กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   กำลังใจ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=123)

เถรี 06-02-2009 17:21

กำลังใจ
 
ความศรัทธาที่มั่นคงเชื่อมั่นจริง ๆ ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นวัตถุมงคลก็จะมีอานุภาพมาก เราจะสังเกตว่ามีหลายคนที่นำวัตถุมงคลรุ่นเดียวกัน เอาไปใช้แล้วอานุภาพไม่เหมือนกัน

หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ท่านบอกว่า ถ้ากำลังสูงสุด ปืนจะยิงไม่ออก
ถ้ากำลังใจรองลงมายิงออก แต่ไม่ถูก
กำลังใจแย่หน่อย ยิงถูก แต่ไม่เข้า
และที่บอกว่าโดนลูกปืนแต่ไม่เข้านะมันแย่แล้ว ที่เราภูมิใจกันนักหนา ถ้ากำลังใจอย่างนี้ยิงเข้าแล้วไม่ตาย ถือว่าโชคดีที่พระคุ้มครอง

ท้ายสุดถ้ากำลังใจเรายึดวัตถุมงคลจริง ๆ ถึงตายก็ยังไปดี คือไปสุคติ ไปสวรรค์ อุปเท่ห์ต่าง ๆ ในการยึดวัตถุมงคลนั้นหลายต่อหลายแห่ง ทำให้คนยึดติด มันก็ใช่..พูดอีกก็ถูกอีก มันยึดติดจริง ๆ

แต่สมมติว่า ถ้ายังเป็นเด็กที่ยังไม่แข็งแรงคิดจะหัดเดิน ถ้าไม่มีอะไรให้ยึดให้เกาะจะเดินไหม ? กำลังใจคนเราพระพุทธเจ้าแบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ที่ท่านบอก
อุคติตัญญู ฟังหัวข้อธรรมก็บรรลุมรรคผลเลย
วิปจิตัญญู ต้องขยายหัวข้อธรรมนั้นก่อนจึงจะเข้าใจแล้วบรรลุมรรคผลได้
เนยยะ ท่านบอกว่าต้องใช้ความพยายามในการเคี่ยวเข็ญ ต้องมีลูกขยันถึงจะช่วยได้ แล้วก็
ปทปรมะ หลีกไปเสียอย่าไปสอน

ในเมื่อกำลังใจมันมีระดับที่ไม่เท่ากัน เราจะหมายเอาระดับสูงสุดมันไม่ได้ เคยเปรียบเทียบเหมือนกับว่าเราสร้างเจเดีย์ขึ้นมาหลังหนึ่ง มีฉัตรทองคำประดับอยู่ ใคร ๆ ก็ว่าฉัตรนะสวยที่สุด สูงที่สุด เด่นที่สุด ทำไมไม่เอาแต่ฉัตรอย่างเดียว ถ้ามีแต่ฉัตรอย่างเดียวมันจะอยู่ได้ไหม ?? มันก็ต้องเริ่มจากพื้นฐานก่อน ก็แบบเดียวกับว่า ถ้าเรารู้วิชาทางโลก คุณจบปริญญาเอกเป็นด๊อกเตอร์...สูงสุด เอาเด็กสามขวบมา หนูเรียนด๊อกเตอร์เลยลูก ตายไหมเล่า? มันต้องเป็นไปตามลำดับชั้นของมัน

เถรี 06-02-2009 17:28

โบราณท่านเก่ง ท่านจึงมีอุปเท่ห์ก็คือ กุศโลบายวิธีการต่าง ๆ ที่จะให้เรายึดมั่นในพระรัตนตรัยได้ แม้กระทั่งการภาวนาคาถา เท่ากับบังคับให้เราต้องคิดถึงพระ แล้วคนโบราณเขาทำอะไรจริงจังกว่าเรา จะเรียกว่า เขามีดีกว่าเราก็ได้

เจอโยมคนหนึ่งเป็นอดีตโจร ล้างมือแล้ว เลิกปล้นชาวบ้านเขากินแล้วมาประกอบอาชีพสุจริต แกมีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องเหนียว ถามลุงว่า "ทำไมถึงเหนียวนัก ลุงทำอย่างไรบ้าง?"
ลุงก็บอก "ลุงมีแต่คาถา ถึงเวลาก็ภาวนาคาถา"
ถามว่า "ลุงภาวนากี่จบ?"
ลุงบอก "ไม่ได้นับ ว่างเมื่อไหร่ต้องภาวนา"

ยิ่งกว่าพระอีกนะ เขาบอกประมาทไม่ได้ ไม่รู้ตำรวจมันตามทันเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นต้องภาวนาไว้ก่อน เราจะเห็นว่าโจรสมัยก่อนจะหนังเหนียว เป็นปัญหากับตำรวจมาก ๆ เพราะว่าเขามีกำลังใจที่เข้มแข็ง ไปปล้นคนอื่นกิน เจ้าทรัพย์อาจจะต่อสู้แล้วตัวเองอาจถึงแก่ความตาย หรือไม่ตำรวจอาจจะตามจับ ต้องมีการยิงกันบ้าง ต่อสู้กันบ้าง ดังนั้นในเมื่อกำลังใจเขาเข้มแข็ง กล้าที่จะทำมาหากินในอาชีพทุจริตมันก็แปลว่า เขาต้องรักษากำลังใจเพื่อคุ้มครองตัวเอง

เถรี 06-02-2009 17:32

เรามาพิจารณาตรงจุดที่ว่า กำลังใจของคนทำงานชั่วยังมุ่งมั่นขนาดนั้น แล้วเราที่ทำดี มุ่งมั่นสู้เขาไม่ได้ มันน่าขายหน้าไหม? เพราะฉะนั้นหากว่ารู้ตัวเราก็ต้องทุ่มเท

อยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้วพวกเราทุกคน มีสมรรถนะที่จะสร้างเสริมตัวเองให้ได้ฌานสมาบัติ ให้ได้ฤทธิ์อภิญญากันทั้งนั้น ถ้าเราไม่มีสมรรถนะตรงนี้เราไม่หันเข้ามาปฏิบัติภาวนาหรอก ในเมื่อเรามีแล้วทำไมเราจะไม่ทุ่มเทเอาจริงเอาจังสักที โดยเฉพาะศาสนาของเราระยะต่อไป มันจะโดนเบียดเบียนหนักมาก พวกเราที่เป็นฆราวาสควรทรงอภิญญาต่าง ๆ ให้ได้ เพราะไม่มีข้อห้ามเหมือนกับพระ ในเมื่อไม่มีข้อห้ามเหมือนกับพระ เราอาละวาดได้เต็มที่เลย เดี๋ยวพระจะแอบถือหางให้



พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:00


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว