กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมีต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4267)

เถรี 30-11-2014 19:20

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมีต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๗
 
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานอาตมาเพิ่งเซ็นสัญญาสร้างมณฑปตั้งพระทองคำไป ๑๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท จริง ๆ ราคา ๑๓,๐๐๐,๐๐๐ กว่าบาท เขาลดให้ ๙๐๐,๐๐๐ กว่าบาท"

เถรี 30-11-2014 19:22

พระอาจารย์กล่าวว่า "เสื้อยันต์เกราะเพชรพิชัยสงคราม รุ่น ๒ จะทำเป็นเสื้อกั๊ก กำลังรอแบบที่ถูกใจ ให้ฝู (พัชรีภรณ์ หยกอุบล)ไปหาแบบให้อยู่"

เถรี 30-11-2014 19:28

มีเด็กคนหนึ่งร้องไห้ลั่นบ้าน พระอาจารย์จึงบอกกับพ่อแม่ของเด็กว่า "เวลาเด็ก ๆ ร้องอย่าไปห้าม ยิ่งห้ามเขายิ่งร้อง ต้องยุให้ร้องดัง ๆ พอยุส่งแล้ว เขาเห็นว่าร้องแล้วไม่มีรสชาติ เดี๋ยวก็จะเลิกร้องไปเอง"

เถรี 30-11-2014 20:13

3 Attachment(s)

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีดหมอเล่มนี้ ถ้าเป็นลูกศิษย์สายวัดท่าซุง เขาเรียกว่า ดาบฟ้าฟื้น เป็นมีดหมอที่หลวงพ่อวัดท่าซุงให้ทำขึ้นมา ในช่วงที่วัดท่าซุงมีการฝังลูกนิมิต ซึ่งในหลวงเสด็จไปตัดลูกนิมิตด้วยพระองค์เอง ช่วงนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงให้ไปกวาดมีดหมอมาหมดตลาดพยุหะคีรีเลย ทั้งเล่มเล็กเล่มใหญ่ เอามาตีคำว่า ภปร.- สก. ลงไป ขนาดเอามาจนหมดตลาดแล้ว ยังมีประมาณ ๖๐ เล่มเท่านั้น

อาตมาก็ไม่ทัน แต่เจ้าของมีดหมอเล่มนี้จริง ๆ คือ หลวงตาเจริญ ฐิตธมฺโม ซึ่งเป็นพระที่อาวุโสที่สุดในวัดช่วงนั้น อาวุโสกว่าหลวงพี่โอ (พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) อาวุโสกว่าท่านเจ้าคุณอนันต์ (พระภาวนากิจวิมล) อีก หลวงตาเจริญบอกว่า "ท่านเล็ก..ผมอยากจะสร้างพระชำระหนี้สงฆ์
ที่บ้านเกิดสักองค์หนึ่ง ช่วยผมหน่อยได้ไหม ?" ก็ถามว่า "หลวงตามีอะไรให้ผมบ้างล่ะ ?" หลวงตาบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีมีดหมอดาบฟ้าฟื้นเล่มนี้อยู่เล่มเดียวแหละ "หลวงตาเอามาให้ผม ผมมีเงินอยู่เท่าไร เดี๋ยวผมถวายหลวงตาหมดเลย"

อาตมาก็ควักย่ามนับเงิน ให้ทุกคนเดาว่ามีเงินให้หลวงตาเท่าไร ? ทุกวันนี้ยังไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะมีเงินตั้ง ๑๑๒,๕๐๐ บาท มาได้อย่างไรไม่รู้ ? ไม่มีวันที่อาตมาจะมีเงินในย่ามได้มากขนาดนั้น เพราะตอนนั้นเพิ่งจะบวชได้ ๔-๕ พรรษาเอง จะไปเอาศรัทธาญาติโยมมาจากไหน ? กลายเป็นว่ามีดหมอเล่มนี้ ราคาเมื่อ ๒๕ ปีก่อนคือแสนกว่าบาท..!"

เถรี 30-11-2014 20:21

ถาม : ราคาตอนนี้ละครับ ?
ตอบ : เล่มนี้ก็คงต้องราคาเท่านั้น เล่มอื่นไม่รู้ ?

เนื่องจากว่าอาตมาจะปลุกเสกมีดหมอเพชราวุธ พระท่านบอกว่าให้เอามีดหมอของครูบาอาจารย์มาเป็นองค์ประธาน จะได้รวมสายความรู้ที่ศึกษามา มีดหมอหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล มีแล้ว มีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ มีแล้ว ขาดของหลวงพ่อวัดท่าซุง เพราะเพิ่งให้
เขาประมูลไป ใครประมูลไปนะ..คุณชวงใช่ไหม ? ประมูลกันบนรถไฟ

มีดหมอเล่มนี้ ตอนออกจากวัดท่าซุงไปอยู่ทองผาภูมิใหม่ พี่สุรกานต์..พี่ชายของอาตมาขอไป อาตมาจึงบอกพี่สุรกานต์ว่า เอาเล่มนั้นมาที เดี๋ยวจะคืนให้แสนหนึ่ง ปรากฏว่าพี่สุรกานต์ไม่เอาเงิน ถวายคืนมาสร้างพระพุทธรูปทองคำทั้งหมด สมัยก่อนตอนออกธุดงค์ อาตมาจะพกมีดหมอเล่มนี้ติดตัวเป็นประจำ ก่อนออกจากวัดท่าซุง พี่สุรกานต์ขอจึงให้ไป ตอนนั้นพี่เขาเอาสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๙ นิ้วไปองค์หนึ่ง มีดหมอเล่มหนึ่ง
และน้ำมันชาตรี ๒ ลิตรครึ่ง อาตมาเอาน้ำมันชาตรีไปเข้าพิธีเอง แล้วเก็บไว้ใช้ พี่เขาเห็นว่าอาตมา "สละราชสมบัติ" เพื่อออกป่าแล้วก็เลยขอ แต่ก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร นอกจากเอาไปรักษาไว้เท่านั้น อาตมาก็เลยบอกว่าจะใช้งาน ให้เอามาคืน ให้เงินแล้วพี่เขาก็ไม่เอา บอกว่าถึงเป็นเงินส่วนตัวก็ไม่เอา ถวายคืนมาจนหมด

เถรี 30-11-2014 20:27

เป็นเรื่องอัศจรรย์จริง ๆ ว่า หลวงตาเจริญไปสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ซึ่งราคาทั้งปิดทองตอนนั้นรวม ๆ ประมาณ ๗๕,๐๐๐ บาท คราวนี้ไม่มีอาคาร ก็คงจะเหลือไว้สร้างอาคารด้วย

เป็นไปได้อย่างไร พระใหม่ ๆ มีเงินติดย่ามอยู่แสนกว่า นับไปยังงง ๆ เลย บอกว่า "หลวงตา..มีเงินขนาดนี้ผมยังตกใจเลย ผมรับปากว่าจะถวายหลวงตาหมด หลวงตาเอาไปทั้งหมดเลยก็แล้วกัน" ไม่รู้ว่าหลวงปู่หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ หรือพ่อแม่ที่ไหนของท่าน อยากจะร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ก็ไม่รู้ ? เอามายัดใส่ย่ามให้ อาตมารับปากไว้แล้วว่าให้หมดเลย..ก็ต้องให้

เรื่องนี้เจอมาจนตัวเองไม่แปลกใจแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพิ่งจะมารับสังฆทานที่กรุงเทพฯ เป็นปีแรก ๆ จำได้ว่ารับเงินไปไม่กี่หมื่นหรอก แต่ไปจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง มากกว่าที่รับไว้เป็นเท่าตัว ก็คิดว่าคงต้องติดหนี้เขาไว้ก่อน แต่นับไปนับมา เงินกลับพอที่จะให้เขา ไม่รู้ว่างอกมาตอนไหน เพราะตอนลงบัญชีก็ตรวจสอบดีแล้ว

เถรี 30-11-2014 20:44

มีดหมอเล่มนี้ ถ้าไม่มี ภปร.- สก. นะ เขาจะตีว่าเป็นมีดหมอหลวงพ่อเดิม เพราะว่าช่างสอนรุ่นเก่าเขาทำ ฝีมือก็เลยเป็นฝีมือเดิม

หลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวลเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงปู่เดิม วัดหนองโพธิ์ เพราะว่าแม่ของหลวงปู่รุ่งกับแม่ของหลวงปู่เดิมเป็นพี่น้องกัน แต่หลวงปู่รุ่งอายุมากกว่า บวชก่อน ๑๑ พรรษา ศึกษาวิชาทำมีดหมอมาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล มีดหมอของหลวงปู่รุ่งส่วนใหญ่ตีด้วยมือทั้งตัวมีดและแผ่นเงินหุ้มมีด หลวงปู่เดิมก็ศึกษาวิชาจากหลวงปู่เทศ ทำมีดหมอทีหลังหลวงปู่รุ่ง แต่หลวงปู่เดิมดังกว่า มีลูกศิษย์ที่มีฝีมือเป็นมาตรฐานเดียวกันมาอาสาทำให้ อย่างช่างฉิม ช่างสอน ช่างไข่ ก็เลยทำให้มีดหมอหลวงปู่เดิมมีเอกลักษณ์ที่พิจารณาได้ ว่าเป็นฝีมือใครทำ

แต่มีดหมอของหลวงปู่รุ่งยิ่งมีเอกลักษณ์ใหญ่ เพราะท่านฝังตะกรุดบนสันมีดทุกเล่ม ขณะที่หลวงปู่เดิมฝังตะกรุดในด้ามมีด ที่อาตมาฝังตะกรุดบนสันมีดหมอเพชราวุธ ก็ถอดแบบมาจากตำราของหลวงปู่รุ่งนี่แหละ แต่ทำเป็นตะกรุดสามกษัตริย์แบบหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า คาถาและยันต์ในการเขียนตะกรุดเป็นของหลวงพ่อวัดท่าซุง ส่วนการฝังตะกรุดมหาสะท้อนที่ด้าม ก็ถอดแบบ
มาจากหลวงปู่เดิม แต่ตะกรุดมหาสะท้อนก็เป็นตำราของหลวงพ่อวัดท่าซุงเช่นกัน

เถรี 30-11-2014 20:49

มีดหมอหลวงปู่เดิมบางเล่ม เจ้าของถักซองมีดด้วยหวาย ลวดลายงามสุด ๆ เสียดายที่อาตมาไม่มีเวลาที่จะถักเชือกเป็นซองมีด มีคาถาขอดเชือกสงครามของหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นคาถาของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ถ้ามีเวลาค่อย ๆ ทำก็ได้ แต่อาตมาไม่มีเวลา ตามตำราต้องการแค่ ๓ ขอด เราก็ทำเป็นซองมีดไปเลย ตอนนี้ธุดงค์ไปป่าไหนก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ลุยได้เต็มที่

ถาม : จะออกให้ประมูลไหมครับ ?
ตอบ : เล่มนี้ไม่ได้ อุตส่าห์ปล้นคืนมา จะเอามาเป็นประธานในการพุทธาภิเษกมีดหมอเพชราวุธ

เถรี 30-11-2014 20:57

มีดหมอรุ่นนี้แหละ หลวงพ่อวัดท่าซุงถวายในหลวงไปเล่มหนึ่ง และถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารไปเล่มหนึ่ง ตอนนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ก็อยู่ด้วย แต่ว่าด้วยความที่เป็นผู้หญิง หลวงพ่อท่านจึงไม่ได้ถวายไป

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร ตรัสว่า เสียบไว้ที่บังแดดของรถแล้วอาราธนาได้ไหม ? หลวงพ่อทูลว่า "ถ้าอย่างนั้นจะคุ้มได้ทั้งคันเลย" สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร บุญท่านดีนะ นอกจากเกิดเป็นพระราชโอรสองค์เดียวของในหลวงแล้ว สมัยก่อนหลวงปู่หลวงพ่อต่าง ๆ มีอะไรดี ๆ จะทำถวายพระองค์ท่านกันทั้งนั้น ตอนนั้นหลวงพ่อไท วัดไทรย้อยที่เพชรบุรี สร้างเสือมหาอำนาจ ก็ถวายพระองค์ท่าน หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ถวายมีดหมอรุ่นนี้ ส่วนในหลวงพอรับมีดหมอไปแล้ว พระองค์ท่านแต่งชุดทหารไป ก็ใส่ในกระเป๋าฉลองพระองค์เลย

เถรี 30-11-2014 21:12

ตอนนี้พระที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษกมีดหมอเล่มนี้ เหลือหลวงพ่อวิชาอยู่องค์เดียว หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ ที่ถือว่าไปช้าก็คือหลวงพ่ออุตตมะและหลวงปู่ครูบาวงศ์ หลวงปู่บุดดาก็ไปช้าเหมือนกัน ท่านมรณภาพหลังหลวงพ่อวัดท่าซุงหลายปี ท่านอยู่จนกระทั่ง ๑๐๓-๑๐๔ ปี

หลวงพ่อวิชาตอนนี้อายุ ๗๐ กว่าแล้วกระมัง ? สมัยก่อนอาตมาเรียกหลวงพี่ สมัยนี้แก่ ๆ ไปด้วยกัน ต้องเรียกว่าหลวงพ่อ

เถรี 30-11-2014 21:21

1 Attachment(s)

"เรื่องของมีด เรื่องของปืน เจ้าของต้องขยัน ถ้าไม่ขยันดูแลเช็ดถู เดี๋ยวสนิมก็เอาไปกิน คิดดู..เล่มนี้ ๓๗ ปีเข้าไปแล้ว ถ้าดูแลไม่ดี ป่านนี้คงชักไม่ออก สนิมกินติดฝักไปแล้ว

อาตมาศึกษาเรื่องมีดตอนแรก ๆ อ่านตำราฝรั่ง เขาบอกว่า keep it clean and dry ก็คือต้องทำให้สะอาดและแห้ง

เถรี 30-11-2014 21:33

พระอาจารย์อ่านตัวขอมที่ปรากฏบนใบมีดให้ฟัง "อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ ภะสัมสัมวิสะเทภะ ติหังจะโตโลถินัง กัณหะเนหะ

อาปามะจุปะ เป็นหัวใจพระวินัย อา ย่อมาจากอาทิกัมมิกะ ปาคือปาจิตตีย์ มะคือมหาวรรค จุคือจุลวรรค ปะคือปริวารวรรค

ทีมะสังอังขุ คือ หัวใจของพระสูตร มีทีฆนิกาย หานิกาย สังยุตตนิกาย อังคุตรนิกาย และขุททกนิกาย

ภะสัมสัมวิสะเทภะ คือ คาถามหาอำนาจ บางตำราเรียกว่า คาถาตวาดป่าหิมพานต์

ติหังจะโตโลถินัง เขาเรียกคาถากระทู้เจ็ดแบก เกี่ยวกับการอยู่ยงคงกระพัน

กัณหะเนหะ บางตำราบอกว่าเป็นหัวใจโจร ความจริงแล้วเป็นคาถาแคล้วคลาดเมตตา สมัยก่อนหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ จะเอาลงปลักขิกของท่าน ไม่ว่าจะเป็นปลัดขิกกัลปังหา หรือปลักขิกไม้ หลวงปู่อี๋จะลงด้วยคาถากัณหะเนหะ

ถ้าไม่มีพื้นฐานเรื่องเวทย์มนตร์คาถาจะอ่านไม่ออก เพราะตัวหนังสือเล็กมาก และตอกไม่ชัด"

เถรี 30-11-2014 21:49

พระอาจารย์เอามีดเสียบเข้าที่ฝัก มีเสียงดังกริ๊ก "นี่ช่างฝีมือรุ่นเก่าแท้ ตัววัดความแท้เทียมมีดหมอของหลวงพ่อเดิมอย่างหนึ่ง ก็คือจะมีล็อก ถึงเวลาจะลั่นกริ๊ก และด้ามงาจะต้องแตกทุกอัน เหตุที่แตกทุกอันเพราะว่า กั่นมีดเป็นสนิมแล้วดันด้ามงาให้แตก ยกเว้นบางเล่มที่รักษาดีมาก ๆ อาจจะไม่แตก แต่งาต้องเก่าได้อายุด้วย

สมัยก่อนอาตมาแอบล้วงย่ามหลวงพ่อวัดท่าซุงดู ในย่ามท่านมีมีดหมอรุ่นนี้เล่มหนึ่ง มีแก้วจักรพรรดิ มีชุดยานัตถุ์ ทั้งกล้อง ขวดยา และผ้าเช็ดน้ำมูก แล้วก็พระบรมสารีริกธาตุ แค่นั้นแหละ ล้วงย่ามท่านครั้งแรกไปโดนมีดหมอก่อน เหมือนอย่างกับโดนไฟฟ้าเป็นหมื่นโวลต์ดูด จนกระทั่งมือกระเด็นหลุดออกจากย่ามเอง หลวงพ่อท่านเหลือบมามองแล้วก็หัวเราะหึหึ เป็นช่วงจังหวะที่กำลังใจของอาตมาเปิดพอดี เลยรับพลังมาโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับโดนไฟฟ้าเป็นหมื่นโวลต์ดูด ตอนนั้นใจเปิดเพราะไม่ได้คิดอะไร คิดอย่างเดียวว่า จะล้วงดูว่า หลวงพ่อท่านพกอะไรในย่ามบ้าง ?"

เถรี 01-12-2014 10:29

เดือนเมษายน ปี ๒๕๒๐ ตอนนั้นมีอยู่เรื่องหนึ่งที่รู้เป็นการภายใน คือ หลวงปู่บุดดาได้รับนิมนต์มางานฉลองโบสถ์ด้วย หลวงตาวัชรชัยตอนนั้นก็ยังไม่ได้บวช ยังเป็น "พี่ดม" ของน้อง ๆ อยู่เลย หลวงตาวัชรชัยมีหน้าที่ดูแลหลวงปู่บุดดาและรับผิดชอบหลวงปู่ทุกองค์ด้วย เพราะ "แม่อ๋อย" ท่านสั่งไว้

หลวงปู่บุดดาท่านพูดลอย ๆ แต่ตั้งใจให้พวกเราได้ยิน ท่านบอกว่า "วันนี้เป็นวันที่ ร.๑ กับ ร.๙ จะได้พบกัน" ท่านพูดลอย ๆ ขึ้นมาเฉย ๆ ไม่รู้ว่าท่านหมายความว่าอะไร ? ไม่ได้ถามด้วย จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ถาม แล้วท่านก็บอกว่า "ต่อไปนี้จนถึงสิ้นพระศาสนา ไม่รู้ว่าจะมีใครจัดงานได้อย่างท่านมหาวีระอีกหรือเปล่า ที่เอาพระอริยเจ้าและพระโพธิสัตว์มารวมกันได้มากขนาดนี้" พวกเราก็ได้แต่ฟัง เพราะยังเด็ก..ไม่รู้เรื่องอะไร ปีนั้นอาตมาเพิ่งอายุ ๑๘ เอง จะไปรู้เรื่องอะไร ผู้ใหญ่ใช้อะไรก็วิ่งขาขวิด ทำงานอย่างเดียว

เถรี 01-12-2014 10:41

สมัยก่อนของใช้ที่เป็นเงิน หรือนากซึ่งมีส่วนผสมของเงิน จะดำง่าย คนโบราณก็อดทนเหลือเกิน ค่อย ๆ เอาส้มมะขามแช่แล้วก็ขัด

ถาม : มะขามอะไรครับ ?
ตอบ : มะขามเปียก สมัยนี้มักง่าย เล่นบรัสโซ ขัดไม่กี่ทีก็สะอาด

ถาม : ใช้มะขามเปียกทำอย่างไรครับ ?
ตอบ :เขาก็จะหมักเลย น้ำมะขามเป็นกรด จะกัดสนิมให้หลุดได้

เถรี 01-12-2014 10:54

มีดหมอต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ ไม่อย่างนั้นสนิมจะขึ้นใบมีด

ถาม : ใช้น้ำมันอะไรครับ ?
ตอบ : น้ำมันอะไรก็ได้ เช็ดแล้วเอาผ้าแห้งสะอาดเช็ดอีกที ไม่อย่างนั้นต่อให้เป็นน้ำมัน สนิมก็จะขึ้น เพราะว่ามีความชื้นอยู่ อาตมาดูแลไม่เคยปล่อยให้สนิมขึ้น คนเห็นก็ตกใจว่าสามสิบกว่าปีแล้วหรือ ? ลองดูเล่มที่คุณชวงประมูลไป เล่มนั้นอาตมาใช้มาทุกป่าเลย ตกน้ำตกท่ามาหลายรอบ แต่ก็ยังใหม่เอี่ยม

ถาม : เล่มนี้เหล็กอะไรครับ ?
ตอบ :เหล็กธรรมดานี่แหละ เพียงแต่เช็ดถูบ่อย ๆ แล้วจะดูดีไปเอง

เถรี 01-12-2014 10:58

ถาม : หนูซื้อมีดจ่าตุ้มมา ราคาไม่แพง ?
ตอบ : ไม่ใช่จ่าตุ่มแน่ เขาว่าจ่าตุ้มนั้นถูกแล้ว มีดจ่าตุ่มขายเฉพาะที่บ้าน นอกบ้านแล้วมีขายที่เดียว คือ ที่นี่ (บ้านวิริยบารมี) เพราะคนอื่นป้าสุไม่ไว้วางใจความประพฤติ เขาไม่ให้ไปหรอก

ถาม : เขาบอกไม้งิ้วดำ ราคาเล่มละหกร้อยบาท ?
ตอบ : ไม้อะไรเขาก็อ้างไม้งิ้วดำทั้งนั้น ถ้ามีดจ่าตุ่มก็เล่มละหลายพัน

เถรี 01-12-2014 11:37

พระอาจารย์เล่าว่า "คำสอนของหลวงพี่โอ (พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) ที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่บวชมาก็คือ "บวชมาแล้วต้องทน..!" คำเดียวคลุมทุกอย่างเลย ท่านสอนตอนไหนรู้ไหม ? ตอนกำลังล้างจานเลย

ตอนนั้นอาตมาทำท่าจะสึกแหล่มิสึกแหล่ หลังจากฉันเพลเสร็จก็ตักน้ำผงซักฟอกไปคนละช้อน ไปนั่งล้างจานที่แพ พวกปลาจะมาแย่งเศษอาหารกัน หลวงพี่โอก็คงรู้ท่า ท่านบวชมานาน มีประสบการณ์มาก ตอนนั้นท่านได้ ๑๕-๑๖ พรรษาแล้ว ท่านเห็นก็เลยเตือน "บวชมาแล้วต้องทน..!" ได้ยินนี่ซาบซึ้ง คำว่า "ทน" คำเดียวครอบคลุมหมดทุกเรื่องเลย"

เถรี 01-12-2014 11:40

พระอาจารย์เล่าว่า "มีโยมอยู่สองคนที่ถวายทองครั้งละ ๐.๐๖๒๕ บาท ก็ประมาณ ๑ กรัม แต่เขาถวายทุกเดือน แล้วที่เขาถวายมานิด ๆ หน่อย วันก่อนไปลองชั่งดู ได้ ๑,๕๐๐ กว่ากรัม ตกร้อยกว่าบาทแล้วนะ ส่วนทองที่อาตมาซื้อเอง ล่าสุดก็ ๖ กิโลกรัม คราวที่แล้วก็ได้ทองรูปพรรณไปหลายกิโลกรัม เอาไปหลอมเป็นแท่ง อาทิตย์นี้จะให้เขาไปหลอมอีกเป็นแท่งอีก เนื้อจะได้บริสุทธิ์ขึ้น"

เถรี 01-12-2014 11:42

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนตอนที่อาตมายังอยู่วัดท่าซุง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จอุทัยธานีบ่อยมาก ก็สงสัยว่าท่านเสด็จมาทำไม ? ที่แท้เพื่อนของท่านอยู่ที่นั่น ท่านไปอย่างไม่เป็นทางการบ่อย ๆ

เมื่อ ๒-๓ อาทิตย์ที่ผ่านมา ท่านไปช่วยเพื่อนขายทอง ปกติจะเข้าเฝ้าท่านก็ยากเย็นเข็ญใจอยู่แล้ว จะถ่ายรูปก็ไม่ได้ แต่คราวนี้ขายทองเสร็จท่านใส่ให้ด้วย คนแย่งถ่ายรูปกัน เขาก็ซื้อทองกันใหญ่ น้องเล็กยังบอกว่า ถ้าอยู่ใกล้ ๆ จะไปซื้อตุ้มหูให้ท่านใส่ จะได้ถ่ายหลาย ๆ รูป เพราะตุ้มหูใส่ยาก ต้องใช้เวลามาก

ท่านเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ที่น่ารักมาก ไปไหนท่านก็ปล่อยให้พระเกศาหงอกอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย ท่านยอมรับสภาพร่างกายยิ่งกว่าพวกเราอีก"

เถรี 01-12-2014 11:50

พระอาจารย์กล่าวถามว่า "เก็บตกจากงานปฏิบัติธรรม เอก (จิตติพงษ์ ชื่นอารมณ์) ได้บันทึกไว้ทุกครั้งหรือเปล่า ? หรือคนอื่นบันทึกแล้วมาส่งให้ ? เพราะบางครั้งเวลาพระท่านสงเคราะห์แล้วไม่มีคนบันทึกไว้ อาตมาเองยังเสียดายเลย เพราะท่านให้เยอะจริง ๆ"

เถรี 01-12-2014 11:55

พระอาจารย์เล่าว่า "สาว ๆ สมัยก่อนเขาใช้ส้มมะขามขัดผิว อาบน้ำเสร็จก็ทาแป้ง ทาขมิ้น สมัยก่อนเขาอาบน้ำประณีตมากเลย รุ่นพี่ป้าน้าอาสมัยก่อน จะกระโจมอกไปอาบน้ำที่ท่าน้ำ ค่อย ๆ ขัดสีฉวีวรรณ จึงเข้าใจว่าการขัดสีฉวีวรรณมาจากการอาบน้ำของคนรุ่นก่อนนี้เอง คนรุ่นก่อนทำอะไรประณีตมาก ค่อย ๆ ผสมดินสอพองกับขมิ้น ค่อย ๆ ขัดผิวด้วยส้มมะขาม

ที่ภรรยาของนายประตูเมืองเตือนศรีสุวรรณกับเพื่อนว่า "เห็นผู้หญิงริงเรือที่เนื้อเหลือง อย่ายักเยื้องเกี้ยวพานนะหลานขวัญ แต่ละนางมิใช่ชั่วตัวสำคัญ จะเสียสันเปล่า ๆ ไม่เข้าการ" คำว่า "ริงเรือ" คือผิวเนื้อเหลืองแบบเรื่อ ๆ บางคนใช้คำว่า "ผิวนวลมะปรางสุก"

พอมารุ่นหลังเขาไม่เข้าใจคำโบราณ เขาเลยเปลี่ยนเป็น "ผู้หญิงยิงเรือ" เพราะเขามีสำนวนเก่าว่า "ผู้ชายพายเรือ" ก็คือ ร่อนเร่ตระเวนไปเรื่อย ๆ ไม่เป็นโล้เป็นพาย เขาก็เลยเหมาว่า คำนี้ต้องเป็นผู้หญิงยิงเรือ เพราะผู้ชายพายเรือ...

เสียสัน คือโดนโบยจนสันหลังลาย โทษฐานที่ไปเกาะแกะนางในรั้วในวังเข้า"

เถรี 01-12-2014 12:02

ถาม : ทำไมผีบางที่จึงดุชอบหลอกคน ?
ตอบ : นิสัยก็เหมือนกับคน รัก โลภ โกรธ หลง ก็เหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่เขาอยู่อีกเขตเท่านั้น

ถาม : แล้วผีที่เป็นเทวดา ?
ตอบ : ผีหรือเทวดาก็นิสัยเหมือนคน บางรายก็ค่อนข้างจะเกเร ก็มักจะหลอกคนนั้นคนนี้ บางรายก็หวงที่ หวงถิ่น หวงสมบัติ เห็นเราเข้าไปใกล้ ก็กลัวเราจะเข้าไปเอาของเขา ก็ต้องหลอก ไล่ ขับเราออกมา

ส่วนเทวดาบางทีท่านซนก็แกล้งเรา ส่วนท่านที่ไม่ซนก็ต่างคนต่างอยู่ไป เพราะฉะนั้น..จะเห็นว่าเราไปบางที่ก็ผีหลอกจังเลย แต่บางที่กลับอยู่สบาย สรุปว่า ผีหรือเทวดาก็นิสัยเหมือนคน รัก โลภ โกรธ หลงเหมือน ๆ กัน เพียงแต่ว่าอยู่คนละเขตเท่านั้น


ถาม : อาทิตย์หน้าจะไปเกาะพระฤาษี ไม่มีพระอยู่สักรูป คาดว่าโดนหลอกแน่ ?
ตอบ : ที่โน่นอาตมาโดนตั้งแต่ยุคแรก ๆ แล้ว ไปทำกระต๊อบหลังเล็ก ๆ ไว้ ทำวัตรเย็นอยู่ ผีโผล่หน้ามา หน้าใหญ่เต็มหน้าต่างเลย บอกว่า "เอ็งไสหัวไปไกล ๆ เลย ขืนโผล่ไปหาคนอื่นเขาจะได้ช็อกตายห่.." เขามาดูว่าอาตมาทำอะไร โผล่หน้ามาดู หน้าใหญ่เต็มหน้าต่างเลย..!

เถรี 01-12-2014 12:33

พระอาจารย์กล่าวถึงกลุ่มโยมผู้พิการทางสายตาที่ช่วยเหลือกันว่า "บางทีเห็นเขาเกาะเป็นแถว ๆ เออ..เขารักกันดีนะ ถึงเวลาจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน แบบเดียวกับนกจิ้มฟันจระเข้ ถึงเวลาจะไปจิก ๆ พวกเศษอาหาร พวกปลิงตามปากจระเข้ จระเข้ก็ได้ทำความสะอาดตัวเอง

ปลาไหลมอเรย์อ้าปากมา ฟันแหลมเปี๊ยบเลย แต่กุ้งพยาบาลมุดเข้ามุดออกทำความสะอาด เป็นเรื่องของการพึ่งพาอาศัยกันในธรรมชาติ สัตว์เขารู้ว่าเขาจะสบายได้เพราะว่าอีกฝ่ายหนึ่งมาช่วย จึงไม่ทำอันตราย ไม่อย่างนั้นแล้ว นกไปเต้นเหย็ง ๆ ในปาก จระเข้งับตูมเดียวกลืนเลย

คนเราจะพึ่งพาอาศัยกันลักษณะนั้น ก็ต้องประกอบด้วยหลักธรรมหลายอย่าง อย่างน้อยต้องมีพรหมวิหาร ๔ จึงจะเมตตากรุณาสงเคราะห์คนอื่น คนมีพรหมวิหาร ๔ ก็มีศีลเป็นปกติ บำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อผู้พิการก็ถือว่า เป็นอัตถจริยาในสังคหวัตถุ ๔"

เถรี 01-12-2014 12:41

พระอาจารย์ถามว่า "มีใครเล่นหุ้นบ้าง ? อาทิตย์หน้าหุ้นจะทะลุพันหกร้อยจุด แต่โปรดระวังพฤหัส-ศุกร์ จะร่วงแรง เล่นหุ้นนี่ต้องรู้จังหวะ ช่วงจังหวะที่จะขึ้นก็จันทร์-อังคาร-พุธ หลังจากนั้นจะมีคนเทขาย ใครบ่นว่ารัฐบาล คสช.ไม่ดี ? หุ้นขึ้นเอา ๆ แต่อย่างว่า..ขึ้นแต่หุ้น เป็นการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ระวังตอนร่วงหนักเอาไว้ด้วย ถ้าเงินไม่เย็นจริง มีหวังได้หน้ามืดกันบ้าง..!"

เถรี 02-12-2014 11:49

มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งมาทำสังฆทาน พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "ถ้าใครมีแม่ต้องหาให้ได้อย่างนี้นะ โหงวเฮ้งแบบนี้ใจกว้างเป็นแม่น้ำเลย ประเภทขอร้อยบาทให้สองพัน..! เรื่องของตำราโหงวเฮ้ง ถ้าไม่ได้ทดสอบด้วยตัวเองอาตมาก็คงไม่เชื่อ บังเอิญไปได้ครูดี ตำราของท่านนี่อ่านคนขาดจริง ๆ แต่ท่านขอไว้อย่างหนึ่งว่าอย่าถ่ายทอดต่อ เพราะบางอย่างรู้แล้วเอาไปขู่กรรโชกคนอื่นเขาได้"

เถรี 02-12-2014 12:31

ถาม : ปรารถนาน้อย สันโดษ สงัด ต่างกันอย่างไรคะ ?
ตอบ : ปรารถนาน้อย เป็นเรื่องของการตัดความโลภ สันโดษ คือ พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่ไขว่คว้ามากจนเกิดทุกข์ สงัด ไม่ว่าอย่างไรสภาพไหนก็ตาม จะต้องทำใจของตนให้สงบระงับจากกิเลสได้ สงัดนี่ถ้าเข้าถึงจริง ๆ ก็คือ พระนิพพาน

เถรี 02-12-2014 12:53

ถาม : การภาวนาคาถาหลาย ๆ คาถา โดยแบ่งเป็นเวลาเป็นสัดส่วน เช่น ภาวนาคาถาอภิญญารวมครึ่งชั่วโมงในตอนเช้า คาถาท่านปู่พระอินทร์ครึ่งชั่วโมงในตอนเย็น หรือระหว่างวันก็จับคำภาวนาคาถาเงินล้านไปด้วย จะสามารถทำได้ไหมครับ ?
ตอบ : ทำได้...แต่ควรจะทำให้คาถาใดคาถาหนึ่งให้เกิดผลก่อน คาถาอื่น ๆ ก็ใช้กำลังใจเท่ากัน เมื่อทำคาถาขึ้นแล้ว จะใช้คาถาไหน ภาวนาเป็นระยะเวลาเท่าไร ก็อยู่ที่เราตั้งใจ ถ้าหากว่ายังทำไม่ได้ผล แล้วไปภาวนาคาถาโน้นบ้างคาถานี้บ้าง จะเป็นการเสียเวลาเปล่า

ถาม : การที่ภาวนาคาถาท่านปู่พระอินทร์อย่างเดียว ไปสอบโดยไม่อ่านหนังสือไปเลย จะเป็นประมาทเกินไปไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ประมาทเกินไปหรอก แต่ประมาทมากทีเดียว..! ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา หลายท่านทิพจักขุดีขนาดไหนก็ตาม เวลาใช้คาถาท่านปู่พระอินทร์อย่างเดียวโดยไม่อ่านหนังสือ เมื่อคำตอบมา เป็นคำตอบที่ไม่เคยผ่านหูผ่านตาตัวเองมาก่อน เลยพลอยไม่เชื่อ ฉะนั้น..ก็เจ๊งตั้งแต่แรกแล้ว จึงควรอ่าน ๆ ให้ผ่านตาไว้บ้าง

เถรี 02-12-2014 12:55

ถาม : เดี๋ยวนี้เวลาทำความดี บางครั้งเรารู้สึกอิ่มใจ ปีติใจมากจนน้ำตาจะไหล เนื่องจากความดีที่เราทำนี้ เป็นเพราะเราได้มาพบครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสุปฏิปันโน ถ้าเราไปแจกอาหารออกโรงทาน อยากจะใช้ชื่อป้ายว่า "ลูกศิษย์หลวงพี่เล็ก" (ใช้เฉพาะตอนทำความดี) ไม่ทราบว่าหลวงพี่เล็กจะอนุญาตไหมครับ ?
ตอบ : ไม่อนุญาต เพราะว่าเดี๋ยวก็ไปติดอยู่แค่ปีติ ไม่ได้อะไรสักที

ถาม : อย่างนี้ใช้ชื่ออะไรดีครับ ?
ตอบ : จะใช้ชื่ออะไรก็ตามใจ ยกเว้นชื่อของอาตมา..!

เถรี 02-12-2014 12:57

ถาม : การที่เจ้าหนี้เข้าบังคับยึดทรัพย์ของลูกหนี้ โดยใช้วิธีตีมูลค่าสิ่งของแล้วหักหนี้ ลูกหนี้เองไม่ได้เต็มใจ แต่ถูกบังคับจากทางเจ้าหนี้ จะถือว่าเจ้าหนี้ทำผิดศีลข้ออทินนาทานไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่เป็นไปโดยกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามสัญญาหรืออำนาจศาลสั่ง..ผิด แต่ถ้าหากว่าเป็นไปตามสัญญา มีข้อบังคับกฎหมายโดยศาลสั่งก็ไม่ผิด

ถาม : แล้วการตกลงกันเองแบบปากเปล่าละครับ ?
ตอบ : ถ้ามีการตกลงกันแล้ว ถือว่าเป็นไปตามข้อตกลงนั้น..ไม่ผิด

เถรี 02-12-2014 12:58

ถาม : ผมอยากได้อานิสงส์ของการบอกบุญบ้าง เลยเอาที่คนอื่นโพสต์บอกบุญมาโพสต์เผยแพร่ต่อ พอคนมาเห็นใครอยากทำก็ทำ ใครไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ แบบนี้ผมรู้สึกสบายใจดี รู้สึกว่าไม่ได้ไปบังคับใจใครเขา ทำอย่างนี้ผมจะได้อานิสงส์ของการบอกบุญคนอื่นครบถ้วนไหมครับ ?
ตอบ : ได้..แต่คงไม่ครบหรอก เพราะว่าแต่ละคนทำบ้างไม่ทำบ้าง ถ้าทุกคนทำครบถึงจะได้ครบ..!

ถาม : แต่ก็ถือว่าได้อานิสงส์ของ..?
ตอบ : ส่วนของเวยยาวัจมัย ช่วยให้งานบุญของผู้อื่นสำเร็จ

เถรี 02-12-2014 13:00

ถาม : ผมจะนำไผ่ตันไปกลึงและเกลาเป็นพระขรรค์ เพื่อเตรียมเข้าพิธีมีดหมอของวัดท่าขนุนที่จะมีในครั้งหน้า พอดีผมมี “ไม้ชองระอา” อยู่ด้วย ถ้าจะนำไปทำเหมือนไผ่ตัน อานุภาพในด้านมีดหมอจะใช้ได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เอาให้แน่ ๆ นะ เอาไผ่ตันไปกลึงที่ไหนได้ช่วยบอกด้วย เพราะยังไม่เคยเจอใครกลึงไม้ไผ่ได้..! จะตันหรือไม่ตัน ไม้ไผ่ก็กลึงไม่ได้ เพราะเสี้ยนไม้ขวางกับมีดกลึง เป็นอันว่ามีปัญญาเอาไปเข้าพิธีก็แล้วกัน ไม่ได้ห้าม

ถาม : เขาบอกว่ามีไม้ชองระอาอยู่ ถ้าเอาไปทำเป็นพระขรรค์จะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ชองระอามีอานุภาพน้อยไปหน่อย ถ้าผัวหรือเมียระอาจะมีอานุภาพมากกว่านี้..!

เถรี 02-12-2014 13:02

ถาม : ทั้งไม้ไผ่ตันและไม้ชองระอาที่ผ่านพิธีมีดหมอ จะนำไปทาแชลแล็กหรือทาแล็กเกอร์ ได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ทำไมไม่ทำให้เสร็จเสียก่อน ? ถ้าเอาสิ่งที่ไม่ได้ผ่านพิธีทับลงไปก็เสียอานุภาพไปเลย ถือว่าไม่เคารพในพระรัตนตรัย

ถาม : แล้วการดูแลรักษา ทาน้ำมันมีดหมออย่างนี้ ?
ตอบ : นั่นเขาถวายน้ำมันเป็นพุทธบูชา เป็นอันว่าถ้าอยากจะทาก็ทาให้เสร็จก่อน แล้วค่อยเอาไปเข้าพิธี

ถาม : แล้วการปิดทองเจตนาบูชา ?
ตอบ : ได้..แต่เสี่ยงมาก ถ้าตั้งกำลังใจผิด จะกลายเป็นเอาสิ่งที่ไม่มีพุทธานุภาพ ไปทับสิ่งที่มีพุทธานุภาพอยู่ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางทีอาจจะเกิดโทษปรามาสด้วย

ถาม : แล้วการที่เราปิดทองพระหางพระหมากคำข้าว เจตนาให้สวยขึ้นอย่างนี้ละครับ ?
ตอบ : อยู่ที่เรามั่นใจ

เถรี 02-12-2014 13:11

ถาม : การที่มีพระถือเครื่องกระจายเสียง เดินถือบาตรนำพระและเณรถือกล่องทำบุญ พร้อมทั้งประกาศให้ทำบุญต่าง ๆ ในที่ชุมชน เช่น ตลาด เป็นต้น ผมขอถามเป็นความรู้ว่า ในทางพระธรรมวินัยผิดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าในทางพระวินัยก็ผิดตั้งแต่แรกแล้ว เพราะว่าภิกษุสามเณรโดยศีลแล้ว ห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเงินทอง ในทางกฎหมายบ้านเมืองถ้าไม่ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาก็ผิด ดังนั้น..วัดใดวัดหนึ่งจะเรี่ยไร ต้องแจ้งแก่เจ้าคณะตำบล เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ก็เรี่ยไรได้เฉพาะในตำบลนั้น ถ้าต้องการเรี่ยไรในอำเภอนั้น ต้องให้เจ้าคณะอำเภออนุญาต จะเรี่ยไรในจังหวัดนั้น ต้องให้เจ้าคณะจังหวัดอนุญาต เรี่ยไรในภาคการปกครองนั้น จะเป็นภาคละ ๓ หรือ ๔ จังหวัด ต้องให้เจ้าคณะภาคอนุญาต ไม่สามารถที่จะเรี่ยไรข้ามจังหวัดหรือว่าข้ามภาคได้ เพราะท่านที่อนุญาตมีเขตรับผิดชอบเฉพาะของตนเอง แปลว่ามีโอกาสผิดทั้งทางโลกทางธรรม

ถาม : แสดงว่าถ้ามีประเภทพระนั่งท้ายรถกระบะเรี่ยไร เราขอดูใบอนุญาตก่อนเลย ?
ตอบ : ใช่..สมัยก่อนที่หลวงปู่พระธรรมเสนานี วัดวังตะกู เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ท่านประกาศชัดเลยว่า ในเขตจังหวัดนครปฐมห้ามทำการเรี่ยไรไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ปรากฏว่ามีนักเลงดีต่างถิ่นมาเรี่ยไร หลวงปู่ท่านไปถึงก็ผัวะเดียวกลิ้งไปเลย รายนั้นก็ลุกขึ้นมาถามว่า “ตบอาตมาทำไม ?” หลวงปู่ชุณห์ก็พลั่กซ้ำลงไปกองอีกรอบ แล้วบอกว่า “จำไว้เลยนะ ถ้ามึงเป็นพระจริง มึงต้องรู้ว่าพระพูดกันเขาใช้ คุณ..ผม ไม่ได้ใช้อาตมา”

อาตมาก็ถามว่า “แล้วหลวงปู่ไม่กลัวเขาสวนบ้างหรือครับ ?” ท่านบอกท่านปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นท่านไม่กลัวโดนสวน กฎหมายของท่านมีอยู่ ๒ มาตรา คือมาตรา ๕ สูงกับมาตรา ๕ ต่ำ..! มาตรา ๕ สูงคือฝ่ามือ มาตรา ๕ ต่ำคือฝ่าเท้า..! ฉะนั้น..เราขอดูใบอนุญาตได้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการหากินกัน ไม่มีใบอนุญาตหรอก

ถาม : แล้วกรณีนี้ในทางธรรมวินัยผิดไหมครับ ?
ตอบ : ทางธรรมวินัยนี่ไม่สามารถปรับเขาได้ เพราะรายนั้นไม่ใช่พระตั้งแต่แรกแล้ว ปลอมเป็นพระมาหากิน

ถาม : หลวงปู่ท่านก็แน่จริง ๆ นะครับ ?
ตอบ : เป็นพระรูปเดียวในยุคนั้น ที่จบแค่นักธรรมเอกแล้วขึ้นเป็นถึงเจ้าคุณชั้นธรรม ไม่มีประโยคบาลีเลย ได้เพราะงานอย่างเดียว นครปฐมยุคที่ท่านอยู่นี่สงบเรียบร้อยมาก บรรดาตัวแสบไม่มีสิทธิ์โงหัวขึ้นมาเลย จนกระทั่งท่านเกษียณไปแล้ว พวกนั้นถึงได้โผล่มาซ่าได้ ไม่อย่างนั้นเจอมาตรา ๕ ต่ำอย่างแน่นอน..!

เถรี 02-12-2014 13:14

ถาม : บริษัทลูกค้าเป็นบริษัทขายเนื้อสัตว์ เขาแจ้งมาทางบริษัทว่า ต้องการเครื่องจักรแบบไหน เราก็ออกแบบตามสั่ง เช่น ออกแบบว่าต้องปล่อยแก๊สเพื่อให้หมูเหมือนจะหลับ มึน ๆ เป็นเวลาเท่านี้ จากวาล์วตัวนี้ แล้วต้อนให้หมูเดินเข้าช่อง ในช่องก็จะมีมีดวิ่งมาปักหมู แล้วหมูจะค่อย ๆ ตาย หลังจากนั้นก็มีเครื่องถลกหนังไปตามขั้นตอน การที่ผมเป็นวิศวกรออกแบบเครื่องจักรตัวนี้ตามคำสั่งลูกค้า จะผิดศีลปาณาติบาตหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่ผิดศีลปาณาติบาต แต่มีส่วนส่งเสริมให้เขาละเมิดศีล ก็แปลว่าเขาได้ ๑๐๐ เราอาจจะได้ ๘๐ ฉะนั้น..ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ทำเองไปเลย จะได้หมดเรื่องหมดราวไป..!

ถาม : แล้วถ้าเราไม่ใช่วิศวกรออกแบบ แต่เราเป็นคนคุมละครับ ?
ตอบ : ยังตะแบงข้างไปอีก..!

ถาม : แล้วอาชีพเป็นอย่างนี้ต้องทำอย่างไรละครับ ?
ตอบ : อาชีพอย่างอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะ ก็ไปทำสิ หรือไปรับออกแบบอย่างอื่นแทน

เถรี 02-12-2014 13:27

ถาม : ถ้ามีภพภูมิที่เฝ้าสมบัติ เขาอยากไปเกิด ไม่อยากเฝ้าแล้ว ให้นำไปทำบุญให้หน่อย มาบอกให้เราไปเอาสมบัติ เช่น ทองคำ ไหทองคำ ไหเงิน พระเก่าโบราณ เราจะทำอย่างไรครับ ? สมควรไปเอาหรือเปล่า ? และจะเป็นบาปหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ลองไปดู ดูว่าจะเหมือนท่านเจ้ากรมเสริมฯ กับอาตมาหรือเปล่า เพราะท่านเจ้ากรมเสริมฯ พอฝึกมโนยิทธิได้ ก็มีท่านทั้งหลายเหล่านี้มาบอก ให้ไปเอาที่โน่นที่นี่ ไปทีไรไม่เคยได้สักที

อาตมาก็เหมือนกัน ไปทีไรไม่เคยได้สักที ทั้ง ๆ ที่เขาเปิดให้ดูแล้ว พอถึงเวลาก็อ้างว่าผิดอย่างโน้น พลาดอย่างนี้ไปเรื่อย ท้ายสุดอาตมาก็เลยสรุปว่า "ต่อไปถ้าจะให้ เอาไปขายแล้วโอนเงินเข้าธนาคารให้เลย..!" ตั้งแต่นั้นมาก็เลิก เหมือนกับเขามาทดลอง ลองไปดูก็แล้วกัน ได้มาก็ถือว่ากำไร ไม่ได้ก็เสมอตัว



ถาม : ทองคำที่ได้มา หากนำมาหล่อพระทองคำ เช่น ถวายหลวงพ่อร่วมหล่อพระทองคำ จะได้บุญหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าน้อยกว่า ๑ ตันไม่ค่อยได้บุญหรอก เพราะของอาตมาใช้เยอะ..!


ถาม : ทองคำที่ได้มา เรานำมาขาย นำเงินมาใช้ส่วนหนึ่ง ทำประโยชน์และทำบุญให้เขาส่วนหนึ่ง จะทำได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ปกติที่อาตมาแนะนำ คือ ให้ตั้งใจว่าส่วนหนึ่งทำบุญในพุทธศาสนา ส่วนที่สองทำงานสาธารณประโยชน์ให้กับประชาชนทั่วไป ส่วนสุดท้ายค่อยเป็นของตนเอง แต่แบ่งให้ยุติธรรมหน่อย ไม่ใช่ส่วนสุดท้ายมากกว่าเพื่อน..!

เถรี 02-12-2014 20:00

ถาม : ถ้าคืนไหนผมไม่สวดมนต์ ก็มักจะโดนอำ แล้วต้องตื่นมาสวดมนต์ทุกครั้ง หากวันไหนที่ตั้งใจไปตักบาตรแต่ลุกขึ้นจากที่นอนไม่ไหว ก็มีฝันอันน่าสะพรึงน่ากลัวมาก ๆ จนต้องลุกขึ้นไปตักบาตร ปัจจุบันถึงแม้จะสวดมนต์แต่ก็ยังโดนอำอยู่ ควรจะทำอย่างไรจึงจะไม่โดนอำครับ ?
ตอบ : เป็นสัญลักษณ์ให้เราทำความดี เขาช่วยส่งใบเตือนขนาดนั้นแล้ว

ถาม : สวดมนต์แล้วก็ยังโดนอำอยู่ ต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็สวดต่อไป คาดว่าไม่ใช่ผีอำ แต่เป็นการเข้าใจผิด เกิดจากกำลังใจที่ทรงสมาธิขั้นสูง จิตกับประสาทเริ่มแยกออกจากกัน ทำอะไรไม่ถนัดก็เลยคิดว่าผีอำ เพราะสมาธิแน่นทรงตัวแล้วขยับไม่ได้

ที่ ต.วังปลิง อ.สะเดา จ.สงขลา มีโยมผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง สมาธิทรงตัวเร็วมาก พอสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ก็แข็งทื่อเลย เขาใช้คำว่า “ต้องคอยเขย่าให้หลุด” พอขับไปหน่อยก็แข็งอีก ต้องคอยเขย่าให้หลุด เขาถามว่าเขาเป็นอะไร อาตมาตอบว่าขอให้เป็นอย่างนั้นบ่อย ๆ แต่เขย่าให้หลุดให้เร็วขึ้น เพราะเขาไม่รู้ว่า ทันทีที่เขาตั้งใจ สมาธิจะทรงตัว จิตกับประสาทเริ่มแยกออกจากกัน ต่อไปนี้คน ๆ นี้จะเข้าออกสมาธิได้เก่งมาก แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองได้สมาธิ


ถาม : อย่างนี้วิธีปฏิบัติคือ ?
ตอบ : ซักซ้อมการเข้าออกสมาธิให้เร็วขึ้น

ถาม : เคยใช้คาถาเงินล้านภาวนาขณะนอน รู้สึกนิ่ง ๆ ตัวโล่ง ๆ เหมือนจะลอยขึ้นไปข้างบน น่ากลัวมาก เหมือนมีแรงอะไรดูดเราออกจากร่าง ซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นอะไร บางทีก็ตัวแข็งไปหมด หายใจไม่ออกด้วย พอหยุดภาวนาทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ และสติก็เตลิดเปิดเปิง ผมผ่านไม่พ้นจุดนี้สักทีครับ นี่คืออะไรและผมต้องทำอย่างไรต่อไปครับ ?
ตอบ : ทำเหมือนเดิมบ่อย ๆ แล้วตัดตัวกลัวตายให้ได้ นั่นเป็นอาการที่จะออกไปแบบมโนมยิทธิเต็มกำลัง ถ้าตราบใดที่ยังกลัวตายอยู่ ก็จะไปไหนไม่ได้ สภาพจิตยังเป็นห่วงร่างกาย จึงไม่ไปไหนเสียที

เถรี 02-12-2014 20:05

ถาม : การเช่าพระกรุ อย่างเช่น พระสมเด็จวัดเกศไชโย ซึ่งเป็นของวัด ถ้าเราเช่าบูชาต่อมาจากคนอื่น เราบาปไหมครับ ? และถ้าเราอยากได้ไว้บูชาจริง ๆ เราร่วมชำระหนี้สงฆ์โดยการร่วมสร้างพระหน้าตักสี่ศอกปิดทองกับผู้อื่น แล้วหายกันหรือไม่อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้ารู้อยู่ว่าเป็นของจากกรุภายในวัด อยากได้ด้วยความโลภ เช่ามาราคาถูกเพื่อเอาไปปล่อยราคาแพง ก็มีส่วนในการติดหนี้สงฆ์ไปเต็ม ๆ แต่ถ้าตั้งใจสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ร่วมกับเขา สามารถที่จะพ้นโทษนั้นได้ แต่ว่าให้ร่วมบุญกับเขามากหน่อย ไม่ใช่ทำบุญแค่บาทครึ่งบาทเท่านั้น

เถรี 02-12-2014 20:08

ถาม : เคยทะเลาะกับแม่ เเล้วนำพวงมาลัยที่ซื้อมา ซึ่งตั้งใจว่าจะนำมาบูชาพระ โยนลงที่นอนอย่างเเรง เพราะกำลังโกรธ พอหายโกรธแล้วความตั้งใจเดิมปรากฏ จึงเดินไปดูพวงมาลัย เห็นว่าสภาพยังดีเหมือนเดิม ก็นำไปถวายพระที่บ้าน อย่างนี้ไม่ทราบว่าดิฉันมีบาปอย่างไรบ้างคะ ? แล้วจะแก้ไขอย่างไรดีคะ ? กังวลมากเลย
ตอบ : จะไปเกิดเป็นอสูร..! พวกอสูรเกิดจากการทำความดีผสมโทสะ ถ้าจะแก้ไขก็ขอขมาทั้งพระ ขอขมาทั้งแม่บ่อย ๆ อสูรอยู่ในเขตของเทวดา เพียงแต่ว่าสวยสู้เทวดาไม่ได้ เพราะหน้าหงิกตอนทำบุญ

ถาม : แต่ไม่ใช่อสุรกายที่จัดเป็นอบายภูมิใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเรียกก็คือ เทวอสุรกาย พวกที่อยู่ในอบายภูมิเป็น นิรยอสุรกายหรือเปตอสุรกาย

เถรี 02-12-2014 20:13

ถาม : หนูเป็นคนพูดจาเรื่องไม่ดีของคนอื่น บางครั้งเรื่องก็ผ่านไปนานแล้ว แต่เวลาพูดไม่ดีมีผลสะท้อนกลับมาที่ตัวหนูเสมอ คือรู้สึกถึงพลังความร้อนหรือพลังอะไรก็ไม่รู้ เป็นลูก ๆ มาเผาตัวเองและที่สำคัญหลังจากนั้นจะรู้สึกผิดถึงผิดมาก สรุปหนูควรแก้อย่างไรดีทั้งเรื่องปากหมาและเรื่องความรู้สึกผิด ?
ตอบ : ก็เลิกทำ แสดงว่าดีชั่วก็รู้อยู่ แต่อดใจไม่ได้

ถาม : รู้สึกตัวว่าผิด ?
ตอบ : แพ้ใจตัวเอง แสดงว่ารู้ตัวแล้วว่าจะลงนรก เริ่มร้อนแล้ว

ถาม : มีวิธีแก้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็เลิกทำ

ถาม : บางทีกำลังใจหวั่นไหวครับ อดใจไม่ได้ ?
ตอบ : นั่นเป็นแค่ข้อแก้ตัว


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:59


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว