กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6031)

เถรี 30-01-2018 08:36

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๑
 
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ จากการตอบคำถามเมื่อครู่ก่อนการปฏิบัติธรรมนั้น ทำให้เห็นว่านักปฏิบัติธรรมของเราจำนวนหนึ่ง ประกอบไปด้วยความฟุ้งซ่านเป็นอย่างมาก ถ้าเอาเวลาในการคิดคำถามไปภาวนา ก็น่าจะทรงฌานไปได้นานแล้ว

เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้เมื่อศึกษาแล้ว กลายเป็นศึกษาไปในทางที่ผิด เพราะว่าการศึกษาในทางพระพุทธศาสนานั้นประกอบไปด้วย อลคัททูปมปริยัติ เรียกว่า การศึกษาเหมือนจับงูข้างหาง นอกจากไม่ก่อประโยชน์แล้ว ยังอาจจะโดนงูนั้นกัดจนถึงแก่ความตายได้ ก็คือลักษณะของบุคคลที่ศึกษาแบบจับแพะชนแกะไปเรื่อย กลายเป็นว่าตนเองก็สับสน ไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร แล้วก็มาฟุ้งซ่านว่า จะต้องเป็นอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้ ท้ายสุดก็อาจจะเลี้ยวออกนอกลู่นอกทาง กลายเป็นมิจฉาทิฐิไปได้

การศึกษาประเภทต่อไป คือ ภัณฑาคาริกปริยัติ ท่านกล่าวว่าการศึกษาประเภทนี้เหมือนดั่งห้องสมุดหรือคลังเก็บความรู้ ก็คือรักษาความรู้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ก็จะอยู่ในลักษณะของเถรใบลานเปล่า คือศึกษาได้ ท่องจำได้ ถ่ายทอดให้คนอื่นต่อได้ แต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรมากไปกว่านี้

ก็เหลือเพียงประการสุดท้าย คือ นิสรณัตถปริยัติ การศึกษาเพื่อความหลุดพ้น ถ้าจะศึกษาเพื่อความหลุดพ้น ก็ต้องทำตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ ก็คือต้องหาสัปปายะ ๗ ให้ครบ ก็แปลว่าสิ่งที่พอเหมาะ พอดี พอควรแก่ผู้ที่ปฏิบัติธรรมนั้นเราจะต้องมีอยู่ เพื่อที่จะได้ก้าวเข้าสู่การหลุดพ้นได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เถรี 30-01-2018 22:08

ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นบุคคลอีกประเภทหนึ่งที่กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วมักจะโดนเพื่อนกลั่นแกล้งอยู่เสมอ เนื่องเพราะว่าเราทำตัวไม่เหมาะสมกับกาละและเทศะ

คำว่า กาละ คือเวลาที่เหมาะสม เทศะ คือสถานที่อันเหมาะสม ถ้าว่าไปแล้วในอุทุมพริกสูตร แม้กระทั่งการนั่งสมาธิให้ผู้อื่นเห็นก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง เพราะว่าอยากอวดให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นผู้ปฎิบัติธรรม

ฉะนั้น...การปฏิบัติของเราไม่จำเป็นที่จะต้องทำเพื่ออวดใคร ไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำให้ใครรู้ แต่เป็นการแอบทำ คือเราจะภาวนาเราก็ภาวนาของเรา อย่าไปนั่งให้คนอื่นเขาเห็น เราจะรักษาศีลเราก็รักษาของเรา ไม่ต้องไปบอกคนอื่นว่าเรารักษาศีล ถ้าหากว่ารักษาศีล ๘ เพื่อนชวนไปกินข้าวเย็นก็ไม่ใช่ไปปฏิเสธโป้ง ๆ ไปว่า เรารักษาศีล ๘ กินข้าวเย็นไม่ได้ แต่อาจจะเลี่ยงไปว่า ระยะนี้ลดข้าวเย็นเพราะว่าเริ่มอ้วนแล้ว เป็นต้น เพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้น สิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่ง อย่าให้กาย วาจา ใจของเราเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่น เพราะว่าจะเป็นการสร้างเวรสร้างกรรมที่สืบเนื่องกันไปไม่รู้จบ

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นักปฏิบัติจึงต้องพึงสังวรอย่างยิ่งในเรื่องกาละและเทศะ ตลอดจนยึดเอาหลักของมรรค ๘ ให้ชัดเจนไว้ ไม่เช่นนั้นแนวทางการปฏิบัติของเราจะผิดพลาด มีโอกาสหลงออกไปนอกลู่นอกทางได้ง่าย

ในเมื่อเราเองตั้งใจปฏิบัติธรรมแล้ว สิ่งทดสอบต่าง ๆ ก็ย่อมเกิดขึ้น ลักษณะเหมือนกับเราเรียนหนังสือ ย่อมต้องมีการสอบกลางภาค มีการสอบปลายภาค มีการสอบเก็บคะแนน เป็นต้น เมื่อข้อสอบเหล่านี้เกิดขึ้น เราจะไปเที่ยวตำหนิคนอื่นไม่ได้ มีแต่ว่าเราต้องตั้งหน้าตั้งตาทำข้อสอบเพื่อให้ผ่านพ้นไปให้ได้

เถรี 01-02-2018 01:01

การปฏิบัติของเราทั้งหลายจึงต้องระมัดระวัง กาย วาจา และใจ ของเราอย่างที่สุด อย่าทำอวดคนอื่น อย่าทำหวังคำชมจากคนอื่น แต่ให้มุ่งเพื่อหวังความหลุดพ้นอย่างแท้จริง โดยเฉพาะถ้าตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติจริง ๆ แล้ว คำถามทั้งหมดแทบจะได้คำตอบในตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเที่ยวถามใครเพื่อให้ได้คำตอบ แล้วเราก็มาฟุ้งซ่านว่าเมื่อไรจะเป็นอย่างที่หลวงพ่อบอกมา เมื่อไรจะเป็นอย่างที่ท่านอาจารย์บอกมา กลายเป็นว่าตัวเราฟุ้งซ่านแล้วเข้าถึงสมาธิได้ยากเสียอีก

ดังนั้นขอให้ทำ เมื่อทำแล้วเกิดปัญหาค่อยมาถาม อย่าชิงคิดกังวลไปล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วมาถาม เพราะมีแต่จะสร้างฟุ้งซ่านให้มากขึ้นเท่านั้น

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัยจนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว