กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=43)
-   -   จิตติดท่องเที่ยว (ใครที่ชอบท่องเที่ยวลองอ่านดู) (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1155)

แงซาย 02-10-2009 16:28

จิตติดท่องเที่ยว (ใครที่ชอบท่องเที่ยวลองอ่านดู)
 
http://uc.popcornfor2.com/show/-WCcf516.jpg

แงซาย 02-10-2009 16:29

http://u2.popcornfor2.com/show/QMs256c4.jpg

แงซาย 02-10-2009 16:29

http://u3.popcornfor2.com/show/RNt36786.jpg

แงซาย 02-10-2009 16:34

พระธรรมในเรื่องนี้โดนใจผมอย่างมาก (เพราะเคยพลาดมาก่อนมาก ยังไม่เห็นทุกข์ในโลกเท่าตอนนี้)
ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเพื่อเป็นอุทาหรณ์
เพราะเมื่อก่อนผมชอบท่องเที่ยวมาก โบกรถเที่ยว เดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ มากมาย (เดินป่าสำรวจป่าปิด เที่ยวเชิงวัฒนธรรม) เรียกว่าที่ไหนที่เป็น unseen ล่ะชอบไปนัก ที่ที่คนเขาไปยาก ๆ ผจญภัย ๆ ก็ไปกัน เอาภาพเอาบันทึกการเดินทางมาลงเว็บไซต์สนองกิเลสตัณหาในตอนนั้น และเที่ยววัดสำคัญ ๆ ในจังหวัดต่าง ๆ (ยังดีที่ติดบุญไว้บ้าง) ซึ่งต้องยอมรับความเสี่ยงต่ออันตรายต่อชีวิตมาหลายครั้งต่อหลายครั้ง และเวลา ความตายไม่เคยคอยใคร (ทุกขณะจิต) เวลาที่เหลือเอามาปฏิบัติเพื่อหวังการพ้นทุกข์ดีกว่า

ต่อมาพอเริ่มมามารู้จักแนวทางการปฏิบัติตามแนวทางของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ในเริ่มต้นก็เริ่มหันมาเดินทางไปไหว้พระที่นั่น ที่นี่ พอดีมีคนนำหนังสือตามรอยพระพุทธบาทมาให้เล่มหนึ่ง จิตใจมันโลดแล่น (คงเป็นวิสัยเก่าที่เราต้องมาทำในชาตินี้ด้วย) เลิกเที่ยวแบบธรรมชาติและการสำรวจ มาเดินทางตามรอยพระพุทธบาท ทั้งสถานที่ที่ไปง่าย ๆ และไปลำบากต้องเดินทางเท้า เดินทางข้ามเขาหลาย ๆ ลูกก็มี แต่ก็อิ่มใจ รู้สึกเหนื่อยกายบ้าง แต่ก็มีกำลังใจเพราะติดบุญอยู่ แต่จิตมันก็ยังฟุ้งซ่านในการคิด วางแผน และการลงมือกระทำ
(เดินทางไปทำความสะอาดรอยพระพุทธบาท ปิดทองคำเปลวแท้ ร่วมทำบุญในที่ต่าง ๆ ) และตอนหลังก็มาติดไหว้พระบรมธาตุเก่า ๆที่มีความสำคัญ (ไปมาเยอะมาก ๆ จนในที่สุดที่บ้านของตัวเองก็มีบูชา จะเดินทางไปให้เหนื่อยทำไม)
แต่เริ่มพบครูบาอาจารย์ที่ท่านสอนเราได้อย่างจริง ๆ เวลาเดินทางไป ก็จะอธิษฐานตามท่าน คือขอพ้นทุกข์ในชาตินี้ทุกครั้ง

มาตอนนี้เหมือนสิ่งที่ทำมามันเต็มหัวใจแล้ว ก็เคารพและกราบไหว้เหมือนเคย เริ่มจะรู้สึก เฉย ๆ ไม่ฟุ้งซ่านในบุญที่อยู่นอกกายกับจิต จนเกินพอดีเหมือนแต่ก่อน

ปัจจุบันจึงมาเน้นฟังธรรมและปฏิบัติ เดินทางตามที่จำเป็นบ้างเท่านั้น จะพยายามยึดความพอดีให้มากกว่าเมื่อก่อน ในการตามพระอาจารย์ไปบำเพ็ญกุศล และสงเคราะห์สาธารณประโยชน์
มาคิดว่าเมื่อเราประมาทในความตายมากนัก ถ้าตายตอนนั้นคงไม่ถึงพระนิพพาน (ติดบุญมากเกินไปคงเป็นเทวดารักษาสถานที่นั้น ๆ ถ้ามีจิตเศร้าหมองคงลงอบายภูมิเป็นแน่)

การประมาทในความตายเท่ากับประมาทในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ เน้นให้เราปฏิบัติที่กายกับจิตของเราเอง ที่ผ่านมาจิตส่งออกไปมาก แต่ตราบใดที่ยังไม่พ้นทุกข์เพียงใด เราก็ต้องจะติดบุญไว้ก่อน แต่เราไม่เกาะ เราทำเพื่อพ้นทุกข์อย่างเดียวเท่านั้น รักษากายไว้บ้างตามสมควรในทางสายกลาง เพื่อปฏิบัติธรรมให้พ้นดี พ้นเลว ให้ถึงที่สุดของการพ้นทุกข์ดีกว่า

จึงขอนำเรื่องนี้มาเล่าดังนี้ครับ เพื่อประกอบกับพระธรรมข้างต้นครับ
(ใครที่ยังมีจริตวิสัยดังที่กล่าวมาในอดีตของผม ถ้าหวังพ้นทุกข์ในชาตินี้ แนะนำให้อธิษฐานลาพุทธภูมิบ่อย ๆ จนเต็มหัวใจ)เพื่อให้การปฏิบัติ คล่องตัวและเห็นทุกข์เพื่อละทุกข์มากยิ่งขึ้นครับ)

สิ่งใดที่กล่าวผิดพลาด ในที่นี้ ต้องขอขมาพระรัตนตรัยและท่านผู้ทรงความดีทั้งหลายมา ณ ที่นี้ด้วย

ฅนเมืองพริบพรี 06-10-2009 14:54

ถ้าฝึกจิตไปท่องเที่ยวที่นิพพานได้วันละนิดละน้อย
ก็คงจะดีกว่าไม่น้อย...


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:08


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว