กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=20)
-   -   ไปทัวร์นรกกัน วันละ ๒ ขุม (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1143)

วาโยรัตนะ 09-12-2009 08:55

ว่าแต่"ทิดตู่"รับจัดทัวร์หรือเปล่าครับ ขอแบบทัวร์เหมา สามวันสองคืน

ทิดตู่ 09-12-2009 14:29

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตาตั้ม (โพสต์ 27375)
พี่ทิดครับ ขอทราบรายละเอียด "โลกันตนรก" ครับ ไม่ทราบว่านรกขุมนี้นั้นต้องทำความผิดแบบไหนครับ ที่สงสัยเพราะว่าขนาดเทวทัตยังอยู่แค่อเวจีมหานรกเอง (ไม่ได้สงสัยเพื่อเตรียมตัวไปอยู่เองหรอกครับ อิอิ) และพอมีตัวอย่างผู้ที่เราพอจะรู้จักกันที่ยังอยู่ที่โลกันตนรกหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ

อยากลงไปอยู่นรกเย็น ๆ ก็ต้องทำความเลวแบบใจ (เลือด) เย็น ๆ ครับ
โลกันตนรก เป็นสถานที่รองรับสัตว์นรกจำพวกคนเนรคุณ อกตัญญู ทุบตีเบียดเบียนพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ทำบาปเป็นนิตย์ในชนิดที่เรียกว่าอาจิณกรรม บิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ตนเองเป็นมิจฉาทิฐิไม่เพียงพอ ไปหลอกล่อบุคคลอื่นให้เป็นมิจฉาทิฐิ คือมีความเห็นผิดมืดบอดไปด้วย
ทั้งหมดนี้ ทำไปโดยไม่รู้สึกละอายแก่ใจ ไร้ซึ่งหิริ และโอตตัปปะ
ด้วยการทำความเลวแบบใจเย็นเช่นนี้ จึงต้องไปเสวยทุกข์ในสถานที่มืดเย็นอย่างโลกันตมหานรก ซึ่งเป็นนรกที่ต้องรับทุกข์อย่างแสนสาหัส สิ้นกาลนาน
-ส่วนมีใครที่เรารู้จักบ้างที่ตายไปแล้วไปอยู่ที่ขุมนั้น อันนี้ไม่ขอพยากรณ์ ขอให้สังเกตปฏิปทาในยามที่เขามีชีวิตอยู่ก็แล้วกัน ว่าเป็นคนอกตัญญูไม่รู้คุณ ทำบาปเป็นอาจิณกรรม เป็นมิจฉาทิฐิ บิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ทำให้บุคคลอื่น ๆ เป็นมิจฉาทิฐิไปด้วยหรือเปล่า ถ้าใช่ โดยส่วนตัวผมว่า อย่างไรก็ไม่พ้น บุคคลทำกรรมเช่นไร ย่อมได้รับผลของกรรมเช่นนั้นครับ

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วาโยรัตนะ (โพสต์ 27377)
ว่าแต่"ทิดตู่"รับจัดทัวร์หรือเปล่าครับ ขอแบบทัวร์เหมา สามวันสองคืน

ไว้จะเชิญทิดรัตน์ลงไปเป็นไกด์นะครับ :onion_eiei:

ครูวพิตร์ 03-08-2010 11:22

คุณทิดตู่ค่ะ สวัสดีแบบไทยก่อนนะคะ ดิฉันยังไม่ได้เป็นชาวพุทธเต็มตัว คือเป็นพุทธในทะเบียนบ้าน เพราะพ่อแม่ใส่ให้ เติบโตขึ้นมาแบบคนที่ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองยังไม่ได้พิสูจน์ชัดด้วยตนเอง จึงจัดตนเองเป็นคนยังไม่มีศาสนา แต่ศรัทธาคำสอนในการปฏิบัติเพื่อความสงบสุขของพระพุทธเจ้ามาก และคำสอนดี ๆ ของลัทธิอื่น ๆ ในหลาย ๆ ข้อด้วย มีความอยากนะที่จะเป็นคนดีและมีความสุขและเป็นประโยชน์กับสรรพสิ่ง สิ่งที่ข้องใจมากที่สุดเกี่ยวกับศาสนาพุทธคือ เรื่องสวรรค์และนรกค่ะ คือดิฉันยังไม่เชื่อค่ะว่ามีจริง ๆ ทราบแล้วว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมากที่สุดของชาวพุทธ แต่จะพิสูจน์อย่างไรได้ และคำบอกเล่าของผู้อื่น ๆ ดิฉันก็เคารพนะคะ แต่อย่างไรก็ยังไม่เชื่อ ( ด้วยความเคารพค่ะ ) และเรื่องสวรรค์นรกนี่เองที่ทำให้ดิฉันไม่กล้าบอกว่าตนเองเป็นชาวพุทธ เพราะยังไม่เชื่อ มีคำถามดังนี้ค่ะ

๑. มีวิธีพิสูจน์เรื่องนี้ว่ามีจริงหรือไม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง
๒. ดิฉันเชื่อเรื่องผีแล้ว เคยไม่เชื่อมาก่อนแต่เคยประสบแล้วด้วยตนเองจึงเชื่อ และยังมีข้อสงสัยอีกมากในเรื่องนี้
๓. โลกของผี เปรต นรก สวรรค์ มนุษย์ต่างดาว อยู่คนละมิติใช่หรือไม่
๔. ดิฉันเชื่อว่าในดวงดาวอื่น ๆ ที่ห่างไกลโลก ( หรืออาจใกล้แต่ต่างมิติ) มีแน่นอนและมีมนุษย์ต่างดาวหลากหลายสายพันธุ์ในดาวต่าง ๆ ด้วย และนรกนี้ เป็นสถานที่รองรับการทำโทษกับมนุษย์โลกเท่านั้นหรือค่ะ มนุษย์จากดาวดวงอื่น เป็นอย่างไร มีสวรรค์หรือนรกขุมอื่น สำหรับพวกเขาหรือไม่
๕. มนุษย์โลกที่ไม่ใช่ชาวพุทธ ต้องร่วมนรกหรือสวรรค์เดียวกับชาวพุทธหรือไม่

หากคุณทิดตู่จะกรุณาตอบก็จะเป็นพระคุณ หากตอบไม่ได้ดิฉันคงต้องเก็บข้อสงสัยไปถามผู้อื่นต่อไป เพราะเป็นคำถามแห่งชีวิตของดิฉัน

ขอพระขอบคุณล่วงหน้าในความกรุณาค่ะ

ครูวพิตร์

บทเพลงใบไม้ร่วง 03-08-2010 12:57

แล้วมีปัจจัยใดที่จะทำให้สัตว์นรกหมดอายุขัยลงก่อนกำหนดวาระบ้างไหมครับ ถ้าไม่มีแสดงว่าท่านใดลงนรกแล้วก็ต้องอยู่จนครบวาระทุกท่านอย่างนั้นหรือครับ
แล้ว ๑ วินาทีในนรก กับ ๑ วินาทีบนโลกมนุษย์ เข็มวินาทีกระดิกเท่ากันไหมครับ ถ้าตรงกันเราเอานาฬิกา ๒ เรือนไปทดสอบให้ท่านทิดจับเวลาดูสมมุติท่านทิดจับเวลาอยู่ที่ขุมนรกแค่ ๑ นาที แล้วให้อีกคนจับเวลาอยู่บนโลกมนุษย์ ๑ นาทีเท่ากันแล้วลองท่านทิดตู่โทรมาบอกว่าครบ ๑ นาทีในนรกแล้ว แล้วคนที่อยู่บนโลกมนุษย์มันจะเป็นสภาพอย่างไรครับตอนนั้น

คนเก่า 03-08-2010 15:09

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ทิดตู่ (โพสต์ 27418)
อยากลงไปอยู่นรกเย็น ๆ ก็ต้องทำความเลวแบบใจ (เลือด) เย็น ๆ ครับ
โลกันตนรก เป็นสถานที่รองรับสัตว์นรกจำพวกคนเนรคุณ อกตัญญู ทุบตีเบียดเบียนพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ทำบาปเป็นนิตย์ในชนิดที่เรียกว่าอาจิณกรรม บิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ตนเองเป็นมิจฉาทิฐิไม่เพียงพอ ไปหลอกล่อบุคคลอื่นให้เป็นมิจฉาทิฐิ คือมีความเห็นผิดมืดบอดไปด้วย
ทั้งหมดนี้ ทำไปโดยไม่รู้สึกละอายแก่ใจ ไร้ซึ่งหิริ และโอตตัปปะ
ด้วยการทำความเลวแบบใจเย็นเช่นนี้ จึงต้องไปเสวยทุกข์ในสถานที่มืดเย็นอย่างโลกันตมหานรก ซึ่งเป็นนรกที่ต้องรับทุกข์อย่างแสนสาหัส สิ้นกาลนาน
-ส่วนมีใครที่เรารู้จักบ้างที่ตายไปแล้วไปอยู่ที่ขุมนั้น อันนี้ไม่ขอพยากรณ์ ขอให้สังเกตปฏิปทาในยามที่เขามีชีวิตอยู่ก็แล้วกัน ว่าเป็นคนอกตัญญูไม่รู้คุณ ทำบาปเป็นอาจิณกรรม เป็นมิจฉาทิฐิ บิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ทำให้บุคคลอื่น ๆ เป็นมิจฉาทิฐิไปด้วยหรือเปล่า ถ้าใช่ โดยส่วนตัวผมว่า อย่างไรก็ไม่พ้น บุคคลทำกรรมเช่นไร ย่อมได้รับผลของกรรมเช่นนั้นครับ



ไว้จะเชิญทิดรัตน์ลงไปเป็นไกด์นะครับ :onion_eiei:

จากกระโถนข้างธรรมาสน์
...
....
ถาม : ปัจจุบันยังมีคำสอนของพระพุทธองค์ที่อธิบายว่า นิพพานัง ปรมัง สุญญัง-นิพพานมีสภาพสูญ ต้องการพระนิพพานเพื่อเข้าสู่ความดับ สูญของวิญญาณ ในขณะเดียวกันก็มีผู้ฟังและผู้ศึกษาเข้าใจว่าเป็นแบบ นั้น คนที่เข้าใจผิดมีผลเสียอะไรหนักหรือไม่?

ตอบ : อันนั้นถือว่าเป็นมิจฉาทิฐิ ถ้าหากว่าตายจะมีอเวจีเป็นที่ไป เท่าที่ อาตมามีประสบการณ์เห็นคนที่สอนอย่างนี้ลงโลกันตร์ไปเลย ตอนแรก ก็สงสัยเพราะว่าโลกันตร์ที่โทษมันหนักหนาสาหัสมาก โอกาสที่คนจะลง มีน้อยมาก แต่วันนั้นลงไปบังเอิญเจออาจารย์ใหญ่ท่านไปอยู่ที่นั้น ก็ ถามว่าทำไมถึงลงโลกันตร์เพราะว่าโทษมันหนักเหลือเกิน มัน ๔ เท่าของอเวจีถึงลงโลกันตร์ได้ ท่านบอกว่าท่านสอนคนเป็นมิจฉาทิฐิ คนเป็นต้องตกอเวจีมหานรก กว่าจะไล่ครบทุกขุมตามกรรมที่เคยทำมา กว่าจะเป็นเปรต กว่าจะเป็นอสุรกาย กว่าจะเป็นสัตว์เดรัจฉาน กว่าจะเกิดเป็นคน มันนานเหลือเกิน ทำคนให้ห่างความดีได้เนิ่นนานขนาดนั้นและจำนวนมากขนาดนั้น โทษของเขาเลยหนักกลายเป็นลงโลกันตร์ไปเลย อันนี้ เป็นนิทานเฉย ๆ เล่าให้ฟังไปคุยมา ใครสอนว่านิพพานสูญก็ระวังไว้เถอะ
...
...

เถรี 03-08-2010 18:33

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บทเพลงใบไม้ร่วง (โพสต์ 52015)
แล้ว๑วินาทีในนรก กับ๑วินาทีบนโลกมนุษย์ เข็มวินาทีกระดิกเท่ากันมั้ยครับ ถ้าตรงกันเราเอานาฬิกา๒เรือนไปทดสอบให้ท่านทิดจับเวลาดูสมมุติท่านทิดจับเวลาอยู่ที่ขุมนรกแค่๑นาที แล้วให้อีกคนจับเวลาอยู่บนโลกมนุษย์๑นาทีเท่ากันแล้วลองท่านทิดตู่โทรมาบอกว่าครบ๑นาทีในนรกแล้ว แล้วคนที่อยู่บนโลกมนุษย์มันจะเป็นสภาพยังไงครับตอนนั้น

:9bbc76d5: ไหม , อย่างไร , เว้นวรรคหน้าและหลังตัวเลขด้วยค่ะ
เถรีกำลังคิดว่า ถ้าพี่ทิดตู่ตอบคำถามนี้ คงเก่งยิ่งกว่าพระโมคคัลลานะ ที่ท่องเที่ยวนรกสวรรค์เป็นปกติแล้วค่ะ

มุนินา 03-08-2010 20:40

สำหรับคำถามของคุณ บทเพลงใบไม้ร่วง
ในข้อแรกที่ ๑ ดิฉันแนะนำให้คุณลองอ่านจากกระทู้นี้ค่ะ
http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=1176
อาจจะพอเป็นคำตอบได้:l43841274qn5:
อ่านข้อความที่ ๔ ด้วยนะคะ

ส่วนคำตอบข้อที่ ๒ ที่คุณได้ถามคุณทิดตู่
ดิฉันขออนุญาตแนะนำให้คุณลองไปหาหนังสือ
"ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" มาอ่านดูค่ะ:msn_smileys-16:

ดิฉันไม่ได้หมายความว่าหนังสือเล่มนี้บอกทฤษฎีของเวลาถูกต้อง
แต่อ่านไว้เป็นความรู้ติดตัวก็ไม่เสียหลายค่ะ

ทิดตู่ 03-08-2010 21:10

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี (โพสต์ 52052)
:9bbc76d5: ไหม , อย่างไร , เว้นวรรคหน้าและหลังตัวเลขด้วยค่ะ
เถรีกำลังคิดว่า ถ้าพี่ทิดตู่ตอบคำถามนี้ คงเก่งยิ่งกว่าพระโมคคัลลานะ ที่ท่องเที่ยวนรกสวรรค์เป็นปกติแล้วค่ะ

ตอบได้ตามตำรา อย่างนางฟ้าบริวารของมาลาการเทพบุตร ที่จุติไปเกิดเป็นมนุษย์ผู้หญิงในขณะที่กำลังเที่ยวชมสวนกันอยู่บนสวรรค์
พอเกิดมา เธอระลึกชาติได้ว่าจุติมาจากความเป็นนางฟ้า ถึงเวลาทำบุญก็เฝ้าแต่อธิษฐานว่า ขอให้ได้เกิดในคณะของมาลาการเทพบุตรเหมือนเดิม จนสิ้นระยะเวลา ๕๐ ปี เธอก็ตายลง แล้วก็ไปจุติบนสวรรค์ ในสวนที่เธอจุติลงไปเป็นมนุษย์
มาลาการเทพบุตร พอเห็นหน้าจึงได้ถามกับนางฟ้าองค์นี้ว่า
"นี่เธอ เธอหายไปเที่ยวที่ไหนมาตั้งครึ่งวัน!!!"
เรื่องนี้มีมาในพระไตรปิฎกจ้ะ

คนเก่า 04-08-2010 10:07

พระพุทธศาสนาตั้งอยู่บนรากฐานความเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด มีผีสางเทวดาและภพภูมิต่าง ๆ เป็นปกติอยู่แล้วครับ

คนที่ไม่มั่นใจ หรือไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็เท่ากับไม่ใช่ชาวพุทธ หรือยังไม่เป็นพุทธศาสนิกชนเต็มตัว เฉกเช่นชาวคริสต์ที่หากไม่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ในพระบุตร หรือคัมภีร์ไบเบิ้ลก็ย่อมไม่ใช่ชาวคริสต์

พุทธประวัติให้ความชัดเจนหลายช่วงหลายตอนในเรื่องภพชาติและผีสางเทวดา เช่น ตั้งแต่ก่อนเสด็จเข้าสู่พระครรภ์พระมารดา พระบรมโพธิสัตว์ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต เทพเจ้าพากันอาราธนาให้จุติเพื่อตรัสเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ครั้นสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ยังได้เสด็จขึ้นโปรดพระมารดาที่ดาวดึงส์ ซึ่งทรงเป็นเทพบุตรประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดตลอดพรรษา เมื่อเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลกและภพภูมิต่าง ๆ ให้สรรพสัตว์ได้รู้เห็นด้วยตนเอง

หากท่านใดใฝ่ศึกษาจริงและมีวิสัยไม่เชื่อใครง่าย ๆ ขอแนะนำให้อ่านพระไตรปิฎกก่อนเลยครับ ก่อนที่จะถกเถียง ซักค้าน ซักฟอกเอากับผู้ใด จะได้รู้ชัดกับตนเองก่อนว่าหลักฐานชั้น ๑ ของพระพุทธศาสนาที่สืบทอดมานานกว่า ๒,๕๐๐ ปี อันเป็นรากฐานของพระพุทธศาสนานั้น แสดงไว้อย่างไรบ้าง

ความเป็นไปและธรรมชาติของพรหมเทพ มนุษย์โลกอื่น ตลอดถึงศาสตร์ต่าง ๆ แม้กระทั่งนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ก็มีอยู่ในพระไตรปิฎกอย่างหาจากศาสนาอื่นไม่ได้ หากใฝ่รู้จริงจงไปหาดูเอาเองเถิด จะได้ชัดเจนแก่ตน

ทุกเนื้อหาทุกเรื่องในพระไตรปิฎกนั้นสามารถพิจารณาพิเคราะห์ไล่เรียงเหตุและผลได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องถามจากผู้ใด เพราะพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งเหตุและผล เป็นศาสนาเดียวในโลกที่ท้าทายการพิสูจน์ บอกไว้ชัดว่าไม่ต้องเชื่อในทันที และไม่มีการขู่ว่าจะมีโทษเหมือนศาสนาอื่นด้วย

หากใจร้อนซักไซ้จะเอาความจริงกับตัวบุคคล ย่อมยากที่จะได้ความรู้โดยสมบูรณ์ เพราะบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่พระพุทธองค์ จึงย่อมไม่สามารถหยิบยกข้อธรรมมาอธิบายให้กระจ่างแจ้งได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่พระไตรปิฎกเปรียบไว้ว่า "ดังพลิกภาชนะที่คว่ำอยู่ให้หงายขึ้น"

จึงอาจเป็นโทษแก่ตัวผู้ถามเอง เพราะอาจนึกปรามาสจากการอนุมานเอาจากการตอบคำถามของแต่ละบุคคลนั้น ๆ แล้วตู่ว่าพระสัทธรรมพิสูจน์ไม่ได้

ฉะนั้นผู้ใฝ่รู้ความจริงในพระธรรมย่อมต้องค่อย ๆ ศึกษาพิเคราะห์หาความจริงด้วยตนเองโดยอิทธิบาทสี่ อันเป็นพระสัทธรรมหรือความจริงอันปฏิเสธไม่ได้ที่พระพุทธศาสนาแสดงไว้อย่างชัดเจนและหาในศาสนาอื่นไม่ได้เช่นกัน

ครูวพิตร์ 04-08-2010 11:55

วพิตร์ถึงท่านคนเก่า
 
ขอกราบขอบพระคุณท่านคนเก่าเป็นอย่างสูงในคำตอบค่ะ เชื่อว่าท่านเป็นผู้แตกฉานท่านหนึ่ง ดิฉันตั้งใจอยู่แล้วว่าต้องศึกษาพระไตรปิฎกให้ได้ เชื่อว่าคงมีในเน็ตค่ะ

มีข้อสงสัยด่วน ๆ อยู่ข้อหนึ่งคือ จากหลักฐานพบว่าเมื่อประมาณ ๖๕ ล้านปีไดโนเสาร์เริ่มสูญพันธุ์บนโลกมนุษย์ นั่นหมายถึงมนุษย์เรายังดำรงเผ่าพันธุ์ยังไม่ถึง ๑๐๐ ล้านปี เมื่อคำนวณกับเวลาในนรกและสวรรค์แล้ว เห็นว่าคนส่วนมาก (เท่าที่เห็นบาปกันทั้งนั้น)ไปแล้วน่าจะกลับมาเกิดได้ยาก แต่ทำไมเราได้ยินบ่อยมากเรื่องคนระลึกชาติได้ว่าเคยเกิดในชาติโน้นชาตินี้

เรื่องนี้มีอธิบายในพระไตรปิฏกหรือไม่ค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

คนเก่า 04-08-2010 12:12

พระไตรปิฎกกล่าวถึงธรรมชาติอันเป็นวงวัฏฏะของสรรพสิ่ง ผมจึงมั่นใจว่าโลกมีเกิด มีเจริญ มีเสื่อม และดับ วนเวียนเช่นนี้มานับรอบไม่ถ้วนแล้ว วิทยาศาสตร์เพียงเริ่มพิสูจน์ได้แค่เศษเสี้ยวของสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เท่านั้นครับ

หากเคยเรียนนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ก็จะยิ่งชัดเจนในพระสัทธรรมข้อนี้ เพราะวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็เพิ่งค้นพบว่าหน่วยย่อยสุดของสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสสารหรือพลังงานก็ล้วนมีคุณลักษณะที่เป็นอนิจจัง เป็นวงกลม วนเวียนไปเรื่อย ๆ

จึงไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดนักวิทยาศาสตร์นาซ่าอย่างอาจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย และอาจารย์ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ จึงหมอบราบคาบแก้วกับพระพุทธศาสนาอย่างสิ้นสงสัย

ส่วนคำถาม ไม่อยากตอบครับ ดังที่ชี้แจงเหตุผลไว้ข้างต้น ขอให้ไปอ่านพระไตรปิฎกก่อนเถิด หากสงสัยประการใด ค่อยหยิบยก อ้างอิงเนื้อความนั้น ๆ ในพระไตรปิฎกมาถามกัน


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว