจารย์เล่าว่า "ช่างเขาเอาแบบเมรุใหม่มาให้ อาตมาจะทำเมรุใหม่ รื้อของเก่าทิ้งสร้างใหม่เลย แจ้งกับญาติโยมแล้วว่าช่วงที่สร้าง ๒ ปีนี้ห้ามตายเด็ดขาด เพราะไม่มีเมรุให้เผา..! ใครจะเป็นเจ้าภาพสร้างเมรุคนเดียวก็ได้ คิดแค่ ๒๐ ล้านบาทเท่านั้น..! ก็จะมีตัวเมรุ คือ ฌาปนสถาน ขนาด ๙๐๐ ตารางเมตร ไม่ใหญ่เท่าไรหรอก ใหญ่กว่าห้องนี้หน่อยหนึ่ง แล้วก็มีศาลาเมรุ ๓ หลัง ใครมีเงินเหลือเฟือสัก ๒๐ ล้านบาทถวายมา อาตมาจะสละสมเด็จวัดระฆังที่พกติดตัวให้ แถมสมเด็จบางขุนพรหมอีกองค์หนึ่งด้วย..!"

เถรี 10-10-2014 19:26

พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งให้โยมทราบอย่างเป็นทางการว่า พระที่จะบวชหมู่ถวายหลวงปู่สาย ช่วงงานทำบุญ ๑๐๐ ปีเกิดของท่าน ไม่ใช่ ๑๐๘ รูปอย่างที่ทุกคนเขียนมานะจ๊ะ ได้มา ๑๑๓ รูป สมัครมา ๑๒๑ ตัดยอดแล้วเหลือ ๑๑๓ จึงให้บวชทั้งหมดเลย สงสารพวกที่สมัครเกินมา เดี๋ยวไม่ได้บวชแล้วจะไปนั่งเสียใจ ก็เลยรับเอาไว้ทั้งหมด เพราะฉะนั้น..โยมที่เป็นเจ้าภาพร่วมบวชมานี่ให้ทราบว่า บวชพระ ๑๑๓ รูปนะจ๊ะ ไม่ใช่ ๑๐๘ รูป"

เถรี 10-10-2014 19:28

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานออกนิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์ปีนี้ ไม่ทราบว่าเข้าใจผิดกันหรืออย่างไร ตอนที่ขึ้นเสลี่ยงแห่ เขาแห่รอบเดียวจบ คาดว่าเขาคงเข้าใจผิด เพราะปกติจะแห่ ๓ รอบทุกครั้ง แต่อาตมาไม่ค้านหรอก เพราะนั่งนาน ๆ ก็กลัวตกเหมือนกัน จะรอบเดียวหรือ ๓ รอบก็ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าได้รอบเดียวก็จะดี"

เถรี 10-10-2014 19:32

พระอาจารย์พูดถึงเมรุที่จะสร้างใหม่ว่า "ฌาปนสถาน ๙๐๐ ตารางเมตรนี่คงไม่ใหญ่เกินไป กำลังคิดว่าจะใช้ระบบไฟฟ้า คือถ้าใช้ระบบน้ำมันเป็นเตาปลอดมลพิษ ทองผาภูมิก็แทบจะหาไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าใช้ไฟฟ้านี่มั่นใจมากเลยว่า น่าจะเป็นหลังแรกของจังหวัดกาญจนบุรี เพราะว่าเผาด้วยไฟฟ้านี่แค่ ๖-๘ นาทีเท่านั้น แล้วแต่อ้วนผอม กลายเป็นขี้เถ้าหมดเลย ไม่ต้องเสียเวลานาน สับไฟฟ้าเข้าไป ๖-๘ นาทีเท่านั้น ไม่มีอะไรเหลือเลยนอกจากขี้เถ้าห่อหนึ่ง

กำลังให้เขาไปศึกษาดูว่า เมรุแบบนั้นใช้ไฟฟ้าขนาดไหน แต่ว่าถึงใช้ขนาดไหนวัดท่าขนุนก็ไม่หวั่น เพราะว่าซื้อหม้อแปลงขนาด ๒๕๐ KVA เป็นของวัดเอง แล้วหม้อแปลงอยู่ข้างหน้าเมรุพอดี สามารถเดินสายใหม่เข้าไปได้ภายในเวลาไม่กี่นาที

เสียดายว่าตัวอาคารกับเมรุเก่าไม่สามารถที่จะเหลือไว้ได้เลย เนื่องจากว่าพื้นที่ไม่ได้ศูนย์กลาง พื้นที่ซึ่งตั้งใจว่าจะปรับใหม่นั้น ตัวอาคารเก่าอยู่ชิดด้านหนึ่ง คงต้องรื้อไปถมที่เลย ระยะนี้วัดท่าขนุนถมที่ด้วยของแพง ถมสระน้ำนี่ใส่เสาเข็มต้นละ ๒๐,๐๐๐ บาทลงไป ๑๒ ต้น ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้งาน เพราะว่าเข็มตอกเวลาตอกลงไปแล้วสะเทือนมาก อาคารอื่นอาจจะร้าวได้ กลายเป็นซื้อมาทิ้งไว้เฉย ๆ แล้วไปใช้เข็มเจาะแทน

มีเสาไฟฟ้าอีก ๕ ต้น เป็นเสาแบบเดิมในซอยแยก ไม่ใช่เสาไฟฟ้ามาตรฐานซีแพ็ก ๒๕ เมตร แบบนี้น่าจะประมาณ ๑๒ เมตร ถมลงไปอีก ๕ ต้น แล้วก็ตามด้วยกุฏิศาลเจ้าที่อีก ๑ หลัง กำลังมองว่าจะเอากุฏิหลวงปู่พุกถมลงไปอีกหลังหนึ่ง

เรื่องการรื้อสิ่งปลูกสร้างภายในวัดมีหลักการว่า ถ้าเราทำใหม่แล้วไม่ดีกว่าเดิมนี่ห้ามรื้อเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นติดหนี้สงฆ์หัวโตเลย ถ้าทำต้องทำให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แพงกว่าเดิมนะ ดีกว่าเดิม เพราะว่าเรื่องแพงกว่าเดิมนี่ คนทำทีหลังจ่ายแพงกว่าเป็นปกติอยู่แล้ว พอถึงเวลาทำเมรุเสร็จอาตมาก็อาจจะได้ฉลองเผาเป็นคนแรก..นอนสบาย กะดูว่างบประมาณ ๒๐ ล้านบาท เพราะว่า ๙๐๐ ตารางเมตร เฉพาะตัวเมรุ แล้วก็มีศาลารอบอีก ๓ หลังเป็นรูปเกือกม้า"

เถรี 10-10-2014 19:33

"ครึ่งเดือนที่ผ่านมา ญาติโยมทางทองผาภูมิตายติด ๆ กันหลายศพ เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแรงมาก ช่วงอากาศเปลี่ยนถ้าคนแก่หรือคนป่วยดูแลไม่ดีนี่อาจจะไปเลย รายล่าสุดก็คุณยายขันแก้ว อายุ ๘๖ ปี แต่เขาบอกว่าคุณยายแจ้งเกิดช้า คนทองผาภูมิถ้าไม่ใช่เกิดโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุจริง ๆ แล้วอายุยืน อย่างปีที่แล้วก็ ๕ ศพ เด็กที่สุดอายุ ๘๒ ปี ระดับอายุ ๘๐ กว่าของทองผาภูมิเขาถือว่าเป็นปกติ ถ้าไม่ใช่มะเร็งกินตายหรืออุบัติเหตุตายนี่รับประกันว่าอายุเกิน ๘๐ ปีแน่นอน เขาบอกว่าเกิดจากทองผาภูมิอากาศดี อาตมาไม่ใช่คนทองผาภูมิ เป็นแค่เขยทองผาภูมิ คือไปฝากตัวอยู่ที่โน่น เพราะฉะนั้น..อายุไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้"

เถรี 13-10-2014 20:21

ถาม : สอบคะแนนไม่ค่อยดีเท่าไร ?
ตอบ : ใช้คาถาช่วยจ้ะ ภาวนาคาถา สะหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพพะจักขุง วิโสธายิ นึกถึงลมหายใจเข้าออก ภาวนาทุกวัน เช้าสักครึ่งชั่วโมง เย็นครึ่งชั่วโมง

ถาม : ไม่ค่อยดีนี่ ๘๐ คะแนน ?
ตอบ : น้อยไป หลวงพ่อได้ตั้ง ๑๐๐ คะแนน..!

ถาม : พ่อเขาจะให้ได้ ๙๖ คะแนน
ตอบ : นั่นแหละ ประมาณนั้นแหละ ไปภาวนาเอา ไม่เยอะหรอก มีวิชาหนึ่งหลวงพ่อได้ ๙๘ คะแนน ท่านอาจารย์พระมหาอุดรบอกว่า "ของพระครูเล็กผมจะให้ ๑๐๐ คะแนนก็ได้ แต่เดี๋ยวเขาจะหาว่าลำเอียง เลยตัดไป ๒ คะแนน" แล้วพระอาจารย์พูดทำไม ? ให้ผมเฉย ๆ แค่นั้นผมก็ไม่ว่าหรอก ผมจะคิดว่าความสามารถของผมไม่ถึง นี่ความสามารถของผมถึง แต่พระอาจารย์ไม่ให้ เพราะพระอาจารย์กลัวโดนว่า นี่คนละเรื่องกันเลย...

เถรี 13-10-2014 20:39

ถาม : ความดันขึ้น ไม่ได้เรื่องเลย ตามองไม่ค่อยเห็น ?
ตอบ : ตำราหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้ใช้ยาเก้าร้อย ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรแล้ว บอกเขาว่าชื่อเก่าคือยาเก้าร้อยของวัดท่าซุง ถ้าความดันต่ำจะปรับให้สูง ถ้าความดันสูงจะปรับให้ต่ำ ยาตัวนี้กินได้ทั้งความดันต่ำและสูง ให้เขาลองไปดูที่บ้านสายลม ถ้าไม่มีก็ต้องไปที่วัดท่าซุง รีบ ๆ เอามากิน ความดันสูงมากแบบนี้อันตราย

ที่เขาเปลี่ยนชื่อยาเพราะมีอยู่ช่วงหนึ่ง อย.เข้าไปเล่นงาน บอกว่าโฆษณาเกินจริงอะไรพวกนั้น ไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนชื่อตัวนี้ไปหรือเปล่า เดิมเขาเรียกยาเก้าร้อย ความดันเท่าไร ?


ถาม : สองร้อยกว่าค่ะ
ตอบ : ครูบาเหนือชัยก็ความดันสองร้อยกว่า เส้นเลือดในสมองแตกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ตายแต่ว่าร่างกายด้านขวาหยิบจับทำอะไรไม่ได้ ท่านบอกว่าไม่รู้ตัว ปวดหัวก็กินยาแก้ปวด ไม่รู้ว่าเป็นความดัน ให้สังเกตว่าไม่ใช่อาการปวดหัวทั่วไป จะปวดตุบ ๆ ที่ขมับ ๒ ข้างนี่ นั่นแหละความดัน แต่พวกเราไม่รู้กัน

เถรี 13-10-2014 21:14

ถาม : ทำสารนิพนธ์ศัลยกรรมความงามของปริญญาเอกค่ะ ?
ตอบ : คนที่ทำศัลยกรรมเพิ่มความงามแล้วเพิ่งตายไปเองนะ..! เรื่องนี้จริง ๆ แล้วโยงเข้าหาหลักธรรมได้ง่ายมากเลย แต่กลายเป็นว่าหลักธรรมของเราไม่สรรเสริญตรงจุดนี้ ในเมื่อหลักธรรมไม่สรรเสริญตรงจุดนี้ ก็ต้องไปไล่มาตั้งแต่เบญจกัลยาณี แล้วก็พุทธมารดาที่มีอิตถีลักษณะงามเลิศอีก ๖๔ ประการ ว่าเกิดจากการสร้างบุญอะไรมา คนรุ่นหลังที่มาศัลยกรรมความงามต้องเข้าใจว่า ในเมื่อบุญเก่าไม่ได้ทำมา คุณฝืนอย่างไรก็ฝืนไม่ได้ รายนั้นจึงตายไปเลย ต้องพยายามดึงเข้าหาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาให้ได้

เบญจกัลยาณีให้ยกตัวอย่างนางวิสาขา ผู้ที่มีเบญจกัลยาณีพร้อมอิตถีลักษณะที่งามที่สุด ๖๔ ประการก็คือพุทธมารดา ได้ค้นพระไตรปิฎกกันสนุกไปเลย ถ้ารู้สึกว่าน้อยไปก็เอามหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ บวกกับอนุพยัญชนะอีก ๘๐ ประการของพระพุทธเจ้า จะมีคำอธิบายว่า แต่ละอย่างได้มาเพราะสร้างบุญอะไรไว้

คราวนี้เรื่องของการเสริมความงามในปัจจุบัน แม้จะเป็นการนิยมกันก็ตาม แต่ถ้าไม่มีบุญเก่ารองรับอยู่ โอกาสที่จะสำเร็จตามนั้นยาก ถ้าใครฝืนทำขึ้นมา บางทีชะตาชีวิตทุกอย่างพลิกเปลี่ยนหมดเลย เพราะว่าไม่ไปกับบุญเก่ากรรมเก่าของตัวเอง ไปลองค้นดูนะ คราวนี้จะเห็นทางสว่างขึ้นอีกเยอะ

ประเทศที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับการเสริมความงามก็คือประเทศเกาหลี หนุ่มสาวเกาหลีแทบทุกคนมีค่านิยมเกี่ยวกับการเสริมความงาม เขาบอกว่ารางวัลแรกที่ลูกขอเมื่อตอนสอบได้ก็คือ ขอทำศัลยกรรม แล้วเวลาแต่งงานกับสาวสวย ลูกออกมาหน้าตาดูไม่ได้นี่ไม่ใช่ลูกของคนข้างบ้านนะ ลูกตัวเองนั่นแหละ เพียงแต่ว่า DNA หรือยีนส์ที่ถ่ายทอดพันธุกรรมก็ถ่ายทอดไปตามเดิม แต่หน้าตาผ่านการศัลยกรรมมา

คนจีนเชื่อว่าการทำศัลยกรรมทำให้นรลักษณ์ หรือที่เรียกว่าโหงวเฮ้งเปลี่ยน ถ้าโหงวเฮ้งเปลี่ยน ทางชีวิตก็จะเปลี่ยนไปด้วย จึงมาตรงกับทางพระพุทธศาสนาที่ว่า ในเมื่อบุญกรรมของคุณที่สร้างมา ไม่ได้สร้างมาอย่างนี้ คุณฝืนจะไป ก็ย่อมไปไม่ได้อยู่แล้ว

เถรี 13-10-2014 21:26

ถาม : ผมซื้อผ้าก๊อซมาสามแผ่น ใช้ไปหนึ่งแผ่น เหลืออยู่สองแผ่น ทีนี้มีคนขอซื้อต่อ ไปทำบุญต่อผู้ยากไร้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็ขึ้นกับว่าคุณจะขายไหม ?

ถาม : ผมขายครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นอาตมาก็ยกให้ฟรีไปเลย ร่วมทำบุญกับเขา

ถาม : ถ้าผมซื้อของมาเพื่อเปิดโรงทาน แล้วมีของแถมมา ของแถมที่ได้ผมจะทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ถ้าจะให้ดีก็ถวายพระไปเลย ถ้าอยากได้จริง ๆ เก็บเอาไว้ก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะว่าโรงทานที่เราตั้งใจนั้นได้ทำแล้ว

เถรี 14-10-2014 09:21

ถาม : ญาติเขาเป็นมะเร็งผ่าตัดแล้วลามไปที่ตับ รักษาหมดไปเป็นล้าน ตอนนี้ไม่มีเงินแล้ว กราบขอคำปรึกษาค่ะ ?
ตอบ : ถ้าผ่าตัดแล้วก็ช่วยไม่ได้แล้วจ้ะ ถ้าผ่าแล้วยาอะไรก็ช่วยไม่ได้ มะเร็งเหมือนกับรังผึ้งหรือรังมด พอเราไปตีรังหรือไปทำลายรัง ก็จะกระจายไปทั่ว ถ้ายังไม่ได้ผ่านี่ยาพอจะช่วยได้ ถ้าผ่าแล้วก็รอเวลาไปอย่างเดียว

ถาม : มียาที่บรรเทาทุกขเวทนาไหมคะ ?
ตอบ : ดูท่าจะไม่มี จำไว้ว่าหมอเขาคิดว่ามะเร็งเป็นแค่ก้อนเนื้อ แต่ความจริงก้อนเนื้อนี่เป็นรังของมะเร็ง ตัวเชื้อโรคจริง ๆ พอไปผ่าเข้าก็เตลิดไปที่อื่น จะสังเกตเห็นว่าคนผ่าแล้วนี่ส่วนใหญ่อยู่ไม่นาน แล้วก็อย่าให้คนไข้กินซุปไก่ เขามีการทดสอบทำวิจัยมาแล้ว ซุปไก่ที่ว่าทำให้คนไข้ฟื้นไข้เร็ว เขากินไปอาทิตย์เดียวมะเร็งจาก ๑ เซนติเมตร กลายเป็น ๓ เซนติเมตร ก็เลยมีบางคนบอกว่าซุปไก่เป็นอาหารเลี้ยงมะเร็ง ถ้าเป็นโรคอื่นกินไปเถอะ อาจจะช่วยให้ฟื้นกำลังได้เร็ว แต่มะเร็งต้องการอาหาร แล้วรู้สึกว่าจะชอบซุปไก่มาก จะโตขึ้นเร็วมากเลย

เถรี 14-10-2014 09:25

ถาม : พักนี้จะมีแต่เรื่อง พอเวลาผ่านไปนาน ๆ เราลืมเรื่องพระนิพพาน ก็สามสี่ครั้งที่เป็นแบบนี้ เลยทำให้ไม่ไปไหนสักที ?
ตอบ : ทุกครั้งที่เราใกล้ความดี ก็จะโดนก่อกวนเพื่อที่จะให้ห่างออกไป การทดสอบนี่จะมีอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นมีทางเดียวก็คือเราต้องมีสติระมัดระวังอยู่กับสิ่งที่เราทำ เผลอไม่ได้..ไม่ต้องโทษใคร ต้องโทษเราว่าสติยังไม่พอ ก็ต้องฝึกต่อไป วิธีฝึกที่ดีที่สุดก็คือให้อยู่กับลมหายใจเข้าออก

ถาม : ถ้าบุญไหว้พระสวดมนต์แล้วอธิษฐานเข้าพระนิพพาน แล้วเพิ่มเป็นให้ชนะมารด้วยได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้..แต่การอธิษฐานก็คืออธิษฐาน ส่วนที่จะชนะจริง ๆ คือเราต้องลงมือทำ การอธิษฐานเป็นส่วนของความตั้งใจ อย่างเช่น เราตั้งใจว่าจะสอบให้ได้ แล้วถ้าเราตั้งใจเฉย ๆ เราจะสอบได้ไหม ? เราก็ต้องลงมือสอบ

เถรี 14-10-2014 09:41

ถาม : พัดลมชั้นหนึ่งที่ศาลาเขาจะมาเพิ่มอีก ๒๐ ตัว พร้อมการเดินไฟ เขาบอกว่าจะมีส่วนเพิ่ม ผมขอจนรอไม่ไหวแล้ว ถ้าเขามาแค่นี้ก็โอเค แต่เพิ่มไปเรื่อย ?
ตอบ : เพิ่มไปเรื่อย เมื่อวันก่อนผมเพิ่งไล่พวกทำเครื่องเสียงเตลิดเปิดเปิงไป เขาแก้ไขปัญหาไม่ตก แต่เพิ่มวัสดุมาเรื่อย ตรงนี้ใส่ลำโพงเพิ่มอีก ๖ ตัว ตรงนี้ใส่ลำโพงเพิ่มอีก ๔ ตัว เขาไม่เคยแก้ตกเลย อาตมาบอกว่า "มึงเอาของกลับไปหมดเลย กูไม่ชอบแบบประเภทถึงเวลาแล้วมาเพิ่มวัสดุไปเรื่อยแล้วแก้ไม่ได้" กลายเป็นว่าเขาขายของให้เราไปเรื่อย โดยที่ปัญหาไม่จบสักที ไม่มีฝีมือก็บอกสิว่าไม่มีฝีมือ ไม่ใช่แก้ไขโดยวิธีเพิ่มวัสดุไปเรื่อย

เถรี 14-10-2014 09:51

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนช่างกระเบื้องมาปูห้องน้ำไปได้ประมาณ ๔ ห้อง มาขอเบิกเงิน ๕,๐๐๐ บาท อาตมาก็หัวเราะ “เอ็งรู้หรือเปล่าว่าวันนี้ที่เบิกน้อยที่สุด ๘๐๐,๐๐๐ บาท แล้วเอ็งมาเบิก ๕,๐๐๐ นี่จะให้ข้าจ่ายอย่างไรวะ ? ข้าทำตัวไม่ถูกโว้ย..!” เบิก ๔ รายต่ำสุด ๘๐๐,๐๐๐ บาท แล้วเอ็งมาเบิก ๕,๐๐๐ บาทนี่นะ

ส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างจะหนักสำหรับทางวัดก็คือค่าแรงช่าง ไล่ขึ้นมาเลยนะ จากเดิมเดือนละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท เป็น ๖๐๐,๐๐๐ บาท เป็น ๗๐๐,๐๐๐ บาท เป็น ๘๐๐,๐๐๐ บาท เดือนนี้ ๑ ล้านบาท คนงานจำนวนเท่าเดิม แต่ทีนี้พอเขาเห็นว่าจ่ายสะดวกก็ทำงานกันฉิบหา..เลย วันหยุดเขาก็ไม่หยุด ตรุษ สารท เทศกาลอะไรเขาก็ทำงานของเขาอยู่นั่น

คุณสุรีย์อยู่มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ไม่ยอมไปไหนเลย เพราะงานที่วัดไม่มีการคุยราคาไว้ก่อน ทำไปได้เลย แล้วจะเบิกเท่าไรก็มาเอา ด้วยความที่ผมเองเคยทำงานมาก่อน รู้ว่าคนที่เขาซื่อและตรงไปตรงมา เขาทำเท่าไรเขาเอาเงินแค่นั้น ไม่ได้เรียกร้องอะไรเกินไปมากมาย ให้เขาได้ก็ให้ เพราะถ้าไปคุยราคาก่อนอย่างที่เขาทำ ๆ มา พอถึงเวลาของขึ้นราคานี่กำไรเขาแทบไม่มี หรือไม่บางทีก็กินทุนตัวเองเลย เขาบอกว่าระยะหลังก่อนที่จะมาทำงานกับผม เขาขาดทุนมา ๓ งานติดกัน อยู่ ๆ เหล็กประกาศขึ้นราคาตันละ ๗,๐๐๐ บาท ท่านเจ้าคุณปัญญานั่งสั่นหัวเลย “อย่างนี้มีแต่อาจารย์เล็กจ่ายได้ ผมจ่ายไม่ได้หรอก” คราวนี้พอเขาทำงานกับผมแล้วเรื่องเงินสะดวก ก็ไม่อยากไปไหน ทำไปเรื่อย อยู่กันมา ๙ ปีเข้าไปแล้ว"

เถรี 14-10-2014 11:24

พระอาจารย์เล่าว่า "วันนี้มีโยมคนหนึ่งเรียนปริญญาเอก ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมความงาม จะไปรอดไหมก็ไม่รู้ ? อันดับแรก..ที่ปรึกษาจะหาใคร อันดับที่สอง..เขาเพิ่งจะศัลยกรรมตายคาที่ไป อาตมาให้เขาไปดูเรื่องเบญจกัลยาณี ไปดูอิตถีลักษณะ ๖๔ ประการของพุทธมารดา รวมถึงมหาปุริสลักษณะและอนุพยัญชนะของพระพุทธเจ้าด้วย แล้วให้สรุปออกมาว่าแต่ละอย่างได้มาเพราะสร้างบุญอะไร

การที่ไปทำศัลยกรรมความงามนั้น เป็นการฝืนกฎของกรรมอย่างหนึ่ง คนจีนเขาเชื่อว่าทำให้นรลักษณ์หรือโหงวเฮ้งเปลี่ยนไป ทางชีวิตอาจจะเปลี่ยน ในเมื่อเราไม่ได้สร้างบุญมาลักษณะอย่างนั้น ทำไปแล้วอาจจะเกิดโทษบางอย่างขึ้นก็ได้ แต่คราวนี้ความเชื่อลักษณะนี้คนสมัยใหม่เขายังไม่ยอมรับกัน ในเมื่อคนสมัยใหม่เขายังไม่ยอมรับกันก็ต้องชี้แจงว่า ในพระไตรปิฎกว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้มาด้วยบุญ ถ้าชาตินี้เราตั้งใจค่อย ๆ เสริมสร้างไป ก็ต้องมีสักชาติหนึ่งที่สวยได้อย่างนั้น

มีคนหนึ่งผ่าตัดเปลี่ยนหน้าตัวเองเพื่อเอาแต่โหงวเฮ้งดี ๆ มารวมกัน แต่กลายเป็นว่าพอรวมกันลงไปแล้วกลายเป็นโทษ เพราะต้องมีการคานกัน ดีบ้างไม่ดีบ้าง หักกลบลบล้างออกมาแล้วส่วนดีมีมากกว่า เอาแต่ดีอย่างเดียวมันเหมือนมีแต่ไฟ ไฟ ไฟ ก็เผาตัวเองอยู่นั่น ไม่มีน้ำมาช่วยบรรเทาเลย"

เถรี 14-10-2014 11:29

ถาม : ต้องวางกำลังใจอย่างไรจึงจะถูกรางวัลที่ ๑ สักที ?
ตอบ : เรื่องของการพนัน ถ้าไม่เคยทำเอาไว้ไม่มีทางได้หรอก ลาภการพนันเกิดจากการทำบุญแบบไม่ได้ตั้งเจตนาไว้ก่อน สมมติว่าออกไปเจอกองกฐินกองผ้าป่า แล้วร่วมทำกับเขาไปเลยอย่างนั้น ถ้าทำโดยตั้งเจตนาไว้ก่อน อย่างทำกฐินหรือถวายสังฆทาน ก็กลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว ไม่ต้องเสียเวลารอถูกหวย เราก็ทำแบบตั้งใจไปด้วย เจอแบบไม่ได้ตั้งใจก็ร่วมทำกับเขาไปด้วย แต่ถ้าเกิดใหม่ไม่มีหวยก็ไม่รู้จะไปเล่นอะไรอีก

ถาม : เกิดใหม่เพื่อถูกหวยนี่ไม่คุ้ม ?
ตอบ : ประเทศทิเบตเขามีความเชื่อว่า คนเราต้องเกิดใหม่เพื่อมาเรียนรู้เพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเห็นทางพ้นทุกข์ ความจริงก็ใช่นะ เพียงแต่ว่าบุคคลที่สามารถพ้นทุกข์ก็มักจะตั้งใจว่า จะกลับมาเรียนรู้และช่วยเหลือผู้อื่นไปเรื่อย ๆ อีก ก็เลยไม่ต้องไปไหนสักที

เถรี 14-10-2014 11:35

ถาม : ทรงฌานอย่างไรจึงจะเรียกว่าทรงฌานครับ ?
ตอบ : สมาธิทรงตัว มีสติรู้รอบอยู่ตลอดเวลา

ถาม : ทรงตัวเกี่ยวกับการทำงานด้วยไหมครับ ?
ตอบ : เวลาทำงาน ถ้าตั้งใจจริง ๆ สมาธิจะเกินปฐมฌานไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็แค่อุปจารสมาธิปลาย ๆ ที่บางคนเรียกอุปจารฌาน เพราะถ้าไม่เคยชินนี่ ถึงเวลาแล้วจะขยับไม่ได้ คนที่จะทรงเกินนั้นได้ ต้องมีความคล่องตัวในฌาน แบบที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านใช้คำว่า "ฌานใช้งาน"

ถาม : เป็นอย่างไรครับฌานใช้งาน ?
ตอบ : จะเข้าเมื่อไรจะออกเมื่อไร ต้องทำได้ในทุกที่ทุกเวลา

เถรี 14-10-2014 11:44

พระอาจารย์กล่าวว่า "โบราณาจารย์ท่านบังคับให้พระนั่งเขียนยันต์บ้าง เสกนั่นเสกนี่บ้าง เพื่อให้ใจอยู่กับสมาธิตลอดเวลา จะได้ไม่หลุดไปให้ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจได้ คนรุ่นใหม่ไม่รู้ก็คิดว่าไสยศาสตร์ล้วน ๆ เรียกว่าโง่แล้วอวดฉลาด เพราะถ้าให้นั่งภาวนาอย่างเดียว บางทีใจก็ไม่รวมตัว แต่ถ้าเคี้ยวหมากไปภาวนาไป ใจกลับรวมดีกว่า"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:13


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว