กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5794)

เถรี 06-09-2017 16:14

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนที่สร้างหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๘ ศอก บนยอดเขาวัดท่าขนุน ปูนลูกหนึ่งราคา ๖๓ บาท แต่ค่าจ้างแบก ๑๐๐ บาท อาตมาเองว่าแข็งแรง ๆ เอาอิฐบล็อกขึ้นไปได้ครั้งละ ๖ ก้อน เดินได้แค่ ๒ เที่ยวก็หมดสภาพแล้ววันนั้น ส่วนท่านอาจารย์สมพงษ์หนุ่มกว่าครึ่งรอบ เอาอิฐไปสองก้อน ขึ้นได้ครั้งเดียวก็น็อกแล้ว"

เถรี 06-09-2017 17:42

ถาม : ในหมู่พระภิกษุสงฆ์ผู้อาพาธเป็นโรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ซึ่งพวกยาเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่รักษาโรคนี้ โดยปกติบุคคลทั่วไป แพทย์มักจะสั่งจ่ายยาจำนวน ๒ มื้อ คือ เช้าและเย็น หากแต่ในกรณีของพระภิกษุสงฆ์นั้น พระท่านมีวิธีการเลือกฉันยาอย่างไรในกรณีที่ฉันได้แค่มื้อเช้าและเพล ?
ตอบ : ฉันทุกมื้อนั่นแหละ ท่านไม่ได้บอกว่ายาก่อนหรือหลังอาหารนี่นา ถ้าเป็นยาหลังอาหาร พวกปานะต่าง ๆ ก็สามารถฉันรองท้องได้เป็นปกติอยู่แล้ว คุณจะไปเดือดร้อนอะไร ก็ฟาดน้ำส้มไปสักหนึ่งลิตร..!

ถาม : ช่วงมื้อเย็น พระท่านสามารถฉันอะไรได้บ้างที่เหมาะสมแก่สมณสารูป หากแต่ไม่ทำร้ายขันธ์ด้วยอาการของโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ?
ตอบ : น้ำส้มก็ได้ ไม่หวานอยู่แล้ว ในพระบาลีท่านว่า สัปปิ เนยใส นวนีตัง เนยข้น มธุ น้ำผึ้ง เตลัง น้ำมัน ผาณิตัง น้ำอ้อยหรือว่าน้ำตาล ภายหลังก็อนุญาตอัฏฐปานะ ก็คือ น้ำที่คั้นจากผลไม้หรือเหง้าไม้ทั้งหมด ๘ อย่างด้วยกัน ภายหลังบัญญัติเพิ่มขึ้นว่า ผลไม้ที่โตไม่เกินกำปั้นหรือโตไม่เกินลูกมะตูมก็ทำน้ำปานะได้

ก็เลือกเอาสิว่าอะไรที่ไม่หวานมาก แต่จริง ๆ แล้วความหวานจากน้ำตาลผลไม้กลับดีต่อผู้เป็นเบาหวาน เพราะว่าร่างกายดึงไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องผลิตอินซูลินออกมาเพื่อย่อยสลายก่อน


ถาม : น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย ถือว่าเป็นคิลานเภสัชตามพุทธบัญญัติหรือไม่ ?
ตอบ : จะเป็นน้ำผึ้งจากดอกอะไรก็ใช่ทั้งนั้นแหละ

เถรี 06-09-2017 17:47

ถาม : มีข้อยกเว้นใดบ้างที่ชาวพุทธจะไม่ทำการเผาศพผู้ที่เสียชีวิต แต่จะใช้การฝังศพแทนครับ ?
ตอบ : ไม่มี...ยกเว้นว่าชาวพุทธนั้นเป็นชาวพุทธมหายาน คือ คนจีนเขาจะนิยมฝังมากกว่า เพราะเขาเชื่อว่าการฝังบรรพบุรุษไว้ในฮวงจุ้ยที่ดี ลูกหลานจะเจริญรุ่งเรือง

ถาม : การฝังศพแทนการเผา จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เสียชีวิตอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ผู้ที่เสียชีวิตไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก เพราะว่าตายไปแล้ว แต่ถ้าหากเป็นประโยชน์ ตำราจีนเขาบอกว่า ฮวงจุ้ยที่ดีย่อมส่งผลให้ลูกหลานเจริญรุ่งเรือง

เถรี 06-09-2017 17:53

ถาม : ในกรณีเผาศพ หลังจากที่เผาแล้ว การที่ญาติเก็บกระดูกบางส่วนของผู้เสียชีวิต ไว้ในที่บรรจุที่บ้าน หรือที่วัดเพื่อบูชา จะมีโอกาสทำให้ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตยังไปสู่ภพภูมิต่อไปทันทีเลยไม่ได้ ยังต้องวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ กระดูกของตน คอยอยู่รับเครื่องบูชา และปกป้องคุ้มครองลูกหลาน เป็นความจริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็นความจริงแค่ที่ว่า ผีบางตัวไปไม่ได้เพราะยึดมั่นถือมั่น แต่เรื่องปกป้องคุ้มครองลูกหลานก็แล้วแต่เขาว่าจะมีอารมณ์ไหม

ถาม : การลอยอังคารทั้งหมดของผู้ที่เสียชีวิต จะทำให้ผู้ที่เสียชีวิต หมดห่วงในร่างสังขารตนเอง และมีโอกาสไปสู่ภพภูมิต่อไปได้ง่ายขึ้น เป็นความจริงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็นเฉพาะรายที่ยึดติดอยู่ ถ้ารายที่ไม่ยึดติดก็ไม่มีประโยชน์อะไรไปมากกว่าตัวเราที่หมดภาระดูแล ถ้าเป็นในความคิดของอาตมาก็คือ เผาแล้วก็ลอยไปทั้งกระดูก ลอยไปทั้งอังคารนั่นแหละ จะได้ไม่ต้องมีภาระต่อไป ถึงเวลาครบรอบปีเราก็เอารูปของท่านมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ สะดวกกว่าการเก็บกระดูกเยอะเลย

เถรี 06-09-2017 18:11

ถาม : การสวดพระอภิธรรมในงานศพของวัดท่าขนุน ทางวัดจะเลือกใช้บทสวดใดบ้าง เพื่อสวดในงานสวดศพครับ ?
ตอบ : สวดพระอภิธรรมเขาก็ระบุชัด ๆ ว่าพระอภิธรรม แล้วจะไปเลือกอะไรได้เล่า ? นี่แสดงว่าไม่เข้าใจใช่ไหมว่าการสวดพระอภิธรรมคืออะไร ?

พระอภิธรรมมีอยู่ ๗ คัมภีร์ด้วยกัน ตัวย่อ คือ สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ ก็คือ พระสังคิณี พระวิภังค์ พระธาตุ พระปุคคะละปัญญัติ พระกะถาวัตถุ พระยะมะกะ พระปัฏฐาน ส่วนใหญ่เป็นการแสดงหัวข้อธรรมหลัก ๆ ย่อ ๆ ที่ว่าเราเป็นมนุษย์ฟังแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมาะสำหรับคนที่เป็นอุคฆติตัญญู หรือบุคคลประเภทเทวดา นางฟ้า หรือพรหมเท่านั้น

พอพระท่านขึ้น กุสลาธัมมา เทวดา นางฟ้า พรหมก็จะเข้าใจว่าธรรมที่เป็นกุศลมีอะไร ก็มีธรรมที่ประกอบไปด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ธรรมที่เป็นอกุศลประกอบไปด้วยอะไร ก็คือ สิ่งที่ทำไปด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เป็นต้น

เราฟังแค่นี้เรายังจะตาย แล้วต้องไปขยายว่า กายทุจริตคืออะไร ? คือ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม ดื่มสุราเมรัย วจีทุจริตคืออะไร ? คือ การโกหก พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ พูดคำหยาบ มโนทุจริตคืออะไร ? คือ โลภอยากได้ของเขา มีความเห็นผิดไปจากสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน เป็นต้น

เราต้องขยายแล้วขยายอีก แต่เทวดา นางฟ้า พรหม ท่านฟังหัวข้อก็เข้าใจทะลุปรุโปร่งหมด ดังนั้น...ที่สวดกันอยู่ทุกวันนี้ ประโยชน์มักจะเกิดแก่คนเป็นน้อยมาก นอกจากจะได้สมาธิหรือได้ความเคารพในพระรัตนตรัย

เถรี 07-09-2017 20:15

พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านเจ้าคุณปิงรับเป็นเจ้าภาพจัดงานสืบชะตาตอนอาตมาอายุ ๖๐ อีก ๒ ปีข้างหน้า คอยดูกันว่างานจะออกมาเป็นอย่างไร"

เถรี 07-09-2017 20:17

พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่ทันสังเกตว่างานเป่ายันต์เกราะเพชร พระพุทธรูปเหลืออยู่กี่องค์ หมดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? งานวัดท่าขนุนปกติแม่ชีจะสั่งน้ำมาทำเป็นน้ำมนต์เสาร์ห้า ๘,๔๐๐ ขวด แต่ว่าเมื่องานเป่ายันต์ที่ผ่านมา สั่ง ๑๒,๐๐๐ ขวด เหลืออยู่ไม่กี่ขวด เกินไปเกือบเท่าตัวก็ยังเกือบจะหมดเหมือนกัน

ครั้งก่อน ๆ คนทองผาภูมิไม่ได้น้ำมนต์เลย บ่นกันมาก งวดนี้มีเหลือน่าจะเลิกบ่นเสียที เพราะว่าคนทองผาภูมิอยู่ใกล้ ใจเย็น ไปช้า ไม่ทันกินเขาสักงาน"

เถรี 07-09-2017 20:18

พระอาจารย์กล่าวกับโยม "เป็นอย่างไรจ๊ะ ? ใส่ชุดหล่อชุดสวยแล้วอึดอัดไหม ? ต่อไปมาชุดธรรมดา ๆ ก็ได้ ที่นี่ไม่ได้ว่าอะไร เห็นโยมแล้วนึกถึงแม่หรือพี่ ๆ สมัยก่อน เขาจะมีชุดสวยไว้ใส่ไปวัด แบบเดียวกันนี่แหละ พอถึงเวลารู้ว่าจะไปหาพระ ก็เอาชุดสวยที่เก็บเอาไว้มาใส่ ปีหนึ่งได้ใส่ไม่กี่ครั้งหรอก"

เถรี 07-09-2017 20:38

ถาม : การทำบุญ ๑๐๐ วัน มีจุดประสงค์เพื่ออะไร ? และจำเป็นต้องทำในวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ ไหมครับ ? ถ้าจะทำบุญ ๑๐๐ วันในวันเสาร์-อาทิตย์ถัดมา จะต่างจากการทำบุญในวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ อย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ต่างกันตรงที่ไม่ได้ทำวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ นั่นแหละ...! การทำบุญ ๑๐๐ วัน เป็นธรรมเนียมประเพณีที่เกิดจากการรู้จริงของคนโบราณ

บุคคลที่ตายไป ถ้าโชคดีมีโอกาสได้ไปตำหนักพระยายมราช ก่อนที่จะตัดสินความจะมีเวลาอยู่ประมาณ ๓ เดือน ถึง ๓ เดือนเศษ ๆ ของโลกมนุษย์ เนื่องด้วยระยะเวลาที่ต่างกันมาก ๑ วันของที่นั่นเท่ากับ ๕๐ ปีของโลกมนุษย์ ดังนั้นโบราณจึงทำบุญในระหว่าง ๗ วัน หลังจากนั้นก็ทำ ๕๐ วัน ทำ ๑๐๐ วัน เป็นการตอกย้ำประกันความเสี่ยงว่า ผู้ตายจะต้องได้รับส่วนกุศลนั้นแน่ ๆ ถ้าหากผู้ตายมีโอกาสโมทนาในบุญกุศลนั้น ก็จะไปเสวยส่วนของผลบุญเลย โดยที่ไม่ต้องผ่านการตัดสินของพระยายมราช

ดังนั้น..ถ้าไม่สะดวกในวันที่ ๑๐๐ ตรง ๆ ควรจะทำวันก่อนในวันที่ ๙๐ กว่า ไม่ใช่ไปรอทำหลังวันที่ ๑๐๐ ถ้าเกิดท่านตัดสินตอนนั้นไปแล้วก็ซวยไป..!

เถรี 07-09-2017 21:10

ถาม : ผมจะนึกถึงภาพพระทุกวัน แต่ก็มีหลายเวลาที่จิตมักจะคิดไปถึงบาปที่เคยทำมาเสมอ โดยจิตของผมมักจะนึกถึงพระและบาปของตัวเอง สลับกันไปสลับกันมาอยู่ตลอดทั้งวัน จนผมรำคาญ ผมก็เลยใช้วิธีนึกถึงภาพพระพุทธเจ้าให้มีขนาดองค์ใหญ่กว่าโลกมนุษย์ และให้องค์พระนั้นประทับลงบนบาปของผม จนบาปนั้นแบนติดดินไปเลย เมื่อทำแบบนี้ ถึงผมจะนึกถึงบาปแต่บาปนั้นก็แบนอยู่ใต้องค์พระ ซึ่งจะทำให้ผมสามารถนึกถึงพระได้แม้จะนึกถึงบาปก็ตาม ไม่ทราบว่าเมื่อทำแบบนี้แล้ว ถ้าผมตายไปในขณะนั้นผมจะได้ไปเกิดเป็นอะไรครับ ?
ตอบ : เป็นสิ่งที่ทำได้ถูกต้องและควรจะทำเช่นนั้น เพราะถ้ากำลังใจของเราจะเกาะความดีและโดนความชั่วรบกวนจริง ๆ ก็ควรจะหาเทคนิควิธีอะไรสักอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเกาะความดี โดยที่ความชั่วกวนได้น้อยที่สุด

อย่างที่ว่ามานั้นเป็นการทำที่ถูกต้อง ส่วนตายแล้วจะไปเกิดเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่กับกำลังใจตอนนั้น ถ้ากำลังใจต่ำ ทรงสมาธิไม่ได้ แต่เกาะความดีได้ ก็ไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้า ถ้าทรงสมาธิแนบแน่นตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป ก็ไปเกิดเป็นพรหมตามกำลังฌานของตน

เถรี 07-09-2017 21:14

ถาม : หลังจากที่เราไถ่ชีวิตโคกระบือ คือ ไปซื้อโคกระบือมาแล้ว เราจะต้องนำเอาโคกระบือไปปล่อยไว้ที่ไหนครับ ?
ตอบ : ปล่อยโรงฆ่าสัตว์...! ใช่ไหม ? ถ้าเป็นอาตมาก็เอาเข้าธนาคารโคกระบือของในหลวง ร.๙ ถึงเวลาเขาก็ไปจัดการแทนเราเอง แต่ก็ได้ยินว่ามีพนักงานบางคนเอาวัวควายขายคืนให้โรงฆ่าสัตว์ไปเหมือนกัน ที่มีข่าวว่าไล่ตามหากันอยู่ทุกวันนี้

เอาเป็นว่าพอเรามอบเข้าธนาคารโคกระบือ เขาจะมีใบรับให้กับเรา เราก็เก็บใบรับนั้นไว้ ถ้าคิดถึงเมื่อไรเราก็ไปเยี่ยม ถ้าเขามอบให้ใครเขาจะแจ้งแก่เราเอง เราก็ตามไปเยี่ยมถึงบ้านคนนั้นได้

เถรี 07-09-2017 21:25

ถาม : ข้าพเจ้าและคนในครอบครัว เมื่อมีเวลาว่าง เช่น นั่งเฉย ๆ หรือนั่งรอคนมาเรียก จะทำสมาธิ แต่ข้าพเจ้ามีความสงสัยว่า หากเรียกหรือรบกวนผู้ที่อยู่ในสมาธิ จะเกิดโทษแก่ผู้ที่เรียกนั้นใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นการรบกวนโดยเจตนาจะให้เขาเสียสมาธิ ก็จะมีโทษเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่มีเจตนาจะให้เสียสมาธิ โทษก็ลดน้อยลงไป

แต่ถ้าเราอยู่ในสถานที่ซึ่งรอเขาประกาศเรียกชื่อแล้วเราทำสมาธิ โทษของเขาไม่มีเพราะว่าเขาทำตามหน้าที่ของเขา เราก็รักษากำลังใจของเรา เพียงแต่สติให้อยู่เฉพาะหน้า ไม่อย่างนั้นเขาประกาศเรียกชื่อแล้วตกใจ สมาธิหล่น จะกลายเป็นโทษแก่เขาได้


ถาม : มีวิธีป้องกันโทษจากการรบกวนสมาธินั้นอย่างไรบ้างครับ เพราะเป็นการนั่งรอให้ผู้อื่นมาเรียก ?
ตอบ : เข้าฌานสี่ไปเลย ระเบิดลงก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร..!

เถรี 07-09-2017 23:22

ถาม : มีวิธีใดบ้างที่จะกระตุ้นให้เรามีความขยัน และมีวินัย ได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากที่สุดและง่ายที่สุดครับ ?
ตอบ : สร้างอัปปนาสมาธิตั้งแต่ปฐมฌานละเอียดให้เกิดขึ้น หรือ ลุยไปยันสมาบัติแปดได้เลยยิ่งดี ถ้าสมาธิทรงตัวเท่าไร กำลังใจจะจดจ่อปักมั่นกับงานมากเท่านั้น แต่ระวังเจ้านายจะด่า เพราะว่าเขาเรียกแล้วเราไม่ได้ยิน

เถรี 07-09-2017 23:29

ถาม : พระพุทธเจ้าตรัสว่า "บุคคลที่เกิดมาได้พบกัน ในอดีตไม่เคยมีความสัมพันธ์กันเลยไม่มี อย่างน้อย ๆ ต้องเป็นฐานะใดฐานะหนึ่ง เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นหลาน เป็นญาติพี่น้อง เป็นเจ้านาย เป็นลูกน้อง เป็นเพื่อนฝูง เป็นบริวาร จะต้องเป็นสักฐานะหนึ่ง" เช่นนั้นแล้ว มีโอกาสหรือไม่ครับที่จะได้เจอผู้ใดผู้หนึ่งในชาติปัจจุบันนี้เป็นครั้งแรก โดยที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกันมาในอดีตเลย ?
ตอบ : ไม่มี...อย่างน้อยก็ต้องเคยเดินผ่านเห็นหน้ากันมา

เถรี 07-09-2017 23:30

ถาม : มีวิธีการใดบ้างให้ได้เจอเนื้อคู่ของตนเองครับ ?
ตอบ : ไปออกรายการนัดบอด ถ้าเป็นเนื้อคู่ไม่ต้องหาวิธีหรอก กรรมจะจูงมาหาเองแหละ หนีให้ทันก็แล้วกัน ..!

ถาม : เขาหนีกันอย่างไรคะ ?
ตอบ : วิ่ง...ถ้าเป็นอาตมาก็หนีเข้าวัด..!

เถรี 07-09-2017 23:47

ถาม : เนื่องจากได้อ่านคำสอนของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ที่ท่านว่า หากต้องการให้ลูกหน้าตาดี ให้เอารูปของคนที่ต้องการให้เหมือนมาห้อยไว้ให้เห็นง่าย ๆ ตั้งใจจำรูปนั้นเวลาทำบุญให้ทาน อธิษฐานขอให้ลูกถ้าเป็นหญิงขอให้สวยอย่างนี้ อยากทราบว่า การทำเช่นนี้เป็นการเลือกวิญญาณผู้ที่จะมาเกิด ให้เป็นผู้ที่มีบุญที่ทำให้หน้าตาดีอยู่มาก หรือเป็นการเพิ่มบุญให้กับวิญญาณที่อยู่ในครรภ์แล้วครับ ?
ตอบ : จริง ๆ จะว่าไปแล้วตัวนี้เป็นจิตนิยาม ก็คือกำลังใจที่แน่วแน่ปักมั่นของแม่ทำให้เป็นไป ในเมื่อกำลังใจของแม่จดจ่อแน่วแน่ ปักมั่นในความดีขนาดนั้น ก็แปลว่าดวงจิตที่มาเกิด ต้องมีความดีรองรับอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน

ถาม : ถ้าต้องการให้ลูกหน้าตาดี ควรนึกรูปไว้ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่จำเป็น ส่งไปเกาหลีก็จบแล้ว...!

เถรี 07-09-2017 23:53

ถาม : ปกติเราควรบวงสรวงก่อนเวลา ๙.๐๐ น. เพราะว่าเทวดาจะไปประชุมที่เทวสภา แต่ทีนี้ระยะเวลาของโลกกับระยะเวลาของสวรรค์ต่างกัน ผมลองคำนวณเทียบดู อย่างนี้เทวดาก็ต้องผุดลุกผุดนั่งตลอดสิครับ เพราะไม่ทันจะได้ไปเทวสภา มนุษย์โลกก็เรียกบวงสรวงอีกแล้ว ?
ตอบ : เทวดาเขาไม่ได้โง่เหมือนคุณนี่ จะได้ผุดลุกผุดนั่ง...! อยู่ที่ไหนความเป็นทิพย์ของท่านก็สามารถส่งไปถึงได้ แค่แยกจิตไปทำงานก็พอแล้ว

เถรี 07-09-2017 23:55

ถาม : หนูรู้สึกว่าวิญญาณมาใช้ร่างค่ะ ตอนนี้ทำงานลำบากมาก วิญญาณมาหาทุกวัน พอออกไปดูที ก็ปวดหัวทันที อยากกลับมานั่งสมาธิได้บ้างค่ะ รบกวนชี้ทางให้ด้วยค่ะ
ตอบ : ทำไมเขามาใช้ร่างล่ะ ? ต้องหาเหตุให้เจอ โดยเฉพาะเมื่อเจอเขาแล้วก็ถามกันตรง ๆ ว่าจะใช้อย่างไร ถ้าไม่เกินวิสัยก็ทำตามที่เขาบอกก็จบกันไป แต่ถ้าเกินวิสัยก็จงทนต่อไป

เถรี 07-09-2017 23:58

ถาม : ผมจะเดินทางไปโอกินาว่าปลายเดือนนี้ ควรจะไปขอพรกับท่านใดเป็นพิเศษไหมครับ ?
ตอบ : ขอพรกับพระพุทธเจ้า..!

ถาม : และควรจะไปทำบุญอะไรเป็นพิเศษที่นั่นไหมครับ ?
ตอบ : ไปเยี่ยมศาลเจ้ายาสุกุนิ ถวายสังฆทานให้ท่านนายพลโตโจ บอกว่าช่วงที่อยู่ญี่ปุ่นห้ามแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด

เถรี 08-09-2017 00:00

ถาม : ตกงานอยู่ค่ะ จะบนขอเรื่องงานกับพระหรือเทพองค์ใด จึงจะได้ผลมากที่สุดและเร็วที่สุดคะ ?
ตอบ : ถ้าเป็นปัจจุบันนี้ก็เห็นไปบนกับพ่อปู่ศรีสุทโธที่คำชะโนด ตอนนี้ผีกับเทวดาสบายขึ้น แต่พญานาคลำบากฉิ...หายเลย..!


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:33


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว