กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=51)
-   -   มีหลักทางธรรมใดใช้รักษาการเหล่านี้ได้บ้าง (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6363)

ตัวเล็ก 30-10-2018 23:14

มีหลักทางธรรมใดใช้รักษาการเหล่านี้ได้บ้าง
 
กระผมรบกวนถามหลวงพ่อครับ จากอาการเหล่านี้ มีหลักทางธรรมหรือหลักปฏิบัติใด สามารถใช้รักษาเยียวยาอาการเหล่านี้ได้บ้างครับ

๘ สัญญาณเตือนของ"โรคจิต"

เมื่อพูดถึงคำว่า"โรคจิต" ในความหมายของคนทั่วไป เรามักใช้กับคนที่มีพฤติกรรมที่ดูแปลก ๆ คนที่ชอบทำอะไรไม่เหมาะสม หรืออาจใช้กับคนที่มีความหมกมุ่นทางเพศแบบแปลก ๆ แต่ในทางจิตเวชและทางการแพทย์แล้ว "โรคจิต" เป็นคำเรียกสั้น ๆ ของ "โรคจิตเภท" (Schizophrenia) หรือย่อมาจากชื่อของ "กลุ่มโรคจิต" (Psychotic Disorders) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชกลุ่มหนึ่ง ที่มีอาการหลักคือการสูญเสียการรับรู้ความเป็นจริง (Impaired Reality Testing) รวมทั้งมีอาการต่าง ๆ เช่น อาการหูแว่ว ประสาทหลอน หลงผิด แสดงพฤติกรรมหรือคำพูดไม่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมด้านลบ เช่น เก็บตัว ขี้เกียจ ไม่ดูแลตนเอง ไม่ทำอาชีพใด ๆ


๘ สัญญาณเตือนที่ต้องเฝ้าระวังภาวะโรคจิต

๑. มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงหรือแปลกไป (Unusual behavior) เช่น เริ่มมีการสะสมของบางอย่าง มีลักษณะการแต่งกายแปลก ๆ ไป หรือ การดูแลตนเองลดลงไปเรื่อย ๆ

๒. มีปัญหาในการสื่อสาร/มีความยากลำบากในการเข้าใจความหมายของคนอื่นหรือสังคม (Problems with communication and perception)

๓. มีความคิดแปลก ๆ ไม่เหมือนเดิม เริ่มเชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นจริง (Unusual thoughts)

๔. หูแว่ว เห็นภาพหลอน (Hallucinations)

๕. มีความยากลำบากในการคิด/ตัดสินใจ (Difficulty making choices)

๖. หลงลืม/สนใจอะไรได้ไม่นาน/ไม่มีสมาธิ (Problems with concentration and attention)

๗. แยกตัว เก็บตัวมากขึ้น (Social withdrawal)

๘. เริ่มมีความถดถอยในการดำเนินชีวิตประจำวัน/การเรียน/การทำงาน

เถรี 05-01-2019 08:31

ถาม : คนที่มีอาการโรคจิต เช่น อาการหูแว่ว ประสาทหลอน หลงผิด แสดงพฤติกรรมหรือคำพูดไม่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมด้านลบ เช่น เก็บตัว ขี้เกียจ ไม่ดูแลตนเอง ไม่ทำอาชีพใด ๆ มีหลักทางธรรมหรือหลักปฏิบัติใด สามารถใช้รักษาเยียวยาอาการเหล่านี้ได้บ้างครับ ?
ตอบ : บังคับให้ปฏิบัติภาวนาจนทรงฌานให้ได้ ถ้าทรงฌานได้อาการเหล่านี้หายหมด ลักษณะอย่างนั้นเขาเรียกว่าสภาพจิตฟุ้งซ่านเลื่อนลอย หาจุดยึดเกาะไม่ได้ จำเป็นต้องใช้สมาธิเข้ามาช่วย ไม่เช่นนั้นก็จะฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะคิดอะไรเกี่ยวกับการสงสารตัวเองหรืออยากได้โน่น อยากเป็นนี่ แต่เป็นได้แค่ความคิด โดยไม่ได้พยายามทำให้เป็นจริง เพราะว่ากำลังใจไม่เพียงพอ จึงต้องบังคับให้ภาวนาจนกว่าจะทรงฌานได้


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:40


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว