กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   บุคคลตาบอดที่โด่งดังที่สุดในธรรมบท (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=817)

เถรี 06-08-2009 11:59

บุคคลตาบอดที่โด่งดังที่สุดในธรรมบท
 
คนตาบอดที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในธรรมบทคือใคร ? พระจักขุบาลเถระ

พระจักขุบาลเถระเมื่อบวชแล้ว ในพรรษานั้นท่านตั้งใจปฏิบัติเนสัชชิกังคธุดงค์ ก็คืออธิษฐานนั่งโดยไม่นอน คราวนี้ด้วยแรงกรรมในอดีตที่ท่านเคยทำไว้ ปรากฏว่ากลางพรรษาเกิดเจ็บตาขึ้นมา ก็ไปหาหมอ สมัยนั้นมีหมอรักษาตาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ใครได้ยารักษาไป หยอดตาครั้งเดียวหาย แต่แปลกตรงที่ยานี้ให้หยอดเข้าทางจมูก

พระจักขุบาลพอได้ยาไปก็ไม่ยอมนอนหยอด ท่านนั่งหยอด เมื่อนั่งหยอดยาก็ไหลออกหมด เมื่อยาหมดก็ไปบอกหมอ
หมอถามว่า "พระคุณเจ้าไม่ได้หยอดยาใช่หรือไม่ ?"
ท่านก็บอกว่า "หยอด"

หมอบอกว่า "ยาของกระผมหยอดครั้งเดียวก็หายแล้ว"
พระจักขุบาลก็ยืนยันว่าหยอด

หมอจึงถามต่อว่า "ถ้าอย่างนั้นพระคุณเจ้าได้นอนหยอดหรือเปล่า ?"
พระจักขุบาลก็เงียบ หมอเขารู้ที บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นผมขอบอกคืนการรักษา (คำว่าบอกคืนการรักษา คือไม่รักษาแล้ว) แล้วพระคุณเจ้าอย่าไปบอกใครว่ามารักษากับผมแล้วไม่หาย"
เพราะหมอเขามั่นใจในฝีมือมากว่าหยอดครั้งเดียวแล้วก็หาย

พระจักขุบาลก็ต้องกลับมาตัดสินใจว่า เราจะทำลายสัจจะและความเพียรเสีย ด้วยการยอมละจากการธุดงค์ นอนลงแล้วยอมหยอดยาให้หายดี หรือว่าเราจะยอมสละดวงตา โดยการไม่ยอมนอนแล้วถือธุดงค์ในการนั่งต่อไปดี

ท่านตัดสินใจโดยปุจฉากับกรัชกายของตน ก็คือนั่งรำพึงกับตัวเอง (กรัชกาย ก็คือ ร่างกายอันเน่าเปื่อย) ไม่ได้ปรึกษากับใครหรอก นั่งคิดเอง เออเอง

ท่านตัดสินใจว่า ถ้าหากว่าได้ธรรมแล้ว แม้จะเสียดวงตาไปก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะฉะนั้น..ท่านจะไม่ยอมละซึ่งคำอธิษฐาน ก็ตั้งใจนั่งปฏิบัติต่อไป

เถรี 06-08-2009 12:06

ด้วยแรงกรรมที่เคยทำไว้ เมื่อพระจักขุบาลบรรลุอรหันต์ ตาทั้งสองข้างก็แตกพร้อมกันพอดี เมื่อท่านเป็นอรหันต์แล้ว ก็ยังไม่มีใครรู้ ท่านก็ยังรักษากำลังใจด้วยการเดินจงกรมภาวนาอยู่

พอดีฝนตก พวกแมลงเม่าก็บินออกมาเพื่อจะผสมพันธุ์ รูก็อยู่ตรงทางที่ท่านเดินจงกรม ท่านเดินเหยียบตายจนเกลื่อน พระที่เป็นปุถุชนก็ไปโจษจันท่านว่า เป็นพระผู้ใหญ่เสียเปล่า แต่ยังฆ่าสัตว์อยู่ ไม่สมควรจะเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าพอได้ยินก็เสด็จไปยังโรงธรรม พระทั้งหลายพอเห็นพระพุทธองค์เสด็จมา ก็ทูลเชิญให้นั่งบนอาสนะที่ตั้งไว้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ภิกฺขเว ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอกล่าวถึงเรื่องอะไรกันอยู่ ? พระทั้งหลายกราบทูลถึงเรื่องที่พระจักขุบาลเดินจงกรม เหยียบแมลงเม่าตายเป็นจำนวนมาก พระพุทธเจ้าตรัสว่าพระจักขุบาลเถระหลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งปวงแล้ว ไม่ได้มีเจตนาที่จะเบียดเบียนสัตว์อื่น แต่ว่าตาของท่านทั้งสองข้างแตกแล้วในขณะที่บรรลุอรหัตผล เดินจงกรมทั้งที่มองไม่เห็น จึงเหยียบแมลงตาย ไม่ได้มีเจตนาตัดชีวิตศัตว์

พระทั้งหมดเพิ่งจะรู้ว่า พระจักขุบาลเถระเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านยอมสละดวงตาทั้งสองข้างเพื่อแลกกับธรรมะที่ต้องการ ไม่ยอมเสียสัจจะที่ได้อธิษฐานได้ตั้งแต่ต้นพรรษา บาลีว่าเนสัชชิกังคธุดงค์ ต้องนั่งโดยไม่นอน ถ้าหากหลังพิงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถือว่าขาด อันนั้นคือเคร่ง แต่ถ้าคนที่ไม่เคร่ง ถ้าเอนตัวถึงพื้นถือว่าขาด

ถ้าใครเรียนบาลี ในธรรมบทจะต้องแปลเรื่องพระจักขุบาลเป็นเรื่องแรกเลย อย่างไรก็ต้องเจอแน่นอน ดังนั้นแล้วบุคคลที่พิการ ที่ไม่มีดวงตาหรือเสียดวงตาไป ในธรรมบทที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็เป็นพระจักขุบาลเถระ ถัดจากนั้นไปก็เป็นฤๅษีสองสามีภรรยา ที่เป็นพ่อแม่ของสุวรรณสามโพธิสัตว์นั่น โดนงูพ่นพิษใส่ตา แล้วตาบอด


เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
๑ สิงหาคม ๒๕๕๒


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:07


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว