กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ภาพอื่น ๆ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=16)
-   -   ภาพความประทับใจ (เรารักพ่อหลวง) (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1546)

ชยาคมน์ 12-12-2011 08:01

4 Attachment(s)
พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่คุกเข่าคุยกับประชาชนมากที่สุดในโลกครับ

ชยาคมน์ 12-12-2011 08:13

2 Attachment(s)
ในหลวงใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา แต่ที่แตกต่าง คือ "พระองค์ประหยัดกว่าเรามาก"

เถรี 12-12-2011 08:30

5 Attachment(s)

เถรี 13-12-2011 11:12

5 Attachment(s)

ป้านุช 20-12-2011 09:32



ทรงครองดวงใจไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินไปทั่วโลกเลย... :d16c4689:

http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...38784776_n.jpg

ป้านุช 20-12-2011 09:39


ป้านุช 20-12-2011 09:42


ป้านุช 20-12-2011 09:48

...เช้า สาย บ่าย ค่ำ ทรงประทับยืนเคียงข้างประชาชนของพระองค์ตลอดมา...

http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...97273751_n.jpg


http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...94878921_n.jpg


http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...56284564_n.jpg

...นี่แหละพระราชาของฉัน...

ป้านุช 21-12-2011 02:12



“ขอเป็นฐานรองบาทราชวงศ์ ด้วยจำนงจงรักและภักดี”

นี่คือข้อความที่เขียนไว้ที่ฐานของรอยพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พ่อหลวงของคนไทย ที่ค่ายเม็งรายมหาราช ซึ่งถือเป็นรอยพระบาทในหลวงหนึ่งเดียวในเมืองไทย

สำหรับที่มาของการก่อกำเนิดรอยพระบาทในหลวงแห่งนี้ คงต้องย้อนไปในอดีต ยุคที่เมืองไทยยังคงมีความขัดแย้งทางแนวคิดทางการเมืองอย่างชัดเจน

ครั้งนั้นบนดอยพญาพิภักดิ์ บนพื้นที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น ใน อ.เทิง จ.เชียงราย นับเป็นพื้นที่สีแดงที่มีการรบพุ่งกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งทางรัฐบาลได้ส่งกองกำลังไปปราบปรามเรื่อยมา ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๐ จนในปีพ.ศ.๒๕๒๔ พ.ท. วิโรจน์ ทองมิตร ผบ.ร. ๑๗ พัน ๓ ได้นำกำลัง(พัน ร. ๔๗๓) เข้าปฏิบัติการในพื้นที่ดอยยาว-ดอยผาหม่น ตามแผนการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ จนเกิดเป็นยุทธการยึดเนิน ๑๑๘๘ บนดอยพญาพิภักดิ์ขึ้น ยังผลให้สามารถปราบปรามคอมมิวนิสต์ในพื้นที่นั้นได้สำเร็จในที่สุด

แต่ว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ต้องสูญเสียเหล่าทหารหาญที่พลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยไปจำนวนมาก โดยอัฐิของทหารส่วนหนึ่งได้ถูกนำมาบรรจุไว้ในอนุสาวรีย์ผู้เสียสละที่ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารหาญ ในวันที่ ๒๗ ก.พ. ๒๕๒๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จไปเยี่ยมเยียนเหล่าทหารหาญและราษฎร ณ ฐานปฏิบัติการดอยพญาพิภักดิ์ บนดอยยาว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาพระราชทานประทับ “รอยพระบาท” ของพระองค์ลงบนแผ่นปูนปลาสเตอร์ที่ทางทหารได้เตรียมไว้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารหาญที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ

ในปัจจุบันนี้รอยพระบาทบนปูนปลาสเตอร์นั้นได้ถูกนำมาเก็บไว้ที่ศาลา รอยพระบาท ณ ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย โดยเดิมทีนั้นรอยพระบาทของในหลวงนั้นจะเป็นที่รู้กันในหมู่ทหารค่ายเม็งรายฯ แต่เมื่อทหารเปลี่ยนนโยบายจาก “เขตทหารห้ามเข้า” มาเป็น “เขตทหารยินดีต้อนรับ” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวและรู้จักวิถีชีวิตในรั้วสีเขียว

เรื่องราวของ“รอยพระบาทในหลวงที่ถือได้ว่ามีหนึ่งเดียวในเมืองไทย ก็มีคนเดินทางไปชมและสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมี “รอยพระบาทในหลวง” ให้สักการะแล้ว ในเขตค่ายฯ เม็งรายและบริเวณใกล้เคียง ก็ยังมีจุดต่าง ๆ ให้เลือกเที่ยวชมและทำกิจกรรมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดพระธาตุดอยทอง ที่มีพระธาตุดอยทอง สีทองเหลืองอร่าม สำหรับพระธาตุองค์นี้ต้องขึ้นดอยเล็ก ๆ ไป โดยบนนั้นนอกจากพระธาตุดอยทองแล้ว ยังมีเสาสะดือเมืองที่แปลกกว่าที่ไหน ๆ คือมีถึง ๑๐๘ ต้น และยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นบางส่วนของเชียงรายได้อย่างสวยงาม

เถรี 22-03-2012 21:11

http://a7.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...76545695_n.jpg

ภาพหายากอีกภาพหนึ่งค่ะ

นางมารร้าย 30-03-2012 15:43

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1333096751

รูปนี้ดูแล้ว อารมณ์ดีสุด ๆ เลยค่ะ

ชยาคมน์ 02-04-2012 19:33

http://a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphot...11990009_n.jpg

ภาพประทับใจครับ

ป้านุช 30-04-2012 23:01

อีกหลาย ๆ ความประทับใจ ที่ดูแล้ว :baa60776::d33561e9:











ป้านุช 22-05-2012 09:11

อีกเรื่องราวดี ๆ ที่ควรเปิดเผย จากท่านองคมนตรี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...96922539_n.jpg

เล่าเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ที่รับทราบจากคณะแพทย์ที่เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด
นั่งฟังใจจดจ่อ น้ำตื้นรื้นตื้นตันใจเหลือเกิน

ในหลวงของเรากำลังทรงหายจาก"พระอาการประชวรแล้ว"

ตอนนี้สามารถเดินได้เองถึง ๕๐ ก้าวโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง
มีคณะแพทย์คอยระวังดูแลอย่างใกล้ชิด
พระองค์ท่านห้ามใครช่วยพยุงด้วย

ทราบข่าวจากบุคคลที่ใกล้ชิดพระองค์ว่าหายแล้วแน่ ๆ
เพราะทรงดุคนได้แล้ว พระสุรเสียงดังฟังชัด
อีกไม่นาน อีกไม่นานแล้วในหลวงของเราจะเสด็จออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงมีพระพลานามัยสดใสแข็งแรง
เสด็จไปไหนต่อไหนได้ดังใจปรารถนา
เหนือผืนแผ่นดินใต้ผืนแผ่นฟ้า ทุกแห่งในหล้า
ที่พ่ออยากยาตราไป...

ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรด
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ พระพุทธเจ้าข้า


(ข้อความส่งต่อจาก fb)

ป้านุช 25-05-2012 17:12


ป้านุช 25-05-2012 17:35

พระสหายแห่งสายบุรี

https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net...76139264_n.jpg


"...ให้วาเด็งทำตัวให้สบาย
มีอะไรที่ชาวบ้านเดือดร้อน ก็ให้เล่ามาตามความจริง..."

"...วาเด็งเป็นคนซื่อตรง
จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง..."


ประวัติ:วาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ "เป๊าะเด็ง"
หรือที่รู้จักกันในนาม "พระสหายสายบุรี"

ย้อนไปเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๕ เมื่อในหลวงได้เสด็จไปดูโครงการพัฒนาพรุแฆ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงทำให้เป๊าะเด็งและพสกนิกรในพื้นที่แถบนั้นทุกคน ได้พ้นจากความทุกข์ยากในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม

นอกจากการทูลเกล้าฯ ถวายข้อมูลในพื้นที่แล้ว เป๊าะเด็งได้ถวายที่ดินผืนหนึ่ง เพื่อให้ในหลวงได้ทำโครงการพระราชดำริ จึงทำให้เป๊าะเด็งได้กลายมาเป็น "พระสหาย" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตที่น้อยคนจะได้รับ

เรื่องเกิดขึ้นในวันที่เป๊าะอยู่บ้าน ทำสวนอยู่กับภรรยา มีคุณหญิงคนหนึ่งมาบอกว่า

"ในหลวงภูมิพล"ต้องการพบตัว แต่ภรรยาของเป๊าะเด็งไม่กล้าไปพบ จนกระทั่งเป๊าะเลี้ยงโคกลับมา ก็มีตำรวจมาตามเป็นครั้งที่สอง เป๊าะตกใจมากว่าตำรวจมาตามเรื่องอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด

จนกระทั่งสื่อสารกันเข้าใจว่าในหลวงต้องการมาสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร เป๊าะถึงกล้าไปพบ

แต่ตอนนั้นเป๊าะยังไม่ค่อยเชื่อว่าพระองค์จะเข้ามาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ จึงคิดว่าคนที่มาบอกโกหก ขนาดมาพบพระองค์แล้วเป๊าะก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นในหลวงจริงหรือเปล่าจึงแอบหยิบเงินใบละ ๑๐๐ บาทและใบละ ๒๐ บาทขึ้นมาดู

จึงแน่ใจว่าเป็นพระองค์เสด็จฯ มาจริง ๆ ตอนแรกที่พบในหลวงเป๊าะไม่กล้าเข้าไปใกล้ ๆ เพราะตอนนั้นนุ่งโสร่งตัวเดียว เสื้อก็ไม่ได้ใส่ด้วย แต่พอเข้าไปใกล้ ๆ ในหลวงก็ตรัสเป็นภาษามลายูว่า "จะสร้างคลองชลประทานให้"

หลังจากนั้นในหลวงก็ทรงสอบถามเส้นทางการขุดคลอง และข้อมูลในพื้นที่อื่น ๆ พระองค์ยังตรัสชมว่า
"วาเด็งเป็นคนรู้พื้นที่จริง"

วันรุ่งขึ้น ข้าราชการที่มารับเสด็จก็ต้องตกตะลึงไปตาม ๆ กัน เมื่อพระองค์ทรงรับสั่งให้เป๊าะพายเรือให้พระองค์เพื่อทำการสำรวจคลองสายทุ่งเค็จ โดยพระองค์มีพระราชดำรัสถาม พร้อมเปิดแผนที่เพื่อให้รู้ว่าจะสร้างแหล่งชลประทานอย่างไร ตอนพายเรืออยู่ ในหลวงทรงตรัสว่า "ให้วาเด็งทำตัวให้สบายมีอะไรที่ชาวบ้านเดือดร้อนก็ให้เล่ามาตามความจริง"
จากนั้นในหลวงทรงลองใจเป๊าะ จึงตรัสถามขอที่ดินเพื่อทำโครงการพระราชดำริ ด้วยความปลาบปลื้มเป๊าะจึงขอยกที่ดินถวายให้พระองค์ทันที ในหลวงจึงแย้มพระสรวล และมีพระราชดำรัสว่าให้เป๊าะเป็น "พระสหาย" ตั้งแต่บัดนั้น

ในหลวงทรงตรัสเรื่องนี้ว่า "วาเด็งเป็นคนซื่อตรง จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง"พร้อมทรงชวนให้เป๊าะและภรรยาเดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ และเมื่อพระองค์เสด็จฯ มาสามจังหวัดก็เรียกให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ทุกครั้ง

ต่อมาในหลวงทรงสงสารจึงมอบเงินให้เป๊าะครั้งละหลายหมื่นบาท หากไม่ได้เสด็จฯ มาก็ทรงฝากเงินมากับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แทบทุกครั้ง
โดยล่าสุด ในหลวงทรงตรัสว่าให้วาเด็งหยุดทำงานได้แล้ว เพราะแก่แล้วอายุมากแล้ว

ทรงเป็นห่วงสุขภาพวาเด็ง กลัวว่าทำงานหนักจะไม่สบาย เป๊าะก็นั่งทบทวนคำตรัสของพระองค์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มด้วยความภาคภูมิกับคำว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"

นอกจากละหมาดขอพระผู้เป็นเจ้าเป๊าะยังเดินทางจาก จังหวัดนราธิวาส มาเยี่ยมพระอาการประชวรของในหลวงถึงโรงพยาบาลศิริราชด้วย

เป๊าะเด็งถือเป็น "แบบอย่างของคนที่ซื่อสัตย์ เจียมเนื้อเจียมตัวและใช้จ่ายอย่างประหยัด" เพราะต้องการทำตัวให้เป็นแบบอย่างตามพระราชดำรัสของในหลวง ที่รู้จักกินรู้จักใช้ตามวิถีทางชุมชนชนบทกับเศรษฐกิจพอเพียงของชาวบ้านจนถึงทุกวันนี้

และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ดีใจและปลาบปลื้มใจมากที่สุด คือ พระสหายแห่งสายบุรีได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งในฐานะ "พระสหายแห่งสายบุรี" และ "ตัวแทนพี่น้องมุสลิม"ในสามจังหวัดชายแดนใต้ทุก ๆ คน

ป้านุช 25-05-2012 19:00


ป้านุช 27-05-2012 02:27


เถรี 29-05-2012 19:10


ป้านุช 31-05-2012 08:25



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:59


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว