กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงปฏิบัติกรรมฐานเช้ามืด วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6646)

นายกระรอก 08-06-2019 22:25

เทศน์ช่วงปฏิบัติกรรมฐานเช้ามืด วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๒
 
ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง ให้กำหนดสติ นึกถึงความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจของเรา หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา ถ้าเผลอสติไปคิดเรื่องอื่น เมื่อรู้ตัวก็ให้ดึงกลับมาที่ลมหายใจเข้าออกใหม่ แรก ๆ ถ้ายังไม่มีความชำนาญ ก็จะต้องยื้อแย่งกันอยู่พักใหญ่ แต่ถ้าเรามีความเพียรพยายามไม่ท้อถอย ท้ายที่สุด..สภาพจิตก็จะแพ้ ยอมอยู่กับลมหายใจเข้าออกแต่โดยดี

หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจออกมา จะจับการกระทบของลมกี่ฐานก็แล้วแต่เรามีความถนัด จะเป็นฐานเดียวก็ได้ สามฐานก็ได้ เจ็ดฐานก็ได้ หรือรู้ตลอดตั้งแต่ต้นยันปลายก็ได้ หายใจเข้า..ตามดู..ตามรู้เข้าไป อย่าบังคับลมหายใจ ให้การหายใจของเราเป็นไปตามปกติ เพียงแต่เอาสติตามดูตามรู้ลมหายใจเท่านั้น

นายกระรอก 08-06-2019 22:30

เมื่อความรู้สึกของเราเริ่มทรงตัวแล้ว ให้กำหนดภาพพระที่เรารักเราชอบขึ้นมา จะเป็นภาพของสมเด็จองค์ปฐมก็ได้ พระวิสุทธิเทพก็ได้ หรือจะเป็นพระพุทธรูปสำคัญ อย่างพระแก้วมรกต พระพุทธชินราช หรือหลวงพ่อโสธรก็ได้ หรือถ้าท่านใดมีวัตถุมงคลที่ตัวเองรัก ตัวเองชอบ เป็นรูปพระพุทธ ก็ให้นึกถึงภาพพระพุทธเจ้าในวัตถุมงคลชิ้นนั้น หายใจเข้า..ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศีรษะของเรา อย่าไปกำหนดขนาดและความชัด เอาขนาดที่เรากำหนดใจจับได้สบาย ๆ ส่วนความชัดเจนนั้น จะมีมาก็ต่อเมื่อสมาธิของเราทรงตัว สมาธิยิ่งทรงตัวมั่นคงเท่าไร ภาพพระก็จะชัดเจนเท่านั้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ใช่สายตาเห็น แต่เป็นการนึกเห็น เหมือนกับเรานึกถึงหน้าคนอื่น นึกถึงสถานที่ หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคย จะเรียกว่าเห็นก็ไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้ใช้สายตา แต่ความรู้สึกนั้นชัดเจนอยู่ในห้วงนึกของเรา หายใจเข้า..ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ภาพพระไหลตามลมหายใจออกมา หายใจเข้า..ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ภาพพระเลื่อนไปอยู่บนศีรษะ หรือจะหายใจเข้า..ให้ภาพพระเล็กลง..เล็กลงไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ให้ภาพพระใหญ่ขึ้น..ใหญ่ขึ้นไปอยู่บนศีรษะก็ได้ หรือจะหายใจเข้า..ให้ภาพพระใหญ่ขึ้น..ใหญ่ขึ้นจนครอบตัวเราเอาไว้ หายใจออก..ให้ภาพพระเล็กลง..เล็กลงไปอยู่บนศีรษะก็ได้

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน ที่สำคัญก็คือ ให้กำหนดภาพพระพร้อมกับลมหายใจเข้าออกเอาไว้ และต้องไม่เผลอไปใช้สายตากำหนดภาพ หายใจเข้า..ภาพพระเลื่อนลงไปอยู่ในท้อง หายใจออก..ภาพพระเลื่อนขึ้นไปอยู่บนศีรษะ

นายกระรอก 08-06-2019 22:33

เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจและภาพพระมั่นคง มีความชัดเจนดีแล้ว ให้กำหนดภาพพระให้นิ่งอยู่บนศีรษะของเรา หายใจเข้า..ให้ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ให้ภาพพระสว่างขึ้น การหายใจเข้าและหายใจออกพร้อมกับกำหนดภาพพระให้สว่างขึ้นนั้น ถ้าสมาธิเรายังอ่อนอยู่ ความสว่างจะไม่ชัดเจน และรู้สึกมืด ๆ มัว ๆ เท่านั้น แต่ขอให้รู้สึกว่า ความสว่างมีขึ้น ภาพพระสว่างขึ้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น อย่ากำหนดลมหายใจตามคำพูด ให้กำหนดตามที่ตัวเราเองถนัด สิ่งที่พูดหรือบรรยายเป็นเพียงแนวทางในการปฏิบัติเท่านั้น ไม่ใช่ให้ทำตรงกับคำพูด ถ้าอย่างนั้นจะลำบาก

เมื่อรู้สึกว่าภาพพระของเราสว่างไสวชัดเจนอยู่บนศีรษะแล้ว ก็ขอให้ความสว่างนั้นค่อย ๆ ครอบคลุมตัวเราลงมาด้วย ตั้งแต่ศีรษะ หน้าผาก จมูก ปาก คาง คอ หัวไหล่ ต้นแขน หน้าอก บั้นเอว สะโพก ต้นขา หัวเข่า หน้าแข้ง ปลายเท้า ให้ความสว่างไสวครอบคลุมตัวเราลงมา หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น..ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น..ตัวเราสว่างขึ้น หายใจเข้า..ภาพพระสว่างขึ้น..ตัวเราสว่างขึ้น หายใจออก..ภาพพระสว่างขึ้น..ตัวเราสว่างขึ้น

เมื่อภาพพระของเราสว่างสดใส มั่นคงอยู่บนศีรษะ ก็ให้เรากำหนดความสว่างจากภาพพระนั้น แผ่กว้างออกไปรอบด้าน เหมือนกับเราโยนก้อนหินลงในน้ำ แล้วน้ำกระเพื่อมเป็นวง..กว้างออกไป..กว้างออกไป ให้คิดว่ารัศมีสีขาวสว่างไสวนั้น คือพระเมตตาคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แผ่ปกไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกภพ ทุกภูมิ ทุกหมู่ ทุกเหล่า ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตกล่วงไปแล้วในวันหนึ่งคืนหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงไปเสวยสุขในสุคติภพโดยถ้วนหน้ากันเถิด

นายกระรอก 08-06-2019 22:36

ให้รัศมีสีขาวสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป กว้างเต็มทั้งศาลาหลังนี้ กว้างออกไปทั้งวัด กว้างออกไปทั้งหมู่บ้าน กว้างออกไปทั้งตำบล กว้างออกไปทั้งอำเภอ กว้างออกไปทั้งจังหวัด กว้างออกไปทั้งภาค ทั้งประเทศ ทั้งโลก ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ตกอยู่ในความทุกข์ยาก เศร้าหมอง เดือดร้อน ลำเค็ญ ทุกข์กาย ทุกข์ใจ เจ็บไข้ได้ป่วย พิกลพิการใด ๆ ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงได้ล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้นเถิด

หายใจเข้า..รัศมีสีขาวสว่างไสวแผ่กว้างออกไปทั้งโลก หายใจออก..รัศมีสีขาวสว่างไสวแผ่กว้างออกไปทั้งโลก โลกเราเหมือนวัตถุเล็ก ๆ เพียงนิดเดียว อยู่ภายใต้ร่างกายของเรา สามารถกำหนดจิตครอบคลุมทั่วถึงได้ในพริบตาเดียว ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่ชีวิตของท่านทั้งหลายเหล่านั้น มีความสุขความเจริญดีอยู่แล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด

หายใจเข้า..รัศมีสีขาวสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป เบื้องบนจรดพรหมชั้นที่ ๑๖ เบื้องล่างไปถึงอเวจีมหานรก เบื้องขวารอบด้านคือโลกธาตุต่าง ๆ ที่มีมนุษย์และสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วน ให้ตั้งใจว่า..มนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กันและกัน เสียสละให้ปัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากยิ่งกว่าตนให้พ้นทุกข์ เพื่อยังโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันสมบูรณ์ด้วยเถิด

นายกระรอก 08-06-2019 22:38

หายใจเข้า..รัศมีสีขาวสว่างไสวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป หายใจออก..ให้กลับมาสว่างไสวอยู่บนศีรษะของเราตามเดิม หายใจเข้า..รัศมีสีขาวแผ่กว้างออกไป..กว้างออกไป หายใจออก..รัศมีนั้นกลับมาสว่างไสวอยู่บนศีรษะของเรา เมื่อภาพพระสว่างชัดเจน มั่นคงดีแล้ว ให้น้อมจิตน้อมใจกราบลงที่ภาพพระนั้น นั่นคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จมาโปรดเรา เมื่อเราเห็นพระองค์ท่าน คืออยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน คืออยู่บนพระนิพพาน ให้พยายามประคับประคองรักษากำลังใจของเราไว้ตรงจุดนี้ ให้ตั้งใจว่า ถ้าวันนี้เราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานนี้แห่งเดียวเท่านั้น แล้วตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออก หรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงปฏิบัติกรรมฐานเช้ามืด ณ วัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเลและนาทาม)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:23


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว