กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=51)
-   -   การวางกำลังใจขณะอุทิศบุญและสวดพระคาถาเงินล้าน (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7082)

สุพรรณหงส์ 11-06-2020 23:11

การวางกำลังใจขณะอุทิศบุญและสวดพระคาถาเงินล้าน
 
กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อเล็กดังนี้

๑. ขณะเวลาอุทิศส่วนกุศลและสวดคาถาเงินล้านได้กำหนดใจและภาพบารมีพระพุทธเจ้าปางพระวิสุทธิเทพให้แผ่กว้างออกไป ๆ นั้นมีความรู้สึกอิ่มใจ ปีติ จิตมีความสว่างขึ้น ๆ แผ่ซ่านไปทั้งร่างอย่างมีความสุข และหลังจากนั้นจะเกิดอาการอมยิ้มอารมณ์ดีได้ตลอดวัน จนอยากจะทำความดีขึ้นเรื่อย ๆ
กราบเรียนถามว่า วางอารมณ์แบบนี้ถูกไหม ? จะต้องพัฒนาต่ออย่างไร ? กราบเมตตาชี้แนะและอธิบายเพิ่มเติม ?

๒. เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วได้เข้าปฏิบัติธรรมครั้งแรกที่วัดแห่งหนึ่ง ก็มีหนังสือโลกทิพย์ ถูกใจคำสอนพระสงฆ์รูปหนึ่ง เท่าที่จำได้ท่านได้อธิบายเวลาฝึกสมาธิให้ภาวนา "ว่าง" ในขณะที่ได้เวลาฝึกนั่งสมาธิ ก็ฝึกแบบโง่ ๆ ไม่รู้แนวทางใดใด แต่อารมณ์ตอนนั้นมีความสุข เหมือนได้หลุดพ้นจากทางโลก เกิดปีติสามารถยิ้มได้ตลอดเวลา อารมณ์ใจสบายมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จากนั้นก็มองภาพพระประธานในนั้นและหลับตานั่งสมาธิ สักพักก็เกิดนิมิตเห็นภาพพระพุทธเจ้าสว่างจ้าจนแสบตา(ใน)ขึ้น ภาพขยายใหญ่ขึ้น ๆ แล้วค่อย ๆ เข้ามาหาตรงหน้าเราจนเกิดอาการกลัวแต่ใจก็มีปีติไปด้วย พร้อมกับเกิดอาการร้องไห้ไม่หยุดไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้จนสไบเปียกปอนเหมือนอาบน้ำเลยทีเดียว ตั้งแต่วันนั้นก็ไปเล่าให้คนนั้นคนนี้ฟังเพราะเกิดอัศจรรย์ใจและอยากอวด จนถึงบัดนี้ ก็ไม่สามารถเห็นอีกเลย อาการแบบนี้คือ ? ควรจะทำอย่างไรต่อให้พัฒนาและก้าวหน้าในการปฏิบัติมากขึ้น ?

๓. พอกลับจากปฏิบัติธรรมนี้แล้ว ก็หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิ ก็เกิดอยากซื้อหนังสือมาอ่านเกี่ยวกับสมาธิให้ก้าวหน้า มาเจอหนังสือเล่มหนึ่งเป็นฆราวาส อ่านแล้วมีความรู้สึกถูกใจ เก่งจังเลย ก็ฝึกตามเขา ๆ ให้ภาวนา เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ ให้ภาวนาสลับหน้าไปหลัง หลังไปหน้า ฝึกไปสักระยะก็เกิดอาการจิตหลุดออกจากร่าง (ในขณะนั้นทางมืดมองไม่เห็นอะไรเลยกลัวและรีบลืมตา แล้วไม่ฝึกสมาธิไปสักระยะใหญ่ ๆ เลยทีเดียวเพราะเกิดอาการกลัว) ต้องฝึกต่ออย่างไรต่อไปถึงจะพัฒนาและก้าวหน้าขึ้น ?

สุธรรม 19-06-2020 02:31

ถาม : เวลาอุทิศส่วนกุศลและสวดคาถาเงินล้าน ได้กำหนดใจและภาพบารมีพระพุทธเจ้าปางพระวิสุทธิเทพ ให้แผ่กว้างออกไป ๆ นั้น มีความรู้สึกอิ่มใจ ปีติ จิตมีความสว่างขึ้น ๆ แผ่ซ่านไปทั้งร่างอย่างมีความสุข และหลังจากนั้นจะเกิดอาการอมยิ้มอารมณ์ดีได้ตลอดวัน จนอยากจะทำความดีขึ้นเรื่อย ๆ
กราบเรียนถามว่า วางอารมณ์แบบนี้ถูกไหม ? จะต้องพัฒนาต่ออย่างไร ? กราบเมตตาชี้แนะและอธิบายเพิ่มเติม ?

ตอบ : ถูกในตอนนี้ ถ้าจะพัฒนาต่อให้มากกว่านี้ ต้องหมั่นพิจารณาวิปัสสนาญาณเพิ่มเติม โดยเฉพาะเห็นความไม่เที่ยงของอารมณ์นี้ ว่ามาได้ ไปได้ เป็นธรรมดา จนกระทั่ง ไม่ดีใจเมื่อได้มา ไม่เสียใจเมื่อหายไป

ถาม : เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วได้เข้าปฏิบัติธรรมครั้งแรกที่วัดแห่งหนึ่ง ก็มีหนังสือโลกทิพย์ ถูกใจคำสอนพระสงฆ์รูปหนึ่ง เท่าที่จำได้ท่านได้อธิบายเวลาฝึกสมาธิให้ภาวนา "ว่าง" ในขณะที่ได้เวลาฝึกนั่งสมาธิ ก็ฝึกแบบโง่ ๆ ไม่รู้แนวทางใด ๆ แต่อารมณ์ตอนนั้นมีความสุข เหมือนได้หลุดพ้นจากทางโลก เกิดปีติสามารถยิ้มได้ตลอดเวลา อารมณ์ใจสบายมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จากนั้นก็มองภาพพระประธานในนั้นและหลับตานั่งสมาธิ สักพักก็เกิดนิมิตเห็นภาพพระพุทธเจ้าสว่างจ้าจนแสบตา (ใน) ขึ้น ภาพขยายใหญ่ขึ้น ๆ แล้วค่อย ๆ เข้ามาหาตรงหน้า จนเกิดอาการกลัวแต่ใจก็มีปีติไปด้วย พร้อมกับเกิดอาการร้องไห้ไม่หยุด ไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ จนสไบเปียกปอนเหมือนอาบน้ำเลยทีเดียว ตั้งแต่วันนั้นก็ไปเล่าให้คนนั้นคนนี้ฟังเพราะเกิดอัศจรรย์ใจและอยากอวด จนถึงบัดนี้ ก็ไม่สามารถเห็นอีกเลย อาการแบบนี้คือ ? ควรจะทำอย่างไรต่อให้พัฒนาและก้าวหน้าในการปฏิบัติมากขึ้น ?

ตอบ : เป็นแค่อุปจารสมาธิเท่านั้น ถ้าลดกำลังสมาธิลงมาถึงตรงนี้ก็จะได้เห็นอีก แต่ถ้าไม่มีความชำนาญ รักษาอารมณ์ไม่ได้ กำลังสมาธิระดับนี้พร้อมที่จะพังได้ทุกเวลา..!

ถาม : พอกลับจากปฏิบัติธรรมนี้แล้ว ก็หมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิ เกิดอยากซื้อหนังสือเกี่ยวกับสมาธิมาอ่านให้ก้าวหน้า มาเจอหนังสือเล่มหนึ่งเป็นฆราวาส อ่านแล้วมีความรู้สึกถูกใจ เก่งจังเลย ก็ฝึกตามเขา ๆ ให้ภาวนา เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ ให้ภาวนาสลับหน้าไปหลัง หลังไปหน้า ฝึกไปสักระยะก็เกิดอาการจิตหลุดออกจากร่าง (ในขณะนั้นทางมืดมองไม่เห็นอะไรเลยกลัวและรีบลืมตา แล้วไม่ฝึกสมาธิไปสักระยะใหญ่ ๆ เลยทีเดียวเพราะเกิดอาการกลัว) ต้องฝึกต่ออย่างไรต่อไปถึงจะพัฒนาและก้าวหน้าขึ้น ?

ตอบ : เลิกกลัวแล้วทำเหมือนเดิม อย่าอยากให้เป็นเป็นแบบนั้นอีก เรามีหน้าที่ภาวนาไปอย่างเดียว


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:04


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว