กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=43)
-   -   การซ้อมตาย (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2715)

ลัก...ยิ้ม 31-05-2011 08:25

การซ้อมตาย
 
การซ้อมตาย
ก่อนที่จะตายจริง ๆ นั้นเป็นมิจฉาทิฐิหรือเปล่า

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเพื่อนของผมไว้ มีความสำคัญดังนี้

๑. “ทุกคนหรือทุกองค์ที่ในขณะนั้น เวลาใกล้จักตายมีใครบ้างที่คิดว่าตนเองกำลังซ้อมตาย หรือเป็นการลองตาย ทุกคนทุกองค์ต่างมีความคิดว่า กำลังจะตายจริง ตัดได้หรือไม่ ก็สุดแต่กำลังใจของแต่ละคน”

๒. “ในขณะนั้นไม่ใครคิดว่ากำลังตายไม่จริง ทุกคนต่างคิดว่ากำลังจะตายจริง ๆ จุดนี้แหละที่ผิดกับกำลังใจของเจ้า เพราะในเมื่อเจ้าตั้งใจว่าจะลองตายดู แต่จิตมันยังฝังอยู่ว่าตายไม่จริง วาระนี้ยังไม่ถึงคราวเป็นการลองซ้อมตาย เจ้าก็เลยประมาทยังตายไม่จริง เกิดคิดอย่างนั้นเข้า แต่วาระนั้นเกิดตายขึ้นมาจริง ๆ แล้วเจ้าจักเสียใจไหม นี่จุดนี้เจ้าคิดผิดไหม เป็นมิจฉาทิฐิไหม” (ก็ยอมรับว่า เป็นมิจฉาทิฐิ)

๓. “มีหรือจักไม่จริง จิตคิดแต่ผลได้ ไม่รู้จักคิดถึงผลเสียบ้างเลย ตถาคตมิได้สอนให้คิดว่าความตายเป็นของไม่จริง ทดลองประมาทกับความตายได้ แต่ความจริงแล้วความตายเป็นของจริง ให้ทุกคนอย่าประมาทกับความตาย อย่าล้อเล่นกับความตาย”

๔. “ให้ดูตัวอย่างพี่สาวของ... ที่ชอบกินยาตายประท้วงสามีนักเที่ยว เธอประมาทมากเกินไป รู้ว่าสามีจักกลับมาถึงบ้านเวลาไหน เธอก็กินยาในเวลานั้น สามีกลับมาถึงพาเธอไปส่งโรงพยาบาล ล้างท้องได้ทันถึง ๒ ครั้ง แต่เมื่อชะตาถึงฆาต ครั้งล่าสุดเธอก็คิดประท้วงสามีด้วยลีลาเดิม เธอกินยาในเวลานั้น คิดว่าจักอย่างไรสามีก็กลับบ้านมาทันนำเธอไปล้างท้องเหมือนเช่นเคย แต่เปล่า กฎของกรรมมันบังคับ สามีกลับผิดเวลา เธอเลยต้องสังเวยชีวิตเพราะความประมาทในการประท้วงโดยไม่เข้าท่าของเธอ จุดนี้เจ้าจักเห็นได้ว่า คนคิดว่าไม่ตายหรอก พอเกิดตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ก็ต้องไปสู่อบายภูมิอย่างไม่มีใครช่วยได้ นี่เพราะความคิดเห็นผิด ๆ ของตนเองเป็นสำคัญ” (เพื่อนผมก็ขอขมาต่อพระองค์ ยอมรับความโง่ของตนเอง)

ลัก...ยิ้ม 01-06-2011 08:32

๕. “ถ้าเจ้าประมาทคิดโง่ ๆ แบบนี้ เจ้าเกิดตายตอนนี้จริง ๆ กำลังจิตก็ยังไม่เข้าถึงพระนิพพานได้ จงอย่าหวังในทางลัดให้มากนัก วัดกำลังใจที่ตัดสังโยชน์ ๑๐ ประการ ดูว่าไปได้แค่ไหน เข้าพระนิพพานได้หรือยัง” (ก็รับว่า ยัง)

๖. “แล้วอารมณ์อยากลองตาย ก็คืออารมณ์อยากตายเร็วนั่นแหละ มันเป็นอารมณ์หยาบของจิต พิจารณาดูให้ดี ๆ เถิด”

๗. “สู้มาวางอารมณ์จิตให้พร้อมรับกับความตายในทุก ๆ ขณะจิต ในทุก ๆ อิริยาบถ ในทุก ๆ สถานที่ และรักษากำลังใจตั้งมั่นตัดตรงสู่พระนิพพานเข้าไว้เสมอ จักยังดีเสียกว่า เพราะจักได้ไม่ประมาทในชีวิต

๘. “ให้ดูตัวอย่างของผู้ที่ได้ลองตายไปได้ หรือไปไม่ได้เพราะเหตุใด ( ๒๘ ธ.ค. ๒๕๓๗ ) คุณหมอไปได้ ท่านพระ...ไปไม่ได้ คุณนอพอ คุณออ ไปไม่ได้ ทุกท่านทุกองค์มีอะไรเป็นสาเหตุ เอาจุดนี้มาศึกษาให้ได้เป็นประโยชน์แก่การวางอารมณ์จิตของตนเอง คุณหมอตัดตรง ท่านพระ...ตัดเหมือนกัน แต่เวลานั้นจิตไม่ได้เกาะพระนิพพาน ซึ่งเวลานี้ท่านหันมาแก้ไขจุดนี้อย่างจริงจังแล้ว ถ้าตายอีกทีท่านไปได้แน่ คุณนอพอห่วงศพ นอนไม่สวย คุณออห่วงศพจะไปไม่ถึงที่รับบริจาค คือมหาวิทยาลัยสงขลา”

๙. “สรุปลงท้ายถึงสาเหตุที่ยังไปไม่ได้ ๒ แง่ คือ
  • ก) ท่านพระ...ไปไม่ได้ เพราะจิตมิได้เกาะพระนิพพานอย่างจริงจัง
  • ข) อีก ๒ ท่านห่วงขันธ์ ๕

เจ้าก็ต้องสรุปลง ๒ จุดนี้ นำมาเป็นประโยชน์สอนจิต แก้ไขอารมณ์ไม่ให้เป็นอย่างเขาทั้งหลาย

๑๐. “วางอารมณ์จิตเสียใหม่ด้วย คิดไว้เสมอตายเมื่อไหร่-ที่ไหน ให้จิตมีอารมณ์ตัดการจุติอยู่เสมอ รู้ลม-รู้ตาย-รู้นิพพาน


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:42


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว