เก็บตกบ้านเติมบุญ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๓
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1588051794 เหรียญเงินลงยาหน้ากากทองหลังยันต์ตรีนิสิงเห ฉลองอายุ ๘ รอบ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ที่พระอาจารย์บรรจุไว้ในรัดประคดประจำตัว พระอาจารย์เล่าว่า "วันจันทร์ที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ อาตมาค้างอยู่ที่วัดท่ามะขาม เพื่อรอปฏิบัติภารกิจของวันนี้ เวลาประมาณตีสอง หลวงปู่เล็ก จนฺทสโร (พระครูวิชาญพัฒนกิจ) เจ้าอาวาสวัดทำนบ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอวิเศษไชยชาญ เดินเข้ามาแบบแข็งแรงมาก เอ..หลวงปู่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนี่หว่า ? "อั้วขื่อเหลี่ยวอ่า" "นั่นแน่..นึกว่าลืมภาษาจีนหมดแล้ว จะรีบไปไหนครับ ?" "ร้อยกว่าแล้วโว้ย เอ็งยังมีหน้ามาว่าข้ารีบอีก" "ใจคอจะไม่ทนอยู่ช่วยงานผมต่ออีกหน่อยหรือครับ ?" "เอ็งลองมาเป็นข้าบ้างสิวะ แทบจะกระดิกกระเดี้ยไปไหนไม่ได้แบบนี้ ใครจะมีอารมณ์อยู่กัน" "ถ้าหลวงปู่ไม่ "อู้" ก็ไม่ต้องทนอยู่จนร้อยกว่าแบบนี้หรอกครับ" "ข้าไม่ใช่เอ็งนี่หว่า..! จะได้หน้าด้านหน้าทนอยู่กับพวกคนได้ แต่ละคนเคยสนใจที่ไหนว่าข้าเป็นอะไร จะเอาแต่เรื่องของมันเท่านั้น" "ผมเสียดายความสามารถของหลวงปู่สิครับ หลวงปู่ปาน หลวงปู่เต่า ท่านทำงานพวกนี้จนตัวตาย หลวงปู่อุตส่าห์ฝึกหัดมาจนถึงขนาดนี้ ดันแอบ "อู้" ซะอย่างนั้น" "ไม่ใช่วิสัยของข้าว่ะ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อเต่า หรือเอ็ง เดินทางกว้าง เดินทางใหญ่ ของข้าไปแค่เฉพาะตัว สงเคราะห์คนรอบข้างแค่นิดหน่อยก็พอแล้ว" "เขาเรียกว่าทำงานแค่วุฒิ ป. ๔ แต่ดันเรียนจนจบปริญญาเอก..!" "เออน่า..ก็ข้าอยากรู้ของข้านี่หว่า รู้แล้วจะสอนใครหรือเปล่ามันเรื่องของข้าโว้ย..!" "แล้วอย่าลืมกลับมาช่วยผมบ้างนะครับ" "ก็ต้องดูก่อนว่าข้าจะมีอารมณ์ไหม ? สิ่งที่ข้า "ให้" เอ็งไว้ ถ้ารู้จักเอามาใช้ก็ช่วยงานเอ็งได้เหลือเฟือแล้ว" "ถ้าอย่างนั้นผมน้อมส่งหลวงปู่แค่นี้แหละครับ ดีเหมือนกันนะครับ ดังเงียบ ๆ ตายเงียบ ๆ หาได้ยากจริง ๆ ครับ" |
พระอาจารย์เล่าว่า "กราบพระ ระลึกถึงครูบาอาจารย์ ท่านปู่พระอินทร์ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ โดยเฉพาะพญาแมลงภู่คำทั้งสองที่ประจำยานพาหนะ อธิษฐานจิตขอให้การเดินทางวันนี้สะดวกสบายปลอดภัยทุกอย่าง ด่านตรวจตั้งแต่กาญจนบุรี นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพฯ ราชบุรี จะมีกี่ร้อยแห่งก็ตาม ขอให้ผ่านสะดวกทุกแห่ง
ยังไม่ทันจะเสร็จ หลวงปู่บุญศรี อินฺทวณฺโณ วัดใหม่ศรีสุทธาวาส ที่หลายคนบอกว่าท่านคือหลวงพ่อฤๅษีลิงขาว ยิ้มแย้มแจ่มใสสว่างไสวเข้ามาหา "เอาคาถาหลวงปู่ไปหน่อย ขอได้สารพัดอย่าง อิอะสะมิ จะภะกะสะ ปาสุอุชา" กราบรับด้วยความดีใจ กำหนดภาพพระไว้เหนือเศียรเกล้า ภาวนาคาถาจนภาพพระขยายกว้างเต็มจักรวาล แล้วขอความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางดังคำอธิษฐานเมื่อครู่นี้ "เสียของจริง ๆ นึกว่าจะขออะไรมากมาย เอาแค่นั้นเอง" "แฮะ..แฮะ..หลวงปู่ก็รู้ ว่าผมเองเคยขออะไรเพื่อตัวเองซะที่ไหน ขอแค่นี้ก็มากแล้วครับ" |
"ตีห้าตรง..น้องเล็กพา "น้องแก้ว" ที่ขนวัตถุมงคลเต็มรถ วิ่งออกมาทางกาญจนบุรี - พนมทวน - กำแพงแสน - บางเลน - ไทรน้อย - สี่แยกนพวงศ์ มุ่งตรงไปยังบ้านเติมบุญ
ไม่ทราบเหมือนกันว่า นอกจากพญาแมลงภู่คําทั้งสอง ที่เทียบปีกประคองข้างปานขึ้นเครื่องบิน และท่านท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเมตตาคุมท้ายรถที่เต็มไปด้วยวัตถุมงคลให้แล้ว จะด้วยบารมีพระหรือคาถาหลวงปู่บุญศรีก็ไม่รู้ ? ที่พาอาตมาไปถึงบ้านเติมบุญ โดยไม่มีด่านตรวจด่านไหนสนใจแม้แต่แห่งเดียว ยิ่งด่านตรวจไวรัส covid-๑๙ ของนนทบุรี ที่ว่าเข้มงวดนักหนาเพราะว่าเป็นเขตแพร่ระบาดหนัก ก็ทำไม่เห็นซะอย่างนั้น" |
"เพิ่งขนของลงได้ครู่เดียว "เผือกน้อย" กับ "ไอ้ตัวเล็ก" ก็มาถึง พอเห็น "อ้ายเขี้ยวตัน" องครักษ์ประจำตัวของอาตมาที่สละออกให้คนบูชาเพื่อหาทุนให้ท่านอาจารย์ปู่ (พระครูปลัดสุวัฒนบัณฑิตคุณ) เอาไว้เลี้ยงเด็กกำพร้าวัดสระแก้ว "ไอ้ตัวเล็ก" ก็คร่ำครวญไม่เลิก
"โอ๊ย..อยากได้สุด ๆ ใครจะคิดว่าใหญ่โตและสวยงามได้ขนาดนี้" ก็บอกแล้วว่าเขี้ยวยาวข้างละ ๙ นิ้ว สองข้างรวมปลายจมูกก็เกือบสองฟุตเข้าไปแล้ว จะเล็กได้อย่างไรวะ ? ยังไม่รู้เลยว่าสละไปแล้วจะหาได้อีกหรือเปล่า ?" |
"วัตถุมงคลแต่ละอย่างที่อาตมาหาไว้ ส่วนมากจะเลือกที่สวยที่สุดเท่าที่หาได้เสมอ และไม่กลัวคนจะหาว่าเป็นของปลอม จึงมักจะทำความสะอาดจนสะอาดเอี่ยมทุกชิ้น บางคนที่ชอบร่องรอยเก่า ๆ เห็นแล้ว "น้ำตาจิไหล"
ส่ง "เผือกน้อย" กับ "ไอ้ตัวเล็ก" กลับไปแล้ว อาตมาฉันเพลด้วยข้าวกล่อง จากนั้นวิ่งออกมาทางด้านถนนราชพฤกษ์ ขึ้นสู่ถนนปิ่นเกล้าฯ - พุทธมณฑล ผ่านนครชัยศรี - นครปฐม ตรงเข้าราชบุรี ด่านตรวจหาเชื้อไวรัส covid-๑๙ ใจดี โบกผ่านโดยไม่ตรวจสักแห่งเดียว เพราะว่าตรวจรถคันอื่นก็ลำบากพอแล้ว" |
"ตรงไปยังโรงพยาบาลราชบุรี ซึ่ง ดร. พระครูโรจน์ (พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร.) กับพระครูโก้ (พระครูสังฆรักษ์พัสวัชร์ ฐิตสีโล) มาเตรียมการไว้ให้แล้ว จึงเข้าสู่ที่จอดแบบสะดวกโยธิน
งานนี้ ดร.พระครูโรจน์ ตั้งใจหาทุนและเครื่องมือแพทย์ในการช่วย รักษาผู้ป่วยด้วยไวรัส covid-๑๙ ให้กับทางโรงพยาบาลราชบุรี ที่ท่านเคยมารักษาตัวแล้วประทับใจในบริการมาก อาตมาร่วมบุญมาด้วย ๒๐,๐๐๐ บาท พอเห็นยอดประดักประเดิดที่บรรดาคณะศิษย์ช่วยกันทำไว้ จึงควักร่วมไปอีกหมื่นกว่าบาท จนยอดมาลงตัวที่ ๑๗๐,๐๐๐ บาท ทำการมอบให้กับนายแพทย์พิเชียร วุฒิสถิรภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้ยินมาว่าแอบมีงอกเพิ่มมาทีหลังอีก ๔,๐๐๐ บาท" |
"จากนั้นอาตมาแวะไปเยี่ยมคุณยายสมใจ อารมณ์ดี แม่ของท่านอาจารย์วิชชุ อารมณ์ดี ประธานชมรมรวมใจภักดิ์ ที่นำพาลูกคณะไปช่วยงานวัดท่าขนุนอยู่เสมอ หมดธุระก็วิ่งยาวกลับทองผาภูมิ ไปถึงได้เวลาทำวัตรเย็นพอดี ไม่มีด่านตรวจด่านไหนสนใจรถคันนี้แม้แต่ด่านเดียวจริง ๆ กราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ"
|
ถาม : ปกติจะนอนภาวนาจนหลับ ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกเบาสบาย แต่จะมีบางวันที่รู้สึกตัวขึ้นมาระหว่างนอน เพราะจิตไปจำเรื่องที่อยากจะลืมในอดีต หรือเรื่องน่าอายที่เคยทำไว้ชัดเจนมาก รู้สึกแย่คิดว่าไม่อยากเป็นตัวเรา เกลียดตัวเอง ไม่อยากอยู่แล้ว อยากตาย อยากหลุดไปให้พ้นจากความเป็นตัวเรา ก็จับภาพพระและภาวนา เป็นแบบนี้ตัดไปตัดมาระหว่างภาพในอดีตที่อยากจะลืมกับภาพพระที่พยายามยึดไว้ มันตัดไปมาเร็วมาก ในตาที่หลับเหมือนมีฟ้าแลบตลอดเวลา รู้สึกเครียดและปวดหัวจะตื่นก็ไม่ตื่น จะนอนต่อก็นอนไม่หลับ อาการนี้เกิดจากอะไร ? แล้วต้องแก้ไขอย่างไรคะ ?
บางวันนอนภาวนาแล้วตัวจะร้อนวูบวาบเหมือนเป็นไข้ เป็นเพราะอะไรคะ แต่บางวันจะเพลียมาก ตื่นมาไม่มีแรงเลยค่ะ เกิดจากความเจ็บป่วยของร่างกาย หรือเป็นผลจากการภาวนาคะ ? ตอบ : เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ประการแรกคือหลุดไปจากอารมณ์ปัจจุบัน ประการที่สอง กิเลสมารมาแกล้ง วิธีแก้ไขก็คือ ทันทีที่รู้ตัว ให้รีบกลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออก การที่ภาวนาแล้วตัวร้อนเหมือนเป็นไข้ เกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน คือ ๑. ภาวนาแล้วลมหายใจเริ่มละเอียด ทำให้การเผาผลาญในร่างกายดีขึ้น ๒. ขันธมารมาดึงให้เราสนใจเรื่องของร่างกาย จะได้ลืมการภาวนา ส่วนการภาวนาแล้วเพลีย หมดแรง ก็เพราะส่งใจไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งหลายมากจนเกินไป พยายามอยู่กับลมหายใจเข้าออกให้มากที่สุด ก็จะผ่านพ้นไปได้เอง |
ถาม : เวลาโกรธแค้น ใจหนูจะอยากดูภาพศพที่มีเลือดสีแดงสด เวลารู้สึกรักคิดถึงใคร ใจหนูจะอยากฟังเพลงหรืออ่านนิยายที่ต้องพลัดพรากกัน พอเศร้าถึงที่สุดความคิดถึงจะคลายลง เวลาหนูมีกามราคะกับคนก็จะมีภาพพระสีทองขึ้นมาให้หนูเห็น เวลาหนูรู้สึกเศร้า ใจหนูจะชอบดูภาพในลำไส้ที่กลวง เมื่อใจคลายความรู้สึกแล้วสมองก็ทื่อไปต่อไม่ได้ค่ะ หนูลองใช้อสุภะแก้ราคะไม่ได้ผล อสุภะหนูต้องใช้คลายโทสะ หนูต้องแก้ไขตรงไหนคะ ?
ตอบ : รู้ว่าอะไรแก้ได้ก็ใช้แบบนั้น ที่สำคัญต้องไม่ลืมลมหายใจเข้าออก หลุดจากลมหายใจไปเมื่อไร สารพัดอารมณ์จะเกิดกับเราทันที |
ถาม : เวลาโกรธหนูชอบทำลายสิ่งของ แต่ในขณะนั้นสมองหนูจะคิดว่านี่เรากำลังโกรธอยู่นะ พอมาดูใจ ใจก็บอกว่าไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดที่ร่างกายเป็นสักหน่อย สมองหนูก็กลับมาคิดว่าถ้าร่างกายไม่มีความรู้สึก ทำไมพอโกรธมากระทบแล้วต้องเอาคืนด้วย แล้วสมองหนูก็คิดว่าสมองก็ไม่ได้สั่งให้ทำ ร่างกายทำเอง หนูจะเป็นบ้าแล้วค่ะ เหมือนสมองกับใจหาสาเหตุกันอยู่ว่าโกรธเกิดจากอะไร แต่ร่างกายไปเร็วกว่า เลยทำได้แค่ยืนดูร่างกาย หนูเข้าใจว่าไม่มีสติมาควบคุมร่างกาย ในขณะนั้นหนูเห็นตัวโกรธแต่ไม่รู้วิธีออกจากโกรธ หนูพยายามภาวนาหนูรู้สึกว่ายิ่งโกรธแรงขึ้นค่ะ อาการแยกส่วนแบบนี้จะเกิดเฉพาะเวลาที่โกรธ หนูควรจะแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : เป็นอาการของสติ สมาธิ ปัญญา ไม่สมดุลกัน ให้แก้ด้วยการจับลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว ให้สังเกตว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นทุกครั้ง เพราะว่าเราหลุดไปจากลมหายใจตรงหน้า |
ถาม : หนูเคยไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลมแต่ไม่ผ่าน ยกจิตขึ้นไปแค่ใต้พระจุฬามณีเจดีย์สถานแล้วหล่นหลายรอบมาก เพราะรู้สึกว่าร่างกายสกปรก หลังจากวันนั้นหนูนอนภาวนาแล้วฝันว่าขึ้นไปบนพระนิพพาน พอรู้สึกตัวก็รีบออกมาเพราะร่างกายสกปรก หนูไม่เข้าใจว่าร่างกายสกปรกแล้วทำไมจิตไม่ปล่อย จิตจับร่างกายไว้ทำไม หนูต้องแก้ไขตรงไหนคะ ?
ตอบ : เมื่อภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวแล้ว ให้หมั่นพิจารณาวิปัสสนาญาณบ่อย ๆ โดยเฉพาะให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา ถ้าเห็นชัดเจนและใจเรายอมรับ ต่อไปจะไปไหนก็ไปได้โดยง่าย |
ถาม : ช่วงเวลาที่นอนหลับจะมีอาการขยับตัวไม่ได้ ง่วงมากตาจะปิด ทั้ง ๆ ที่นอนหลับตาอยู่ หูอื้อ รู้สึกตัวเป็นกรวยจะถูกดูด หนูพยายามฝืนไม่ปล่อยตัวให้หลับ ฝืนขยับร่างกายเพราะกลัวมาก จิตใต้สำนึกจะสวดว่า "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ" ขึ้นมาเอง แล้วคิดว่าพึ่งอะไรไม่ได้แล้วนอกจากพระรัตนตรัย เคยสวด "พุทโธ" แต่จิตตอนนั้นบอกว่าไม่พอค่ะ สักพักร่างกายจะค่อย ๆ คลายจนขยับได้ หนูอยากทราบว่าอาการแบบนี้เป็นเพราะเส้นของร่างกายหรือผีอำคะ ?
ตอบ : เป็นอาการที่จิตเริ่มเป็นฌาน ทำให้จิตกับประสาทร่างกายเริ่มแยกจากกัน จึงควบคุมร่างกายได้ยากหรือไม่ได้เลย ส่วนอาการที่จะถูกดูด คืออาการของจิตที่เริ่มมีกำลังของสมาธิ ก็จะออกไปนอกกายแบบมโนมยิทธิ ถ้าตัดร่างกายได้ก็จะออกไปได้เลย |
ถาม : หลานอายุจะ ๓ ขวบ ตอนกลางคืนจะผวาตื่นมาแผดเสียงร้องไห้ ฟาดมือฟาดขาตีไปทั่ว บางคืนร้องไห้ถึง ๒ ชั่วโมง หนูจะสวดมนต์กรวดน้ำให้เจ้าที่ เทวดา พรหม เจ้าเกณฑ์ชะตา และแม่ซื้อที่ดูแลกายสังขารของหลานทุกวัน ให้ช่วยดูแลหลานให้เลี้ยงง่ายอย่าร้องงอแง ในขณะที่หลานร้องไห้หนูก็แผ่บุญให้อีก แต่ทำไมหลานถึงยังร้องไห้คะ หนูเคยคิดว่าขอแค่นี้เอง ทำไมช่วยไม่ได้ จนตอนหลังหนูก็คิดว่าเป็นกรรมของทุกคน ของข้างบ้านด้วย หนูก็ปล่อยวางปล่อยให้หลานร้องต่อไป หนูอยากทราบว่าอาการของหลานเกิดจากอะไร และที่หนูขอให้แม่ซื้อช่วยท่านช่วยได้ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าช่วยได้ก็ไม่เป็นแล้วสิวะ..! ให้ไปหาผ้ายันต์หรือรูปเหรียญท้าวเวสสุวรรณมาให้หลานติดตัวไว้ ก่อนนอนเราก็อาราธนาขอบารมีท่านให้ช่วยสงเคราะห์ ขับไล่สิ่งไม่ดีอย่าให้มารบกวนหลานได้อีก |
ถาม : เมื่อภาวนาจับลมหายใจพร้อมกับระลึกถึงภาพพระไปสักครู่หนึ่ง ลมหายใจจะเบามาก เบาจนสติตามรู้ไม่ได้ว่าลมกระทบตรงฐานไหน คำภาวนาเริ่มหายไป และภาพพระก็ไม่ปรากฏเหมือนกัน ลูกพยายามดูว่า ทำไมกำหนดอะไรไม่ได้เลย ทั้งที่มีสติคอยดูอยู่ ลมหายใจก็หาย ภาพพระก็หาย คำภาวนาก็หาย อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรครับ มีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : ลมหายใจเบาลง ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง ลมหายใจหายไป ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป ภาพพระหายไป ให้กำหนดรู้ว่าภาพพระหายไป อย่าคิดอยากเป็นอย่างนั้น และอย่าดิ้นรนให้พ้นจากอาการแบบนั้น มีหน้าที่กำหนดรู้อย่างเดียว |
ถาม : สมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตที่มีบารมีหลวงพ่อกวยสงเคราะห์ กับสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหลที่มียันต์เกราะเพชร มีข้อห้ามที่ว่า ห้ามด่าแม่ กับห้ามละเมิดศีลข้อ ๒ และ ๕ ตามลำดับหรือไม่ครับ ? หากละเมิดข้อห้ามต้องอาราธนาด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ๓ จบอีกครั้งหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่มีข้อห้ามแบบนั้น ถ้าไม่สบายใจก็อาราธนาใหม่อีกครั้ง |
ถาม : ผมศึกษาพระพุทธศาสนา และทราบว่าพระพุทธเจ้าท่านได้กล่าวถึงการพัฒนาการของทารกที่อยู่ในครรภ์ แบบมีรายละเอียดมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีเครื่องมือแพทย์แบบในปัจจุบัน คำถามคือ พระพุทธเจ้าท่านได้กล่าวอะไรเกี่ยวกับสมองหรือไม่ครับ ? เพราะเท่าที่ผมศึกษาไม่เคยอ่านเจอว่าพระพุทธเจ้ากล่าวเกี่ยวกับสมองเลย
ตอบ : ไม่เจอก็แปลว่าไม่มี |
ถาม : ผมอ่านเจอว่าถ้าบวชเป็นพระ เวลาทำบุญ ทำบาป จะได้ผลของกรรมเหล่านั้นมากกว่าฆราวาสมาก ถ้าเป็นอย่างงั้น ผมเข้าใจถูกไหมเพศพระสามารถสร้างฌานสมาบัติ สร้างอภิญญา ได้ง่ายและเร็วกว่า เพศของฆราวาส ?
ตอบ : สำคัญตรงที่ว่าคุณทำจริงไหม ? ถ้าดีแต่คิดแล้วไม่ลงมือทำแบบคุณ จะเพศพระหรือเพศฆราวาสก็แย่พอกัน..! |
ถาม : ถ้าเรารู้สึกว่าการมีชีวิตมันน่ารำคาญ และไม่อยากมีชีวิตต่อไป อาจจะเป็นเพราะต้องเรียนหนังสือ ทำงานหนัก หรือแก่และเจ็บป่วยบ่อย ๆ อยากถามว่าจัดเป็นวิปัสสนาหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นวิปัสสนาญาณที่อ่อนมาก หลงผิดทางได้ง่ายที่สุด |
ถาม : ในฐานะที่พระอาจารย์พบเจอพระอรหันต์เป็นจำนวนมาก ผมสงสัยว่าพระอรหันต์หรือพระอริยเจ้า ท่านมีความสงสัยในเรื่องอจินไตยหรือไม่ครับ เช่น โลกนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อะไรคือที่สุดของจักรวาลเป็นต้น ?
ตอบ : ให้ไปถามท่านแล้วจะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด |
ถาม : การให้ทานจะทำให้เกิดมาชาติหน้าจะรวย ผมสงสัยว่าเกิดมาจะรวยเลย เช่น เป็นลูกคนรวย หรือจะเกิดมารวยตอนโตครับ เช่น ตอนเด็กยากจน ตอนโตรวย
ตอบ : ขึ้นอยู่กับคุณว่าทำมาแบบไหน มากน้อยเท่าไร วางกำลังใจถูกหรือไม่ ? |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:32 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.