กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   กลัวผีจะแก้ไขอย่างไร (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1574)

โอรส 06-02-2010 04:28

กลัวผีจะแก้ไขอย่างไร
 
ถาม : คือว่ากลัวผีค่ะ หนูกลัว หนูก็พยายามไม่คิด แต่ก็ยิ่งชัด จนหนูเริ่มหวั่นไหวเลย จะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ความจริงคนที่เห็นไม่ชัดเจนนั้น จำไว้ว่าต้องทำอย่างนั้น คือ อย่าพยายามให้ความสนใจกับภาพที่เราเห็น ถ้าเราให้ความสนใจภาพนั้นจะมัวไป หรือว่าถ้าเราตั้งใจใช้สายตาเพ่งจะไม่เห็นเลย เพราะว่าการที่เราไปอยู่ตรงนั้นเราถึงจะเห็นภาพนั้น เวลาเราใช้สายตาเพ่ง เราต้องนึกถึงตาของเรา ก็เท่ากับเราดึงจิตกลับ เมื่อดึงจิตกลับภาพจะหายไปเลย ถ้าให้ความสนใจมากบางทีภาพก็ไม่ชัดเจน

ดังนั้นว่าตัวอย่างของคุณนั่น ถ้าหากว่าไม่ให้ความสนใจ คือไม่พยายามสนใจ ภาพจะชัดมากแล้วอยู่นานเป็นพิเศษ

ถาม : ใช่ค่ะ หนูกลัวหนู ไม่สนใจ แต่กลับยิ่งชัดเจน ?
ตอบ : ...(หัวเราะ)... วิธีแก้ก็คือว่า พิจารณาให้เห็นว่า ไม่ว่าเราว่าเขา ในที่สุดก็เสื่อมสลายตายพังเหมือนกัน

จำไว้ว่าความกลัวทุกชนิดมีพื้นฐานมาจากการกลัวตายทั้งสิ้น อาตมาเคยตามพิจารณาดูใจตัวเองเป็นปี ๆ อยู่ในป่ากลัวเสือกัด เสือกัดแล้วเป็นอย่างไร ? ตาย กลัวงูจะมารัด งูรัดแล้วเป็นอย่างไร ? ตายเหมือนกัน กลัวผีจะมาหลอก เดี๋ยวผีบีบคอเรา แล้วเป็นอย่างไร ? ตายเหมือนกัน

สรุปแล้วทั้งหมดไม่ว่าจะอ้อมโลกไปไกลขนาดไหนก็ตาม จะมาลงตรงว่าเรากลัวตายเหมือนกันทั้งหมด ต้องพิจารณาให้เห็นว่าความตายเป็นปกติธรรมดาของเรา เป็นปกติธรรมดาของสัตว์โลกทุกอย่าง สัตว์โลกเกิดเท่าไรตายหมดเท่านั้น พระพุทธเจ้าท่านยืนยันเอาไว้

ถ้าเราเห็นจริงว่า เราเกิดมาแล้วต้องตายเป็นปกติเป็นธรรมดา ถ้าเราทำความดีไว้ ตายเราก็ไปสบาย ความตายก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ในเมื่อเราไม่กลัวแล้ว ต่อไปก็จะเห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิม

ถาม : เวลาหนูกลัว จิตใจหนูหวั่นไหวอยู่แล้ว แต่ก็นึกได้ว่าต้องอุทิศส่วนกุศลให้เขาค่ะ แต่ว่าจิตก็ไม่ได้มุ่งมั่นมากหรอกค่ะ ก็คือมีความรู้สึกว่าเขาก็ได้รับแต่ไม่เต็ม ๑๐๐ เปอร์เซนต์ แล้วเขาก็จางไปค่ะ
ตอบ : คราวหน้าตั้งใจให้มั่นคงกว่านั้นหน่อย ?

ถาม : กลัวค่ะ ?
ตอบ : พยายามพิจารณาบ่อย ๆ ภาวนาอย่างเดียวจะเอาตัวไม่รอด ต้องพิจารณาบ่อย ๆ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้

ตัวเขาเอง เขาตายไปแล้วก็จริง ถ้าหากว่าเขายังเวียนตายเวียนเกิดอยู่ เขาก็ต้องทุกข์อีก ตอนนี้ที่เราเกิดอยู่ เราก็ทุกข์เหมือนกัน โดยเฉพาะตัวเราเองเป็นมหาเศรษฐี เขามาเพื่อขอส่วนกุศลจากเรา คนที่เป็นเศรษฐีไม่ควรกลัวคนที่มาขอทาน ควรจะสงสารและเกื้อกูลเขามากกว่า คราวหน้าเปลี่ยนโลกทัศน์ใหม่ ผีน่าสงสารไม่น่ากลัวหรอก

ถาม : ทำไมภาพชัดขึ้นทุกที ๆ จนเหมือนว่าอยู่ต่อหน้าอย่างนี้ เวลาเห็นหน้าผีก็จะชะงักเลยเจ้าค่ะ ไม่อยากจะเห็นเขาเท่าไร เขาก็เสนอหน้ามาให้เห็น ทำอย่างไรดีเจ้าคะ ?
ตอบ : ถึงตอนนั้นก็รีบ ๆ ให้เขาไป จะได้ไปพ้น ๆ ตั้งใจไว้แต่แรกเริ่มเลยว่า กุศลบารมีที่เรากระทำในครั้งนี้ โดยเฉพาะกุศลจากการเจริญภาวนาของเรา ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม ที่ตั้งความปรารถนาอยากได้ผลบุญอันนี้ ขอให้เขาโมทนาได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาให้เราไปบอกไปกล่าว เชิญโมทนาแล้วก็รีบ ๆ ไป อย่ามาอยู่ใกล้ เพราะเรากลัว


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:22


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว