กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=136)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9601)

พิชวัฒน์ 13-07-2023 18:10

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖



เถรี 14-07-2023 00:25

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ช่วงที่กระผม/อาตมภาพกำลังบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่นี้ ยังมีการโหวตเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของประเทศไทยกันอยู่ รออีกสักครู่ใหญ่ก็น่าจะได้ทราบผลกันแล้ว

แต่สิ่งที่อยากจะบอกกล่าวกับพวกเราในวันนี้นั้น ไม่ใช่เรื่องของการเลือกนายกรัฐมนตรี หากแต่เป็นการที่ท่านทั้งหลายต้องมีสติ และยึดหลักเกณฑ์ หลักการ ข้อกฎหมายต่าง ๆ เป็นหลัก ไม่เช่นนั้นแล้วทุกคนก็จะหลงประเด็น ออกทะเลไปตาม ๆ กัน..!

อย่างเช่นว่า ถ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติศีลว่า "พระภิกษุห้ามเก็บภัตตาหารเอาไว้ในที่อยู่ของตน" แล้วมีภิกษุผู้หนึ่งเก็บภัตตาหารนั้นเอาไว้ เมื่อมีผู้ทราบ แล้วไปแจ้งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระภิกษุรูปนั้นก็โดนลงโทษ เนื่องจากละเมิดในข้อห้าม ก็คือละเมิดศีล ต้องอาบัติ

หลังจากนั้นมา ก็มีภิกษุอีกรูปหนึ่งเก็บภัตตาหารเอาไว้ในกุฏิ เมื่อมีผู้บอกว่าถ้าทำอย่างนี้แล้วผิด ก็ยังดื้อด้านไม่ฟังเสียง โดยบอกว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว เราจักทำอย่างนี้ แต่เมื่อเรื่องไปถึงคณะกรรมการสงฆ์ คณะกรรมการสงฆ์ตัดสินว่าท่านผิด แล้วท่านก็จะไปอ้างว่าเสียงส่วนใหญ่ภายในวัดนี้เลือกท่านมา ท่านย่อมไม่ผิด ถ้าอย่างนี้ก็แปลว่าหลงประเด็น ออกทะเลหาฝั่งไม่เจอ..!

เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่จะต้องใช้สติ ใช้ปัญญา ยึดหลักเกณฑ์ของสังคม ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเราทั้งหลายก็จะกลายเป็นหลงประเด็นยังไม่พอ อาจจะมีการปะทะกันทางความคิด ทำให้เกิดความแตกสามัคคี แล้วถ้าไปเจอแรงยุจากภายนอกขึ้นมา อาจจะมีการแบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย แล้วเราก็มารบราฆ่าฟันกันเอง โดยที่ลืมกันไปว่า สิ่งที่เรากระทำนั้น ประโยชน์จะตกอยู่กับใคร..?!

ขอให้สังเกตว่า ทุกครั้งที่มีการรบราฆ่าฟันกันขึ้นมา บรรดาแกนนำต่าง ๆ ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยตายกับใครเลย ยกเว้นอย่างเดียว ก็คือมีเงินมีทองอู้ฟู่ขึ้นมาทุกครั้ง แล้วเราทั้งหลายก็ยังจะหน้ามืดตามัว เชื่อบรรดาแกนนำทั้งหลายเหล่านั้นอีกหรือ ? นี่เป็นข้อที่ขอฝากเอาไว้ให้กับเราท่านได้ฉุกใจคิด ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นถูกต้องตามกฎเกณฑ์เหมือนกันหรือไม่ ? ไม่ใช่ไปอ้างสิทธิ โดยที่ไม่ได้ดูว่าสิทธิของเรานั้นเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือว่ากฎเกณฑ์ของสังคมหรือเปล่า ?

เถรี 14-07-2023 00:28

เรื่องต่อไปที่อยากจะบอกกล่าวก็คือ วันก่อนนี้กระผม/อาตมภาพกำลังกราบหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ครูบาอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐานของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีลูกศิษย์เป็นพระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงเลื่องลือหลายรูปด้วยกัน เพื่อที่จะเรียนถามความกระจ่างในเรื่องของตะกรุดโลกธาตุ

นอกจากคาถาที่ใช้จาร คาถาที่ใช้ปลุกแล้ว หลวงปู่ท่านยังเมตตาบอกว่า คำว่าโลกธาตุนั้น มาจาก "สังขารโลก" โลกคือร่างกายของเรานี้อย่างหนึ่ง "โอกาสโลก" โลกคือดวงดาวที่ประกอบไปด้วยหมู่สัตว์อย่างหนึ่ง "สังสารโลก" หรือ "สัตวโลก" โลกคือหมู่สัตว์ที่กำลังเป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นภพใดภูมิใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา

ถ้าหากว่าสามารถที่จะมองเห็นชัดว่า สังขารโลกของเรานี้ต้องอาศัยโอกาสโลก โอกาสโลกนี้เป็นไปตามสังสารโลก หรือว่าสังสารวัฏ เราก็จะเข้าใจว่า สรรพสิ่งทั้งหลายนั้น ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้ ถ้าสามารถเข้าถึงความเป็นจริงตรงนี้ ก็จะสามารถใช้ความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ของตะกรุดโลกธาตุได้อย่างแท้จริง เนื่องเพราะว่าตัวเราจักกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโลกนี้ และกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสังสารวัฏ กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับวัตถุมงคล..!

วัตถุมงคลคือตัวตนของเรา ตัวตนของเราคือวัตถุมงคล วัตถุมงคลคือพระรัตนตรัย คุณพระรัตนตรัยคือตัวตนของเรา ตัวตนของเราคือความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา กำลังแห่งปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงระดับนี้ ไม่ว่าจะเป็นแรงโน้มถ่วง แรงดึงดูดขนาดไหน ก็ไม่สามารถที่จะรั้งเราอยู่ได้ มีหนทางเดียวคือจะหลุดพ้นไปสู่พระนิพพาน กำลังมหาศาลระดับนี้ คือกำลังของวัตถุมงคล คือกำลังของตะกรุดโลกธาตุ..!

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่กราบนำเอาสิ่งที่หลวงปู่ท่านบอกกล่าวพวกเรามา ให้ท่านทั้งหลายได้พินิจพิจารณาดู ว่าเมื่อท่านรับตะกรุดโลกธาตุไปแล้ว สามารถที่จะเข้าถึงกำลังสูงสุดของตะกรุดนี้ ตามที่หลวงปู่ท่านได้บอกกล่าวเอาไว้หรือไม่..?

เถรี 14-07-2023 00:32

ในระหว่างนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ก็เมตตาโผล่มา บอกว่าด้านหลังของพระเสริมปัญญา ให้ใส่ยันต์บัวบานของท่านลงไปด้วย ยันต์บัวบานนี้ประกอบไปด้วยกลีบต่าง ๆ ซึ่งจะมีพระคาถากำกับในแต่ละกลีบ ด้านบนของยันต์บัวบานยังเป็นอุณาโลมกำลังเปล่งรัศมี แสดงออกซึ่งดวงปัญญาขององค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

กระผม/อาตมภาพกราบเท้าขอบพระคุณครูบาอาจารย์ที่ท่านไม่เคยทอดทิ้ง เนื่องเพราะว่าได้ออกแบบด้านหน้าของพระเสริมปัญญาไป แต่ไม่สามารถที่จะหายันต์ด้านหลังให้ได้ เมื่อมาเห็นยันต์บัวบานประกอบด้วยอุณาโลมเปล่งรัศมี จึงได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่า เรื่องของปัญญานั้น ถ้าปรากฏขึ้น ก็เหมือนกับแสงสว่างที่สาดลงมาต้องดอกบัว ซึ่งพร้อมอยู่เสมอที่จะบาน อยู่ในลักษณะของดวงปัญญาที่จะปรากฏขึ้น เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อย่างแท้จริง ก็นับว่าเป็นหลักธรรมอันลึกซึ้งอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งแฝงอยู่ในวัตถุมงคล เกรงอยู่อย่างเดียวว่า เราท่านทั้งหลายจะเข้าไม่ถึงเท่านั้น..!

สำหรับวันนี้ ความจริงกระผม/อาตมภาพก็มีภารกิจหลายอย่างด้วยกัน แต่ว่าการประชุมสรุปงานเทศกาลผลไม้ของดีอำเภอทองผาภูมิ และลานบ้านลานวัฒนธรรมครั้งที่ ๑๔ ปี ๒๕๖๖ นั้น กระผม/อาตมภาพมอบหมายให้กับรองฯ พนอ (นางพนอ จันทจิตร) รองประธานวัฒนธรรมสภาอำเภอทองผาภูมิ เข้าร่วมประชุมแทน

ส่วนการประชุมคณะกรรรมการสถานศึกษา โรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น กระผม/อาตมภาพมอบหมายให้กับเลขาฯ พัฒน์ (พระพัฒน์ ฐิตาจาโร) เลขานุการเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ได้ทำการประชุมแทน ซึ่งทางโรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น ต้องบอกว่าถูกรางวัลใหญ่สองปีติดกัน ก็คือปีที่แล้วได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทาน ในระดับโรงเรียนมัธยมขนาดกลาง มาปีนี้ก็รับรางวัลนักเรียนพระราชทานอีกปีหนึ่ง

ถ้าหากว่าอยู่ในลักษณะนี้ บรรดารุ่นน้องต่าง ๆ ก็จะมีแนวทางที่ชัดเจนว่า คณะกรรมการทั้งหมดนั้นอยากจะเห็นอะไรบ้างจากตัวนักเรียน ซึ่งต้องไม่ใช่แค่ความสามารถพิเศษอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ต้องประกอบไปด้วยหลาย ๆ อย่างด้วยกัน แต่ว่ารุ่นพี่ที่ผ่านมา เมื่อสามารถที่จะทำคะแนนได้ดี จนกระทั่งรับรางวัลนักเรียนพระราชทาน อันเป็นเกีรยติยศสูงสุดในชีวิตของนักเรียน ก็ย่อมที่จะสามารถถ่ายทอดแนวทางให้กับรุ่นน้องต่อ ๆ ไปได้ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าอวยพร

เถรี 14-07-2023 00:35

ส่วนพรุ่งนี้กระผม/อาตมภาพความจริงก็มีงานทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย แต่ว่าช่วงเช้านั้นจะเดินทางไปร่วมงานประชุมสัมมนาพระปริยัตินิเทศก์ทั่วประเทศ ที่หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล ส่วนช่วงบ่ายซึ่งเป็นการประชุมเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น ๔๗ แห่งของจังหวัดกาญจนบุรีนั้น กระผม/อาตมภาพได้มอบหมายให้กับสมุห์บอส (พระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม) เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิเข้าร่วมประชุมแทน

เนื่องเพราะว่าตนเองต้องเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา ต้องใช้เวลาช่วงบ่ายในการเตรียมตัว แล้วหลังจากนั้นพี่นวล (คุณนวลจันทร์ เพียรธรรม) ผู้ก่อตั้งบริษัทเอ็นซีทัวร์ ก็จะมารับจากที่พักวัดอุทยาน ไปส่งยังสนามบินนานาชาติดอนเมือง และต้องเดินทางกันเกือบทั้งคืน เพื่อไปยังประเทศศรีลังกา

กระผม/อาตมภาพได้เตรียมเหรียญสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ พิมพ์ใหญ่ เนื้อทองคำ เลี่ยมทองประดับเพชร พร้อมกับสร้อยคอทองคำ ๒ บาท ที่คณะของทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) ถวายมา รวมราคาทั้งสองชิ้นแล้วก็ตกสามแสนกว่าบาท เพื่อที่จะนำไปถวายบูชาพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วที่เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา

บุญกุศลตรงนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายได้อนุโมทนา ประโยชน์ความสุขใดที่กระผม/อาตมภาพจะพึงได้รับ ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้รับเช่นเดียวกันทุกประการด้วยเทอญ

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:03


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว