มหาเศรษฐีไปบรมพุทโธ ตอนที่ ๒
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358163369 นัดพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ กลับจากสอนหนังสือพระนิสิตแล้ว อาตมาถึงได้มีเวลาจัดกระเป๋า แค่ไม่ถึง ๕ นาทีก็เรียบร้อย เพราะมีสมบัติแค่ผ้าไตรกับของใช้ส่วนตัว ประมาณบ่ายสองครึ่งแม่ป๋อมก็มาถึง บอกว่ามีรถของบริษัทมาด้วย ถ้าจะให้เขาไปส่งต้องออกกันไม่เกินบ่ายสามครึ่ง... แต่ป้านุชบอกว่าจะไปพร้อมกัน นัดพบที่บ้านวิริยบารมีเวลาสี่โมงเย็น จึงต้องให้รถเขากลับไปก่อน รอจนป้านุชมาถึงอาตมาจึงสรงน้ำ ครองผ้า อ่าน “คนขุดสุสาน” เล่ม ๑ บทสุดท้ายต่อจนจบ จึงออกมาเรียกรถแท็กซี่เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ... พอขึ้นรถป้านุชก็ส่งธนบัตรอินโดนีเซียมาปึกหนึ่ง “หลายคนร่วมกันถวายหลวงพ่อ ๒ ล้านค่ะ..!” “เฮ้ย..อย่าหันมาซีเว้ย..เดี๋ยวก็ชนกันตายห่..!” จะไม่ให้โวยได้อย่างไร ก็พ่อเจ้าประคุณแท็กซี่พอได้ยินว่า ๒ ล้าน เลยหันมาดูเงินแทนที่จะมองถนน..! ขึ้นทางด่วนขั้นที่ ๒ มาสนามบินสุวรรณภูมิ เข้าประตูที่ ๒ มานั่งรอเวลา เพราะรถไม่ติดจึงมาถึงเร็วกว่ากำหนด เดินไปยังที่นั่งของพระ เจอญาติโยมนั่งกันเต็มไปหมด ยังดีที่เขาเห็นพระแล้วยังมีคนลุกให้นั่ง ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ยืนขาแข็งแน่ ๆ... |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358197135 ครอบครัวของน้องเบสท์มาส่งที่สนามบิน รออยู่ครู่เดียวเกรซก็มาถึง บอกว่ารถไม่ติดเช่นกัน เป็นอันว่าวันนี้ฤกษ์ปลอด ทำอะไรก็สะดวกไปหมด พอดีกลาง (จิตรัตน์ ศรีสุโข) โผล่มาจากไหนไม่รู้ ถวายเงินมา ๓๒ ดอลลาร์ ยังดีที่เป็นเงินดอลลาร์ ไม่อย่างนั้นคงจะได้แบกกันอีกเป็นกระสอบ อาตมางัดเอา “เรืองรุ้งบนลายเมฆ” มานั่งอ่านแบบสบายใจ ซื้อมาตั้งเป็นปีแล้วเพิ่งจะมีโอกาสอ่านวันนี้แหละ... ประมาณ ๑ ทุ่มเกรซพาไปตรวจตั๋วที่แท่นของแอร์เอเชีย กำลังรอคิวอยู่คุณจูน (อมรรัตน์ ลาภพิทักษ์พงษ์) ก็พาครอบครัวที่มีน้องเบสท์ (เด็กชายธีรเดช สินไชย) เป็นตัวชูโรงมาถึง เอาธนบัตรอินโดนีเซียมาถวายอีกเจ็ดแสนรูเปียห์ พร้อมกับเสื้อกันฝน อ้าว..ก็เกรซบอกว่าระยะนี้ทางอินโดนีเซียหมดฝนแล้ว ? “เผื่อเอาไว้ก่อนค่ะ” อือม์..ขอบคุณมาก... ได้เที่ยวบินที่ QZ7717 เลขที่นั่ง 4F เครื่องออกเวลา ๒๐.๕๕ น. จากนั้นตรวจสอบน้ำหนักกระเป๋า เขาให้ติดตัวไปไม่เกิน ๗ ก.ก. เสร็จแล้วมานั่งรอที่เดิม ครอบครัวของจูนมาปรึกษาเรื่องการเรียนของน้องเบสท์อีกพักใหญ่ก็ลากลับ พวกเรานั่งจนกระทั่งทุ่มครึ่งจึงเข้าไปรอขึ้นเครื่อง... |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358292054 มายืนรอคณะที่รูปปั้นกวนเกษียรสมุทร เจ้าหน้าที่บอกอาตมายืนให้ตรงช่องขณะที่ประทับตราหนังสือเดินทางให้ เมื่อเสร็จแล้วเดินเลยไปรอคณะจึงเห็นว่า เขามีกล้องอยู่ตรงนั้น ใครมายืนก็เท่ากับถ่ายภาพเอาไว้พอดี เมื่อเปรียบเทียบกับใบหน้าในหนังสือเดินทางแล้ว เขาจึงประทับตราให้... เจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าให้แยกเอาโน้ตบุ๊คออกมาก่อน แล้วจึงส่งเข้าเครื่องตรวจ ส่วนตัวของอาตมาเดินผ่านเครื่องตรวจเข้าไปโดยที่ไม่มีเสียงสักแอะ ทั้งที่พกวัตถุมงคลมาเพียบ เพราะว่าอาราธนาขอผ่านเครื่องแล้ว เคยลืมอยู่ครั้งหนึ่งเครื่องส่งเสียงลั่น เจ้าหน้าที่เขามาค้นตัว ต้องอาราธนาให้เขาหาไม่เจอ ไม่อย่างนั้นถ้าพบ “มีดหมอชาตรี” เข้ามีหวังเป็นเรื่อง..! รับกระเป๋ามาแล้ว เอาโน้ตบุ๊คใส่คืนไป มารออยู่ตรงรูปปั้น “กวนเกษียรสมุทร” แม่ป๋อมกับเกรซทยอยกันมา นั่งรออยู่ตั้งนานกว่าที่ป้านุชจะมาถึง “แทบจะต้องแก้ผ้าแน่ะ..!” เฮ้ย..! “จริง ๆ ค่ะ ขนาดเสื้อตัวนอกยังให้ถอดเลย..” เอาเถอะ..ถ้าเขาจะให้แก้จริง ๆ ป้าก็ยอม ๆ ไปก็แล้วกัน..! |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358340556 จะได้ไปเที่ยวแล้ว จึงเริงร่าหน้าบานกันใหญ่ ทางเข้า D8 ยังไม่เปิด จึงต้องมานั่งรอกันอีกพักใหญ่ ทำให้อาตมาอ่านหนังสือไปได้ตั้งเยอะ พอเขาเปิดแล้วรีบเดินเข้าไป ปรากฏว่าแถวไม่เคลื่อนที่ ชะโงกดูจึงเห็นว่าเจ้าหน้าที่เขาตรวจหนังสือเดินทาง และฉีกบัตรขึ้นเครื่องเอาไว้เลย... แต่คนเดินลงมาทั้งสองทาง แล้วยายหนูเธอเอียงหัวหนีบโทรศัพท์คุยไปด้วย จึงเกิดอาการ “คนติด” เป็นแถวยาว กว่าจะตรวจเสร็จเข้าไปข้างในได้ อาตมาเพิ่งจะเดินไปเข้าห้องน้ำออกมา ก็พอดีเจ้าหน้าที่เขามาเชิญให้ขึ้นเครื่องด้วยภาษาอินโดนีเซีย..! สายการบินต้นทุนต่ำแบบนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมกัน จึงมักจะแน่นจนแทบต้องขี่คอกันไป ยังโชคดีว่าที่นั่งข้างอาตมาว่างพอดี จึงค่อนข้างจะสบายกว่าคนอื่น เกรซเอาหมอนลมมาให้ พอดูพนักงานต้อนรับสาวบนเครื่อง สาธิตการใช้เครื่องช่วยชีวิตเสร็จ อาตมาก็เอนพิงพนัก อ่านหนังสือต่อแบบสบายใจเฉิบ... เครื่องออกตรงเวลา แต่ผู้บังคับเครื่องพูดภาษาอังกฤษเร็วจนฟังแทบไม่ทัน ถ้าไม่ใช่เคยชินกับรูปประโยคที่ไม่ว่าจะขึ้นเครื่องอะไรเขาก็ต้องพูดแบบนี้ อาตมายังเข้าใจว่าเป็นภาษาอินโดนีเซียซะอีก..! พอเครื่องทะยานขึ้นฟ้า อาตมาก็เก็บหนังสือ ภาวนาส่งใจคารวะเจ้าที่เจ้าทางตลอดเส้นการเดินทางคืนนี้ ขอความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางด้วย... |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358380134 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงจาการ์ตา ภาวนาหลับ ๆ ตื่น ๆ มาตลอดทาง เพราะดันมียุงขึ้นเครื่องมาด้วย ไอ้พวกนี้ไม่จ่ายค่าตั๋วยังไม่พอ ยังมาขอเก็บภาษีเพิ่มอีก พอไฟเปิดพรึ่บขึ้นมา พร้อมกับเสียงประกาศให้รัดเข็มขัดนิรภัย และแจ้งว่าเครื่องจะลงสู่สนามบินแล้ว อาตมาก็ดึงสติกลับมาที่ภาพพระตามปกติ มองเห็นแสงไฟแพรวพราวของกรุงจาการ์ตาอยู่ทางด้านล่าง… น้อมจิตถึง “พ่อปู่ขุนอินทร์” ผู้เป็นใหญ่พร้อมกับบริวารทั้งหลาย “ลูกมาถึงแล้วครับพ่อปู่ กุศลบารมีใดที่ลูกสมสร้างมาตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ขอให้พ่อปู่และบริวารจงโมทนา ลูกจะได้รับประโยชน์และความสุขเท่าใด ก็ขอให้พ่อปู่และบริวารทุกคนได้รับด้วยเถิด..และขอให้ทุกท่านนำกำลังจากผลบุญนี้ ไปช่วยยังพระพุทธศาสนาในประเทศนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอีกวาระด้วยเถิด” เสียงสาธุการดังสะท้านสะเทือน เป็นจังหวะเดียวกับเครื่องลงแตะพื้นพอดี ไม่อย่างนั้นคนอาจจะสงสัยว่าแผ่นดินไหวกลางอากาศได้ด้วย..! |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358426323 มารอรับกระเป๋าที่สนามบินซูการ์โนตอนเกือบตีหนึ่ง ผู้บังคับเครื่องขับวนอยู่เป็นนานกว่าจะมาจอดสนิท แสดงว่าสนามบินซูการ์โนแห่งนี้ใหญ่ไม่เบาทีเดียว คว้ากระเป๋ามาขึ้นรถ เขาพามาส่งเข้าอาคารที่ค่อนข้างใหม่ รอการประทับตราหนังสือเดินทาง พอถึงอาตมาก็เป็นเรื่อง..! “พักโรงแรมไหนครับ ?” เฮ้ย..เรื่องแบบนี้ก็ถามด้วยหรือวะ ? ถ้าคนไม่ได้จองโรงแรมไว้จะไม่ให้เข้าประเทศใช่ไหม ? เกรซเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาถาม พอรู้เรื่องก็เขียนลงในใบขอเข้าเมืองว่า Jakarta Hotel อาตมายิ้มแฉ่ง เพราะวันนี้จะไปพักบ้านของเจ๊เผ็ง (Mrs. Fera Shirliene Taufik) พี่สาวสามีของเกรซต่างหาก แต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้..! พอป้านุชได้ยินเข้าก็ยกบัตรผ่านเข้าเมืองของตนเองขึ้นมาดู “ของนุชก็ไม่ได้เขียนที่พักเอาไว้ ไม่เห็นเขาว่าอะไรเลย..” ก็นั่นแหละ..ถ้าเป็นที่เมืองไทยเจ้าหน้าที่คนนั้นคงได้รางวัลจากอาตมาไปแล้ว..! |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358593076 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงจาการ์ตา มาขอเจ้าหน้าที่เข้าห้องน้ำ ต้องเดินผ่านเครื่องตรวจตามเคย แล้วย้อนกลับไปรอพวกเราที่สายพานรับกระเป๋า เกรซขนกระเป๋าใบใหญ่มาเผื่อพวกเราด้วย ถ้าของใครน้ำหนักเกินจะได้ช่วยเฉลี่ยให้ แต่กลายเป็นขนมาหนักเปล่า จึงต้องฝากเข้าท้องเครื่องมาแทน... “หลวงพ่อเคยเดินทางเที่ยวบินกลางคืนแบบนี้ไหมคะ ?” อาตมาไม่ใช่ค้างคาวนี่แม่คุณ นิยมเวลาปกติจ้ะ “หนูคิดว่าคณะติดตามของหลวงพ่อบางคนอาจจะเงินน้อย จึงจองเที่ยวบินประหยัดแบบนี้” พอดีเขามาขอติดตามตอนจองตั๋วแล้วนะซิ..ถึงได้ตัดทิ้งหมดทุกคน.. ประมาณครึ่งชั่วโมงกระเป๋าจึงมาถึง ต้องเดินผ่านเครื่องตรวจอีกรอบ ไม่ว่าเครื่องตรวจของไทยหรือของอินโดนีเซียก็คุณภาพระดับเดียวกัน ไม่เห็นจะร้องสักแอะ ทั้งที่ในกระเป๋าอังสะของอาตมา มีกุญแจพวงเบ้อเริ่ม แถมยังกล้องถ่ายรูปอีกด้วย เอ็งไม่ร้องแปลว่ามารยาทดี นับว่าเป็นเครื่องที่คบได้ทีเดียว..! ออกมานอกอาคาร อากาศค่อนข้างจะร้อนชื้นกว่าบ้านเรา คนขับรถของเจ๊เผ็ง เอารถ Honda Freed มารับ ท่าทางคล่องแคล่วทีเดียว อาตมานั่งข้างหน้า ขนาดนั้นก็ยังดูอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะค่อนข้างมืด เห็นต้นปาล์มเป็นแถวยาว ยังคิดว่าเป็นต้นไม้ปลอมเสียอีก ผ่านด่านของสนามบินที่ต้องจ่ายค่าเข้าตามระเบียบ แล้ววิ่งเข้าไปในกรุงจาการ์ตา... |
1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1358624604 มาถึงบ้านเจ๊เผ็งตอนตีหนึ่งกว่า ๆ เลี้ยวซ้ายมาเข้าด่านเก็บเงิน ราคาตั้ง ๕,๐๐๐ รูเปียห์ ถ้าเป็นเงินไทยก็ไม่มากหรอก แต่ตัวเลขอินโดนีเซียทำให้สะดุ้งอยู่เรื่อย วิ่งมาจนถึงหมู่บ้านจัดสรรขนาดมโหฬาร ชื่อเมดิเตอเรเนียน บูเลอวาร์ด (Mediterranean Boulevard) พลขับเลี้ยวเข้าไปแบบไม่ลังเล ต้นไม้ใบหญ้ามากมายน่าประทับใจ... มาจอดที่บ้านเลขที่ ๑๑ พลขับส่งเสียงเรียก มีหนุ่มผมเกรียนชื่อเคลลี่ (Mr. Kelly Putra Tanoto) มาเปิดประตูให้ เกรซแนะนำว่าเป็นลูกของเจ๊เผ็ง คุณเคลลี่พาเข้าบ้าน พอดีเจ๊เผ็งลงจากชั้นบนมาต้อนรับ แนะนำตัวกันแล้ว เกรซขอให้อาตมาพักห้องที่มีห้องน้ำในตัวซึ่งอยู่ชั้นบน ที่เหลือจึงต้องไปพักรวมกันที่ห้องข้างล่าง... พอแม่ป๋อมเอาน้ำร้อนกับแก้วน้ำมาให้ อาตมาก็ปิดไฟนอน แผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ภาวนาบท “เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิงฯ” จนจบแล้วตัดหลับยาวไปเลย... |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:03 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.