กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6575)

เถรี 24-04-2019 17:40

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๒
 
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นวันจักรีบรมราชวงศ์ คือวันสถาปนาราชวงศ์จักรี เราจะเห็นว่าบรรดาราชวงศ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ราชวงศ์พระร่วง ราชวงศ์ปราสาททอง ราชวงศ์บ้านพลูหลวง เป็นต้น ต่อให้สืบทอดยาวนานแค่ไหน ท้ายสุดก็เสื่อมไปสลายไป

กรุงสุโขทัยมีพระมหากษัตริย์ ๖ พระองค์ กรุงศรีอยุธยามีพระมหากษัตริย์ ๓๓ พระองค์ กรุงธนบุรีมีพระมหากษัตริย์ ๑ พระองค์ กรุงรัตนโกสินทร์ปัจจุบันมีพระมหากษัตริย์ถึงพระองค์ที่ ๑๐ แล้ว แต่ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด

แม้แต่บุคคลที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเลิศในหมู่กษัตริย์ทั้งหลายอย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็ยังเสด็จสวรรคตในที่สุด เราจะเห็นได้ว่าบุคคลที่เป็นยอดนักรบอย่างในหลวงรัชกาลที่ ๑ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ครองราชย์ได้ ๒๗ ปี ก็เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กษัตริย์นักพัฒนาของไทย สร้างประเทศไทยยุคนั้นให้เจริญรุ่งเรืองเทียมนานาอารยประเทศ ครองราชย์ได้ ๔๒ ปีก็เสด็จสวรรคต องค์กษัตริย์ผู้ที่ต่างประเทศยกย่องว่าเป็น King of the King อย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ ครองราชย์ ๗๐ ปี ท้ายสุดก็เสด็จสวรรคต

เถรี 24-04-2019 17:42

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่เป็นนักปฏิบัติธรรม เราไม่ได้สร้างบารมีมาขนาดบุคคลที่เป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ เรื่องที่จะไม่ตายนั้นไม่มี ความตายอยู่กับเราทุกลมหายใจเข้าออก ความตายพร้อมที่จะมาเยือนอยู่ตลอดเวลา ไม่จำกัดด้วยกาลคืออายุขัย ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยหนุ่มวัยสาว วัยกลางคน วัยชรา สามารถตายได้ทุกเวลา สำคัญที่ว่าตายแล้วจะไปไหนต่างหาก

ถ้าตายแล้วลงสู่อบายภูมิ เกิดเป็นสัตว์นรกบ้าง เปรตบ้าง อสุรกายบ้าง สัตว์เดรัจฉานบ้าง ก็ถือว่าเสียชาติเกิด เกิดมาแล้วขาดทุนย่อยยับ ถ้าหากว่าเกิดเป็นมนุษย์ก็เสมอตัว แต่ถ้าหากว่าเป็นมนุษย์ที่ไม่ได้ส่งผลด้วย ทาน ศีล ภาวนา เราก็จะลำบากยากจน หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ฐานะย่ำแย่ยังไม่พอ ยังโง่เขลาเบาปัญญาอีกต่างหาก

ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยทาน ด้วยศีล ด้วยภาวนา ก็นับว่าแค่เสมอตัวเท่านั้น ถ้าได้เกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม ถือว่าได้กำไร แต่ก็ยังต้องทนทุกข์ในการเวียนว่ายตายเกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน

ดังนั้น..หนทางเดียวที่เราจะพึงปรารถนาในการปฏิบัติธรรมของเรานั้น ต่ำสุดคือหวังความเป็นพระโสดาบัน พระโสดาบันนั้นมีกฎเกณฑ์กติกาในการเป็นแค่เล็กน้อยเท่านั้น คือ มีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงจังแน่นแฟ้น ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

เป็นผู้มีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์ ถ้าเป็นฆราวาสทั่วไปก็ศีล ๕ อุบาสกอุบาสิกาก็ศีล ๘ สามเณรก็ศีล ๑๐ พระภิกษุก็ศีล ๒๒๗ มีปัญญาคือรู้ตัวอยู่เสมอว่าชีวิตนี้เป็นของไม่เที่ยง ก้าวเข้าไปหาความตายอย่างแน่นอน ถ้าตายแล้วเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

เถรี 26-04-2019 08:38

กฎเกณฑ์กติกาของพระโสดาบันมีเท่านี้เอง สำคัญตรงที่ว่าท่านต้องสร้างสมาธิให้ได้อย่างน้อยระดับปฐมฌานละเอียด ไม่อย่างนั้นกำลังของท่านไม่พอที่จะตัดกิเลสเข้าสู่ความเป็นพระโสดาบันได้

ถามว่าปฐมฌานละเอียดหน้าตาเป็นอย่างไร ก็คือภาวะการรู้ลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องตั้งท่า ไม่ต้องบังคับ แต่ว่าเป็นเอง เราแค่เอาสติประคับประคองการรู้ลมและคำภาวนานั้นไว้เท่านั้น

การรู้ลมก็คืออย่างน้อยรู้ถึงลมหายใจที่กระทบจมูก กระทบกึ่งกลางอก ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออกคือรู้ว่าออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วทรงตัวไว้ได้ ท่านมีสิทธิ์ที่จะเป็นพระโสดาบันและพระสกทาคามีได้ ก็แปลว่าท่านสามารถปิดอบายภูมิ เกิดอย่างมากที่สุดไม่เกิน ๗ ครั้ง อย่างกลาง ๓ ครั้ง อย่างดีที่สุดครั้งเดียวก็ไปพระนิพพาน

ดังนั้น กฎเกณฑ์กติกาที่กล่าวมา ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงที่ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นนักปฏิบัติจะทำ จึงขอให้ทุกท่านตั้งอกตั้งใจชำระกำลังใจของเรา ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกาของความเป็นพระโสดาบัน อย่างน้อย ๆ เราจะได้ปิดอบายภูมิ ทำให้หนทางในการเวียนว่ายตายเกิดของเราสั้นลงอย่างมากจนถึงมากที่สุด

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๒

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:33


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว