ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ (ช่วงค่ำ)
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ (ช่วงค่ำ) |
ก่อนทำวัตรเย็น วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ โดยปกติแล้ว ๑ วัดจัดการสอบธรรมศึกษา ๑ โรงเรียน แต่วัดท่าขนุนวัดเดียวรับไป ๕ โรงเรียน..! มีโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา โรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ โรงเรียนเทศบาลทองผาภูมิ โรงเรียนบ้านเสาหงษ์ และโรงเรียนวัชรวิชญ์ ตอนนี้พยายามให้โรงเรียนบ้านเสาหงษ์เปิดสนามสอบของตัวเองเพราะว่าอยู่นอกเขตไปไกล ไม่เหมือนโรงเรียนวัชรวิชญ์ที่อยู่หน้าวัด โรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิอยู่หลังวัด โรงเรียนเทศบาลทองผาภูมิก็ติดอยู่กับโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ ลึกเข้าไปอีกไม่ถึง ๑๐๐ เมตรก็โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ส่วนหมู่บ้านเสาหงษ์ต้องวิ่งลึกเข้าไป ๘ - ๙ กิโลเมตร แม้ว่าจะอยู่ในตำบลท่าขนุนเช่นกันแต่ว่าบ้านเสาหงษ์เป็นหมู่บ้านที่ประหลาดมาก ก็คือมีหมู่บ้านเสาหงษ์กับหมู่บ้านองธิที่รวมกันเป็นหมู่ที่ ๒ แต่อยู่กันคนละทิศเลย บ้านเสาหงษ์อยู่ทางใต้วัดท่าขนุนนี้ บ้านองธิอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือไปโน่น ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนที่เขาจัดเป็นหมู่บ้านเขานึกอย่างไร เอาสองที่มารวมกันเพื่อให้จำนวนประชากรเพียงพอหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ? แต่ว่าที่แน่ ๆ ก็คืออยู่คนละทิศกันเลย ห่างกันเกือบ ๒๐ กิโลเมตร แต่เป็นหมู่บ้านเดียวกัน บางทีราชการเราก็มีอะไรแปลก ๆ เหมือนกัน อาตมาเลยพยายามให้โรงเรียนบ้านเสาหงษ์เขาตั้งสนามสอบของตัวเอง อาศัยเครดิตวัดท่าขนุนนี่แหละเดี๋ยวก็ตั้งได้เอง อาตมาออกไปเปิดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดสนามสอบแล้วก็ต้องอยู่เพื่อปิดการประชุมด้วย เวรกรรมจริง ๆ เลย เปิดเสร็จแต่ไม่สามารถที่จะกลับได้ เนื่องเพราะว่าตัวเจ้าคณะอำเภอฯ ท่านพรรษาก็น้อยกว่า อายุก็น้อยกว่า ท่านก็เลยพิงมาทางวัดท่าขนุนเสียเต็มที่ ถึงเวลาก็เลยต้องเป็นทั้งประธานเปิดและเป็นประธานปิด ไม่ใช่เปิดแล้วก็หนีกลับได้ |
ที่บ่นให้ฟังก็เพื่อให้พวกเรารู้สึกว่า ที่ว่างานเยอะของพวกเรา หรือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากมายนั้น เป็นแค่ "เรื่องสิว ๆ" ของวัยรุ่นเท่านั้น..! มีบางคนมาบ่นว่า "ต้องดูแลพ่อที่ป่วย" "ต้องดูแลแม่ที่ป่วย" อาตมาบอกไปว่า "เอ็งดูแลอย่างไรก็ไม่เท่ากับข้าหรอก..!"
อาตมาดูแลพ่ออยู่ ๖ ปี ดูแลแม่ ๓ ปี ดูแลหลวงปู่มหาอำพันอีก ๔ ปี ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลไป ๑๓ ปี..! มีใครจะดูแลมากกว่านี้ไหม..? เท่ากับว่าไปฝึกวิชาพยาบาลมายาวนานมาก ทุกวันนี้นอกจากการฉีดยาที่ไม่ได้ลองแล้ว นอกนั้นทำเป็นหมด ไปเจอพยาบาลมือใหม่เงอะ ๆ งะ ๆ ก็ยังให้คำแนะนำเขาได้อีกต่างหาก ความจริงการฉีดยาก็ได้รับการฝึกมา แต่เพียงแต่ว่าเป็นการฉีดยาฉุกเฉินแบบทหาร อย่างเช่นว่าเวลาบาดเจ็บในสนามรบ จำเป็นต้องฉีดให้เพื่อนอะไรแบบนั้น แต่ว่ายังไม่ได้ลองของจริง มีใครจะให้ลองบ้างไหม ? อาตมามั่นใจว่ามือเบานะ แต่เข็มอาจจะหนัก..! ทหารเวลาออกรบเขาจะมีมอร์ฟีนติดตัวไปคนละ ๒ โดส เพราะว่าถ้าบาดเจ็บสาหัส อย่างเช่นแขนขาด ขาขาด ถ้าไม่ได้ฉีดมอร์ฟีนระงับปวดไว้ อาจจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายไปเลย..! แต่เขาก็กำชับนักกำชับหนาว่าอย่าพยายามฉีดเข็มที่ ๒ ถ้ายังทนได้ให้ทนไปก่อน ฉีดเข็มที่ ๒ เมื่อไรก็คือติดเลย กลายเป็นติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นอีกด้วย..! จะว่าไปแล้วการเป็นทหารมีอะไรดี ๆ ให้เราเยอะมาก แต่อาตมาก็แปลกใจว่าทำไมคนไม่ชอบเป็นกัน อาตมาสมัครเข้าไปเลย พอถึงเวลาสมัครเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ออกมาบอกแม่ว่า "เสร็จแล้วแม่ ผมจับได้ใบแดงแม่..!" แม่มองหัวถึงเท้าเลย "ทุกปีเขาจับใบแดงกันตอนบ่าย เอ็งจะมาจับอะไรตอนเช้า ไปสมัครมาใช่ไหม ?" ก็ต้องตอบไปว่า "ใช่ครับ" อะไรที่พ่อแม่ไม่ให้ทำ พวกเราต้องพยายามทำแล้วจะรุ่ง..! ที่บ้านเป็นคนจีน ไม่ชอบให้ลูกชายไปเป็นทหาร เพราะว่าเท่ากับเสียแรงงานในบ้านไป แม่ก็จะวิ่งไปบนที่โน่น บนที่นี่ หลวงพ่อองค์ไหนที่เขาเก่ง แม่วิ่งไปบนจนหมด..! |
สิ่งที่แม่พยายามหาแต่ไม่มีใครสละให้เลย คือ พิรอดแขน ๙ ปม หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว รับประกันว่าใครใส่พิรอดแขนหลวงปู่บุญไป ล้วงไหได้แต่ใบดำล้วน ๆ ไม่มีทางได้ใบแดงเลย..!
เป็นพิรอดแขน ๙ ปม ก็คือ นวหรคุณ คุณของพระพุทธเจ้า ๙ ประการ ตั้งแต่ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธฯ อะระหัง คือผู้หมดกิเลสแล้ว สัมมาสัมพุทโธ ตรัสรู้เองโดยชอบ วิชชาจะระณะสัมปันโน ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติที่ดีทั้งปวง สุคะโต ไปดีแล้ว ไปที่ไหนก็เอาความดีความงามไปให้ โลกะวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก ทั้งโลกคือหมู่สัตว์ ทั้งโลกคือสังขารร่างกายนี้ และทั้งโลกก็คือจักรวาล อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ เป็นครูหรือเป็นผู้ฝึกที่ไม่มีใครยิ่งไปกว่า สัตถา เทวะมะนุสสานัง เป็นครูของทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย พุทโธ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในธรรม ภะคะวา เป็นผู้จำแนกแจกธรรม รวมแล้ว ๙ ประการ เขาเลยเรียกว่านวหรคุณ คุณทั้ง ๙ ประการของพระพุทธเจ้า |
โบราณาจารย์เขาเอาเคล็ดลับมาสร้างเป็นเครื่องรางของขลังเยอะแยะ ถ้าหากว่าย่อเป็นพระคาถาก็ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ
อะ คือ อะระหัง สัง คือ สัมมาสัมพุทโธ แต่คราวนี้อักขระขอมหรือบาลีจะขึ้นด้วยอัง ในเมื่อขึ้นด้วยอังก็เลยกลายเป็นสังแทน ไม่ใช่สัมที่ใช้ ม. ม้า สะกด วิ คือ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุ คือ สุคะโต โล คือ โลกะวิทู ปุ คือ ปุริสะทัมมะสาระถิ สะ คือ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุ คือ พุทโธ ภะ คือ ภะคะวา ภาวนาอย่างเดียวก็ได้ แต่ทำเองแล้วไม่ขลัง ไม่เหมือนที่ครูบาอาจารย์ท่านทำให้ แม่ก็เลยอยากได้พิรอดแขน ๙ ปม หลวงปู่บุญ เอาไปให้ลูกชายใส่ จะได้ล้วงไปดำใบแดงแล้วรอด พิรอดคือรอดอย่างวิเศษ ความจริงสมัยโน้นอาตมภาพไม่มี ตอนนั้นยังไม่รู้จักของ สมัยหลังพอมาเล่นวัตถุมงคล อาตมภาพหามาได้หลายวง ตอนช่วงนั้นยังไม่มีอะไร จึงไปจุดธูปบอกกล่าวหลวงปู่หลวงพ่อ "แม่บอกใครไว้ให้ท่านก็อยู่เฉย ๆ นะครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง..!" ก็แม่ไปบนเสียหลายที่ อาตมาต้องไปจุดธูปบอกซ้ำ "ให้อยู่เฉย ๆ นะครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง..!" เพราะฉะนั้น..เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเราเอาดี ก็จะดีได้ในทุกเรื่อง ก็ไม่มีอะไรนี่นา เขาบอกว่าชีวิตลูกผู้ชายถ้าไม่ได้เป็นทหารก็ต้องไปบวช จะได้รู้ว่าความยากลำบากเป็นอย่างไร อาตมภาพเล่นเอาทั้งสองอย่างเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ต้องรู้ให้ครบ..! |
วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๖ นี้ เวลา ๐๘.๐๐ น. อาตมาต้องไปนำเจริญพระกรรมฐานที่พุทธมณฑล สตางค์ก็เอาของเรา ตอนที่ให้ไปเทศน์ไปสอนก็ยังต้องไปอีก ถ้าใครไปพุทธมณฑลช่วงสัปดาห์วิสาขบูชาที่ผ่านมา เขามีเทศน์กันทุกวัน ก็จะเห็นป้ายที่เขานิมนต์พระเถระมาเทศน์ จะมีคำว่า โดยอุปถัมภ์ของพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
"ขอเวลาลงทะเบียนปฏิบัติธรรมผ่านมือถือสักครู่" เห็นก้มหน้าก้มตาอยู่นี่งานทั้งนั้นนะ คนก็ถ่ายรูปไป แล้วก็มีคนเข้ามาคอมเม้นต์ "อุ๊ย..หลวงพ่อเล่นโทรศัพท์..!" อืม..กูอยากเล่นเหมือนกันแหละ แต่ไม่มีเวลาเล่นนะสิ..! อันนี้ลงทะเบียนปฏิบัติธรรมของ มจร. เทศน์ก็ต้องเทศน์เอง เข้าปฏิบัติก็ต้องเข้าเอง สนับสนุนงบประมาณก็ต้องให้ ประมาณว่า "ชงเองกินเอง..!" ถ้าเรามีบัญชีธนาคารแต่ไม่มี แอพฯ ในการโอนเงินออนไลน์ มิจฉาชีพจะดูดเงินเราได้ไหม ? ขอยืนยันว่าได้นะ วันก่อนดูคลิปที่เขาส่งมาให้แล้วใจหาย ขอแค่เขารู้เลขบัญชีเท่านั้น เพราะเขาเขียนโปรแกรมที่สามารถที่จะข้ามโค้ดและรหัสที่จำเป็นต้องใส่ได้ แล้วก็เข้าไปเอาเงินในบัญชีออกมา ตอนแรกคนเขียนโปรแกรมนี้ตั้งใจทำให้บ่อนการพนัน เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของทางราชการ ว่าจะฟอกเงินจะอะไรหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าของดีแบบนี้จะปล่อยให้ใช้แค่นั้นได้อย่างไร ก็เลยมีคนเอามาใช้ดูดสตางค์คนอื่นต่อ..! วันนี้ก็มีโทรเข้ามา "คุณได้กู้เงินของกองทุนนี้หรือเปล่า ?" ว่าแล้วก็บอกชื่อมายาวยืด ตอบไปว่า "อ๋อ..ไม่เคย" แล้วก็ตัดสายไปเลย อีกรายหนึ่งบอกว่า "จากธนาคารกสิกรไทย ท่านมีบัญชีค้างชำระบัตรเครดิต" บอกกลับไปว่า "พอ..มึงวางหูไปเถอะ กูไม่เคยมีบัญชีธนาคารกสิกรไทยเลย..!" |
ส่วนที่น่าเตะที่สุดคือโทรมา "หลวงพ่อครับ จำผมได้ไหมครับ ? เคยมาถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ"
ถามไปว่า "แล้วโยมมีอะไรจ๊ะ ?" เขาก็บอกว่า "ตอนนี้ผมเดือดร้อนมากเลยครับ พ่อกำลังเข้าผ่าตัดอยู่เงินไม่พอ รบกวนหลวงพ่อโอนเงินให้ผมสัก ๑,๐๐๐ - ๒,๐๐๐ บาทได้ไหมครับ ? เดี๋ยวผมจะไปขอเพิ่มจากคนอื่นเขาอีก" ก็เลยบอกไปว่า "แล้วจะโอนอย่างไรจ๊ะโยม ?" เขาก็ตอบว่า "ก็โอนออนไลน์อย่าไรละครับ" ก็ถามไปว่า "นี่โยมเคยมาทำบุญกับฉันแน่นะ..!" เขาก็บอกว่า "เคยสิครับ..ผมถวายหลวงพ่อไปสองพันบาท" จึงบอกเขาไปว่า "ถ้าหากว่าโยมเคยมาทำบุญกับอาตมา ต้องรู้สิว่าวัดอยู่กลางป่า ออกไปไหนไม่ได้เลย แล้วตูจะไปโอนที่ไหน ? แค่เดินทางออกไปตลาดเป็นวันแล้ว..!" เขาไปต่อไม่เป็น จึงวางหูไปเลย วัดเราอยู่กลางป่า กว่าจะไปถึงธนาคารก็เป็นวันแล้ว กูจะโอนให้มึงอย่างไรวะ..?! เรื่องพวกนี้สำคัญอยู่ว่า ถ้าเรากลัวอย่างหนึ่ง กับถ้าเราโลภอย่างหนึ่ง จะโดนจนได้ อาตมาเคยถูกล็อตโต้มาสองรอบแล้วนะ รอบแรก ๓๐๐ ล้านเหรียญ รอบที่สอง ๒๐๐ ล้านเหรียญ รวยตายห่าเลย..! ป่านนี้ยังไม่ได้ไปเบิก แล้วมีการเตือนมาด้วยนะ หลังจากที่ทิ้งไว้ ๕ - ๖ เดือน มาเตือนซ้ำว่าท่านยังไม่ได้เบิกเงิน "เออ..ปล่อยแม่..ไว้นั่นแหละ กูอยากได้เมื่อไรแล้วจะไปเบิก..!" อาตมาไม่เคยซื้อหวยอะไรเลย แล้วจะไปถูกล็อตโต้ได้อย่างไร..!? |
เพราะฉะนั้น..โปรดอย่าโลภ เพราะถ้าเราโลภเขาจะบอกว่า "จะต้องเสียค่าดำเนินการเท่านั้น" "จะต้องหักภาษีเท่านี้" บอกไปว่า "เอาอย่างนี้..หักค่าดำเนินการจากยอดเงินนั่นแหละ ภาษีก็หักจากนั่นแหละ แล้วที่เหลือส่งมา" เขาก็อ้างว่า "ไม่ได้..ผิดขั้นตอน ผิดระเบียบปฏิบัติ" ถ้าอย่างนั้นก็ "เออ..ถ้าไม่ได้..กูก็ไม่เอา..!" จึงอยู่ที่ว่าเราโลภหรือเปล่า ?
อีกอย่างหนึ่งก็ "คุณชื่อนั้น ชื่อนี้ อยู่บ้านเลขที่นี้ใช่ไหม ? มีคนบอกว่าบัญชีของคุณเกี่ยวพันกับยาเสพติดและการฟอกเงิน" ถ้าหากว่าไม่กดเพื่อให้เขาปรับปรุงบัญชีใหม่ เขาจะปิดบัญชีเราภายในกี่นาที กดเมื่อไรก็เงินหายเมื่อนั้นแหละ..! อีกรายหนึ่งก็บอกว่า "มีพัสดุส่งมาที่ไปรษณีย์ สแกนดูแล้วน่าจะเป็นยาเสพติด" ก็เลยถามไปว่า "เขาส่งถึงใคร ?" ทางนั้นก็บอกว่า "ก็ส่งถึงคุณ" ก็ถามต่อไปว่า "แล้วคุณที่ส่งถึงชื่ออะไร ? บอกไม่ถูกใช่ไหม ? บอกไม่ถูกแล้วมึงสแกนพัสดุกู มึงทำไมไม่อ่านชื่อกูก่อน ?" อยู่กับพวกนี้แล้วดีนะ ทำให้เราเห็นว่า จริง ๆ แล้วถ้าคนเรากิเลสน้อย โอกาสโดนหลอกจะยากมาก ก็แบบเดียวกับแก๊งค์ตกทองที่หากินได้จนถึงทุกวันนี้ พอถึงเวลา "เอ้า..เจอทอง..!" หล่นอยู่ใกล้ ๆ เรานี่แหละ คนที่เห็นต้องมีส่วนด้วย แต่คราวนี้เขาจะรีบไป "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ทองสามบาทนี้ยกให้คุณไปเลย ของคุณมีอะไรที่พอจะให้เราได้บ้าง ?" ไม่เงินสดบ้างก็ทองบ้างควักให้เขาไป เสร็จแล้วก็ได้ทองสามบาทปลอมมา แล้วพวกนี้ก็ยังหากินได้จนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้มีมาตั้งแต่อาตมภาพยังประเภทแก้ผ้าวิ่งอยู่เลย..! บ่นมาพอแล้ว ทำวัตรเย็นกันก่อน พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ ๒๕๖๖ ณ วัดท่าขนุน ก่อนทำวัตรเย็น วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล) |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:18 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.