เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๓
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเริ่มรับสังฆทานอย่างเป็นทางการในปี ๒๕๓๖ โดยคุณแม่ทองดี ม่วงน้อยเจริญ เจ้าของบ้านอนุสาวรีย์ฯ นิมนต์ให้ไปรับสังฆทานและสอนกรรมฐานอย่างเป็นทางการ จนคนมากเข้า ไม่สามารถที่จะขยับขยายได้ ก็ได้รับความกรุณาจากแม่ป๋อม (กนกวลี วิริยประไพกิจ) เปิดบ้านวิริยบารมีขึ้นมาแทน
รับสังฆทานที่บ้านวิริยบารมีตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ ไปจนสิ้นปี ๒๕๕๙ ทางแม่ป๋อมขอบ้านคืน ทำให้คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา และคุณณัฐพล สุขวัฒนศิริ ต้องหาสถานที่ใหม่ให้รับสังฆทานและสอนกรรมฐาน ซึ่งก็คือบ้านเติมบุญแห่งนี้" |
"ตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ มาจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยขาดการไปสงเคราะห์ญาติโยมเลย แม้กระทั่งปี ๒๕๕๔ ที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างหนัก ก็ยังคงไปเป็นปกติ เพิ่งจะมีเดือนเมษายน ๒๕๖๓ นี้ ที่ต้องหยุดการรับสังฆทานและสอนกรรมฐาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส covid-๑๙
หลายท่านอาจจะไม่กลัวไวรัสแพร่ระบาด แต่ถ้าเรายังคงมีกิจกรรมตามปกติ พวกเรานั่นแหละที่จะเป็นตัวแพร่ระบาดไวรัสให้คนอื่นเดือดร้อน..!" |
"สมมติว่า นาย ก. ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ เมื่อกลับเข้ามาแล้วได้เดินทางไปหานาย ค. ระหว่างทางได้พบกับนาย ข. ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อาจจะโดยการนั่งร้านอาหารเดียวกัน หรือใช้ขนส่งสาธารณะจนอยู่ใกล้ชิดกัน ทำให้เชื้อแพร่ระบาดไปสู่นาย ข.
เมื่อนาย ก. ป่วย หมอตรวจพบว่าเป็นไวรัส covid-๑๙ ทำการสอบประวัติแล้วว่าไปพบกับนาย ค. ก็นำเอานาย ค. มาทำการกักกันโรค แต่ไม่มีใครรู้ว่านาย ข. เป็นใคร จึงต้องให้พวกเราทุกคนป้องกันด้วยการกักกันตัวเอง จะได้ไม่ต้องดวงซวยไปพบกับนาย ข." |
"เมื่อพวกเรากักกันตัวเอง ๑๔ หรือ ๒๑ วัน นาย ข. ซึ่งติดเชื้อไวรัส covid-๑๙ ก็จะแสดงอาการเจ็บไข้ได้ป่วย เมื่อไปพบหมอตรวจพบว่าเป็นไวรัส ก็จะโดนนำตัวไปกักกันโรคและรักษาพยาบาล จนกระทั่งบรรดานาย ข. ปรากฏตัวออกมาหมดแล้ว เราก็จะควบคุมโรคนี้ได้
ดังนั้น...พวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องเสียสละ เพื่อให้สถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม แม้ว่าจะสูญเสียความเคยชิน สูญเสียการทำหน้าที่การงาน สูญเสียเวลาดี ๆ ที่จะสร้าง ศีล สมาธิ ปัญญา ให้แก่ตนเอง เราก็ต้องยอมเสียสละ ถ้าทำอย่างนี้ถึงจะได้ชื่อว่า เราปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธเจ้า คือต้องเสียสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ ต้องสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต และต้องสละทั้งทรัพย์และอวัยวะ ตลอดจนชีวิตเพื่อรักษาธรรม" |
"การเสียสละของเราไม่ได้เสียชีวิต แต่เป็นการรักษาชีวิตของเราเอาไว้ปฏิบัติธรรม และไม่เป็นการสร้างเวรสร้างกรรมด้วยการไปแพร่กระจายเชื้อให้กับผู้อื่น
สิ่งที่อาตมายึดถือและปฏิบัติอย่างหนึ่งก็คือว่า เราจงอย่าเป็นทุกข์โทษเวรภัยกับผู้อื่น แม้ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจเลย" |
"ระยะนี้พวกเราต้องปฏิบัติตนด้วยความไม่ประมาท เก็บตัวอยู่กับบ้าน ใส่หน้ากาก กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ
ถ้าจำเป็นจะต้องเดินทางไปไหน ต้องใส่หน้ากากอนามัย ใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด กลับถึงบ้านแล้ว รีบชำระร่างกาย ซัก - อบเสื้อผ้า ถ้ามีอาการเป็นไข้ ก็รีบไปหาหมอ กินยารักษาตามอาการ ถ้าขาดการเที่ยวเตร่เฮฮาไม่ได้ ก็ให้ดูหนังฟังเพลงอยู่กับบ้าน หรือเป็นโอกาสดีที่จะได้อ่านหนังสือที่เก็บมานาน ใช้ชีวิตให้ช้าลง ความเครียดจะได้ลดน้อยถอยลงไปด้วย" |
"ใครที่ต้องทำงานส่งที่บ้าน เมื่อจัดการกับงานเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้เวลาที่เหลือในการออกกำลังกาย กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้า สังคายนาข้าวของที่รกมานาน
ถ้าเวลายังเหลือ เราก็มาภาวนา ทบทวนศีล สมาธิ ปัญญา ของเรา ถือว่าเป็นเวลาทองของการปฏิบัติธรรม" |
"ถ้าทำไปแล้วรู้สึกเบื่อ ก็หาพระคาถามาปฏิบัติให้เกิดผล เช่น อาจจะภาวนาปลุกตะกรุดพยัคฆราชเกราะเพชร ก็ต้องใช้คาถา พยัคโฆ พยัคฆา สุญญาสัพพะติ อิติ นะมะพะทะ
กำหนดภาพเป็นเสือโคร่งตัวใหญ่ เดินไปทางไหน สัตว์อื่นก็หลีกเป็นทาง แต่ถ้ากลัวว่าตายตอนนั้นแล้ว จะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็ให้นึกถึงภาพพระพุทธเจ้า ประทับมาบนหลังเสือโคร่งนั้นด้วย" |
"หรือจะใช้พระคาถาเสกข้าวของสมเด็จพระพุทธกัสสป คือ พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาสสันติ เสกข้าวกินป้องกันไสยศาสตร์ คุณผีคุณคนต่าง ๆ
หรือพระคาถาขับโรคของท้าวเวสสุวรรณ คือ พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาสสันติ เสกข้าวกินเพื่อรักษาโรคก็ได้ เราต้องมีวิธีการต่าง ๆ ที่จะทำให้จิตไม่เบื่อหน่ายในการภาวนา ซึ่งแต่ละคนสามารถหาวิธีที่เหมาะสมกับตนเองได้ ก็จะทำให้การปฏิบัติธรรมของเราก้าวหน้ามากขึ้น" |
"อาตมาโดนยกเลิกงานไปหลายต่อหลายงาน ทำให้มีเวลาอยู่วัดมากขึ้น ญาติโยมก็ดีใจที่ได้ใส่บาตรพระอาจารย์ทุกวัน อาตมาก็ดีใจที่มีเวลาพักกับเขาบ้าง
สิ่งที่เห็นอย่างชัดเจนอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตอะไรขึ้นก็ตาม คนยังยึดถือพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่ง ใส่บาตร สวดมนต์ไหว้พระ เจริญพระกรรมฐานมากกว่าปกติ ด้วยเชื่อว่าบุญกุศลจะช่วยให้เราพ้นภัยได้" |
"การเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเกิดจากกรรมเก่าอย่างหนึ่ง เกิดจากคุณผีคุณคนอย่างหนึ่ง เกิดจากดินฟ้าอากาศอย่างหนึ่ง เกิดจากอาหารการกินอย่างหนึ่ง"
|
"เมื่อมหาเถรสมาคม มีคำสั่งให้สวดรตนสูตรเพื่อสู้กับไวรัส covid-๑๙ ก็มีผู้ออกมาแสดงความเห็นว่า หมดยุคสมัยแล้ว บุคคลที่ออกมาแสดงความเห็นแบบนี้ แสดงว่าเป็นผู้ตั้งอยู่บนความประมาท
ถ้าหากว่าไวรัส covid-๑๙ เกิดจากกรรม อากาศ หรือว่าอาหารก็แล้วไป แต่ถ้าเกิดจากผีกระทำ การสวดรตนสูตรย่อมช่วยได้อย่างใหญ่หลวง" |
"บุคคลพึงกระทำอย่างสุดความสามารถในทุกด้านเสียก่อน เมื่อสิ้นกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา กำลังคน กำลังทรัพย์แล้ว ค่อยปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของหมอหรือรัฐบาล
ไม่ใช่ว่ายังไม่ทันทำอะไรเลย เมื่อเห็นว่าไม่ตรงกับกิเลสของตัวเอง ก็รีบปฏิเสธเอาไว้ก่อน คนประเภทนี้อาตมาถือว่าโง่..! เมื่อแพทย์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เวชศาสตร์ ไสยศาสตร์ สู้ไม่ได้แล้ว มีพุทธศาสตร์อยู่แล้วจะไม่ใช้หรือ ?" |
"ช่วงก่อนนี้มีพระมหาเปรียญธรรม ๙ ประโยคท่านหนึ่ง ปัจจุบันนี้เป็นท่านเจ้าคุณไปแล้ว ออกมาแสดงความเห็นว่า การสร้างวัตถุมงคลจาก หนัง เขา เขี้ยว งา กระดูก ของสัตว์ต่าง ๆ ทำไปก็ไม่มีผล เพราะว่าบารมีพระพุทธเจ้า ไม่ลงประทับในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้
ผู้ที่พูดแบบนี้แปลว่าใช้หลักวิชาการอย่างเดียว ไม่ได้มีความรู้ความสามารถทางด้านจิตภาวนาเลย จึงไม่สามารถเข้าถึงในสิ่งต่าง ๆ ที่โบราณาจารย์ท่านทำเอาไว้ได้ แล้วแสดงความเห็นไปตามทัศนะของตน" |
"สิ่งเหล่านี้ถ้าทำแล้วไม่ได้ผล ทำไมคนรุ่นก่อนใช้งานแล้วเกิดผลเป็นปกติ ? ก็เพราะว่าคนรุ่นเก่าประกอบด้วยศรัทธา แต่คนรุ่นใหม่อย่างท่านศึกษาวิชาการมากเกินไป จนขาดศรัทธาในคุณพระรัตนตรัยที่แท้จริง เพราะว่าสงสัยไปทุกเรื่อง
ดังนั้น...การที่ญาติโยมทั้งหลายทำบุญใส่บาตรมากขึ้น สวดมนต์ไหว้พระมากขึ้น เจริญกรรมฐานมากขึ้น นับเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง เพราะว่าอันดับแรก...ตัวคนทำได้บุญกุศลเป็นของตนเองก่อน อันดับที่สอง...เมื่อจิตใจมีเครื่องยึดเหนี่ยว ก็มั่นคง มีสติ มีปัญญาพิจารณาว่าอะไรควรหรือไม่ควรในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ แล้วเลือกทำในสิ่งที่จะช่วยกู้สถานการณ์ให้ดีที่สุด เป็นการกระทำที่ควรค่าแก่การสรรเสริญเป็นยิ่งนัก" |
"สิ่งหนึ่งที่ผู้คนแสวงหากันในช่วงนี้ คือวัตถุมงคล ด้วยเชื่อว่าป้องกันโรคได้ เช่น วัตถุมงคลหัวนอโม วัตถุมงคลที่บรรจุปรอทป่า เหรียญทำน้ำมนต์รักษาโรค ธงกันโรคระบาด เป็นต้น
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่ง ให้เราระลึกถึงคุณของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่ต้องมีปัญญาประกอบในการใช้ด้วย ไม่ใช่ว่าเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา แทนที่จะหาหมอก็มาทำน้ำมนต์กินเอง ต้องพึ่งวิทยาการสมัยใหม่ พึ่งการแพทย์สมัยใหม่เสียก่อน จนไม่มีทางรักษาแล้ว ค่อยมาพึ่งคุณพระรัตนตรัย ไม่อย่างนั้นแล้ว เราจะเป็นเหตุให้บุคคลปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่รู้ตัว เพราะว่าคนที่รู้ก็จะตำหนิติเตียนเรา และตำหนิติเตียนไปถึงวัตถุมงคลที่เราใช้ ซึ่งก็คือการตำหนิในพระรัตนตรัยนั่นเอง" |
"ดังนั้น..ในการพึ่งพาวัตถุมงคล พึ่งพาคุณพระรัตนตรัย ต้องอาศัยควบคู่ไปกับการแพทย์สมัยใหม่ เรียกว่ารักษาทั้งกายรักษาทั้งใจไปพร้อมกัน จึงนับว่าเป็นการใช้หลักธรรมคือปัญญาในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง"
|
"ตอนนี้ที่วุ่นวายกันจนเว็บวัดท่าขนุนแทบจะระเบิด คือการจองพระสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปวดหัวกับกิเลสคนเป็นอย่างมาก
ทุกคนต้องการให้ได้อย่างใจ ตอนนั้น เดี๋ยวนั้น โดยไม่ได้คิดว่าการที่คนเป็นพันประดังเข้าไปพร้อมกัน ทำให้เจ้าหน้าที่คนเดียวปวดหัวขนาดไหน ? ส่วนใหญ่ก็เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกในวันนั้น ซึ่งตามกติกาคือต้องมีการยืนยันตัวตนก่อน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ว่างในการยืนยันตัวตนให้ เพราะมัวแต่ยุ่งกับการรับจอง พวกเราก็โทรหาทุกเบอร์ที่คิดว่าใช่ เพื่อสนองกิเลสตนเอง คือ กูสมัครแล้ว กูจองแล้ว กูต้องได้ ไม่ศึกษากฎเกณฑ์กติกาอะไรทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ขับรถอยู่ก็โทรถามเป็นร้อยสาย คิดว่าตัวเองโทรอยู่คนเดียว ต้องตอบปัญหาของตัวเองให้ชัดเจน พอเขาตัดสายเพราะรถจะตกถนนก็โกรธอีก" |
"ถ้ารู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะเห็นว่าเว็บวัดท่าขนุนนั้น เปิดมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ แล้ว แต่ก็ไม่คิดจะสมัครเป็นสมาชิก พอเกิดเรื่องรีบด่วนขึ้นมาแล้วค่อยสมัคร ประดังกันเข้ามาเป็นร้อยเป็นพัน ต่อให้เกิดเป็นทศกัณฐ์ก็บริการให้ไม่ทัน..!
บางคนคิดอยู่อย่างเดียวว่าตัวเองศรัทธา แต่มาเจอบริการแย่ ๆ โดยไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่เว็บมีเพียงคนเดียว ก็สารพัดจะต่อว่าต่อขาน ไปนั่งร้องไห้บ้าง กังวลจนนอนไม่หลับบ้าง ประสาทรับประทานบ้าง เรียกว่าทำร้ายตัวเองแท้ ๆ เลย..!" |
"อาตมาอยากจะให้ทุกคนดูใจตัวเอง ว่าที่เป็นอย่างนั้นเพราะอะไร ? เรารักตัวเองจนกระทั่งต้องได้วัตถุมงคลชิ้นนี้ให้ได้ เราโลภเพราะจะเอาไปขายต่อแพง ๆ เราโกรธเพราะอยากได้มากแต่ไม่ได้อย่างใจ เราหลงเพราะคิดว่าวัตถุมงคลสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตหรือเปล่า ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะว่าการสร้างวัตถุมงคลนั้น เจตนาแรกก็คือ ต้องการให้ทุกคนยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัย ลำดับต่อไป คือ ผลพิเศษตามแต่พระหรือครูบาอาจารย์ท่านจะสงเคราะห์ ไม่ใช่อาตมาสร้างแล้วไปก่อให้เกิดความ รัก โลภ โกรธ หลง ให้เจริญงอกงามในใจของญาติโยม ท่านที่ตั้งใจทำมาหากินกับวัตถุมงคลของวัดท่าขนุน ก็ให้รู้จักละอายแก่ใจตัวเองบ้าง ซื้อมาราคาหลักร้อย เอาไปขายราคาหลายพัน ซื้อราคาหมื่นเอาไปจำหน่ายเป็นแสน ทำไมถึงได้คิดจะขูดเลือดขูดเนื้อญาติโยมกันขนาดนั้น ?" |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:26 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.