กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๙ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4814)

เถรี 20-01-2016 19:58

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๙
 
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของปีใหม่ แต่ว่าล่วงเลยมาจนถึงวันศุกร์ที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เนื่องเพราะว่าอาทิตย์แรกติดงานสวดมนต์ข้ามปีและบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน

ปีใหม่พวกเรามักจะถือว่าเป็นวาระพิเศษ ในที่นี้ก็อยากจะให้ทุกท่านใช้วาระพิเศษในการทบทวนดูว่า ตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเรานั้น มีความก้าวหน้าหรือไม่ ? อย่างไร ? การทบทวนนั้นจัดอยู่ในวิมังสาของอิทธิบาทธรรม คือการไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ปัจจุบันนี้เรายืนอยู่ในจุดไหน ? ยังตรงต่อเป้าหมายอยู่หรือไม่ ? เหลือระยะทางห่างไกลจากเป้าหมายสักเท่าใด ? จำต้องเร่งรัดเร่งรุดไปให้ถึงเป้าหมายในระยะเวลาที่จำกัดสักเท่าไร ? เป็นต้น

ซึ่งในปัจจุบันนี้ทฤษฎีของฝรั่งต่าง ๆ ก็ได้นำเข้าไปใช้ในระบบของการบริหารองค์กร บริหารบุคคล โดยใช้ว่าการสรุปและประเมินผล ซึ่งก็คือหลักวิมังสา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสให้พุทธบริษัททั้งหลาย สรุปและประเมินผลตนเองมาตั้ง ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว และในส่วนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็ไม่ใช่ว่าปีหนึ่งมาประเมินครั้งหนึ่ง หรือครึ่งปีประเมินครั้งหนึ่ง ๓ เดือนประเมินครั้งหนึ่งเหมือนบริษัทห้างร้านในปัจจุบัน แต่ของพระองค์ท่านอย่างน้อย ๆ ต้องประเมินด้วยการทบทวนตนเองอยู่เสมอ ๆ ภายในรอบ ๑ วันกับ ๑ คืน อย่างน้อยก็ต้องประเมินตนเอง ๒ ครั้ง ก็คือก่อนนอนกับตื่น

ก่อนนอน คือ ทบทวนว่าวันนี้เรามีศีลสิกขาบทไหนขาดตกบกพร่อง หรือบริสุทธิ์บริบูรณ์อย่างไรบ้าง ? เราได้ละเมิดศีลด้วยตนเองหรือไม่ ? เรายุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? เรายินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? ถ้าข้อไหนขาดตกบกพร่อง ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาประคับประคองรักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์

เถรี 22-01-2016 12:13

ลำดับต่อไป คือ ความเคารพในพระรัตนตรัยของเราเต็มเปี่ยมอยู่หรือไม่ ? เราได้ล่วงเกินพระรัตนตรัยด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจบ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่าสติของเราหยาบ บางทีก็ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้น เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นโทษใหญ่ถึงขนาดปิดมรรคผลเลยทีเดียว

เนื่องเพราะกติกาของการเป็นพระอริยเจ้าข้อแรกเลยก็คือ ต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จากใจจริง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถ้าหากว่าเรามีข้อผิดพลาด หรือถึงไม่มีแต่คาดว่าจะมี ก็ให้รีบกราบขอขมาพระรัตนตรัยเสีย อย่าปล่อยให้ข้ามคืนข้ามวัน เพราะถ้าเรามีอันเป็นไป กรรมตรงนี้จะมาตัดรอน ทำให้เราเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าไม่ได้

ข้อต่อไป ก็คือ มาทบทวนว่าเราได้ระลึกถึงความตายเป็นปกติหรือไม่ ? ความตายมีกับมนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนาม เกิดมาเท่าไรก็ตายหมดเท่านั้น แต่การที่เราเห็นคนและสัตว์เกิดมากกว่าตาย เพราะไม่ว่าจะคนก็ดี สัตว์ก็ดี เมื่อเกิดมาแล้วยังต้องดำรงชีวิตอยู่หลายปี

การเกิดของคนและสัตว์ใช้ระยะเวลาไม่นาน อย่างเก่งก็ ๙ เดือน ๑๐ เดือน หรือสัตว์ใหญ่ ๆ อย่างช้างก็ปีครึ่ง ๒ ปี เป็นต้น แต่ว่าเกิดมาก็เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายไปในที่สุด ก็คือเข้าถึงความตายทั้งหมด แม้ว่าจะเกิดเร็วตายช้า จนดูเหมือนกับว่าเกิดมากกว่าตาย แต่ความจริงแล้ว ทุกชีวิตก้าวไปสู่ความตายเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์โลกทั้งหลาย เกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น ดังนั้น...เราจึงไม่ควรที่จะประมาท ให้เร่งรัดการปฏิบัติธรรมของเราให้มากเข้าไว้

เถรี 22-01-2016 12:16

การทบทวนทั้ง ๓ หัวข้อที่ว่ามานี้ จำเป็นต้องมีอยู่อย่างน้อยวันละ ๒ รอบ ก็คือก่อนนอน ถ้าหากว่ามีข้อไหนบกพร่อง ให้ตั้งใจไว้ใหม่ว่า เราจะกระทำให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ และตื่นนอน ต้องประคับประคองรักษาอารมณ์นี้เอาไว้ให้ดีให้ได้ ตั้งใจว่าถ้าวันนี้เราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น

เมื่อตั้งอารมณ์นี้ได้แล้ว ก็ให้ภาวนาต่อไปจนกระทั่งอารมณ์ใจทรงตัวตั้งมั่นตามที่เราต้องการ ถ้าหากท่านทั้งหลายทำอย่างนี้ ทั้งก่อนนอนและตื่นนอนได้ทุกวัน อาตมาขอยืนยันว่าชีวิตนี้ ถ้าท่านตายลง สามารถไปพระนิพพานได้แน่นอน

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:42


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว