กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4586)

เถรี 07-09-2015 18:37

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๘
 
ถาม : การภาวนาแบบมีสติแนบกับจิตตลอดวันควรทำอย่างไร ? เพราะชีวิตประจำวันต้องทำงานอย่างอื่นร่วมด้วย
ตอบ : มี ๒ วิธี วิธีแรกก็คือภาวนาให้ถึงระดับปฐมฌานละเอียด ความรู้สึกของเราจะภาวนาเองโดยอัตโนมัติ แค่เอาสติกำกับตามไปก็พอ อีกประการหนึ่งก็คือฝึกซ้อมการแยกจิตให้ทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน สภาพจิตส่วนหนึ่งประมาณ ๒๐ เปอร์เซ็นต์อยู่กับการภาวนา อีกประมาณ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็ให้ทำงานในชีวิตประจำวันไป

เถรี 07-09-2015 18:37

ถาม : การที่ลืมใส่บาตรวิระทะโยบางวัน เราจึงใส่ย้อนหลังในวันที่ขาด ถือว่าเป็นการใส่ทุกวันหรือไม่ ?
ตอบ : ภาวนาคาถาให้ครบตามที่ตั้งใจเอาไว้ก็แล้วกัน ถือว่าแปะคืนตรงที่แหว่ง ๆ ไปบ้าง

เถรี 07-09-2015 18:38

ถาม : การทำบุญระยะแรกมีความตั้งใจทำ ระยะที่ ๒ ทำไปแล้วไม่เป็นที่พอใจด้วยสาเหตุบางประการ ระยะที่ ๓ คิดว่าไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ความคิดในการทำบุญลักษณะอย่างนี้อานิสงส์จะเป็นอย่างไร ?
ตอบ : พร่องไปหน่อยหนึ่ง จะเอาอานิสงส์เต็มก็คือ ก่อนทำมีความปีติว่าจะได้ทำบุญนั้น ระหว่างที่ทำมีความปีติว่าเราได้ทำบุญนั้น หลังจากทำแล้ว นึกถึงเมื่อไรก็มีความปีติว่าได้ทำบุญนั้นแล้ว เพราะฉะนั้น..ห้ามไม่พอใจ เดี๋ยวจะไปเกิดเป็นอสูร เพราะว่าอสูรคือผู้ที่มักจะทำบุญผสมด้วยโทสะ

เถรี 07-09-2015 18:42

ถาม : เมื่อเรากินผลไม้แล้วนำเมล็ดไปเพาะชำ พอต้นโตขึ้นก็นำไปถวายวัด กรณีนี้จะเป็นบาปแก่ตัวเราหรือไม่ ? หรือพอต้นโตขึ้นออกผลแล้ว นำผลไปถวายวัดจะเป็นบาปแก่ตัวเองหรือไม่ ?
ตอบ : ข้อนี้ต้องเรียกว่าฟุ้งซ่านเกินเหตุ เพราะไปคิดว่าเป็นของเหลือจากเรา หมายถึงว่าเหลือจากผลไม้ลูกนั้น สมมติว่าเราเอาแอปเปิ้ลที่กัดแหว่งคำหนึ่งไปถวายพระ อย่างน้อยก็ยังเป็นทาสทาน อานิสงส์นั้นมีอยู่ ถึงเวลาเราก็รับในส่วนที่ไม่เต็มอย่างนั้นด้วย แต่ในส่วนที่เราปลูกต้นไม้ หรือว่านำไม้ผลที่เกิดจากเมล็ดนั้นไปถวายวัด เป็นความดีโดยส่วนเดียว จึงไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องบาปเรื่องกรรมกันต่อไป

เถรี 07-09-2015 18:44

ถาม : ขณะที่สวดมนต์ไม่มีสมาธิ พอช่วงอุทิศส่วนกุศล บุคคลที่เราอุทิศจะได้รับหรือไม่ ? เพราะผู้สวดไม่มีสมาธิ
ตอบ : น่าคิดไหม ? สิ่งที่เราทำเป็นความดี ดังนั้น..ไม่ว่าจะมากจะน้อยก็ตาม เมื่ออุทิศไป บุคคลที่เราตั้งใจให้ย่อมได้รับในส่วนกุศลนั้น เพราะว่าในขณะที่เรานั่งสวดมนต์อยู่เราทำชั่วด้วยกายไม่ได้ ขณะเดียวกันปากเราสวดมนต์อยู่ก็ทำชั่วด้วยวาจาไม่ได้ ต่อให้ใจคิดชั่ว ฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิขนาดไหนก็เสียแค่ส่วนเดียว ความดีได้ถึง ๒ ใน ๓ ส่วน เพราะฉะนั้น..อุทิศส่วนกุศลไปเถอะ อย่างไรก็มีบุญให้เขาแน่ ๆ

เถรี 07-09-2015 18:45

ถาม : การปรามาสพระรัตนตรัยที่ไม่เจตนา แสดงว่าการปฏิบัติธรรมของเรายังพร่องในเรื่องใด และควรแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : สติบกพร่อง เพราะถ้าสติสมบูรณ์อยู่ก็ย่อมไม่ปรามาสในพระรัตนตรัย ควรแก้ไขอย่างไร ? ก็ต้องสร้างสติให้มากขึ้น วิธีสร้างสติให้มากขึ้นก็คือ การนั่งภาวนากำหนดลมหายใจเข้าออก

เถรี 07-09-2015 18:46

ถาม : ขณะที่สวดมนต์ แผ่เมตตา มีจิตผุดนึกคำด่าโดยไม่เจตนา ถือว่าบาปหรือไม่ ?
ตอบ : เราตั้งใจทำความดีอย่างที่บอกไปแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ในส่วนที่ผุดขึ้นมาจะเป็นส่วนของกิเลสมารที่ตั้งใจจะมากวนใจของเราให้ขุ่น เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องไปกังวลว่าบาปหรือไม่บาป เพราะเขาได้ไปแค่ส่วนเดียว อีกสองส่วนเป็นของเรา ให้ทำต่อไป

เถรี 07-09-2015 18:56

ถาม : พระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงินของผม มีสีหมองเนื่องจากโดนอากาศ ทำให้สีองค์พระเปลี่ยนไป ถ้าหากผมจะนำน้ำยาขัดเงินมาขัดองค์พระ จะเป็นการสมควรหรือไม่ครับ ? จะเป็นการปรามาสพระหรือไม่ ? หรือจะทำให้เนื้อองค์พระเสียหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเราต้องการคงสภาพเดิม ซึ่งบรรดานักเล่นวัตถุมงคลจำนวนมากต้องการให้เป็นอย่างนั้น แล้วเราไปขัดทิ้ง วัตถุมงคลนั้นก็เสียสภาพความเก่าไป ถ้าเป็นสิ่งที่นิยมในท้องตลาดราคาก็ตกไปหลายเปอร์เซ็นต์ แต่การที่เราขัดพระให้สวยงาม ให้ดูสะอาดตาขึ้น ถือว่าได้อานิสงส์ในการทำความสะอาดพระพุทธรูป จะว่าไปแล้วเป็นสิ่งที่สมควรทำ

แต่ขอแนะนำว่าอย่าไปขัดเอง เพราะส่วนใหญ่ถ้าเราขัดเองแล้วมักจะเสียหาย อาจจะเกิดเป็นรอยหรือว่าเนื้อแหว่งไปได้ เอาไปให้ทางร้านที่เขารับชุบจะดีกว่า ให้เขาเคลือบด้วยไฟฟ้า อยู่ได้ประมาณ ๔-๕ ปี ถ้ารู้สึกว่าหมองก็เอาไปให้เขาล้างแล้วก็เคลือบใหม่

เถรี 07-09-2015 18:57

ถาม : การบูชาวัตถุมงคลเพื่อร่วมบุญต่าง ๆ อานิสงส์ที่ได้เต็มร้อยไหมครับ ? และควรวางกำลังใจอย่างไรให้ได้อานิสงส์เต็มร้อยครับ ?
ตอบ : อันดับแรกต้องดูว่าจ่ายเงินครบหรือเปล่า ? ถ้าจ่ายครบก็ได้เต็มร้อย..! เพราะฉะนั้น..ควรวางกำลังใจว่าเราต้องจ่ายให้ครบในทุกกรณี ห้ามเบี้ยวอย่างเด็ดขาด..!

ถาม : แล้วให้อานิสงส์เต็มร้อย ?
ตอบ : อานิสงส์จะไม่เต็มตรงที่มัวแต่สงสัยแล้วถามอยู่นั่นแหละ..!

เถรี 07-09-2015 19:01

ถาม : ลูกค้าผมเช่าบ้านที่มีศาลพระภูมิเสาเดียวในทางทิศใต้ ไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบกับผู้เช่าบ้านหรือไม่ครับ ? และถ้ามีผลกระทบควรแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : ย้ายเสีย..ให้ไปอยู่ในทิศที่ถูกต้องแทน ทิศใต้กับทิศตะวันตกเป็นทิศของอากาสเทวดา ไม่ใช่ทิศของพระภูมิเจ้าที่ ไปตั้งศาลลักษณะอย่างนั้นก็เหมือนอย่างกับเอานายพลมาเป็นคนใช้ เดี๋ยวก็เจอดีจนได้

เถรี 07-09-2015 19:07

ถาม : เมื่อจิตแรกเริ่มเดิมแท้ประภัสสร มีธรรมเสมอเหมือนกัน เหตุใดหรือประสบการณ์ใดของจิตในวัฏสงสาร ที่ทำให้จิตของบางคนมีมานะทิฐิ มีอัตตาอันแรงกล้า เห็นว่าตนดีกว่าผู้อื่น ? และสามารถกำจัดมานะทิฐิ อัตตาอันแรงกล้านี้ด้วยธรรมใดครับ ?
ตอบ : การสั่งสมของกิเลส ตัณหา อุปาทานและอกุศลกรรม ทำให้สภาพจิตที่เคยประภัสสรพอกพูนไปด้วยกิเลสต่าง ๆ วิธีกำจัดก็ให้ปฏิบัติรวบรัดตัดตรงเข้ามาสังโยชน์ ๑๐ ถ้าประหารสังโยชน์ ๑๐ ได้ครบเมื่อไรก็เป็นอันว่ากำจัดได้หมด

เถรี 07-09-2015 19:13

ถาม : เราใส่ตะกรุดมหาสะท้อนอยู่แล้วนั่งที่พื้น โดยขณะนั้นมีคนมายืนค้ำหัวเรา หรือมีคนนั่งบนเก้าอี้ซึ่งสูงกว่าระดับคอของเราที่กำลังสวมตะกรุดอยู่ ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกัน แบบนี้คนที่มายืนค้ำหัวเราหรือคนที่นั่งบนเก้าอี้จะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเขาไม่เตะเราก็ไม่เป็นไร..!

ถาม : ตะกรุดมหาสะท้อนมีผลต่อการกระทำเหล่านี้ไหมครับ ? เช่น โดนสะกดรอยตามบ้าง แอบติดกล้องสอดแนมบ้าง แกล้งทำเสียงดังใส่ทุกรูปแบบบ้าง วางแผนกลั่นแกล้งลับหลังบ้าง ?
ตอบ : ให้ภาวนา “เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา” ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้ว่ามีผลไหม

เถรี 07-09-2015 19:15

ถาม : วิธีที่ผมอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อนคือ ตั้งนะโมฯ ๓ จบ สวด อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๑ จบ แล้วถือตะกรุดมหาสะท้อนพนมมือ ขอให้ตะกรุดมหาสะท้อนคุ้มครองผมและขอให้ตะกรุดมหาสะท้อนได้โปรดแสดงอานุภาพอย่างเต็มที่ด้วยเถิด แล้วสวดต่อว่า "อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้ด้วยเถิด" จากนั้นก็สวดคาถาว่า "เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา" สวดไปเรื่อย ๆ สัก ๓๐ นาที ถึง ๑ ชั่วโมง เสร็จแล้วก็สวมตะกรุดใส่คอ แล้วก็ดูลมหายใจไปเรื่อย ๆ โดยระลึกถึงตะกรุดอยู่เนือง ๆ ทั้งวันเท่าที่จะทำได้ โดยจะสวด เช้า เย็น ก่อนนอน แล้วก็สวมตะกรุดนอนไปเลย โดยผมต้องการให้ตะกรุดคุ้มครองและมีผลทั้งวันทั้งคืน ผมทำแบบนี้ถูกต้องไหมครับ ? ถ้ายังไม่ถูกผมควรแก้ไขอะไรตรงไหนบ้างครับในการอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อนนี้ ?
ตอบ : ทำเกิน ถ้าเป็นอาตมาคนถามโดนเตะสลบไปแล้ว..! กว่าจะถึงคาถามหาสะท้อนรู้สึกว่านานเหลือเกิน ...(หัวเราะ)... ต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่ายิ่งสวดมนต์หรือภาวนามากเท่าไร แสดงว่าสภาพจิตของเราเกาะพระหรือเกาะความดีมากเท่านั้น แต่จะว่าไปแล้วเอาแค่ตัวคาถามหาสะท้อนอย่างเดียวก็พอแล้ว

ถาม : เราสามารถใส่ตะกรุดมหาสะท้อนเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำไปด้วยได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เคยมีข้อห้ามไว้

เถรี 07-09-2015 19:28

ถาม : อานุภาพของแก้วอินทนิล แก้วสุริยกานต์ และแก้วจันทรกานต์ เป็นอย่างไรครับ ? และถ้าเราทำสมาธิโดยนึกภาพดวงแก้วทั้งสามนี้เป็นนิมิต ซึ่งเป็นรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต เราจะได้รับอานุภาพจากดวงแก้วเป็นอานิสงส์บ้างไหมครับ ?
ตอบ : มีหรือวะ..? ยังสงสัยอยู่ว่าเอารูปจากที่ไหนมา

ถาม : เขาบอกว่าเอารูปมาจากอินเตอร์เน็ตครับ ?
ตอบ : อย่างนั้นก็ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วกัน

ถาม : เขาเอารูปจากอินเตอร์เน็ตมาจับเป็นนิมิต เขาจะได้รับอานุภาพจากดวงแก้วไหมครับ ?
ตอบ : ไม่สามารถที่จะบอกได้ เพราะยังไม่เคยทำ

เถรี 07-09-2015 19:34

ถาม : พอทำกรรมฐานไปช่วงหนึ่งแล้ว ออกมาจากอารมณ์พระกรรมฐานแล้วใช้ชีวิตปกติ ผมมาอ่านหนังสือที่เคยอ่าน แต่พอมาอ่านตัวหนังสือกลับกลายเป็นอย่างอื่น แล้วผมอ่านไม่ออก อาจเป็นรูปภาพหรือภาษาแปลก ๆ ครับ แบบนี้เรียกว่าอะไรครับผม ?
ตอบ : ถ้าไปถามหมอเขาบอกว่าบ้า..! นี่ยังดีที่มาถามอาตมา แปลว่ายังคลายสมาธิออกมาไม่หมด สภาพจิตจึงไม่ยอมรับอย่างอื่น หรือถ้าเห็นภาพอื่นแปลว่าสมาธิตอนอ่านหนังสือเป็นอุปจารสมาธิพอดี ภาพต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น

เถรี 07-09-2015 19:55

ถาม : พระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดินเนื้อเงินและเนื้อชุบทองพ่นทราย นอกเหนือจากเรื่องของมหาสะท้อนแล้ว นอกนั้นมีอานุภาพเท่ากันใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่..คนเห็นพระกริ่งเนื้อเงินแล้วอยากได้มากกว่า..!

เถรี 07-09-2015 20:02

ถาม : อยากทราบวิธีอาราธนาพระกริ่งปลดหนี้สองแผ่นดินครับ ?
ตอบ : อาราธนาที่ประเทศไทย แล้วไปอาราธนาที่เนปาล ในเมื่ออยากได้สองแผ่นดินก็ต้องไปสองที่..!

ถาม : อาราธนาที่เมืองไทยก็ได้นี่ครับพระอาจารย์ ?
ตอบ : ได้แค่แผ่นดินเดียว..!

เถรี 07-09-2015 20:04

ถาม : มีหลายครั้งที่ฝึกตัดขันธ์ ๕ โดยคิดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา เป็นสมบัติของโลก เราไม่ต้องการมัน เราต้องการไปพระนิพพาน พอคิดแบบนี้บ่อย ๆ เข้า ก็มีหลายครั้งที่เหมือนกับว่า ใจเริ่มจะยอมรับทีละนิดว่าขันธ์ ๕ ไม่ใช่ของเราจริง ๆ แต่พอใจเริ่มคิดยอมรับขึ้นมาว่าร่างกายไม่ใช่ของเราทีไร ก็มักจะมีความคิดสวนขึ้นมาทันทีว่า "หากว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราแล้ว ถ้าอย่างนั้นหากมีใครต้องการจะมาทำร้าย ทำลาย หรือทำปู้ยี้ปู้ยำอย่างไรก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องลามก ก็ปล่อยให้เขาทำไปเลย เพราะว่าไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา ใครอยากจะทำอะไรก็ตามใจเขา" พอความคิดนี้แวบขึ้นมา ใจก็รู้สึกหวงร่างกายนี้ขึ้นมาอีก ไม่ต้องการให้ใครมาทำอะไรแบบนั้น จิตก็กลับมายึดถือว่าร่างกายนี้เป็นของเราใหม่ ตอนนี้เลยแทบไม่ค่อยจะกล้าคิดตัดขันธ์ ๕ สักเท่าไร เกิดความกลัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น เลยอยากจะขอทราบว่าผมควรจะทำอย่างไรหรือคิดแบบไหนถึงจะผ่านปัญหานี้ไปได้ครับ ?
ตอบ : คิดเหมือนเดิม แสดงว่าโดนมารหลอก แค่ประเภทแทรกความคิดเข้ามาหน่อยเดียว คุณก็ไปเชื่อมารเสียแล้ว

เถรี 07-09-2015 20:45

ถาม : การสวดคาถา เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา ให้คุ้มครองตลอดทั้งวัน ควรจะท่องเช้าเย็นใช่หรือไม่คะ ? และหากสวดคาถาแล้วจำเป็นต้องไปใกล้คนที่จะคลอดลูก ควรทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ถ้าจะเอาคุ้มครองกันจริง ๆ ให้ภาวนาเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ส่วนถ้าจะต้องเข้าไปใกล้เขาก็อย่าไปภาวนาสิวะ..!

ถาม : แล้วพกตะกรุดมหาสะท้อน ?
ตอบ : พกตะกรุดเขาห้ามเข้าไปอยู่แล้ว

เถรี 07-09-2015 20:47

ถาม : กระผมเคยได้อ่านบทความเกี่ยวกับการขอพึ่งบารมีพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์ รวมถึงวัตถุมงคลที่หลวงพ่อหลาย ๆ ท่านได้สร้างไว้ว่า หากเราไม่มีความผูกพัน หรือเคยสร้างบารมีร่วมกับท่านมา โอกาสที่ท่านจะมาช่วยสงเคราะห์เรานั้นเป็นไปได้ยาก จริงหรือเท็จประการใดครับ ?
ตอบ : ถ้าได้มาแสดงว่าต้องมีความผูกพันอยู่แล้ว ฉะนั้น..คนพูดก็สักแต่ว่าพูดไป แล้วเราก็ดันทะลึ่งไปเชื่อเขาอีก..!

เถรี 07-09-2015 20:50

ถาม : เซียนพระคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า เวลาที่เขาบูชาวัตถุมงคลมาเก็บ และเอามาปล่อย ในหัวจะคิดแต่เรื่องเงินเรื่องกำไร ว่าเราบูชามาเท่านี้ ปล่อยแล้วจะได้เท่านี้ ต้องเก็บองค์นี้นะ ต่อไปคนจะนิยม แล้วก็เอาเงินมาหมุนไปบูชาอย่างอื่นต่อเพื่อเอามาปล่อยอีก กลายเป็นในหัวมีแต่เรื่องเงิน มีแต่เรื่องลาภผลกำไร พุทธานุสติกลับไม่ค่อยมี หรือมีน้อย เซียนพระคนนี้เริ่มรู้ตัวแล้วว่าผิดวัตถุประสงค์ จึงออกจากวงการนี้มา อยากทราบว่า ถ้าเขาคิดแต่เรื่องลาภผลกำไรแบบนี้ไปตลอด ตายไปตอนนั้นจะมีผลให้ลงทุคติหรือไม่ ?
ตอบ : พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอยึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ถ้ายึดจริง ๆ ไปดีแน่นอน..!

เถรี 07-09-2015 20:51

ถาม : การที่เราเริ่มเพ่งโทษผู้อื่น เป็นไปได้ไหมว่า ในขณะนั้นจิตใจของเราขาดเมตตาแล้ว ? ขณะเดียวกันคนที่มีเมตตามาก ๆ จะส่งผลออกมาให้มีหน้าตาที่เยือกเย็น ใครพบเห็นก็สบายใจ เช่น หลวงปู่หลวงพ่อที่เป็นพระอริยเจ้าใช่หรือไม่คะ ?
ตอบ : ใช่

เถรี 07-09-2015 20:52

ถาม : การพิจารณาทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเรา ต้องพิจารณาจนเกิดความเบื่อหน่าย แล้วยอมรับว่าเป็นกรรมที่เราทำมาในอดีต คิดว่า "ช่างมัน" ถูกไหมคะ ?
ตอบ : ถูก

ถาม : อารมณ์ที่มั่นใจว่า เรามีศีลบริสุทธิ์ เพราะเรากระทำ, คิด, พูดสิ่งใดก็ทำด้วยเจตนาที่มีแต่ความเมตตา มั่นใจว่าไม่ตกนรกแน่ จะเป็นอารมณ์ประมาทหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ประมาท

ถาม : อารมณ์ปฐมฌานที่จะใช้ละสังโยชน์ ๓ คือ อารมณ์ที่รู้ตัวตลอดเวลาทั้งหลับและตื่นใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ใช่...คนนี้ถามเก่งเพราะไม่ต้องตอบมาก

เถรี 07-09-2015 20:53

ถาม : การที่คนมาบอกเราถึงสิ่งไม่ดีในตัวเราเพื่อจะให้เราแก้ไข แต่ฟังแล้วรับไม่ได้ มีอารมณ์ บางครั้งโกรธ บางครั้งเสียใจ ควรต้องแก้ไขอย่างไรเจ้าคะ ?
ตอบ : นี่แสดงว่ารู้ตัวแล้ว เพียงแต่ว่ากลัวเสียหน้า ถ้าแก้ไปตามที่เขาบอกก็หมดเรื่อง

ถาม : แต่บางทีอดไม่ได้นะครับ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าเราเลว เราจะระงับอย่างไรดีครับก่อนที่จะไปฟาดปากเขา ?
ตอบ : รู้ว่าเลวก็เปลี่ยนเป็นดี ถ้าดีแล้วก็ไม่ต้องไปชกปากใคร

เถรี 07-09-2015 20:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "คำถามส่วนใหญ่เป็นคำถามเรื่องวัตถุมงคล เดือนนี้ได้ประโยชน์กันน้อย นับว่าน่าอนาถมาก..!"

เถรี 08-09-2015 11:58

พระอาจารย์กล่าวว่า “ในการปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะเกิดความสงสัย ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่ามาคิดดูอีกทีว่า ถ้าเราไม่สงสัยแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำไป โดยเฉพาะในส่วนของการปฏิบัติสมาธิภาวนา เราจะได้รับคำตอบเกือบทุกคำตอบที่สงสัยอยู่แล้ว เพียงแต่ทำให้จริง ๆ เท่านั้น ก็จะเหลือการรวบรัดตัดเข้าหาความเป็นพระอริยเจ้าในตอนท้าย ที่จำเป็นจะต้องสงสัยไว้บ้างว่าเรามาถูกทางหรือไม่

ดังนั้น ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติ ส่วนใหญ่ถ้าเราตั้งใจทำจริงก็จะมีคำตอบในตัวอยู่แล้ว แต่พวกเรามักจะสงสัยแล้วเอาแต่ถาม ถามแล้วถ้าคนตอบไปตอบเกินคำถาม เราก็จะไปฟุ้งซ่านอีก ว่าถึงเวลาเราทำแล้วจะเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ อย่างที่ท่านตอบหรือเปล่า ก็เลยพาให้เสียประโยชน์หนักเข้าไปอีก

หลายคำถามจะเห็นว่าอาตมาตอบสั้นนิดเดียว เพราะถ้าอธิบายมากเมื่อไรก็จะเอาไปสงสัยต่อ แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ ก็ไปวิ่งหาคำตอบกันต่อไป”

เถรี 08-09-2015 12:01

พระอาจารย์กล่าวว่า “เวลาจองวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุนโปรดอ่านรายละเอียดด้วย เท่าที่ผ่านมาหลายท่านเสียสิทธิ์ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างเช่น เขาระบุว่าให้จองได้รายชื่อละ ๑ องค์ ก็ตะบันจองมา ๓ องค์ หรือเขาบอกว่าจะเก็บรักษาไว้ให้ ๒ เดือน ถ้าไม่มาเบิกถือว่าสละสิทธิ์ ก็ไม่เคยอ่าน ตัวเองมาไม่ได้ก็ให้เพื่อนมารับแทนสิ”

เถรี 08-09-2015 12:03

พระอาจารย์กล่าวว่า “ตะกรุดมหาสะท้อนทองคำยังสามารถที่จะมาขอรับได้ในวันที่ ๑๓ กันยายนนี้อีกวันหนึ่ง บ้านนี้จะเปิดตั้งแต่บ่ายโมงถึงหกโมงเย็น อาตมาไม่อยู่หรอก จะมีเจ้าหน้าที่มาจ่ายให้ที่ห้องข้างล่าง พ้นจากหกโมงเย็นวันที่ ๑๓ แล้วถือว่าสละสิทธิ์เหมือนเดิม”

เถรี 08-09-2015 13:21

พระอาจารย์กล่าวว่า “ประเทศชาติของเราตอนนี้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีหลายกลุ่มด้วยกัน กำลังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายเพื่อผลประโยชน์ของตนหรือประเทศของตน ดังนั้น..พวกเราเองต้องมีสติสัมปชัญญะมาก ๆ อย่าไปใส่อารมณ์เต้นตามใคร สิ่งที่เขาทำให้เราเห็นไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะว่าบางประเทศต้องการจะดึงเราไปเป็นพวก บางประเทศต้องการจะยึดบ้านเราเมืองเราเป็นของเขา บางพวกต้องการที่จะอยู่ในอำนาจ บางพวกต้องการที่จะมีอำนาจ ก็เลยสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไปหมด จะว่าไปแล้วทั้งหมดเหล่านี้ก็เกิดขึ้นจากประโยชน์ของตนนั่นเอง ในเมื่อเห็นแก่ประโยชน์ตน ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ประเทศชาติบ้านเมืองถึงได้เดือดร้อนวุ่นวายกันไปหมด

สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถ้าสองพระองค์สิ้นไป บ้านเราคงวุ่นวายจนบอกไม่ถูก เพราะว่าในปัจจุบันนี้มีคณะบุคคลที่พยายามจะลดความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ลง ด้วยการปล่อยข่าวให้ร้ายในลักษณะต่าง ๆ ประกอบกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถอยู่ในโรงพยาบาลเสียส่วนใหญ่ โอกาสที่จะเสด็จออกทรงงานเหมือนสมัยก่อนไม่มี ทำให้คนรุ่นหลังคล้อยตามไปได้ง่าย โดยที่ไม่ได้ดูว่าในอดีตทั้ง ๒ พระองค์สร้างคุณความดีแก่ประเทศชาติมาตั้งเท่าไร"

เถรี 08-09-2015 13:40

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของโซเชียลมีเดียมีคุณอนันต์และก็มีโทษมหันต์ คุณอนันต์ก็คือข่าวคราวทั้งหลายจะมารวดเร็วมาก โทษมหันต์ก็คือข่าวทั้งหลายเหล่านั้นมีทั้งจริงและไม่จริง แม้กระทั่งข่าวคราวที่เป็นจริงก็เป็นข่าวที่เขาต้องการให้เรารู้ แต่ไม่ใช่ข่าวที่เราสมควรจะรู้ ดังนั้น..ถ้าใครเล่นไลน์ เล่นเฟซบุ๊กหรือเข้าอินเตอร์เน็ตเป็นปกติ โปรดระมัดระวังบรรดาฟอเวิร์ดเมล์ต่าง ๆ ไม่ใช่รับมาก็ส่งต่อ ให้ใช้สติสัมปชัญญะตรองดูด้วยว่า เราทำไปแล้วจะเกิดผลกระทบต่อส่วนตัวและส่วนรวมเท่าไร

ขนาดควักเงินในกระเป๋าซื้อตั๋วเพื่อจะไปดูคอนเสิร์ตยังโดนคนด่าทั้งประเทศ โปรดระมัดระวังในการแสดงออก เราอาจจะสร้างกรรม ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม หรือมโนกรรมไปโดยไม่รู้ตัว หรือถ้ารู้ตัวก็เพื่อเอาความสะใจ กลายเป็นการสร้างกรรมใหญ่ ถ่วงดึงให้เราเข้าถึงมรรคผลช้าลงไปอีก"

เถรี 08-09-2015 13:49

พระอาจารย์พูดกับเด็กคนหนึ่งว่า "ถ้าอยากเก่งกว่าเพื่อน ต้องนั่งสมาธินิ่ง ๆ ให้ได้สักวันละครึ่งชั่วโมง ถ้าทำได้เราจะเก่งกว่าเขาอย่างแน่นอน"

เถรี 08-09-2015 14:05

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานคุณสุรีย์ขอเบิกเงินค่าสร้างหมู่เรือนไทยบนศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย ๖,๕๐๐,๐๐๐ บาท ไม่อยากจะคุยว่าศาลาของพวกเราทะลุ ๘๑ ล้านบาทไปแล้ว หลังจากชุดนี้แล้วก็ไม่เหลืออะไรให้เบิกเท่าไรแล้ว เพราะว่างานส่วนมากเสร็จแล้ว"

เถรี 08-09-2015 14:32

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวในบ้านเราเป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ทีมเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมี ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้า แม้ว่าจะมีชื่อเสียงและแนวคิดที่ดีจากผลงานเดิมก็จริง แต่สถานการณ์บ้านเรากับสถานการณ์โลก เหมือนกับคนไข้หนักที่เข้าห้องไอซียูอยู่ หมอเก่งแค่ไหนก็ไม่รู้ว่าจะยื้ออยู่หรือเปล่า

แต่ที่น่ากลัวก็คือว่า กลัวว่ารัฐบาลจะไปลดค่าเงิน เพราะทันทีที่จีนปล่อยค่าเงินหยวนลอยตัวบางส่วน ตลาดหุ้นก็ตกระเนนระนาดกันหมดทั้งภูมิภาคของเรา แล้วเวียดนามก็ลดค่าเงินดอง ไทยเราอาจจะไปเลียนแบบเขา ถ้าไปเลียนแบบเขาถึงแม้จะขายของได้มากขึ้น แต่ค่าเงินลดลงก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้มาก อาจจะไปซ้ำเติมสถานการณ์อื่น ๆ เช่น พวกสั่งของเข้า และพวกที่กู้เงินต่างประเทศ เมื่อเรานำเข้าต้องจ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินดอลลาร์ เงินดอลลาร์ตอนนี้เสถียรภาพก็ไม่มั่นคง เพราะเงินดอลลาร์พิมพ์ขึ้นมาโดยที่ไม่มีทองคำเป็นเครื่องค้ำประกันค่า นึกอยากจะพิมพ์เท่าไรก็พิมพ์

คราวนี้ในเวทีเศรษฐกิจโลก ตอนนี้ถือว่าจีนเป็นผู้นำ ก็เลยมีการอิจฉากัน ทำให้มีการโจมตีค่าเงิน อาตมาไม่แน่ใจว่าจีนกำลังขุดบ่อล่อปลาอยู่หรือเปล่า เพราะว่าการที่จะโจมตีค่าเงินก็ต้องทุ่มเงินเข้าไป โดยเฉพาะเข้าทางตลาดหุ้น ถ้ากำลังทุ่มเพลิน ๆ แล้วจีนเขาทุ่มทองคำออกมาในท้องตลาด หรือไม่ก็ทุ่มเพลิน ๆ จีนแอบซื้อทองคำหมดตลาด คงได้เจริญกันบ้าง เพราะระยะช่วงที่ผ่านมา ๑๐ กว่าปีของจีน ต้องบอกว่าตุนเงินทุนสำรองต่างประเทศอยู่ในระดับหลายแสนล้านดอลลาร์ ถ้าเงินหลายแสนล้านอยู่ ๆ ทะลักพรวดเข้ามาในตลาด อเมริกาก็มีหนาวกันบ้าง

สรุปว่าถ้าทางด้านอเมริกาตั้งใจที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนล่ม จีนอาจจะต้องไม่เห็นแก่มิตรภาพ ซึ่งอเมริกาไม่เคยมีมิตรภาพจริง ๆ ให้ใคร แล้วถ้าจีนไม่เห็นแก่มิตรภาพ ปล่อยพันธบัตร หรือเงินทุนสำรองที่เป็นดอลลาร์ออกมาในท้องตลาด อเมริกาก็ตายอย่างเดียว แล้วถ้าพี่แกปล่อยแบบไม่เหมือนชาวบ้านเขา ก็คือปล่อยด้วยการซื้อทองคำไปตุน อเมริกายิ่งตายเลย เพราะจะไม่มีทองคำเหลือไว้ค้ำประกันค่าเงินของตัวเอง"

เถรี 08-09-2015 15:38

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานมาถึงที่นี่เหลือเงินติดตัวอยู่ ๒๘๐ บาท ซึ่งถือว่าเยอะมาก เพราะเคยเหลืออยู่แค่ ๔๒ บาท ซึ่งนับว่าน้อยที่สุด เนื่องจากช่างรับเหมาขอเบิกค่าสร้างหมู่เรือนไทย ๖,๕๐๐,๐๐๐ บาท แล้วจะต้องจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง จ่ายเงินเดือน ฯลฯ เดือนนี้ก็เลยเหลือแต่ตัวมาแค่นี้"

เถรี 08-09-2015 15:39

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขอเตือนว่า ญาติโยมท่านใดเล่นซื้อขายทองอยู่ ถ้าคุ้มทุนแล้วให้เบิกทองคำของตัวเองกลับมา อย่าไปทิ้งไว้กับร้านโดยย่ามใจให้ทบต้นไปเรื่อย ๆ การเล่นทองระยะนี้จะเสี่ยงมาก อาตมาบอกไว้ตั้งแต่ตอนที่ลงไปงานแต่งงานที่สุไหงโกลกเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคมที่ผ่านมา ช่วงที่อยู่หาดใหญ่ได้ถามเถ้าแก่เล็กที่เปิดร้านขายทองว่า เคยเจอทองราคาแพงที่สุดบาทละเท่าไร ? เขาบอกว่า ๒๐,๐๐๐ กว่า ไม่ถึง ๓๐,๐๐๐ บาท ระวังไว้..ถ้าราคาขึ้นไป ๓-๔ เท่าแล้วจะจุก..!"

เถรี 08-09-2015 15:41

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาจจะเป็นเพราะอาตมาติดราคะจริตมาหรืออย่างไรก็ไม่รู้ การสร้างพระถ้าไม่สวยก็ไม่อยากจะสร้าง คราวนี้พอสร้างสวย คนก็แย่งกันหมดเกลี้ยงอีก"

เถรี 08-09-2015 18:50

ถาม : เวลาโดนของ เหมือนกับโดนลมพัด จะแก้อย่างไรคะ รู้สึกว่าเหมือน...?
ตอบ : รู้สึกไม่ได้ ต้องเอาให้แน่ ๆ ถ้าหากเอาแน่ไม่ได้ กลายเป็นว่าเราคิดมากไปเอง แล้วอะไรที่เกิดขึ้นก็พาให้เราคิดว่าโดนของไปหมด เพราะฉะนั้น..ต้องเลิกคิด ไปนั่งภาวนา ถ้าโดนคุณไสยจริง ๆ อารมณ์ใจทรงตัวแค่ปฐมฌานหยาบ คุณไสยก็พังหมดแล้ว นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ถ้าหากว่าไม่ไหวค่อยไปหาน้ำมนต์ของหลวงปู่หลวงพ่อที่เรามั่นใจมาดื่ม มากิน มาอาบแทน

เถรี 08-09-2015 19:53

ถาม : เมื่อเช้าคุยกับพี่คนหนึ่ง เรื่องแผลผ่าตัดเนื้องอกที่นิ้ว พี่เขาถามว่าเย็บกี่เข็ม ถ้าเกิน ๕ เข็มแปลว่ายันต์เกราะเพชรหลุดแล้ว ก็เลยสงสัยว่า แผลที่เกิดจากเจตนาเพื่อการรักษา ไม่น่าอยู่ในข่ายนี้ ซึ่งต่างจากแผลที่เกิดจากคนมาทำร้าย ที่พี่เขาพูดถูกหรือเปล่า ?
ตอบ : ตำราของใคร ? ไม่เคยได้ยิน ประเภทชอบมั่วไปเรื่อย

ไปนึกถึงคำว่าสัทธรรมปฏิรูป ก็คือเอาความคิดของตนไปปนกับธรรมะของพระพุทธเจ้า ก็คงอยู่ในลักษณะแบบเดียวกัน เพราะเท่าที่ผ่านมาพบว่า คนโน้นพูดว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงว่าอย่างนั้น คนนี้พูดว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงว่าอย่างนี้ แต่ฟังแล้วห่างไกลกับสิ่งที่อาตมาเคยพบ เคยฟังมาด้วยตัวเอง โดยเฉพาะหลายอย่างอยู่ในลักษณะที่อ้างเพื่อหากินโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน..อีกหลายอย่างก็เกิดจากประเภทคิดเองเออเอง เหมือนกับจินตนาการบรรเจิด

เมื่อปี ๒๕๒๖ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบวงสรวงงานวันเกิดที่บ้านสายลม ท่านบอกว่า ท่านท้าวมหาราชให้พรไว้ว่า ถ้าลูกศิษย์หลวงพ่อบาดเจ็บ เต็มที่ก็จะเย็บให้ไม่เกิน ๕ เข็ม แล้วทำไมมามั่วเป็นว่า ถ้าเย็บเกิน ๕ เข็มแปลว่ายันต์เกราะเพชรหลุดแล้ว..??!

เพราะฉะนั้น..ประเภทคิดเองเออเอง จินตนาการดีจนเกินไป หรือว่าอะไรก็ตาม จะทำให้ความเป็นจริงผิดเพี้ยนไปด้วย แล้วท้ายสุดความเป็นจริงเป็นอย่างไรเราก็จะไม่รู้ กลายเป็นยึดถือกันผิด ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนกับบรรดานิกายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของแต่ละศาสนา ก็เพราะเกิดจากฟังสัทธรรมปฏิรูป แล้วก็ยึดผิด ๆ ทำให้การประพฤติปฏิบัติแตกต่างกันไป เมื่อแตกต่างกันก็กลายเป็นคนละนิกาย ทั้ง ๆ ที่เป็นศาสนาเดียวกัน

เถรี 08-09-2015 20:51

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยรัชกาลที่ ๕ ผู้ชายเขานิยมไว้หนวดกัน ก็คาดว่าน่าจะเป็นแฟชั่นจากต่างประเทศ บรรดาชาวต่างชาติที่เข้ามาบ้านเรายุคนั้น ส่วนใหญ่ไว้หนวดกันเป็นปกติ แล้วเราไปเห็นว่าเขาเป็นชาติที่เจริญแล้วก็เลยทำตามเขา

ตอนช่วงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างด้วยกัน อย่างเช่นว่าต้องใส่เสื้อ เพราะเขาเห็นว่าการไม่ใส่เสื้อของคนโบราณเป็นความล้าหลังป่าเถื่อน ทั้ง ๆ ที่บ้านเราอากาศร้อน ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใส่เสื้อกัน ยกเว้นว่าไปวัดไปวาก็มีผ้าห่มผืนหนึ่ง แต่อาจจะห่มพาดเฉย ๆ อีกอย่างก็คือ บรรดาเจ้านายตลอดจนข้าราชการต่าง ๆ พยายามลดการกินหมากลง เพราะเวลากินหมากมักจะบ้วนน้ำหมากกันเลอะเทอะไปหมด

การกินหมากโดนห้ามจริง ๆ ในสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม เขาเรียกว่ายุคมาลานำไทยสู่มหาอำนาจ ให้คนใส่หมวกแบบอารยประเทศ บ้านเราใส่หมวกไม่ได้ ต้องใส่งอบ เพราะบ้านเราอากาศร้อน ไม่มีความจำเป็นต้องใส่หมวกเพื่อรักษาความอบอุ่นของศีรษะ

ในบ้านเราหมากมาหมดเอาจริง ๆ เมื่อไม่นานมานี้เอง รอบข้างเขาก็ยังกินหมากกันเป็นปกติ โดยเฉพาะพม่า ประเทศที่เรานึกไม่ถึงเลยก็คือไต้หวัน ทุกวันนี้ไต้หวันยังกินหมากกันเป็นปกติ สาว ๆ ร้านขายหมากก็ก้าวหน้าเหลือเกิน นุ่งน้อยห่มน้อย บางคนนี่แทบจะเป็นบิกินี่เลย เพราะขายหมากให้หนุ่ม ๆ มิน่า..เขาถึงได้กินกันไม่เลิก จะหาเรื่องไปซื้อหมากนี่เอง"

เถรี 08-09-2015 20:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าใครจองตะกรุดมหาสะท้อนเนื้อทองคำไม่ทัน ไปเอาในเว็บพลังจิตได้ เขาลงไว้เมื่อคืนนี้ดอกละ ๗๐,๐๐๐ บาท ถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นคนลง ให้ไปถามทิดโก้กับเพื่อน ต้องบอกว่ายังไม่ทันจะได้ของ ก็ลงกระทู้ขายก่อนแล้ว ย้ำด้วยนะว่าเขามี ๒ ดอก"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:39


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว