กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=43)
-   -   ให้เลิกบ่น เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2003)

ลัก...ยิ้ม 23-07-2010 14:41

ให้เลิกบ่น เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ
 
ให้เลิกบ่น เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ


เมื่อวันพุธที่ ๒๐ ก.ค. ๒๕๓๖ สมเด็จองค์ปฐม ทรงเมตตามาสอนให้ดังนี้

๑. ให้เลิกบ่น เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ (เพื่อนผมท่านคิดว่า น่าจะให้คุณหมอคอยเตือนด้วยเวลาบ่น) หลวงพ่อก็มาบอกว่า เอ็งมันต้องเตือนตัวเอง มันถึงจะจำ ไปให้คนอื่นเขาเตือน จิตมันไม่จำหรอก ทุกอย่างต้องพึ่ง อัตตนา โจทยัตตานัง เตือนตนเองทั้งนั้น อารมณ์ของตนมันชั่ว หยุดไว้ไม่อยู่ แล้วใครที่ไหนจะมาช่วยหยุดได้

๒. ทรงตรัสว่า "ในเมื่อเจ้ากำหนดรู้ได้ว่า อารมณ์ใดเป็นอารมณ์ที่ตกเป็นทาสของนิวรณ์เข้ามารบกวน ก็จงหมั่นระงับนิวรณ์นั้น ในทุกครั้งที่กำหนดรู้ว่ามีอารมณ์ ในขณะจิตนั้นลงด้วยเถิด"

๓. ต้องทำการระงับให้บ่อย ๆ จักได้มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ของจิต ที่ตกเป็นทาสของนิวรณ์เข้ารบกวน ระงับได้มากเท่าไหร่ ผลของการปฏิบัติจักได้มากขึ้นเท่านั้น

๔. อารมณ์ใดที่เกิดกับจิต เจ้าต้องหมั่นกำหนดรู้ อย่าคิดปล่อยอารมณ์ไป โดยคิดว่าไม่เป็นไร นั่นคือการประมาทในธรรมโดยแท้

๕. โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์หลง ที่คิดว่าไม่เป็นไร เรายังจักไม่ถึงที่ตาย แล้วเที่ยวส่งจิตไปว่าคนนั้นคนนี้ ตำหนิกรรมของผู้อื่นไปตามความไม่ชอบใจ สรรเสริญคนโน้นทีไปยุ่งก้าวก่ายกับกฎของกรรมของผู้อื่น

ลัก...ยิ้ม 28-07-2010 09:43

๖. มัวแต่มีอารมณ์ยินดียินร้ายในกรรมของบุคคลอื่น ทำให้เสียผลของการปฏิบัติ เขาดีหรือเขาเลวก็ไม่ได้มาช่วยให้จิตของเจ้าดีขึ้น ถ้าหากละเลยไม่สนใจผลของการปฏิบัติ มัวแต่มองผลของกรรมของบุคคลอื่น สังขารุเบกขาญาณก็เกิดขึ้นได้ยาก

๗. อย่าลืม อารมณ์ใครก็ไม่สำคัญ สำคัญที่อารมณ์จิตของเรา พยายามดูอารมณ์ของตนเองเข้าไว้เป็นสำคัญ

๘. อารมณ์คนอื่นดูแล้ว ละไปจากอารมณ์ของเราโดยเร็ว ให้ลงตัวปกติในธรรมของบุคคลนั้นๆ อย่าใช้อารมณ์ของเราเข้าไปปรุงแต่งธรรม มันจักทำให้อารมณ์จิตของเราเสีย ทำให้เกิดอารมณ์ตำหนิกรรม ไม่มากก็น้อย

๙. จงระมัดระวังให้มาก ดูอารมณ์จิตตรงนี้เอาไว้ให้ดี ๆ ที่เอาดีกันไม่ค่อยจักได้ ก็เพราะมัวแต่สนใจอารมณ์ของบุคคลอื่นนี่แหละ

๑๐. ขาดอุเบกขารมณ์เป็นสำคัญ พรหมวิหาร ๔ ขาดตัวปลายอีก ๓ ตัว กำลังก็ยังอ่อน เจ้าจงหมั่นพยายามเจริญพรหมวิหาร ๔ ให้มาก ไม่ใช่ท่องจำ ต้องหมั่นเอามาคิดพิจารณาทุกครั้งที่จิตเสวยอารมณ์ที่เบียดเบียนตนเอง ต้องรู้ด้วย-จำด้วย และทำด้วยในพรหมวิหาร ๔ อย่าจำแค่ตัวหนังสือ จักหาผลได้ยาก พรหมธรรมทำไม่ได้ ก็เป็นพระอนาคามีไม่ได้ จักหวังอะไรกับพระอรหัตผล

๑๑. จงหมั่นทำไป อย่าละความเพียร และห้ามบ่นท้อแท้ด้วย กิเลสมันไหลออกมาทางวาจา ยิ่งบ่นยิ่งเพิ่มอารมณ์ จักมีประโยชน์อันใด เลิกจริยานี้เสียที

ลัก...ยิ้ม 28-07-2010 09:44

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:09


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว