กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   สนุกสนานวุ่นวายในเนปาล (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=62)
-   -   สนุกสนานวุ่นวายในเนปาล ตอนที่ ๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4594)

สุธรรม 12-09-2015 17:10

สนุกสนานวุ่นวายในเนปาล ตอนที่ ๑
 
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442052602
ทิเบต...บ้านเก่าที่อยากไปเยี่ยมอย่างมาก..!

สนุกสนานวุ่นวายในเนปาล


นิมิตครั้งแล้วครั้งเล่าถึงอดีตชาติที่เคยเกิดเป็นชาวทิเบต ทำให้อาตมาคิดจะไปเยี่ยม “บ้านเก่า” สักครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็หาเวลาไม่ได้ จนกระทั่งอายุได้ ๕๕ ปี ขืนไม่ไปตอนนี้ รอจนอายุมากกว่านี้ อาจจะคลานไปไม่ไหวแล้วก็เป็นได้ จึงต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด...

ขอให้น้องเก๋ (กมลา สุวรรณธรรมา) ช่วยติดต่อหาบริษัทนำเที่ยว ที่ยอมจัดกลุ่มการท่องเที่ยวขนาดเล็กให้ แต่ก็ยังมีปัญหาว่า ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมน่าจะเป็น “โรคแพ้พื้นที่สูง” กันทั้งนั้น มีผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ถึงจะนั่งรถไฟสายชิงไห่ – ทิเบตไปจากจีน ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะในรถไฟเป็นเครื่องปรับอากาศ ร่างกายจึงไม่ได้ปรับไปตามระดับความสูงเลย...

หลังจากหาข้อมูลอยู่นาน น้องเก๋ก็ติดต่อบริษัท Adventure Geo Treks (P) Ltd. ของคุณ Niru Rai แห่งเนปาล ที่เสนอการขับรถจากเนปาลเข้าไปในทิเบต เป็นการค่อย ๆ ปรับร่างกายไปในตัว ส่วนขากลับเป็นการนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ซึ่งรับจัดกลุ่มท่องเที่ยวขนาดเล็ก ๕ – ๖ คนให้ด้วย...

สุธรรม 13-09-2015 01:16

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442081723
ไม่ให้เจ้าของบ้านไปด้วยคงไม่ได้ตายดีเป็นแน่แท้..!

ปัญหาต่อไปก็คือ คุณนีรูเสนอตารางให้แวะที่เอเวอเรสต์เบสแคมป์ ซึ่งทางเราไม่ได้สนใจตรงนั้น จึงต้องมีการต่อรองเพื่อปรับเปลี่ยนตารางและราคากันขนานใหญ่ ซ้ำยังแก้ไขไปถึงสถานที่พักและอาหารด้วย กว่าจะลงตัวคาดว่าคุณนีรูคงจะกุมขมับไปหลายรอบ...

ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือการจัดกลุ่มเที่ยวขนาดเล็ก แต่คนต้องการไปมีเป็นร้อย..! จึงต้องเอาคนใกล้ตัวไปก่อน ประกอบด้วยป้ามอย (มณีวรรณ สัมฤทธิ์) แม่ป๋อม (กนกวลี วิริยประไพกิจ) น้องเล็ก (จิราพร ซื่อตรงต่อการ) น้องเก๋และลูกปุ๊ก (สุมาลี ตีรเลิศพานิช) ซึ่งมีบางท่านทักท้วงว่า ทำไมต้องเป็นกลุ่ม “นรกแตก” นี้ด้วย ตอบว่าเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของอาตมาเอง..!

ป้ามอยนั้น อาตมาดึงตัวมาให้เป็น “คุณแม่บ้าน” ช่วยดูแลบ้านวิริยบารมี ต้องเสี่ยงชีวิตนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปทำงานทุกวัน ตกระกำลำบากอยู่ตั้งสองปีกว่าจึงมีรถไฟฟ้ามาถึงหน้าบ้าน แม่ป๋อมนั้นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเป็นเจ้าของบ้านวิริยบารมีเอง ขืนไม่ให้ไปด้วย อาตมาอาจจะถึงกับไม่มีแผ่นดินจะอยู่..! เรียกว่าระแวงไปเองก็ได้...

สุธรรม 13-09-2015 14:01

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442127643
เสียงส่วนใหญ่ขอลงที่เฉิงตูเพื่อไปไหว้หลวงพ่อโตเขาเล่อซาน

น้องเล็กนั้นอาตมาขอให้ทิ้งการทิ้งงานมาทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัว แต่โดนใช้งานเกินกำลังเกินหน้าที่มาเกือบสิบปีแล้ว น้องเก๋เป็นลูกแม่แอ๊ว (คุณอุไร สุวรรณธรรมา) ซึ่งอาตมากราบแม่แอ๊วเป็นแม่มาตั้งนานนมสมกัลป์ เลยได้ของแถมเป็นยายเก๋น้องตัวแสบมาด้วย ส่วนลูกปุ๊กร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่ก่อนอาตมาจะบวช นับจนวันนี้ก็ตกสามสิบปีเข้าไปแล้ว ถ้าไม่ให้คณะนี้ไปด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะให้ใครไปเหมือนกัน...

กำหนดการเดินทางหลังวันวิสาขบูชา ช่วงแรกเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อม บางคนใช้วิธีเดินขึ้นบันไดที่ทำงาน บางคนเดินขึ้นเขาวัดท่าขนุน บางคนใช้วิธีปั่นจักรยาน น้องเล็กออกกำลังด้วยการสาวพวงมาลัยรถ..! เพราะต้องขับรถให้อาตมาที่ใช้วิธีนอนออกกำลังไปบนคุณพนัสบดี (รถยนต์ที่แม่ป๋อมให้ยืมใช้) เพราะไม่มีเวลาจะไปออกกำลังกับใคร เนื่องจากต้องวิ่งเก็บข้อมูลภาคสนามของการเรียนปริญญาเอก...

น้องเก๋จัดการจองตั๋วเครื่องบินให้ เรื่องนี้ก็มีปัญหาว่า ขากลับจะบินจากลาซามาลงที่ซีอาน หรือจะมาลงที่เฉิงตู เสียงส่วนใหญ่หวังว่าช่วงต่อเครื่องน่าจะมีเวลาให้เที่ยว จึงขอลงที่เฉิงตู เพื่อไปไหว้หลวงพ่อโตเล่อซาน (Leshan Giant Buddha) กันสักครั้ง...

สุธรรม 14-09-2015 03:00

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442174366
เส้นทางแบบนี้เขาคงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงขับรถหรอกน่า..!

แล้วยังมีปัญหาว่า ขาไปจะชมทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยด้วยหรือไม่ ? ถ้าต้องการชมทิวทัศน์เทือกเขาหิมาลัย จะต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ ๓๗๐ บาท ตกลงว่ามีแค่อาตมากับน้องเก๋เท่านั้น ที่เห่ออยากเห็นภูเขาหิมาลัยทั้งเทือก คนอื่นขอประหยัดเงินเอาไว้ซื้อของที่ระลึกดีกว่า..!

ป้ามอยต้องสำรองจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้กับทุกคนไปก่อน เจอหน้าถ้าทวงก็หายกัน..! ขนาดจองตั๋วแบบประหยัดราคาต่ำติดดินแล้ว แต่เส้นทางกรุงเทพฯ – กาฏมาณฑุ, ลาซา – เฉิงตู และเฉิงตู – กรุงเทพฯ ก็ยังต้องจ่ายรวมกันเกือบสามหมื่นบาท ทำเอาบางท่านทำท่าอยากจะถอนตัว แต่เมื่อเห็นผู้ “รอเสียบ” อยู่เป็นร้อยก็เปลี่ยนใจ...

มีบางคนเสนอให้มีผู้ชายติดไปกับคณะสักหนึ่งคน เพื่อคอยดูแลอาตมาและเป็นการป้องกันไม่ให้อาตมาโดนอาบัติ (ศีลขาด) เพราะเดินทางกับผู้หญิงตามลำพัง แต่พอบอกให้สละสิทธิ์เพื่อให้สุภาพบุรุษไปแทนก็หุบปากเงียบทันที อาตมาจึงบอกว่า การเดินทางมีผู้ชายร่วมคณะไปอยู่แล้ว โดยเฉพาะมัคคุเทศก์และพลขับ เขาคงไม่ยอมให้ผู้หญิงมาขับรถบนทางโหดแบบนั้นเป็นแน่แท้...

สุธรรม 14-09-2015 14:53

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442217119
ทางการจีนกลัวว่าอาตมาจะไปเผยแพร่ลัทธิแปลก ๆ ประเภทนี้..!

“หนูเปลี่ยนบริษัทนำเที่ยวแล้วนะคะ คุณนีรูคงทนความงี่เง่าขอปรับโน่นเปลี่ยนนี่ของหนูไม่ได้ เลยไม่ยอมคุยด้วย หนูเลือกบริษัทใหม่เป็นของคนจีน ขอขับรถเข้าทางเนปาลเหมือนเดิม คิดว่าน่าจะไม่โดนเอาไปทิ้งให้เดินกลับกันเอง..!” น้องเก๋รายงานให้ทราบขณะที่มีข่าวว่าการจองตั๋วเครื่องบินผ่านอินเตอร์เน็ตของอาตมาไม่ผ่าน ขณะที่คนอื่นได้รับยืนยันการจองแล้วทุกคน..!

“เรื่องพี่จี๋หลวงพ่อจะเอาอย่างไรดีคะ ?” แม่ป๋อมถามถึงยายจี๋ (คุณวินิตา มณฑลโสภณ) “ตอนนี้พี่จี๋ออกกำลังเป็นการใหญ่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ไปด้วย” ก็คงต้องรอพวกเราเป็นลมตายไปสักคนหนึ่ง จะได้เอาคุณยายมาเสียบแทน ไม่อย่างนั้นคงได้ขี่คอกันไปแน่ ๆ...

ปัญหาใหม่ที่ตามมาก็คือเรื่องการขอใบอนุญาตเข้าประเทศ คราวก่อนอาตมาเกือบจะไม่ได้ไปเมืองจีนแล้ว เพราะทางการจีนกลัวว่าจะไปเผยแผ่ลัทธิประหลาด ๆ ประเภทฝ่าหลุนกง จะเดินทางพรุ่งนี้แล้ว วันนี้วีซ่าถึงจะออก ทำเอาญาติโยมบางท่านเข้าใจผิด คิดว่า “ปิดข่าว” เพื่อหนีไปกันเองโดยไม่บอกไม่กล่าว ถึงขนาดโทรมาด่าผู้ร่วมคณะแบบสาดเสียเทเสีย จนป่านนี้ยังไม่ได้มีการ “ล้าง” ปัญหาคาใจกันเลย..!

สุธรรม 15-09-2015 03:07

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442261176
บริษัทที่กล้าหาญมาให้บริการคณะของเรา

มีผู้แนะนำให้ขอใบอนุญาตเข้าและออกจากเมืองจีน เพื่อความมั่นใจว่าไปแน่ ๆ แต่ถ้าทำแบบนั้นปัญหาโรคแพ้ความสูงก็จะตามมา อาตมาจึงตัดสินใจไป “ตายเอาดาบหน้า” โดยขอใบอนุญาตเข้าเนปาล แล้วค่อยไปขอใบอนุญาตเข้าทิเบตจากเนปาลอีกที...

“หลวงพ่อไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ถ้าทางจีนเขาไม่ให้หลวงพ่อเข้าทิเบต พวกหนูก็จะไปกันเอง ส่วนหลวงพ่อหาทางกลับเมืองไทยเอาก็แล้วกัน” แม่ป๋อมพูดหน้าตาเฉย กลัวแต่ว่าคุณแม่จะได้ไปคนเดียวนะสิ เพราะคนอื่นคงไม่ยอมตามไปด้วย หรือว่าจะให้อาตมา “แหกด่าน” ไปดักรอที่ข้างหน้าดี ?

จนหลังงานทำบุญประจำปีบ้านวิริยบารมี น้องเก๋ถึงโอนเงินให้กับทางบริษัทนำเที่ยว จำนวน ๖๐% บอกว่าเป็นรายที่สามที่ “ยอมเสี่ยง” กับพวกเรา บริษัทนี้ชื่อ NAVO Tour 1993 ชื่อบริษัทมาจากคำว่า Nature Adventure Voyage Off-road ผู้ติดต่อประสานงานเป็นสุภาพสตรีสาวสวยชื่อคุณโจว คง (Zoe Kong) ชื่อเหมือนผู้ชายเลย...

สุธรรม 15-09-2015 13:28

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442298415
ไม่ได้ไปไหว้หลวงพ่อโตเล่อซาน ก็ไปเฝ้าจิ๋นซีฮ่องเต้แทน

ค่าใช้จ่ายทั้งค่าเครื่องบิน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่ารถ ตลอดจนค่าใบอนุญาตเข้าประเทศเนปาลและจีนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ ๗๕,๐๐๐ บาทต่อคน ของอาตมาเจอเข้าไป ๘๔,๐๐๐ บาทเศษ เพราะอยู่ห้องพักคนเดียว ต้องโอนไป ๕๕,๔๙๕ บาท ป้ามอยฉวยโอกาสที่สำรองจ่ายไปก่อน ไม่ยอมรับเงินคืน บอกว่าขอถวายเลย แม้อาตมาจะทักท้วงว่าจำนวนมากเกินไป เดี๋ยวหลังเกษียณจะไม่มีเงินไว้ใช้ ป้าก็ยืนยันว่ามีแน่ ๆ ขออนุโมทนานะจ๊ะ...

ส่วนอีก ๔๐ % นั้น พวกเราต้องแลกเป็นเงินดอลลาร์ เอาไปจ่ายให้เขาที่กาฏมาณฑุ ของอาตมาเท่ากับ ๗๙๕ ดอลลาร์ ขณะที่ของผู้ร่วมคณะอยู่ที่ ๕๙๕ ดอลลาร์ แถมมีค่าใช้จ่ายจุกจิกเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะไปแบบประหยัด ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ต้องจ่ายค่าขนกระเป๋าขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ๕๐๐ บาท ที่กัวลาลัมเปอร์อีก ๗๐๐ บาท จนบางคนต้องหากระเป๋าใบเล็กเพื่อหิ้วขึ้นเครื่องเอง จะได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ไหนจะค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตผ่านแดน ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ดูท่าว่าที่ต้องการประหยัดนั้น จะไม่ได้ประหยัดจริงเสียแล้ว...

ส่วนตารางการเดินทางมีการแก้ไข เพราะอาตมาท้วงว่าเที่ยวบินจากเฉิงตูมาถึงไทยเกือบสว่าง ถึงจะได้ไปไหว้หลวงพ่อโตเล่อซานก็จริง แต่อาตมาที่เพิ่งได้รับงานด่วนในภาคฤดูร้อน ให้สอนนิสิตคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คงจะ “คลาน” ไปสอนในวันรุ่งขึ้นไม่ไหว น้องเก๋จึงปรับให้ไป “เข้าเฝ้า” ฉินสื่อหวงตี้ที่ซีอานแทน แต่ค่าเครื่องบินจากซีอานมากรุงเทพฯ แพงขึ้นไปอีกเกือบสองพันบาท เพราะเป็นสายการบินรัก (เงินในกระเป๋า ?) คุณเท่าฟ้า..!

สุธรรม 16-09-2015 03:48

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442350029
เขากลัวว่าจะไปแล้วไปลับ จึงต้องเอาตั๋วเครื่องบินขากลับไปแสดงด้วย

ในที่สุดทุกคนก็ได้วีซ่าเข้าเนปาลเป็นที่เรียบร้อย แม้แต่แม่ป๋อมที่ “พหุกิจจา พหุกรณียา” งานท่วมหัวเพราะเพิ่งกลับมาจากยุโรป ส่วนของอาตมาใช้หนังสือเดินทางราชการ (Official Passport) จึงไม่ต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตเนปาลในประเทศไทย...

โดยปกติแล้วบุคคลที่ถือหนังสือเดินทางข้าราชการ จะต้องแนบเอกสารแจ้งความประสงค์ในการเข้าประเทศเนปาลจากกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบการยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตเนปาลในกรุงเทพฯ แต่ได้รับการผ่อนผันว่า หากผู้ยื่นคำร้องไม่มีเอกสารดังกล่าว ให้ไปยื่นคำร้องขอเข้าประเทศเนปาล (Visa on Arrival) ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สนามบินนานาชาติตรีภูวัน (Tribhuvan) เมืองกาฐมาณฑุได้เลย โดยให้นำหลักฐานไปแสดง ดังนี้

........................................๑. หนังสือเดินทางราชการ พร้อมสำเนา ๑ ฉบับ
........................................๒. ตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ
........................................๓. รูปถ่ายหน้าตรงขนาด ๒ นิ้ว พื้นหลังสีขาว จำนวน ๒ รูป
........................................๔. ค่าธรรมเนียม ๒๐ ดอลลาร์สหรัฐ

ตั๋วเครื่องบินซึ่งจองผ่าน WWW.TRAVELSKY.COM เจอเข้าไป ๒,๐๕๕ หยวนต่อที่นั่ง อาตมาสแกนเอาไว้เพื่อเป็นเอกสารในการขออนุญาตผ่านเข้าทิเบต แล้วมาตรวจสอบอุณหภูมิของประเทศเนปาล เฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ ๑๗ องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ ๓๖ องศาเซลเซียส เหมือนทองผาภูมิอย่างกับแกะ แต่ของทิเบตเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ -๓ องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ ๒๑ องศาเซลเซียส ต่างกันอย่างกับฟ้ากับเหว จัดเสื้อผ้ายากตายชัก จนอาตมาต้องตัดสินใจหอบเครื่องกันหนาวชุดลุยยุโรปไปเกือบทั้งหมด โดยใช้กระเป๋าแค่ใบเดียวเหมือนเดิม...

สุธรรม 16-09-2015 19:17

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442405803
กินเพราะหมอสั่งจริง ๆ สาบานได้..!

มีคำเตือนจาก NAVO Tour มาถึง เกี่ยวกับความปลอดภัยเมื่ออยู่ในทิเบต เช่น ต้องระวังกระเป๋าและของมีค่าให้จงหนัก อย่าได้ไว้วางใจใครเป็นอันขาด ขนาดถ่ายรูปอยู่ยังอาจจะถูกฉกกล้องไปจากมือได้..! เพราะปัจจุบันนี้มีบรรดามิจฉาชีพชาวจีนเข้าไปหากินในทิเบตเยอะมาก ถ้าจะให้ดีไม่ควรออกจากที่พักในยามค่ำคืน เมื่อจะกดเงินสดจากตู้บริการอัตโนมัติ ควรให้มัคคุเทศก์พาไป ไม่เช่นนั้นอาจจะเจอตู้ปลอมก็ได้..! เฮ้อ..ยกเลิกการเดินทางไปเลยดีไหมนี่ ?

ส่วนเรื่องโรคแพ้พื้นที่สูง (Altitude Sickness) มีข้อแนะนำว่า ๑ – ๒ วันแรกไม่ควรอาบน้ำ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับการป่วยไข้ ดูท่าจะไม่มีใครทำได้เป็นแน่แท้ ก็ต้องพยายามรักษาร่างกายให้แข็งแรงแทน ส่วนเรื่องอาหารนั้น มีข้อแนะนำว่าให้กินอาหารเบา ๆ ที่มีแคลอรี่สูง เช่น ช็อกโกแลต ฮ่า..งานนี้มีบางคนได้อาศัยเป็นข้ออ้างกินกระจายแน่ ๆ...

ส่วนแบบธรรมเนียมบางอย่าง เช่น อย่าจับหัวเด็ก หรือ การถ่ายรูปเด็กหรือพระภิกษุ ควรจะมีของขวัญหรือเงินให้แก่เขาทุกครั้ง นับว่าเป็นความรู้ที่ดีมาก เนื่องจากความเคยชินอาจจะทำให้พวกเราไปละเมิดข้อถือสาของเขาโดยไม่รู้ตัว สำหรับสถานที่สำคัญแต่ละแห่ง เราต้องจ่ายเงินค่าเข้าชมเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ห้ามนำสิ่งของบางอย่างเข้าไปเหมือนกับขึ้นเครื่องบินเลย...

สุธรรม 17-09-2015 04:00

3 Attachment(s)

เพื่อความสะดวกและคล่องตัวในการเดินทาง อาตมาจึงฉวยโอกาสที่ทำบวงสรวงในงานทำบุญประจำปีวัดพุทธบริษัท กราบขอ “ท่านพ่อ” ให้ช่วยสงเคราะห์ในการเดินทางครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่าให้หนาวมาก เพราะอาตมาไม่แน่ใจว่าโรคมาลาเรียเรื้อรังเมื่อโดนหนาวเข้าจะกำเริบหรือไม่ ? “ท่านพ่อ” ยิ้มใจดีเหมือนเดิม ถามด้วยว่า “เอาฝนไปเลยดีไหม ?”

ในเบื้องต้นป้ามอยจัดการแลกเงินให้กับพวกเราคนละ ๙๐๐ หยวน ใครต้องการซื้อของฝากให้ไปแลกเพิ่มเอาเอง จะเป็นเงินหยวนหรือเงินดอลลาร์ก็ตามใจ ส่วนอาตมาเองคิดว่าจะไปแลกเงินรูปีของเนปาลที่สนามบินตรีภูวัน เพื่อใช้เป็นค่าเข้าชมสถานที่สักเล็กน้อย ที่เหลือคาดว่าน่าจะใช้เงินไทยได้เลย เพราะได้ยินมาว่าพ่อค้าแม่ค้าชาวเนปาลียินดีรับเงินไทย โดยคิดที่ประมาณ ๑๐๐ บาท ต่อ ๒๕๐ รูปี...

น้องเล็กที่งานล้นมือยังอุตส่าห์ค้นข้อมูลสถานที่เที่ยวต่าง ๆ ของเนปาลและทิเบตให้กับทุกคนในคณะ ส่วนน้องเก๋ค้นหาว่ามีอะไรให้ซื้อเป็นของที่ระลึกบ้าง พร้อมกับส่งรูปไปยั่วน้ำลายคนอื่น ๆ อาตมาเองนั้นชอบซื้อของด้วยกล้อง เห็นอะไรสวยก็ถ่ายรูปเอาไว้ชื่นชมแทนการซื้อ ประเภท “ได้ทุกอย่างสตางค์อยู่ครบ” แต่ไปหวังว่าจะได้พบกับสัตว์ ๓ ชนิด ได้แก่ จามรี (Yak) หมาทิเบต (Tibetan Mastiff) และเสือดาวหิมะ (Snow Leopard) ที่อยากเห็นตัวจริงมานานแล้ว...

สุธรรม 17-09-2015 15:04

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442476998
คุณแม่สละสิทธิ์ แต่ชื่อยังเป็นหัวหน้าคณะอยู่เลย

เมื่อกลับจากยุโรปได้ไม่กี่วัน แม่ป๋อมก็ส่งข่าวมาว่า งานค้างท่วมหัวจนเกือบจะโดนทับตาย คงไม่สามารถที่จะปลีกตัวไปทิเบตได้แล้ว ควรจะให้ใครไปแทนดี ? อาตมาตอบไปแบบไม่ต้องคิดว่า “รีบติดต่อยายจี๋ด่วนที่สุดเลย” เพราะได้ยินจากน้องเก๋ว่า Tibet Entry Permit นั้นขอยากเป็นที่สุด ต้องส่งรายชื่อพร้อมหลักฐานล่วงหน้ากันเป็นเดือน..!

เมื่อเจอกันในงานเป่ายันต์เกราะเพชร ยายจี๋พาเพื่อนซึ่งทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาด้วย บอกอย่างแข็งขันว่า Tibet Entry Permit นั้นขอไม่ยาก ใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน ๑ อาทิตย์เท่านั้น อาตมาคิดไปในทางร้ายที่สุดว่า อย่างดีก็ทำให้คุณยายผิดหวัง นั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปอีกรอบ หรืออาจจะของขึ้น ลุยเดี่ยวไปเองเลยก็ได้...

วันรุ่งขึ้นหลังงานเป่ายันต์เกราะเพชร น้องเก๋ก็ส่งหนังสือรับรองการขอใบอนุญาตเข้าทิเบตแบบกลุ่มจากคุณโจวมาให้ ในหนังสือลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๐๑๔ ทั้งที่ยื่นขอไปก่อนหน้านั้นตั้งครึ่งค่อนเดือน ดูท่าที่คุณยายตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นเพราะพวกเราไปแบบซำเหมา ทำให้ทางบริษัทไม่อยากให้เราเปลี่ยนแปลง จึงดึงเรื่องให้ช้าที่สุดนั้น คงจะไม่ใช่เสียแล้ว และในรายชื่อการขอใบอนุญาตแบบกลุ่ม ยังเป็นชื่อของแม่ป๋อมซึ่งเป็นหัวหน้าคณะอยู่เลย ซ้ำยังอนุญาตให้เข้าไปยังซีอาน เฉิงตู ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้อีกด้วย...

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่ยายจี๋จะได้ไปด้วย น้องเก๋บอกว่าแทบจะไม่มีหวัง ถ้าจะให้ดีก็คือขอให้ทาง NAVO Tour จัดให้ยายจี๋เข้าทางประเทศจีน จะเป็นคนเดียวหรือคณะท่องเที่ยวชุดเล็กก็ได้ แล้วไปสมทบกับพวกเราที่เมืองทิงกรี (Tingri จีนเรียกว่าติงยื่อ) จะมีโอกาสมากกว่า อาตมาจึงให้น้องเก๋แจ้งกับยายจี๋ไปตามนั้น...

สุธรรม 18-09-2015 02:59

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442519941
กว่าจะได้มาต้องลุ้นกันแทบตาย..!

Date: Tue, May 6, 2014 at 8:54 AM
Subject: Your Tibet permit

Dear Meilian

Good news. I just got your Tibet permit. Now it means everything is ready for your trip from our side.

Please check the attachment for the permit. Please carefully check your names, birth date and passport numbers, if there are any problems, please inform me at once.

It is really a good day.

Best Regards
Zoe /NAVO Team

เช้าวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ คุณโจวส่ง Email มาถึงน้องเก๋ แจ้งข่าวดีว่าได้ Tibet Entry Permit แล้ว งานทางด้านของเขาเสร็จเรียบร้อย ให้พวกเราตรวจสอบรายชื่อ วันเดือนปีเกิดและหมายเลขหนังสือเดินทางโดยละเอียดและระมัดระวัง หากมีปัญหาแม้เพียงเล็กน้อยก็ให้รีบแจ้งทางเขาทันที แสดงว่าทางการจีนเข้มงวดเอามาก ๆ...

สุธรรม 18-09-2015 16:08

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442567302
ทำประกันชีวิตเผื่อไว้ด้วย..!

เมื่อพวกเราได้ใบอนุญาตเข้าทิเบตแล้ว ก็เหลือแต่คุณยายเท่านั้นว่าจะได้หรือไม่ ? ยายจี๋ “วิ่งสู้ฟัด” อย่างเต็มที่ บอกว่าเห็นกิเลสตัวเองชัดมากก็งานนี้แหละ อาตมากลับคิดว่า การทำอะไรเต็มที่ก็เหมือนกับตามรอยพระมหาชนก ที่ว่ายน้ำอยู่กลางมหาสมุทรถึง ๗ วัน ๗ คืนทั้งที่มองไม่เห็นฝั่ง ถึงแม้ว่าจะไม่สำเร็จ แต่ถ้าได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ก็ถือว่าตอบตัวเองได้แล้ว...

เมื่อแม่ป๋อมทราบว่ายายจี๋อาจจะพลาดไม่ได้ไปแทน ก็เกิดมุมานะสะสางงานเป็นการใหญ่ เพื่อที่จะได้ไปเองตามกำหนดการเดิม เพราะว่าหนังสืออนุญาตเข้าทิเบตเป็นแบบกลุ่ม ให้ใครเสียบแทนก็ไม่ได้ ถ้ามีคนหายไปก็เป็นปัญหาอีก และแนะนำว่าควรที่จะมีการทำประกันอุบัติเหตุในการเดินทางไปต่างประเทศด้วย เมื่อทราบว่าเบี้ยประกันอยู่ที่ ๖๙๙ บาทต่อคน ก็ตัดสินใจทำกันทุกคน แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดมาก จึงต้องกรอกเอกสาร เซ็นชื่อกำกับ แล้วสแกนส่งไปทาง Email เทคโนโลยีที่ทันสมัยมีประโยชน์มากก็ตอนนี้แหละ...

ช่วงไปสอนกรรมฐานและรับสังฆทานต้นเดือนพฤษภาคมที่กรุงเทพฯ ลูกปุ๊กย่องมาหา บอกว่าทุกคนส่งให้มาเป็นตัวแทนเจรจากับหลวงพ่อ ขอให้ช่วยถือเงินกองกลาง ๔๐ % ที่ต้องเอาไปจ่ายให้กับบริษัททัวร์ด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าอยู่กับคนอื่นแล้วจะปลอดภัยหรือไม่ ? อ้อ..แปลว่าหลวงพ่อโดนปล้นก็ช่างมัน ว่าอย่างนั้นเถอะ..! แล้วทำไมคนต้นคิดไม่มาเจรจาเองใกล้ ๆ วะ ?

สุธรรม 19-09-2015 02:49

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442605752
ยัดหนังสือลงไปอีกสองเล่มก็ยังไม่เต็มอยู่ดี

มีญาติโยมหลายท่านช่วยกันถวายค่าเดินทางไปทิเบต ประกอบด้วยคุณมุกดา พฤกษถานนท์กุล ๓๔๐ ดอลลาร์ฮ่องกง คุณแอ๊บ (จักรพล พันธุ์ภักดีคุณ) ๑,๐๐๐ หยวน บอกว่าเหลือมาจากการไปเที่ยวเมืองจีน เจ๊หลิน (คุณสุภาณี ชีวเลิศวิบูลย์) ๑๐,๐๐๐ บาท คณะรวมใจภักดิ์ของท่านอาจารย์วิชชุ อารมณ์ดี ๒,๐๐๐ บาท...

คุณชวง (ไพรินทร์ สุวิชชาญพันธุ์) กับน้องพลอย (Amandine Grasset) และน้องแม็กซิม (Maxime Grasset) ร่วมกันถวายกระเป๋าเดินทางยี่ห้อ Muji ๑ ใบ และขนเอาเสื้อผ้ากันหนาวมาให้น้องเล็กยืมเป็นกุรุส อาตมาเห็นว่าเป็นกระเป๋าขนาดพอเหมาะ หิ้วขึ้นเครื่องได้พอดี จึงฉลองศรัทธาด้วยการจัดกระเป๋าใหม่ แต่ก็มีข้าวของเครื่องใช้แค่ครึ่งกระเป๋า ต้องเอาโน้ตบุ๊ก Lenovo ยัดลงไปพร้อมกับหนังสืออีก ๒ เล่มหนา ๆ ถึงรู้สึกว่าไม่หลวมจนเกินไปนัก...

คุณโจวส่งสำเนาตั๋วเครื่องบินมาให้ บอกว่าให้ทุกคนพิมพ์ติดตัวไว้คนละชุด เผื่อพลัดหลงกันจะได้ไม่ลำบากตอนเดินทางกลับ แต่ส่งให้มาครบแค่ของป้ามอยคนเดียว นอกนั้นมีแค่ตั๋วเดินทางจากซีอานมากรุงเทพฯ เท่านั้น แปลว่าให้เดินจากลาซามาซีอานกันละมั้ง ? น้องเก๋ต้องส่ง Email ไปทวงอีกรอบ จนอาตมาเรียกอีกฝ่ายว่า “ยายโจวก๊ง” ไปแล้ว...

สุธรรม 19-09-2015 16:09

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442653708
วางผางประทีปถวายเป็นพุทธบูชากันก่อน

เมื่อกลับไปหัวปั่นกับงานอุปสมบทหมู่วันวิสาขบูชา และแจกทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน ๗ โรงเรียนอยู่ที่วัดท่าขนุน ทางบริษัท New Hampshire Insurance Company ก็ส่งกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุมาให้ กำชับว่าให้พิมพ์ออกมาแล้วเอาติดตัวไว้ เผื่อไปตายที่ไหนเขาจะได้รู้และจ่ายเงินได้ถูก (ตรงนี้อาตมาว่าเอง)...

ขณะที่อาตมา น้องเล็กและลูกปุ๊ก พร้อมกับคณะญาติโยมจากชมรมโมทนาบุญเว็บพลังจิต กำลังวางผางประทีป ๑๘,๐๐๐ ดวง เพื่อจุดถวายเป็นพุทธบูชา น้องเก๋ก็เข้าอินเตอร์เน็ตไปจัดการเช็คตั๋วเครื่องบินให้เป็นที่เรียบร้อย แล้วส่ง Boarding Pass มาให้ พวกเราแค่พิมพ์ออกมาติดตัวไว้ แต่กระเป๋าขึ้นเครื่องเขาให้น้ำหนักคนละ ๗ กิโลกรัมเท่านั้น ยังดีที่แถมโน้ตบุ๊กหรือกระเป๋าถือ ให้เอาขึ้นเครื่องได้อีกคนละหนึ่งใบ...

ครั้นปีนเขาขึ้นไปชื่นชมกับผางประทีปที่สวยงามสมกับความเหนื่อยยาก และเป็นการทดสอบตัวเองด้วย ว่ายังสามารถขึ้นบันไดชัน ๆ ๒๕๘ ขั้นรวดเดียวโดยไม่ต้องพักได้ แสดงว่าสุขภาพไม่แย่จนเกินไปนัก อาตมา น้องเล็กและลูกปุ๊ก ก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ...

สุธรรม 20-09-2015 02:38

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1442691437
ลูกเหมียวอาสานำฝ่าม็อบ..!

กำลังแวะส่งท่านชาย (พระธนกฤต ขนฺติพโล) ท่านหนุ่ย (พระสถาพร ชยุตฺตโม) และท่านชู้ต (พระชุติกานต์ อภินนฺโท) ขึ้นรถที่ท่า บขส.กาญจนบุรี เพื่อไปอบรมพระวิปัสสนาจารย์ ที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ยายจี๋ก็โทรเข้ามาแจ้งว่า Tibet Entry Permit ผ่านแล้ว ทาง NAVO Tour จัดการเปลี่ยนรถ ๑๙ ที่นั่งให้กับคณะของเรา..!

ทีแรกบอกว่าเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ แค่ ๖ คนกับพลขับและมัคคุเทศก์ ก็แทบขี่คอกันไปอยู่แล้ว ตอนนี้ ๗ คนใช้รถ ๑๙ ที่นั่ง แบบนี้หอบเสื่อหอบหมอนไปด้วย จะได้นอนไปเลยดีไหม ? ว่าแต่คุณยายต้องจ่ายค่าขยายรถเพิ่มอีกเท่าไรคงต้องไปถามกันอีกที พวกเรามาสมทบกับป้ามอยที่บ้านวิริยบารมี เพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่อง โดยมีลูกเหมียว (นิภา ศิรวรดล) อาสาไปส่ง เพื่อเป็นมงคลว่าวันเกิดได้ทำอะไรดี ๆ แต่เช้ามืด แม้ว่าจะมี “ม็อบนกหวีด” แสดงฤทธิ์ปิดเส้นทางอยู่ก็ตาม...


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:26


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว