กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5826)

เถรี 02-10-2017 09:12

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๐
 
ถาม : อยากทราบว่าบุคคลที่สักรูปพระพุทธเจ้าที่หลังหรือที่แขน จะถือว่าเป็นการปรามาส หรือเป็นพุทธานุสติอย่างหนึ่งครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับเขาว่าคิดอะไร ถ้าสักเพื่อความสวยงามก็เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย แต่ถ้าสักแล้วคิดเสมอว่าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในชีวิตก็เป็นพุทธานุสติ

ถาม : แล้วบุคคลที่สักรูปพระพุทธเจ้าเพราะเห็นว่าพระพุทธเจ้าท่านมีรูปงาม กับบุคคลที่รูปสักพระพุทธเจ้าเพราะนับถือ อานิสงส์จะต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ ?
ตอบ : คนสักเพราะสวยอาจจะได้อานิสงส์ลงข้างล่าง ส่วนคนที่สักเพราะนับถืออาจจะขึ้นข้างบน "อาจจะ" ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับดวงใจสุดท้ายว่าเขาเกาะอะไร

เถรี 02-10-2017 09:15

ถาม : ผมสงสัยพวกผู้ก่อการร้ายที่ยอมฆ่าตัวเองตายเพื่อสังหารหมู่เพราะความเชื่อหรืออะไรก็ตาม แบบเหตุการณ์ที่ผู้ก่อการร้ายขโมยเครื่องบินแล้วพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดที่อเมริกาหลายปีก่อน ผมสงสัยว่าถ้าบุคคลแม้แต่ความตายก็ยังไม่กลัวเพราะศรัทธากับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาก ๆ โอกาสจะบรรลุธรรมจะสูงมาก ๆ ด้วยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าใช้ศรัทธาขนาดนั้นมาปฏิบัติธรรม โอกาสบรรลุธรรมจะมีสูงมาก แต่บังเอิญว่าเป็นศรัทธาในทางที่ผิด เป็นลักษณะของมิจฉาทิฏฐิ ก็มีแต่จะสร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและบุคคลรอบข้าง

เถรี 02-10-2017 09:20

ถาม : ในวันงานบวงสรวงไหว้ครูและพุทธาภิเษก วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา ขอถามว่าในช่วงการพุทธาภิเษก หลวงพ่อได้อธิษฐานขอบารมีพระด้านใดบ้างครับ ?
ตอบ : นานไป...ลืมไปแล้ว

ถาม : พระกริ่งทรงเครื่องจักรพรรดิ วัดท่าขนุน บารมีพระท่านเมตตาให้มีอานุภาพอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : บอกแล้วว่าลืมไปแล้ว

ถาม : พระกริ่งทรงเครื่องจักรพรรดิ วัดท่าขนุน มีคาถาอะไรใช้กำกับพระกริ่งรุ่นนี้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คราวหน้าจะถามก็ให้รีบ ๆ ถามตอนนั้น ยังพอที่จะจำได้อยู่ มาถามเอาตอนผ่านมาถึงเดือนที่สองที่สามแล้ว ก็อย่าหวังเลยว่าจะจำ..!

เถรี 02-10-2017 09:25

ถาม : กระผมอยากทราบว่า การจดจำภาพดินในการฝึกกสิณดินนั้น ควรที่จะจดจำทุกรายละเอียดของดินที่นำมาเป็นกสิณเลยหรือไม่ครับ หรือจดจำเฉพาะรูปทรงของดินกับสีของดินแค่นั้นครับ ?
ตอบ : เอาแค่ลักษณะรูปทรงก็พอ การไปสนใจรายละเอียดอื่น ๆ จัด เป็นกสิณโทษทั้งนั้น แค่จดจำว่ารูปทรงเป็นอย่างไร วัสดุเป็นอะไร แค่นั้นก็พอแล้ว

เถรี 02-10-2017 09:29

ถาม : กระผมได้เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับกองทัพบก ระหว่างวันที่ ๑๖ ถึง ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ เนื่องจากได้อ่านเก็บตกจากบ้านเติมบุญต้นเดือน กันยายน ๒๕๖๐ เห็นว่าฤกษ์ดีที่สุดเป็นวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ( กระผมเข้าใจว่าเป็นฤกษ์สึก ) ฉะนั้นกระผมจึงขอความเมตตาจากพระอาจารย์ต้องการจะทราบฤกษ์สึกที่ดีที่สุดในเดือนพฤศจิกายน เพื่อที่จะสึก ?
ตอบ : ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

เถรี 02-10-2017 09:30

ถาม : อยากทราบว่าเวลาที่เราไปเช่าบูชาพระพุทธรูปที่เขาทำสำเร็จมาแล้วตามร้านสังฆภัณฑ์ เราควรตั้งกำลังใจไว้อย่างไร เวลาที่เรานำพระพุทธรูปนั้นมาถวายวัดครับ ?
ตอบ : ตั้งใจว่าจะถวายแน่ ๆ ห้ามเปลี่ยนใจเด็ดขาด..!

เถรี 03-10-2017 01:34

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงวันที่ ๓-๔-๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ อาตมาจะเข้ากรรมฐานสามวัน แล้ววันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ จะออกมาเพื่อรับบาตรเทโวและรับกฐิน ส่วนที่อยากจะกล่าวก็คือ ทุกคนอย่าหวังพึ่งอาตมาอย่างเดียว ไม่ใช่รอพระอาจารย์เข้ากรรมฐานแล้วเราจะไปทำบุญ หากแต่ว่าตัวเราควรที่จะภาวนา โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้านให้เป็นปกติ จะได้ช่วยให้สภาพความเป็นอยู่ของเราคล่องตัวขึ้น

ถ้ามัวแต่ไปรอว่าเมื่อไรพระอาจารย์จะเข้ากรรมฐาน การที่คนไปเป็นร้อยเป็นพัน สมมติว่าท่านเข้ากรรมฐานเท่ากับได้เงินหนึ่งล้านบาท ถ้าคนไปหนึ่งคนก็จะได้หนึ่งล้านบาท ถ้าไปสองคนแบ่งกันเหลือคนละห้าแสนบาท ถ้าไปสี่คนเหลือคนละสองแสนห้าหมื่นบาท ถ้าไปร้อยคนก็เหลือคนละหมื่นเดียว ถ้าไปพันคนก็เหลือคนละพันเท่านั้น

ส่วนที่ควรจะทำเสริมก็คือ ต้องภาวนาให้กำลังใจของเราทรงตัวเป็นปกติ อยู่ในลักษณะที่ว่าผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ ถึงเวลาอานิสงส์จะได้มากกว่าคนอื่นเขา แต่ถ้าเจตนาไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ผู้ให้ไม่บริสุทธิ์ ถึงผู้รับบริสุทธิ์ ก็จะโดนตัดไปถึงสามส่วน จึงเป็นเรื่องที่พวกเราพึงสังวรว่า อย่ามัวแต่พึ่งผู้อื่น พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน"

เถรี 03-10-2017 01:36

"ถ้าเราทำพระคาถาเงินล้านจนขึ้นเป็นปกติ ได้ผลเป็นปกติ ก็ไม่ต้องไปรอหลวงปู่หลวงพ่อท่านใดเข้ากรรมฐาน แล้วเราค่อยไปทำบุญเพื่อรับอานิสงส์นั้น ๆ และจะเป็นอานิสงส์ที่ยั่งยืนแก่ตัวเราด้วย

การที่เราพึ่งพาคนอื่นนั้น ก็เป็นที่พึ่งได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น...บุคคลที่ไม่ประมาท ก็จึงต้องทำเองด้วย คนอื่นทำเราก็ขอมีส่วนร่วมบุญด้วย เรียกว่าทำแบบคนมีปัญญา ทำแบบคนฉลาด แต่ถ้าหากว่าทำแบบคนไม่มีปัญญาก็คือ รอว่าเมื่อไรที่ไหนมีการเข้ากรรมฐานสามวัน ห้าวัน เจ็ดวัน แล้วเราค่อยแห่ไปทำบุญที่นั่น

อย่าลืมว่าการไปต้องเดินทางไกล การเดินทางไกลโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็มีได้ การพึ่งพาอาศัยคนอื่นก็ไม่ใช่ที่พึ่งที่ยั่งยืน จึงควรที่จะปรับที่จะเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ ให้ตัวเราเป็นที่พึ่งของเรา ให้ผู้อื่นเป็นส่วนเสริมในความเจริญนั้น ๆ จึงจะเรียกว่าปฏิบัติได้ถูกต้องจริง ๆ"

เถรี 03-10-2017 01:39

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้พระพุทธศาสนาของเราค่อนข้างจะสั่นคลอน เพราะว่าสื่อสังคมต่าง ๆ ทำให้ข่าวไปถึงได้เร็วแล้วก็ง่าย แต่การรับข่าวของพวกเราก็ควรที่จะรับอย่างมีสติ คำว่ามีสติในที่นี้ก็คือ อย่าไปใส่อารมณ์ตามเนื้อข่าว ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ตาม ถ้าเราไปใส่อารมณ์ตามเนื้อข่าวเมื่อไร โอกาสที่เราจะขาดทุนมีสูงมาก

โดยเฉพาะบรรดาท่านทั้งหลายที่ไปลงความเห็นในลักษณะของการตำหนิติเตียนหรือด่าว่าพระสงฆ์ การที่เราตำหนิติเตียนหรือด่าว่าพระสงฆ์ ท่านยิ่งบริสุทธิ์เท่าไร โทษก็ยิ่งหนักเท่านั้น

ถ้าหากว่าจะดูตัวอย่างในพระธรรมบท ซึ่งเศรษฐีไปด่าพระที่ต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระไปแล้ว ปรากฏว่าเศรษฐีต้องไปเกิดเป็นเปรตอยู่ในหลุมขี้ ก็เพราะว่าคนอื่นทำผิดทำชั่วก็จริง แต่พอเราไปด่าว่า เราก็ทำชั่วไปด้วย ก็คือทำชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจนั่นเอง การไปจ้องจับผิดผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอยู่แล้ว การด่าว่าจิตก็ต้องประกอบไปด้วยโทสะ โมหะ

ดังนั้น...เมื่อตายไปเศรษฐีก็เลยกลายเป็นเปรต เหมือนอย่างกับว่าคนอื่นหาทางลงอบายภูมิ เราเห็นเข้าเราก็โดดตามลงไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ตัวเราไม่จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น"

เถรี 03-10-2017 01:43

"ถ้านึกเอาตามพุทธภาษิต ก็คือ อกตํ ทุกฺกฏํ เสยฺโย ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง อย่างที่โบราณว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ เพราะว่าสิ่งที่เราทำมีแต่จะเกิดโทษมากกว่าจะก่อประโยชน์

ข่าวบางข่าวก็เป็นข่าวในลักษณะที่ไม่เป็นความจริง ถ้าหากว่าพระท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ผิด แต่ว่าโดนสังคมตราหน้าไปแล้วว่าผิด เราไปด่าว่าเข้าก็เกิดโทษมาก แต่ต่อให้ท่านผิด ก็มีพระธรรมวินัย มีวิธีการต่าง ๆ ที่จะแก้ไข ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานให้ ดังนั้น...จึงไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปด่าไปว่าในลักษณะอย่างนั้น

เรื่องของพระเรื่องของนักบวชต้องบอกว่ามีคุณอนันต์ ขณะเดียวกันก็มีโทษมหันต์ ปฏิบัติดีทำได้ถูกต้อง ก็เกิดคุณประโยชน์มหาศาลอย่างคาดไม่ถึง เพราะว่าท่านเป็นปูชนียบุคคล เป็นทักขิเณยบุคคล แต่ถ้าหากว่าทำไม่ดีทำไม่ถูกต้อง ก็จะเกิดโทษมหันต์

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะ ต้องสำรวมกาย สำรวมวาจา สำรวมใจ ใช้หลักสาราณียธรรม ๖ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ เมื่อจะคิดก็คิดด้วยเมตตา เมื่อจะพูดก็พูดด้วยเมตตา เมื่อจะทำก็ทำด้วยเมตตา หวังประโยชน์ต่อพระศาสนาจริง ๆ ไม่เช่นนั้นแล้วตัวเราก็จะเป็นทุกข์เป็นโทษเอง ต้องลงอบายภูมิไปเอง

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องบอกว่า "เสียทีที่เกิดมา" เพราะว่าการที่เราเกิดมานั้น มีโอกาสแม้แต่ความหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน แต่เรากลับเลือกเอาทางลงสู่อบายภูมิไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก"

เถรี 03-10-2017 01:46

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนตุลาคมนี้ งานใหญ่ของวัดท่าขนุนก็คือ ออกพรรษา ตักบาตรเทโวและทอดกฐิน ซึ่งงานที่ว่านี้อยู่ในช่วงวันที่ ๕ ออกพรรษา ช่วงวันที่ ๖ ตักบาตรเทโวและทอดกฐิน หลังจากนั้นก็เป็นวันที่ ๒๑ บวชพระ ๙๙ รูปถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ต่อไปก็เป็นงานข้างนอกก็คือ กฐินปลดหนี้ที่อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร

ส่วนอีกงานหนึ่งที่ทางมหาเถรสมาคมมีมติให้ทุกวัดทั่วโลกจัด ก็คือสวดมนต์ถวายกุศลในวันที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ สวรรคต ๑๓ ตุลาคม ใครอยู่ใกล้วัดไหนก็ไปร่วมงานที่วัดนั้นก็แล้วกัน

ส่วนงานสำคัญของปีหน้าที่กำหนดไปแล้วก็คือ งานหล่อหลวงพ่อนาก ในวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ที่ไม่ได้อยู่ในใกล้เคียงกับวันมาฆบูชา ก็เพราะว่าปีหน้าเป็นอธิกมาส มีเดือนแปดสองหน วันมาฆบูชาจึงเลื่อนไปอยู่วันที่ ๑ เดือนมีนาคม ซึ่งเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๔ คราวนี้ถ้ารอให้ถึงมีนาคมก็อาจจะช้าไป ช่างอาจจะแต่งองค์พระไม่ทันตามที่ต้องการ จึงต้องหล่อตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เหมือน
กับปีที่แล้ว เอาไว้ใกล้ ๆ แล้วจะบอกบุญพวกเรา

ในเรื่องของเม็ดเงินเพื่อหล่อพระ งวดนี้คงจะใช้ประมาณ ๕๐ กิโลกรัมเท่านั้น เพราะว่าส่วนผสมของนาก หลัก ๆ แล้วจะเป็นทองแดงนอก ส่วนผสมที่น้อยที่สุดก็คือทองคำ ซึ่งทองคำนั้นเรามีเหลือเฟืออยู่แล้ว ปีนี้เราหล่อหลวงพ่อเงินไปแล้ว โดยใช้เม็ดเงิน ๑๕๐ กิโลกรัม เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
จะหล่อหลวงพ่อนาก ซึ่งใช้ทอง นาก เงิน รวมกันประมาณ ๑๖๐ กิโลกรัม แล้วปีถัดไปถึงจะเป็นการหล่อหลวงพ่อทองคำ ซึ่งใช้ทองคำประมาณ ๑๔๐ กิโลกรัม

ตอนนี้ท่านใดจะร่วมหล่อหลวงพ่อทองคำ ยังสามารถบริจาคได้เรื่อย ๆ ถ้าหากว่าท่านใดบริจาคทองคำถึง ๓ บาทให้
แจ้งอาตมาด้วย เพราะว่าทางวัดจะมีเหรียญรัชกาลที่ ๕ เนื้อทองคำ น้ำหนักสองบาทกว่า มอบให้แก่ท่านที่บริจาคทองคำแท่ง ๓ บาท"

เถรี 03-10-2017 01:48

"ต้องบอกว่าเป็นเหรียญรัชกาลที่ ๕ ที่สวยที่สุดในประเทศไทย เพราะว่าออกแบบโดยนายช่างปัทม์ บุณยรังค ซึ่งปั้นรูปนารายณ์กวนเกษียรสมุทรที่สนามบินสุวรรณภูมิ ช่างปัทม์บอกว่ามอบแบบให้ฟรี ๆ โดยไม่คิดค่าแบบแม้แต่บาทเดียว ของเราไปเสียแค่ค่าแกะบล็อกห้าหมื่นบาท ไม่ต้องเสียค่าออกแบบ ส่วนที่เหลือก็คือค่าวัสดุในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เป็นเงิน หรือว่าเป็นทองแดง ตะกั่ว

ท่านที่จะทำบุญกฐินปีนี้ ถ้าหากว่าจองกฐินกองละ ๓,๐๐๐ บาท ก็มีเหรียญเงินให้ ๑ เหรียญ ถ้าหากว่าทำบุญ ๕๐๐ บาท มีเหรียญเนื้อชิน คือเนื้อตะกั่ว คำว่า ชิน เป็นภาษาบาลี หมายถึงตะกั่ว ถ้าหากว่า ๕๐๐ บาทจะมีเหรียญเนื้อชินให้ ๑ เหรียญ พวกเราสามารถไปทำบุญเพื่อรับเหรียญได้ ในวันทอดกฐิน วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐

ส่วนเนื้อเงินนั้นท่านสามารถจองได้ในเว็บวัดท่าขนุน จนกว่าเขาจะปิดจอง ปิดจองแล้วก็ไปทำบุญเอาที่วัดในวันเดียวกัน"

เถรี 03-10-2017 01:50

"ประเทศไทยเราต้องบอกว่าโชคดีมาก ๆ ที่มีพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นมหาราช มีคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ ซึ่งพระองค์ท่านจะมาในระยะเวลาที่เหมาะสม อย่างเช่นว่าสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ซึ่งปราบดาภิเษกตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ปี ๒๓๒๕ ถัดจากนั้นมาเราก็มีพระมหากษัตริย์ ที่บำเพ็ญกรณียกิจเพื่อชาติเพื่อประชาชนสืบเนื่องกันมา

จนกระทั่งมาปรากฏโดดเด่นในสมัยของสมเด็จพระปิยมหาราช คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ซึ่งขึ้นครองราชย์ปี พ.ศ.๒๔๑๑ ถึงปี ๒๔๕๓ แล้วหลังจากนั้นก็มีในหลวงซึ่งบำเพ็ญกรณียกิจเหมาะสมกับสถานการณ์สืบมา จนมาปรากฏเด่นในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชของเรา ซึ่งครองราชย์นานที่สุดในโลก คือ ๗๐ ปีเศษ ๆ

คงจะไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ไหนครองราชย์นานไปกว่านี้อีกแล้ว ถือว่าเป็นการสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติแล้วก็ต่อโลกด้วย"

เถรี 04-10-2017 09:23

ถาม : ถ้ามีกุฏิที่ล็อกกุญแจได้มิดชิด พระสามารถเก็บผ้าครองไว้ในห้องแล้วออกไปก่อนอรุณได้โดยไม่อาบัติใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใช่ครับ

เถรี 04-10-2017 09:25

ถาม :พระคุยกันเรื่องวินัยต้องรุนแรงขนาดไหนถึงเป็นจะวิวาทาธิกรณ์ แล้วต้องเอาอธิกรณสมถะมาจบปัญหาครับ ?
ตอบ : คำว่า วิวาทะ ไม่ได้แปลว่าทะเลาะกัน แต่เป็นการถกเถียงแล้วตกลงกันไม่ได้ในเรื่องนั้น ๆ ถ้าตกลงกันได้ก็จบ ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องใช้อธิกรณสมถะมาใช้ในการระงับ

เถรี 04-10-2017 09:26

ถาม : ในศีลพระห้ามพระน้อมลาภของสงฆ์มาเพื่อตน แล้วถ้าพระน้อมลาภของตนไปให้สงฆ์ก็ต้องอาบัติด้วยหรือครับ ?
ตอบ : ท่านห้ามแค่ไหนก็แค่นั้น อย่าทะลึ่งไปห้ามในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ..!

เถรี 04-10-2017 09:30

ถาม : ในเรื่องการฉันกัดคำข้าว ถ้ากัดผลไม้ที่ชิ้นใหญ่ ๆ แทะข้าวโพด กัดขนมปังหรือกัดเส้นก๋วยเตี๋ยว ต้องอาบัติด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นผลไม้หรือขนมชิ้นใหญ่ โดนอาบัติฉันกัดคำข้าวทั้งหมด แต่ในเรื่องของเส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าไม่มีปัญญาจะใส่ปากได้ทั้งหมดก็จำเป็นต้องกัดอยู่แล้ว แต่เวลาพระฉัน ท่านจะใช้วิธีเอาส้อมหรือช้อนแบ่งเส้นให้สั้นลง

เถรี 04-10-2017 09:31

ถาม : ภิกษุได้จีวรใหม่มาต้องทำพินทุก่อน ขนาดจุดเล็กเท่าหลังตัวเรือด จุดใหญ่เท่าตานกยูง หมายถึงตานกจริง ๆ หรือที่ตาตรงหางครับ ?
ตอบ : คำว่าตาในที่นี้คือแววหางนกยูง

เถรี 04-10-2017 09:31

ถาม : ไข่ยางมะตูม, ไข่ดาวแบบไข่แดงไม่สุก, เนื้อย่างแบบข้างในยังไม่สุก ยังถือว่าเป็นของดิบที่ผิดวินัยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : อะไรที่ไม่สุกฉันไม่ได้ทั้งนั้น

เถรี 04-10-2017 09:32

ถาม : สังฆาฏิถ้าจะเอามาหนุนหัวต่างหมอน โดยที่ไม่มีผ้าปูลาดก่อนต้องอาบัติหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่โดนอาบัติ แต่ต้องขยันซักหน่อย ไม่อย่างนั้นก็เละเป็นคราบเลย

เถรี 04-10-2017 09:33

ถาม : อาหารต่าง ๆ ที่พระซื้อมาด้วยปัจจัยส่วนตัว มีขาดประเคนหรือไม่ครับ ?
ตอบ : นับอายุตามที่ระบุไว้ในกาลิก มีข้อยกเว้นอยู่อย่างเดียวคือเป็นของเรา จึงไม่ต้องให้ใครประเคน

เถรี 04-10-2017 09:34

ถาม : พระวินัยต่าง ๆ ภิกษุต้องเพราะสงสัย กับต้องโดยไม่รู้ เพราะไม่คิดมาก อันไหนโทษมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : ลงนรกทั้งคู่..!

เถรี 04-10-2017 09:36

ถาม : ขอความเมตตาหลวงพ่อช่วยอธิบายสิกขาบทที่ ๔ แห่งปาฏิเทสนียะ ห้ามรับอาหารที่เขาไม่ได้จัดไว้ก่อนเมื่ออยู่ป่าด้วยครับ ?
ตอบ : ในเรื่องของอาหาร ถ้าเจ้าภาพไม่ได้ตั้งใจถวาย โดนอาบัติทั้งนั้น ไม่เห็นจะต้องไปเสียเวลาอธิบายอะไรมากมาย พูดง่าย ๆ ว่าถ้าเขาไม่แสดงอาการว่าให้ ไปแตะต้องเข้า ดีไม่ดีถ้าราคาเกินบาทก็ขาดความเป็นพระไปเลย

เถรี 04-10-2017 09:38

ถาม : ถ้าผมจะนำน้ำมนต์เสาร์ห้าวัดท่าขนุน มาใช้เพื่อขอให้ภรรยาคลอดบุตรได้ง่าย ไม่เจ็บปวด จะใช้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : คลอดบุตรง่ายก็พอจะได้ แต่ถ้าไม่เจ็บปวดนั้นคงจะยาก

เถรี 04-10-2017 09:44

ถาม : หากบุคคลหนึ่งเขียนแจกแจงรายละเอียดการอุทิศผลบุญ และตั้งความปรารถนาในอานิสงส์ของบุญนั้นไว้ก่อน จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานว่า การบุญใด ๆ นับจากนี้เป็นต้นไปตราบกระทั่งเข้าถึงพระนิพพาน ขออุทิศและขออานิสงส์ของบุญเหล่านั้นจงเป็นไปตามที่บุคคลนั้นได้อธิษฐานนี้ไว้โดยอัตโนมัติ

การบุญใด ๆ หลังจากนั้น หากบุคคลนั้นไม่ได้นึกอุทิศส่วนบุญ และไม่ได้ตั้งความปรารถนาไว้ จะถือว่าบุคคลนั้นได้อุทิศส่วนบุญ และได้ตั้งความปรารถนาไว้ตามที่อธิษฐานไว้ก่อนหรือไม่ครับ ?

ตอบ : เขาเรียกว่า โทษของการใช้คอมพิวเตอร์มากเกินไป ก็เลยคิดว่าอย่างอื่นสามารถ set program ให้ทำงานได้เหมือนคอมพิวเตอร์

อธิษฐานบารมี แปลว่า การตั้งใจมั่น การที่เราจะตั้งใจมั่นได้ต้องตอกย้ำบ่อย ๆ การตอกย้ำบ่อย ๆ แปลว่า ควรที่จะอธิษฐานทุกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็
ควรที่จะเป็นปัจจุบันธรรมจึงจะเป็นผล ไม่ใช่ไปอ้างถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

เถรี 04-10-2017 18:39

ถาม : โยมใช้การตรึกนึกถึงพระแก้วใสในการภาวนา สามารถนึกได้ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ในบางครั้งเมื่อสวดมนต์หรือท่องคาถา ก็จะใช้การตรึกนึกเป็นตัวอักษรไทยบ้าง อักขระขอมบ้าง และมีข้อสงสัยดังนี้

เมื่อโยมนึกพระคาถาเป็นอักษรไทย บางครั้งจะนึกเห็นประเภทตัวอักษร (ฟอนต์) ไม่ซ้ำกับที่เคยนึกเห็นและไม่ได้ตั้งใจนึกมาก่อน เช่น เดิมเคยนึกเห็นอักษรฟอนต์คอร์เดียก็กลายเป็นฟอนต์อังสนา เช่นนี้แล้ว โยมควรจะนึกเห็นไปตามนั้น หรือว่าควรนึกย้อนกลับไปหาฟอนต์เดิมที่เคยเห็นครับ ?
ตอบ : ควรจะเปลี่ยนเป็นไทยสารบรรณ เพราะเดี๋ยวนี้บังคับใช้แล้ว...!

ถาม :บางครั้งการนึกเห็นตัวอักษรฟอนต์ใหม่ก็ไม่ชัดเจน เหมือนกับอ่านหนังสือในที่มืดมีแสงเลือนราง แต่มีความรู้สึกว่าตัวสระพยัญชนะมีการโค้งอย่างนั้น มีการหยักอย่างนี้ ฯลฯ นี่เกิดจากความทรงจำหรือเกิดจากการนึกเห็นจริงครับ ?
ตอบ : การนึกเห็นก็รู้อยู่แล้วว่านึกเห็น ถ้าเราไม่ได้นึกแล้วเห็นได้จึงจะเป็นความทรงจำ แต่คราวนี้เรานึกแล้วถึงจะเห็นคือการนึกของเราในปัจจุบันตอนนั้น

เถรี 04-10-2017 18:39

ถาม : เส้นลมปราณตามตำราฝึกชี่กงนั้น มีลักษณะที่เป็นรูปธรรมอย่างเส้นเลือดเส้นประสาท หรือเป็นนามธรรมเช่นเดียวกับลมปราณครับ ?
ตอบ : ก็คือเส้นเลือด เส้นเอ็น เส้นประสาท และต่อมบางประเภทที่ผลิตฮอร์โมนต่าง ๆ สำหรับร่างกาย

เถรี 04-10-2017 18:40

ถาม : หากนำน้ำผึ้งเข้าพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ห้า งานเป่ายันต์เกราะเพชร ไม่ทราบว่าจะมีอานุภาพเหมือนน้ำมนต์เสาร์ห้า วัดท่าขนุนหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่เหมือน น้ำผึ้งหวานกว่า...!

ถาม : สามารถเติมขยายเพิ่มจำนวนได้เหมือนน้ำมนต์หรือไม่ครับ และวิธีเติมขยายอย่างไรครับ ?
ตอบ : เหมือนกัน เพียงแต่เอาน้ำผึ้งที่เข้าพิธีเทใส่น้ำผึ้งที่ไม่ได้เข้าพิธี ลักษณะของน้ำมนต์ก็เช่นเดียวกัน อย่าเอาของใหม่เททับของเก่า แต่ให้เอาของเก่าเททับของใหม่เสมอ

เถรี 04-10-2017 18:41

ถาม : พระนิพพานนั้นมีอยู่ก่อนที่สมเด็จองค์ปฐมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ หรือเพิ่งจะเกิดขึ้นใหม่ตอนที่องค์ปฐมพุทธเจ้าตรัสรู้เพื่อรองรับพระองค์ครับ ?
ตอบ : ตราบใดที่ไม่มีบุคคลหลุดพ้น สถานที่นั้นก็ไม่มี เพราะไม่จำเป็นต้องรองรับอะไร หลุดพ้นเมื่อไรสถานที่นั้นก็มีเพื่อรับการหลุดพ้นนั้น ๆ

เถรี 04-10-2017 18:44

ถาม : การทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าให้สวยงามมากขึ้นเป็นการฝืนกรรม โดยเฉพาะในเรื่องของหน้าตารูปร่างถูกต้องหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถูกต้องครับ

ถาม : ถ้าต้องการทำศัลยกรรมตกแต่ง ควรทำบุญอะไรเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ ?
ตอบ : ไปเกิดใหม่จะดีกว่า..!

ถาม : เหตุใดคนจำนวนไม่น้อยที่ทำศัลยกรรมตกแต่งแล้วชีวิตพวกเขาหันเหไปในทางที่ดีขึ้นได้ครับ ?
ตอบ : จะดีขึ้นแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เพราะว่านรลักษณ์หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าโหงวเฮ้งที่แก้ไขไป บังเอิญว่าไปตกในจุดที่ดีพอดี แต่หลังจากเลยส่วนนั้นไปก็จะรับเละอย่างเดียว..!

เถรี 04-10-2017 18:57

ถาม : เมื่อเราเกิดปัญหาขึ้นในการเรียนหรือการทำงาน และเป็นปัญหาที่หาทางออกที่ดีไม่ได้ จนทำให้เกิดทุกข์ทุกครั้งที่นึกถึง แม้จะทำสมาธิก็ช่วยบรรเทาทุกข์ได้แต่เพียงชั่วครู่ จึงสงสัยว่าจะมีวิธีใดบ้างที่ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ หรือพบคนที่จะมาช่วยเหลือได้ ?
ตอบ : เอาให้ดีนะ คำถามสับสนเอง ตกลงจะแก้ไขปัญหาหรือแก้ไขทุกข์ ?

ถาม : มีวิธีใดบ้างที่จะระงับทุกข์ในช่วงที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ?
ตอบ : มีนักธุรกิจใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องไปสนใจ แต่ถ้าเป็นปัญหา ปัญหานั้นต้องแก้ได้

ถาม : แล้วมีวิธีอธิษฐานเพื่อให้พบเจอคนที่จะมาช่วยเหลือบ้างได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้...แต่อธิษฐานแล้วจะได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับบุญเก่าที่เราทำไว้ด้วย

ถาม : แล้วต้องทำอย่างไรจะเจอเร็ว ๆ คะ ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าไปเกิดใหม่..!

เถรี 04-10-2017 18:59

ถาม : เพื่อนผมได้กินน้ำสลัดซึ่งทำจากน้ำส้มสายชู แต่น้ำส้มสายชูได้ผ่านกระบวนการหมักซึ่งมีขั้นตอนที่แปรสภาพจากแอลกอฮอล์มาเป็นกรด ผมจึงสงสัยว่า ถ้ากินเข้าไปแล้วจะทำให้ยันต์เกราะเพชรหลุดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : กรดไม่ใช่แอลกอฮอล์

ถาม : ผมสงสัยว่าจะมีวิธีใดที่สามารถตรวจสอบด้วยตนเองได้ว่า ยันต์เกราะเพชรยังอยู่ในตัวเราแบบที่ไม่ใช่ต้องรอให้ตาย หรือไปให้งูพิษกัดครับ ?
ตอบ : ไปโดดขวาง ๑๘ ล้อหรือรถไฟก็ได้ ถ้ารอดมาได้แสดงว่ายันต์ยังอยู่...!

ถาม : หากเรานั่งร่วมวงกินข้าวกับเพื่อนที่ดื่มเหล้าโดยไม่ใช้ช้อนกลางในการตักอาหาร เมื่อเพื่อนดื่มเหล้า ตักกับข้าวเข้าปาก แล้วใช้ช้อนคันเดียวกันตักอาหารอย่างอื่น เราไปตักกับข้าวกินต่อจากเพื่อนคนนั้น ยันต์เกราะเพชรที่รับมาจะหายไปหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้เจตนาดื่มเหล้าไม่เป็นไร แต่ไม่ควรที่จะทำเช่นนั้น

เถรี 04-10-2017 19:01

ถาม : เมื่อคืนฝันว่ามีเสียงคนมาพูดข้างหูว่า ให้ตัวข้าพเจ้าร่วมทำบุญถวายกฐินหลวงพระราชทานกับพระเจ้าอยู่หัว แล้วจะได้พระพุทธรูปปางที่ชอบ แล้วพระพุทธรูปก็ลอยมาใกล้ ๆ เป็นพระพุทธรูปที่ใส ๆ เหมือนแก้ว ลอยเข้ามาวนข้าง ๆ ไม่ทราบว่าฝันนี้จะบอกเหตุอย่างไรได้บ้างคะ ?
ตอบ : บอกว่าให้ไปทำบุญกฐินโดยเสด็จพระราชกุศล

ถาม : ตัวคนฝันอยากจะร่วมสบทบกฐินหลวงให้ครบทุกจังหวัด มีวิธีไหนบ้างคะที่จะได้ร่วมถวายให้ครบทุกจังหวัดโดยที่ไม่ต้องเดินทางไป ?
ตอบ : ติดต่อสำนักพระราชวัง

เถรี 04-10-2017 19:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของปัญหาต่าง ๆ ที่ถามมา อย่างปัญหาสุดท้ายขอถามปัญหาธรรมะ แต่ไปถามเกี่ยวกับความฝัน ก็เลยสงสัยว่าคนสมัยนี้สับสนในชีวิตขนาดไหน อีกส่วนหนึ่งก็คือพอถึงเวลาก็ถามเกี่ยวกับกฐินหลวง สรุปว่าคนฟังได้ธรรมะแต่คนถามไม่ได้ถามธรรมะ ที่คนฟังได้ธรรมะก็คือทุกอย่างไม่เที่ยง ถามไม่อยู่กับร่องกับรอย..!"

เถรี 04-10-2017 19:36

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อวัดท่าซุง ที่อาตมาพบเห็นอานุภาพมามากที่สุดคือ ธงมหาพิชัยสงคราม อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงที่อยู่ชายแดนพกธงมหาพิชัยสงครามกับเหรียญผู้ชนะสองอย่างเท่านั้น ในเหตุการณ์ปะทะใหญ่ ๆ เล็ก ๆ ๒๐ กว่าครั้ง ล้วนแล้วแต่มีธงมหาพิชัยสงครามอยู่กับตัว ก็เลยไม่มีอันตราย

แต่เพื่อนฝูงตายไปหลายคน รุ่นนั้นนักเรียนนายสิบที่จบมาติดสิบเอกขึ้นชายแดนใหม่ ๆ ตายไป ๘ คน ร้อยตรี ๑ คน ร้อยเอก ๑ คน พลทหารอีกรวม ๆ แล้ว ๒๖ ศพ เฉพาะหน่วยเดียวนะ ครั้งนั้นเหตุการณ์ยังรุนแรงมาก หลังการปะทะใหญ่ที่โนนหมากมุ่นจบลงใหม่ ๆ ตอนนั้นโนนหมากมุ่นที่เดียวตายไป ๓๐๐ กว่าศพ..!

ตอนนั้นอาตมาพกไปด้วยความมั่นใจ เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ผืนเดียวคุ้มได้ทั้งฐาน เหตุการณ์ที่หนักที่สุดก็คือไปโดนเขมรแดงซึ่งสนับสนุนโดยทหารญวน กระหน่ำด้วยปืนใหญ่ ๔๐๐ กว่านัด อย่างกับนอนไกวเปลอย่างนั้นแหละ ปกติของปืนใหญ่ไม่เกิน ๓ นัดเขาก็ปรับเข้าเป้าแล้ว เพราะรัศมีฉกรรจ์ที่โดนแล้วตายแน่คือครึ่งกิโลเมตร งวดนั้นคนปรับปืนที่เขาเรียก ผตน. (ผู้ตรวจการหน้า) ไม่รู้ตาถั่วอีท่าไหน ? ปรับอยู่ ๑๕ นาที ๓ กระบอก ๔๐๐ กว่านัด ข้ามฐานยังข้ามไม่ได้เลย ตกอยู่แค่หน้าฐานเท่านั้น ผืนเดียวคุ้มได้ทั้งฐานจริง ๆ

เพราะฉะนั้น...ธงมหาพิชัยสงครามจึงเป็นวัตถุมงคลที่อาตมามั่นใจที่สุด แล้วที่ชอบมากที่สุดก็คือยิงออก ชอบตรงยิงออกเพราะว่าเป็นคนชอบเสียงดัง ฟังแล้วมันดี พอได้ยินเสียงปืนเท่านั้นจะวิ่งสวนท่าเดียว พวกต้องคอยดึงเอาไว้ ถ้ายิงไม่ออกแล้วรู้สึกว่าหารสชาติของชีวิตไม่ได้ อะไรเงียบ ๆ ก็ไม่รู้

โดยปกติคือ "ทหารออกรบ ๑ กองร้อย หลวงพ่อไปด้วย ๑ กองพล" คือแต่ละคนพกเต็มคอไปหมด ที่พกไปแค่ ๒ ชิ้นอย่างอาตมานี่ถือว่านอกเหตุเหนือผลมาก"

เถรี 04-10-2017 19:46

"พออยู่ในที่อันตรายจะดีตรงที่ว่า กำลังใจเกาะพระดีมาก เพราะไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร ? ในเมื่อไม่รู้ก็มีทางเดียวคือ อยู่กับพระ กินกับพระ นอนกับพระ คาถามีกี่บทภาวนาหมด

จะเห็นได้ว่าพระธุดงค์ที่ออกธุดงค์ สาเหตุหนึ่งก็คืออันตรายมีมาก พออันตรายมีมาก สามารถฝ่าฟันผ่านไปได้เป็นลำดับ โดยไม่มีอะไรนอกจากความยึดมั่นในคุณพระศรีรัตนตรัย เมื่อผ่านไปได้ ความมั่นคงของกำลังใจจะมีมากขึ้น ๆ ในที่สุดก็เกิดความเคารพในคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่นแฟ้นเต็มจิตเต็มใจ ชนิดที่เรียกว่า ด่าก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนี

ระดับนั้นก็คือกำลังใจแรก ๆ ของความเป็นพระอริยเจ้า เพราะกติกามีว่า ต้องเคารพ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เมื่อมีประสบการณ์เกิดขึ้น ทำให้ความมั่นใจมั่นคงฝังลึกจริง ๆ ลึกอย่างชนิดไม่มีทางคลาย


ลองเดินไปเจอเสือตัวเท่าม้าอยู่ข้างหน้า แทนที่เสือจะกินเรา จะฆ่าเรา กลายเป็นว่าหนีเราแทน จะเกิดความมั่นใจเป็นพิเศษ แต่ว่าอาตมาเองสัตว์ไม่ค่อยจะหนี...แปลกจริง ๆ ขนาดเดินบิณฑบาต เก้งแม่ลูกเดินตามมาเป็นกิโลฯ เลย จนกระทั่งต้องบอกว่า "ใกล้บ้านคนแล้ว กลับไปเถอะ เดี๋ยวจะมีอันตราย" เขาถึงได้เดินหลีกเข้าป่าไป คงเห็นเป็นสีเดียวกันหรืออย่างไรก็ไม่รู้ เดินตามมาเรื่อย ๆ อาตมาก็เห็นว่าน่ารักดีก็ปล่อยให้เดินตาม

เวลานอนในป่าหรือในถ้ำ อย่างหนึ่งที่เจอประจำคืองู ชอบมานอนบนอก ตื่นขึ้นมาคลำ
นี่ ตัวอย่างกับขวดเบียร์ ต้องแตะ ๆ ให้เขารู้ตัวก่อนแล้วค่อยดึง เขาก็จะลงไปเอง ถ้าไปปุบปับคว้าเลยนี่เดี๋ยวจะโดนกัดเอา งูเป็นสัตว์เลือดเย็น มักจะหาที่อุ่น พอเจอที่อุ่น ๆ ก็ขึ้นมายึดเป็นที่นอนเลย"

เถรี 09-10-2017 20:50

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของตะกรุดหนังควาย ไม่ว่าจะพอกครั่งหรือไม่พอกครั่ง ทางเหนือเขาถนัด โดยเฉพาะหลวงปู่ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ท่านจะใช้หนังลูกควายตายในท้องมาทำตะกรุด"

เถรี 09-10-2017 21:24

ถาม : แร่บางไผ่ ?
ตอบ : แร่บางไผ่ไม่ต้องดูมาก ดูรอยพรุนกับเสี้ยนก็พอ แร่บางไผ่ออกสีสนิมเหล็กทั้งองค์ เอาไว้มีเวลาจะเอาลูกอมมาลงให้ดู มีอยู่ ๓-๔ ลูก ของหายาก ขืนลงจำหน่ายเดี๋ยวได้ฆ่ากันตาย อย่าลืมว่าแร่บางไผ่เป็นหนึ่งในเครื่องรางในตำนานเลยนะ

‘หมากดีที่วัดหนัง’ อาตมามีอยู่ลูกเดียว ‘เบี้ยขลังวัดนายโรง’ ก็มีอยู่ลูกเดียว ‘ไม้ครูคู่วัดอินทร์’ ก็มีอันเดียว ‘มีดบินวัดหนองโพธิ์’ นี่มีหลายเล่มหน่อย บางเล่มนี่ใหญ่เหลือเกิน ‘ราหูคู่วัดศีรษะ’ นี่มีเยอะหน่อย ‘แหวนอักขระวัดหนองบัว’ นี่ก็เยอะหน่อย ‘พิสมรวัดพวงมาลัย’ มีอยู่ ๗-๘ อัน แล้วก็ ‘ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง’ อันนี้มีเยอะ ที่เยอะเพราะว่าหลวงปู่ทองศุขนี่ ต้องบอกว่าอายุราชการน้อยกว่าเขา แล้วก็มา‘ลูกแร่ที่บางไผ่’ มีอยู่แค่ ๓-๔ องค์ ทั้ง ๙ อย่างนี่เป็นเครื่องรางในตำนานเลย

เถรี 10-10-2017 19:36

ถาม : ของครูบานันตา ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ของท่านจะเคลือบรักสีแดง ทางด้านเหนือถ้าเป็นครูบานันตาจะเคลือบสีแดง ถ้าเป็นครูบาอโนชัยท่านจะลงหลายสี หรือไม่ก็ไม่มีสีเลย

วัตถุมงคลของครูบานันตา อาตมามีทั้งราหู มีทั้งวัวธนู แต่ขอโทษ...ผ้ายันต์ม้าเสพนางนี่ไม่ต้องไปหา ใครมีก็หวงมาก ตื๊อเท่าไรก็ไม่ให้ เพราะของท่านเมตตาสุด ๆ จริง ๆ

เถรี 10-10-2017 19:40

ตะกรุดหนังควายพอกครั่ง คำว่า "ครั่ง" เขาถือเคล็ดเหมือนกับคำว่า "คลั่ง" คนเจอจะต้องคลั่งไคล้หลงใหลประมาณนั้น

เรื่องของไสยศาสตร์ที่เรียนยากเพราะว่าติดด้วยวัสดุ ติดด้วยฤกษ์ยาม ติดด้วยพิธีการ แต่ละอย่างยากสาหัส อย่างไม้ครูหลวงปู่ภู ถ้าท่านอายุไม่ถึง ๑๐๐ กว่าปี ท่านจะมีโอกาสทำไหม ? เพราะว่าต้องหาต้นไผ่ที่โดนฟ้าผ่า ต้องล้มพาดไปทางทิศตะวันออก แล้วโขลงช้างเดินข้ามโดยไม่ได้ดึงไปกิน ท่านธุดงค์อยู่ ๓๐ กว่าปี ได้เจอแค่ครั้งเดียว

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ารุ่นหลังจะมีใครได้ทำไหม ? รุ่นหลังนี่ต่อให้มีฟ้าผ่าล้มไปทางตะวันออก ก็คงไม่มีช้างไปข้ามแล้ว เพราะว่าช้างป่าจะหมดแล้ว

เรื่องของไสยศาสตร์มีรายละเอียดมาก คนที่จะเต็มใจศึกษานี่ยาก เนื่องจากว่าไม่มีโอกาสศึกษาได้ครบทุกอย่างหรอก บางอย่างที่ศึกษามาอย่างเรื่องการผูกหุ่นพยนต์ ต้องใช้วันพฤหัสเดือน ๙ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีวอก กว่าจะหาฤกษ์เสกได้วัสดุคงเปื่อยไปหมดแล้ว ปี ๒๕๘๓ อาตมาจะอยู่ถึงหรือเปล่า ? ตอนนั้นก็อายุ ๘๐ กว่าปีเข้าไปแล้ว


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:19


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว