กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6319)

เถรี 25-09-2018 20:23

ถาม : เมื่อหลายปีก่อนมีการจัดงานพระบรมสารีริกธาตุที่เมืองทองธานีบ้าง ที่วัดยานนาวาบ้าง จัดขึ้นให้ชาวบ้านมากันเพื่อขอให้เทวดาคุ้มครองพื้นที่ต่ำ ๆ เพื่อให้น้ำไม่ท่วม แล้วน้ำก็ไม่ท่วมนะครับ แต่พอเลิกจัดน้ำก็ท่วม ก็มีผลอยู่เหมือนกัน เหมือนกับที่เราสร้างพระเยอะ ๆ ที่กาญจนบุรี หรือนครปฐม ?
ตอบ : เอาที่ศรีลังกาก็แล้วกัน คนศรีลังกาเชื่อมั่นแบบฝังจิตฝังใจว่า ตราบใดที่พระบรมธาตุเขี้ยวแก้วยังอยู่ ศรีลังกาจะไม่มีวันประสบภัยพิบัติถึงขนาดประเทศชาติล่มสลาย ฉะนั้น..ถึงเวลาเขาบอกว่าพายุใหญ่เข้าอย่างนั้น สึนามิเข้าอย่างนี้ คนศรีลังกาไม่รู้ไม่ชี้ ทำมาหากินไปตามปกติเลย แล้วดูสิว่าตอนนี้อินเดียโดนฝนถล่มทลายคนตายไปเป็นร้อย ๆ ศรีลังกายังเฉยมาก

ถาม : เขาคิดว่าน้ำท่วมเพราะเทพเจ้า ?
ตอบ : อย่าลืมว่าเทพเจ้าของเขาเป็นสิ่งที่เขาสมมติขึ้นมา แล้วข้างบนมีการจัดเทวดาไปเพื่อทำหน้าที่นั้น ๆ แต่ว่าเทพเจ้าที่รักษาพระบรมสารีริกธาตุนั้น ต้องทำหน้าที่อย่างชนิดที่สำคัญมาก ดังนั้น..ศักดานุภาพจึงต่างกันมาก

ถาม : พระบรมสารีริกธาตุปลอมที่เราไหว้จนพระธาตุจริงเสด็จมาแทน หากไม่เคารพ เทวดาก็มาเชิญกลับไปได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เรื่องของพระธาตุนั้น ไปได้มาได้เป็นปกติอยู่แล้ว

ถาม : เคยเจอคนคิดว่าเป็นของปลอม แต่พอเปิดอีกทีหายหมด แต่คนที่คิดว่าเป็นของจริงกลับเสด็จมาเพิ่มเรื่อย ๆ ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติ

เถรี 25-09-2018 20:29

ถาม : เราสามารถเอาภาพจากอินเทอร์เน็ตมาเป็นภาพกสิณได้ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่ากสิณอะไร

ถาม : กสิณแสงครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าแสงสว่าง โดยปกติแล้วเราจะใช้ลูกแก้วแทนก็ได้ แต่ถ้าเป็นกสิณ ดิน น้ำ ลม ไฟ ต้องใช้วัตถุนั้น ๆ โดยตรง ไม่ใช่ใช้รูปภาพ

ถาม : เวลานั่งสมาธิเหมือนมีใครมาฉายไฟใส่หน้า พอลืมตาก็เหมือนมีใครเปิดไฟ ?
ตอบ : อันนั้นแค่ระดับสมาธิกำลังจะเข้าอนุบาลหนึ่ง

ถาม : ไม่ต้องสนใจใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เราสนใจเมื่อไรก็ติดอยู่แค่ตรงนั้น เพราะว่าสมาธิคลายตัวแล้ว

เถรี 25-09-2018 20:32

ถาม : อธิษฐานบารมีปัจจุบันเข้าใจกันผิดเยอะมาก นิมนต์หลวงพ่อเมตตาอธิบายอธิษฐานบารมี เช่นการอธิษฐานเพศบรรพชิต เราจะบวชแล้วนะ เราจะอธิษฐานยกจิตตนเองอย่างไร ?
ตอบ : อธิษฐานคือความตั้งใจ ตั้งใจอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีถูกไม่มีผิด ถ้าเรารู้สึกว่าเราตั้งใจผิด เราก็เปลี่ยนความตั้งใจใหม่ ไม่ใช่ไปยึดสัจจะแบบโง่ ๆ โดยที่ไม่ยอมเปลี่ยนความตั้งใจ แล้วก็บ้าอยู่คนเดียว ดังนั้น..เรื่องของอธิษฐานบารมีขึ้นอยู่กับระดับกำลังใจของคน ว่าจะใช้ในลักษณะไหน จะอธิษฐานแบบไหนก็ไม่ผิดทั้งนั้นแหละ

เถรี 25-09-2018 20:40

ถาม : คนที่เดินตามหลวงพ่อแล้วนึกอยากจะได้ปฏิสัมภิทาญาณ แต่ว่าตัวเองเพิ่งเริ่มอนุบาล ก็ไม่ต้องเกิดจนกว่าจะได้ปฏิสัมภิทาญาณเลยหรือครับ ?
ตอบ : ก็รอไปจนกว่าจะได้นั่นแหละ

ถาม : แล้วคำอธิษฐานที่ขอให้ได้ปฏิสัมภิทาญาณจะเป็นผลไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเราเปลี่ยนคำอธิษฐานก็ไม่เป็น แต่ถ้าหากว่าทำไปเกินครึ่งแล้ว จะมากจะน้อยก็มีส่วนได้อยู่บ้าง

เถรี 25-09-2018 20:49

ถาม : อย่างที่บอกว่าถ้าอธิษฐานสูงก็จะไปสูง เช่นว่าอธิษฐานเป็นสาวก กับอธิษฐานเป็นพุทธภูมิ ก็จะวิ่งเข้าพุทธภูมิมากกว่าเป็นสาวกใช่ไหมครับ ?
ตอบ : อะไรก็ตามที่ราคาแพง ก็แปลว่าเราต้องใช้เวลาสะสมเงินในการซื้อนานกว่า ก็เลือกเอาเองแล้วกัน ...(หัวเราะ)...

ถาม : ไปหาหลวงพี่วิรัช หลวงพี่วิรัชมีแต่ขอให้ข้าพเจ้าเป็นสาวกภูมิ นำลาพุทธภูมิ อธิษฐานสาวกอย่างเดียว ?
ตอบ : แสดงว่าท่านพี่เข็ดแล้ว..ใช่ไหม ? ...(หัวเราะ)...

เถรี 25-09-2018 20:51

พระอาจารย์กล่าวว่า “โบราณเขาเลียนแบบกนกมาจากธรรมชาติ เพราะฉะนั้น...จึงจะต้องมีกาบถึงจะแตกยอดแตกเถาออกไปได้ เหมือนกับไม้อ่อนจะแตกตาออกไปก็ต้องขึ้นจากกาบต้นเก่าไป เราจะเห็นว่าต้นไม้โดยธรรมชาติ พอขึ้นไปแล้วก็จะปรับตัวของเขาเอง ส่วนไหนที่ขาดแดด ขาดลม ขาดน้ำ ก็จะตายไปเอง ส่วนที่เหลือจะลงตัวโดยอัตโนมัติ”

เถรี 26-09-2018 22:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนอาตมาไปข่มขู่เจ้าคณะจังหวัดฯ มา ...(หัวเราะ)... เรื่องการแต่งตั้งครูพระสอนศีลธรรม ระเบียบใหม่เขาว่าจะต้องจบหลักสูตรของมหาเถรสมาคม หรือการอบรมที่มหาเถรสมาคมมีคำสั่งเท่านั้น ก็มานึกขึ้นว่า ที่ท่านว่ามาคือครูพระสอนศีลธรรมที่รับเงินเดือน

ครูพระที่ทางจังหวัดของเราแต่งตั้งกันเองสมัยก่อนไม่ได้รับเงินเดือน สอนกันเป็นธรรมทาน ถ้าทางสำนักเรียนของตัวเอง
จะมีรางวัลให้ก็ให้ ไม่มีก็อดไป ประมาณนั้น ก็เลยไปเรียนหลวงพ่อจังหวัดท่าน บอกว่าจะเอาแบบนี้ ท่านก็เลยต้องเซ็นให้

แต่คราวนี้เลขาจังหวัดทำงานช้า อาตมาไปนั่งรอที่กุฏิ หลวงพ่อจังหวัดท่านก็เลยชงน้ำชามาเลี้ยง อาตมาเห็นข้าง ๆ ท่านมีเหรียญหลวงพ่ออุตตมะอยู่ก็เลยหยิบมาดู บอกกับท่านว่า "ผมเคยมียอดขุนพลบุเรงนองอยู่ แต่ตอนนี้โดนเขาไถไปแล้ว" หลวงพ่อจังหวัดท่านเดินหายเข้าไปในกุฏิพักหนึ่ง แล้วหยิบออกมาถวาย ...(หัวเราะ)... ท่านบอกว่าสมัยเป็นเลขาฯ จังหวัด กับเป็นเจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี ท่านตุนเอาไว้เยอะ"


ถาม : ต้องเป็นดินดิบนะครับ ?
ตอบ : เป็นดิน องค์ดำๆ หน้าตาไม่ค่อยมี บางเสียงบอกว่าหลวงปู่ท่านไปได้มาจากในถ้ำ บางเสียงก็บอกว่าท่านสร้างเอง อาตมาบอกว่าไม่ใช่แบบหลวงปู่ ท่านไม่ได้สร้างแบบนี้

สรุปว่าได้ตราตั้งครูพระสอนศีลธรรมมา ๑๕ ใบ กับพระของหลวงพ่ออุตตมะ ๕ องค์ ...(หัวเราะ)... เล่นเอามหาจีระพันธ์นั่งยิ้ม ท่านเลขาฯ รองจังหวัดกับเลขาจังหวัดทำอะไรไม่ถูก กลัวเจ้าคณะจังหวัดจะดุ ส่วนอาตมาไปนั่งเฝ้าให้ท่านสั่งเลขาฯ จังหวัด “ไปทำมาเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวผมจะเซ็นให้”

เถรี 26-09-2018 22:09

ถาม : พระครูสอนศีลธรรมต้องจบอย่างน้อย ?
ตอบ : ครูสอนศีลธรรมต้องจบอย่างน้อยนักธรรมชั้นเอก ถึงจะสอนนักธรรมชั้นตรีได้ ถ้าหากว่ามีเปรียญธรรมได้ก็ยิ่งดี แต่ของวัดท่าขนุนส่วนใหญ่จบมหาบัณฑิตกันหมด มีอยู่ท่านหนึ่งก็คือท่านจุก ห้อยท้ายวิทยฐานะนักธรรมชั้นเอก ป.บส., ปสศ., พธ.ม. ยาวยืดเลย

พระครูไพรัช เลขาฯ จังหวัด ทำไปก็บ่นไป “อาจารย์สร้างบุคลากรเก่งมากเลย ดูสิ..
แต่ละคนความรู้หลากหลายไปหมด” ก็บอกท่านว่า “จะเรียกว่าเก่งก็ไม่ใช่หรอก เขาต้องเอาใจใส่ด้วย ถ้าเขาไม่เรียนเสียอย่างผมก็บังคับเขาไม่ได้ ผมมีแต่เงิน ถ้าเขาจะเรียนผมส่งได้ ถ้าเขาไม่เรียนผมจะไปบังคับได้อย่างไร”

แบบเดียวกับบาลี ตอนแรกไม่มีใครเรียนเพราะว่ายาก พอส่งชุดของมหาเอมาเรียนต่อที่วัดปากน้ำ ชุดของมหาโรจน์ไปเรียนสามพระยาแล้วก็ไม่มีใครสู้อีก จนกระทั่งชุดของมหาเสริฐ มหาไบท์ไปเรียนที่วัดพระปฐมเจดีย์ แล้วไปคว้าประโยค ๓ ประโยค ๔ กลับมาติด ๆ กัน ก็เลยฮือขึ้นมาอีกทีหนึ่ง ตอนนี้เริ่มตื่นเต้นอยากเรียนกันอีก เรื่องแบบนี้ต้องมีคนนำ เมื่อไม่มีคนนำก็ไม่อยากเรียนกัน

ตอนนี้ปริญญาเอกไม่ต้องพูดถึง ไม่มีใครเอาแล้ว เพราะเห็นว่าปริญญาโทของท่านกอล์ฟกับท่านโม สองคนตะเกียกตะกายกันจนป่านนี้ก็ยังไม่จบ เพราะว่าอาจารย์ที่ปรึกษาแนะแนวแล้วเขาไปต่อไม่ได้ แนวความคิดยังไม่ถึง ช่วงปริญญาเอกนี่อาตมาก็เจอ หลวงพ่อบางรูปอาจารย์ที่ปรึกษาอธิบาย ๗-๘ รอบก็ไม่เข้าใจ จนกระทั่งท่านต้องบอกว่า "นิมนต์กลับไปเถอะครับ ผมพูดจนเหนื่อยแล้ว"

เถรี 26-09-2018 22:15

เวลาเห็นเขาเรียนจบง่าย ๆ ก็มีกำลังใจที่จะเรียนกัน แต่พอพระอาจารย์เรียนจบง่าย ๆ แล้วท่านยี้ออกกลางคัน ท่านหนึ่งเทอมเดียวน้ำหนักหายไป ๒๐ กิโลกรัม ตอนนี้ยังไม่มีใครอยากเรียนปริญญาเอกเลย บอกให้เป็นด็อกเตอร์นี่ไม่เอาเลย

ตอนนี้บรรดาด็อกเตอร์ของกาญจนบุรีมีทั้งหมดพระ ๘ ชี ๑ เป็นของวัดท่าขนุนไป ๔ รูป ทั้งจังหวัดวัดท่าขนุนกวาดเขาไปครึ่งหนึ่ง อย่างหลวงพ่อโก๊ะเรียนก่อน ๒ ปีจบทีหลัง ๓ ปี ก็แปลว่าท่านเรียนทั้งหมด ๘ ปี ก็คือต้องลงทะเบียนใหม่

พอหลวงพ่อโก๊ะจบเป็นด็อกเตอร์ หลวงพ่อจังหวัดท่านก็ตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบล เป็นแล้วก็มีข่าวพระตีเณรตายในวัด ได้ข่าวกันไหม ? วันก่อนประชุมยังบอกท่าน “ดร.โก๊ะ..คุณดังฉิบหา..เลย พระลูกวัดทำแท้ ๆ ทำไมเขาถ่ายแต่รูปเจ้าอาวาส ?” จะว่าไปแล้วเณรบางคนนิสัยล้นเหลือเกิน เพื่อนเณรบอกว่า เณรรูปนี้จุดไฟเผาวัดมาหลายทีแล้ว เพื่อนเณรคนนี้นอนอยู่ก็โดนจุดไฟเผาสบงด้วย ไม่รู้ว่าไปทำให้หลวงตาโมโหอีท่าไหน ก็เลยตีเข้าจริง ๆ แต่ปรากฏว่าไปเลือดคั่งในสมอง

เถรี 26-09-2018 22:18

ถาม : หล่อพระทองคำเดือนมีนาคมปีหน้า ต้องใช้ทองเท่าไรครับ ?
ตอบ : ตามที่คำนวณไว้ตอนแรกคือ ทองคำ ๑๔๐ กิโลกรัม ตอนนี้ได้แล้ว แต่คราวนี้เมื่อมีเหลือ อาตมาก็จะสร้างอีก ๒ องค์เป็นพระยืน ถ้าเหลือมากก็จะใช้ทองตรงส่วนนี้มาหล่อพระยืน น่าจะได้อีกสักองค์หนึ่ง

เถรี 26-09-2018 22:42

ถาม : ถ้าเด็กอายุ ๔ ขวบ นอนกัดฟันมาก ๆ ควรแก้อย่างไรดีครับ ?
ตอบ : เขาบอกว่าให้เอามะพร้าวล้างหน้าผีไปให้กิน เคยไปงานศพไหม ? ก่อนที่เขาจะเผาศพ จะผ่ามะพร้าวล้างหน้านั่นแหละ ขอที่เหลือมาให้เด็กกินจะแก้โรคกัดฟันได้ ไม่รู้ว่าแก้ได้อย่างไร แต่อาการหายจริง ๆ

กินเนื้อมะพร้าวนะ ไม่ใช่น้ำมะพร้าว น้ำมะพร้าวเขาล้างหน้าศพไปแล้ว ...(หัวเราะ)... พอเขาล้างหน้าศพเสร็จก็จะโยนมะพร้าวทิ้งไป เราก็ไปเก็บมา ใช้หน่อยเดียวเท่านั้น เป็นของที่ไม่น่าเชื่อ แต่เขาทำแล้วได้ผล

เถรี 27-09-2018 20:00

ถาม : ช่วงนี้กำลังได้รับวิบากกรรมที่ทำมาในอดีต โดยไม่รู้ว่าอันไหนดีหรืออันไหนชั่ว หนูควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ต้องบอกว่า "อดทน" อย่างเดียว เพราะว่าสิ่งที่เราทำไปถึงเวลาเราก็รับ ก็แปลว่าเราทำตัวเราเอง ยุติธรรมที่สุดแล้ว ก็ทนรอจนกระทั่งผลของวิบากจะผ่านไป ในระหว่างนี้ก็อดทนสร้างกุศลไปก่อน พอถึงเวลาช่วงกุศลเข้ามาสนองจะได้รวมกันพาให้ห่างจากวิบากกรรมไปได้

ถาม : ทุกวันนี้หนูต้องนอนร้องไห้ ?
ตอบ : ต่อไปนั่งร้องบ้างก็ได้ ...(หัวเราะ)... เป็นเรื่องปกติ มีใครบ้างที่ไม่เป็น พระพุทธเจ้าบอกกับปฏาจาราเถรีว่า น้ำตาของแต่ละชาติที่เธอต้องร้องไห้ ถ้ารวมกันแล้วมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นไหน ๆ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เราคนเดียว

ถาม : ระหว่างที่หนูโดนกรรมแทรก หนูต้องทำอย่างไรให้ตัวเองมีสติอยู่ตลอดเวลา ?
ตอบ : ภาวนา ถ้าหากว่าอารมณ์ภาวนาทรงตัวก็มีสติ คนที่อารมณ์ภาวนาทรงตัวก็จะไม่ไปนอนร้องไห้ แต่จะนั่งร้องแทน ...(หัวเราะ)...

เถรี 27-09-2018 20:03

พระพุทธเจ้าสอนให้เราเชื่อกรรม คือการกระทำของเรา สอนให้เชื่อผลของกรรมที่เรียกว่าวิบาก ก็คือเราทำดีเราก็ได้ดี ถ้าเราทำชั่วเราก็ได้ชั่ว สอนให้รู้ว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง มีกรรมเป็นเครื่องนำชีวิต และท้ายที่สุดก็ต้องเชื่อว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้นเป็นความจริงแท้

ฉะนั้น...ความเชื่อในพุทธศาสนาจริง ๆ แล้วมีอยู่แค่นี้แหละ เรียกว่ากัมมสัทธา เชื่อกรรม วิปากสัทธา เชื่อการส่งผลของกรรม กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตนเอง ก็คือทำอะไรไว้ก็ได้ผลอย่างนั้น ท้ายที่สุดก็คือตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในความรู้จริงของพระพุทธเจ้า

เถรี 27-09-2018 21:06

ถาม : มีคนถามเรื่องการปฏิบัติแล้วผมตอบไม่ได้ แกพิจารณาว่าของทั้งหลายในโลกนี้เป็นของสมมติ ลักษณะเหมือนกับว่าเรากำลังเล่นเกมอยู่ พอหมดเวลาเกมดับก็จบ ...(ไม่ชัด)... กลายเป็นตัวใหญ่เท่าจักรวาล แล้วก็สว่างวาบทีเดียว ตรงนี้ผมพอเข้าใจ แต่ผมไม่เข้าใจตอนท้ายที่แกพิจารณาว่าไม่มีสวรรค์ ไม่มีพระนิพพาน แล้วก็สว่างวาบ แต่ที่ผมเคยเจอ คือตัวเองไม่มี สรรพสิ่งในโลกไม่มี หายปุ๊บ ดับไป สว่างแล้วจิตไปอยู่ที่นิพพาน แต่ของแกนิพพานไม่มี ผมเลยถามว่าพอถอนจิตออกมาสังโยชน์ยังอยู่ครบไหม แกบอกยังอยู่ครบ ผมก็เลยตอบไม่ได้ว่าตัวนี้ต้องแก้อย่างไร ต้องเพิ่มอย่างไร ?
ตอบ : ถ้ามีความเข้าใจจริง ๆ ในเรื่องของกรรมดีกรรมชั่วแบบยถากัมมุตาญาณ ก็สามารถที่จะกำหนดได้ว่า นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี พรหมไม่มี นิพพานไม่มี เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากการกระทำ ถ้าท้ายสุดขึ้นมาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีแล้ว ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีแล้ว ก็ต้องมีสักจุดหนึ่งที่เราเป็นผู้อาศัย ฉะนั้น...ดูเอาก็แล้วกันว่าจะประกันความเสี่ยงอย่างไร

ถาม : ประกันความเสี่ยงอย่างไร คือ ?
ตอบ : เกาะดีไว้ก่อน ถึงแล้วค่อยปล่อยดี

ถาม : แสดงว่าที่เห็นตรงนี้ยังไม่ใช่ปัญญาจริง ถ้าเป็นอรูปฌาน ตรงนี้ผมว่าไม่น่าใช่ ?
ตอบ : ไม่ใช่ เป็นฌานในวิปัสสนา แต่คราวนี้วิปัสสนาของเราก็ยังไม่ใช่วิปัสสนาจริง ๆ ก็คือเป็นการพิจารณาแล้วสภาพจิตทรงเป็นฌานไปเอง วิปัสสนาจริง ๆ ต้องเห็นจริงแล้วปล่อยวางได้

เถรี 27-09-2018 21:18

ถาม : เวลาเสกวัตถุมงคล ตัวเราหาย ภาพของก็หาย เหลือแต่ความสว่าง อันนี้เป็นอรูปฌานหรือเปล่า ?
ตอบ : อยู่ที่เราทำ เพราะว่าถ้าเราได้อรูปฌาน ถ้าเข้าถึงก็ใช่ ถ้าไม่ใช่อรูปฌานก็แค่ดับรูปได้เท่านั้นเอง

ถาม : ดับรูปนี่เป็นส่วนแค่รูปฌาน ?
ตอบ : เป็นลักษณะเหมือนช่วงฝึกกำลังจะเป็นอรูปฌาน แต่กำลังก็เป็นรูปฌานอยู่ดี เหมือนกับว่ากำลังทำ แต่ยังไปไม่ถึง

ถาม : สังโยชน์ก็กลับมาทวนใหม่เหมือนเดิม ?
ตอบ : ทวนไปเรื่อย ๆ จะครบไม่ครบก็เรื่องของมัน เรามีหน้าที่ทำ

เถรี 27-09-2018 22:38

ถาม : การถวายข้าวพระพุทธ ถ้าเราถวายพระท่านแล้วลามากินเลย ?
ตอบ : ไม่ต้องรอพระท่านฉันก่อนหรอก การถวายข้าวพระพุทธเป็นการบูชาพระ แค่เราระลึกถึงท่านก็เป็นอานิสงส์มหาศาลแล้ว อาจจะเว้นไว้สัก ๑๐ วินาที ๒๐ วินาทีแล้วค่อยลาก็ได้ พระท่านไม่ได้ฉัน โบราณท่านกำหนดเอาไว้เพื่อให้เรานึกถึงพระเป็นอนุสติเท่านั้น

เถรี 27-09-2018 22:40

:cebollita_onion-17::cebollita_onion-17: เก็บตกเดือนกันยายน ๒๕๖๑ หมดแล้วค่ะ :cebollita_onion-17::cebollita_onion-17:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี และนายกระรอก


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:18


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว