กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=43)
-   -   พยายามเห็นธรรมดาในธรรมดาให้มาก ๆ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1890)

ลัก...ยิ้ม 03-06-2010 10:53

พยายามเห็นธรรมดาในธรรมดาให้มาก ๆ
 
พยายามเห็นธรรมดาในธรรมดาให้มาก ๆ
และเรื่องดีภายนอกกับดีภายใน




เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖ มิ.ย. ๒๕๓๖ สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตามาตรัสสอนไว้ มีความสำคัญดังนี้

๑. “จงทำจิตให้ยอมรับกฎของกรรมโดยความสงบ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นกฎธรรมดา”

๒. “ปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น จงอย่าใช้อารมณ์แก้ปัญหา จง นิสัมมะ กะระณัง เสยโย ใคร่ครวญด้วยปัญญา เอาปัญญาเข้าแก้ไข”

๓. “ให้หมั่นนึกถึงความตายให้มาก ๆ อย่าลืมทุกลมหายใจเข้า-ออก เจ้าอาจตายได้ ร่างกายมันตาย จิตอย่าเกาะงานให้มากนัก ทำไปเรื่อย ๆ โอนอ่อนผ่อนตามสถานการณ์”

๔. “ยึดหลักเอาจิตปฏิบัติธรรมให้มากที่สุด งานอื่นไม่มีความสำคัญเท่ากับงานทางธรรม ให้ทำงานการซ่อมแซมไป สักแต่ว่าเป็นหน้าที่ จิตระลึกนึกถึงปลายทางเพื่อพระนิพพานไว้เสมอ”

๕. “ปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น ก็ให้พิจารณาลงตัวธรรมดาให้หมด อย่าคิดว่า งานซ่อมแซมสำคัญมากกว่าการเอาจิตปฏิบัติธรรม”

๖. “ร่างกายทำหน้าที่ของกาย จิตทำหน้าที่ของจิต พยายามอย่าให้จิตบกพร่องก็แล้วกัน งานซ่อมแซมก็ทำไป เพราะเป็นหลักที่เจ้าจักอยู่วัดได้ ใครจักเห็นความดีหรือไม่เห็นก็ไม่สำคัญ หรือเจ้าคิดจักทำความดีอวดใครเขา” (ตอบว่า ไม่ค่ะ)

๗. “ดีภายนอกก็ควรทำ ดีภายในก็ยิ่งต้องทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จุดหมายปลายทางที่เจ้าต้องการจักจบกิจ ก็จงหมั่นคิดถึง จุดหมายปลายทางนั้นให้ขึ้นใจ” (ทรงหมายถึง ทำทุกอย่างก็เพื่อพระนิพพานจุดเดียว)

ลัก...ยิ้ม 04-06-2010 08:24

๘. “พิจารณาอารมณ์ของจิตตนเองไว้เสมอว่า เวลานี้ไปสู่ทิศทางใด ออกนอกลู่นอกทางพระนิพพานหรือไม่ อย่าดูอารมณ์ของผู้อื่น ดูอารมณ์ของเจ้าเอาไว้ให้ดี ๆ”

๙. “พยายามเห็นธรรมดาในธรรมดาให้มาก ๆ ทุกคนที่ยังตัดสังโยชน์ ๑๐ ไม่ได้ครบ ก็ต้องมีอารมณ์แสดงออกมาเป็นธรรมดา ปกติมันเป็นอย่างนั้น เจ้าจักยึดถืออารมณ์นั้นเพื่อประโยชน์อันใด”

๑๐. “หลงอารมณ์ เกาะยึดอารมณ์ทำให้จิตเศร้าหมอง นั่นแหละคือจิตหลง เดินทางผิดมรรคผลนิพพาน”

๑๑. “คิดให้ดี ๆ อย่าวู่วาม จักเสียผลทั้งทางโลกและทางธรรม” (อย่าใจร้อน ให้ใจเย็น ๆ)

๑๒. “ตั้งใจดีแล้ว ก็ต้องตั้งวาจาและกายให้ดี มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย”

๑๓. “ทัศนะส่วนตัวจักเป็นอย่างไร พยายามอย่าแสดงออกให้มากนัก จงหมั่นเก็บเอาไว้ในใจ อย่าให้รั่วไหลออกมาทางกายและวาจา จักเป็นผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องกิจกรรมของวัด ของสงฆ์ แม้จักไม่เห็นด้วย ก็จงอย่าแสดงทัศนะส่วนตัวออกมา”

ลัก...ยิ้ม 04-06-2010 11:33

๑๔. “ขอให้แต่นี้ไป เจ้าจงหมั่นสงบปาก สงบกายให้มาก ๆ จักเป็นภัยอันตรายย้อนเข้าหาตัว”

๑๕. “เจ้าแย่อย่างนี้มานานแล้ว นับอสงไขยกัป กลับใจเสียใหม่ ถ้าแก้นิสัยอย่างนี้ไม่ได้ เห็นจักเอาดีได้ยาก” (ก็รับว่า จะพยายาม)

๑๖. “หมั่นระลึกถึงการสำรวมอายตนะให้มาก ๆ และหมั่นใช้ปัญญา พิจารณาปัญหาที่เข้ามากระทบทั้งปวงด้วย รู้ธรรมที่เข้ามากระทบ ทุกสิ่งในโลกนี้มันมีแต่ธรรมดา จงทำจิตให้ยอมรับกฎของธรรมดานั้น”

๑๗. “แล้วอย่าทำจิตให้เศร้าหมอง หมั่นกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ควบกับมรณานุสติเอาไว้เสมอ”

๑๘. “เห็นทุกข์ เห็นอนิจจัง เห็นอนัตตา ในธรรมที่เข้ามากระทบเสมอ ๆ และยอมรับตามนั้น”

๑๙. “จิตทรงฌาน รักพระนิพพานเป็นอารมณ์เอาไว้ให้ชิน จิตก็จักมีความสุข คิดมานิดหนึ่ง ระลึกมาหน่อยหนึ่ง เพื่อพระนิพพานจุดเดียว แค่นั้นจิตก็จักเบาสบายใจขึ้น”

๒๐. “เวลานี้ปฏิฆะเริ่มเด่นขึ้นมาอีกแล้ว เจ้าก็อย่าทิ้งภาพพระเป็นอันขาด ระงับราคะแล้ว ก็ต้องระงับโทสะไปในตัว อย่าโง่เกินไป จับโน่นทิ้งนี่ ผลก็เกิดได้ยาก และขอให้คิดดี ๆ ก่อนพูดด้วย”

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๕
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:21


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว