กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   กระทู้ธรรม (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=2)
-   -   ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3165)

ลัก...ยิ้ม 21-02-2012 09:36

๒๑.

พวกเจ้ายังมีอารมณ์ขี้เก็บ ชอบเก็บทุกข์เอาไว้ไม่ยอมวาง
จิตคนช่างจดจำอยู่แต่ความชั่ว คำด่า คำนินทา
ต่างกับคำสอนของตถาคตเจ้า พวกเจ้าฟังแล้วไม่ใคร่จักทำ

ลัก...ยิ้ม 22-02-2012 09:16

๒๒.

จงหมั่นเรียนรู้ประโยชน์ของอานาปานุสติให้มาก
และจงหมั่นทำหาความชำนาญ เพราะจักทำให้จิตมีกำลัง
เมื่อถอนออกจากฌานแล้ว
ใช้กำลังมาทำวิปัสสนาญาณ จักมีปัญญาคมกล้ามาก

ลัก...ยิ้ม 23-02-2012 08:31

๒๓.

ติดรูปให้แก้ที่รูป ติดนามให้แก้ที่นาม
ติดกามสัญญา ให้แก้ที่กามสัญญา
นี่เป็นอริยสัจ

ลัก...ยิ้ม 24-02-2012 09:00

๒๔.

พระธรรมไม่เกิด ไม่ตาย (ไม่มีเก่า ไม่มีใหม่ เพราะเป็นสัทธรรม)
ส่วนสังขารหรือร่างกาย มันมีเกิดมีดับ หรือสังขารตาย (ดับ) ได้
แต่พระธรรมไม่ตาย หรือธรรมะไม่ตาย
ในเมื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นธรรมะ
ดังนั้น พระรัตนตรัยทั้ง ๓ จึงไม่ตาย
พระพุทธเจ้าจึงพ้นจากความเป็นผี เพราะท่านไม่เกิดไม่ตายอีก
พระธรรมและพระอรหันต์ทั้งหลาย จึงพ้นจากความเป็นผีเช่นกัน


(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 25-02-2012 10:01

๒๕.

คนตาย ใครร้องไห้... คนนั้นโง่
เพราะสังขารมันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
คนโง่ร้องไห้ แต่คนฉลาดไม่ร้องไห้
ตัวเราคือธรรมะ เป็นอมตะไม่ตาย หรือจิตเราไม่เคยตาย
ผู้ตายคือสังขารหรือร่างกาย ซึ่งมีเกิดมีตายเป็นปกติธรรมดา

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 27-02-2012 10:20

๒๖.

เข้าป่าให้เอาปัญญาไปด้วยเป็นธุดงค์
หากเข้าป่าไม่มีปัญญาไปด้วย ไปแบบโง่ ๆ ก็เป็นถูดง
เข้าป่าต้องไม่กลัวตาย กลัวเจ็บป่วย กลัวผี กลัวทุกข์
ต้องไปแบบพระพุทธเจ้า ใครให้กินก็กิน ไม่ให้ก็ไม่กิน


(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 28-02-2012 08:29

๒๗.

ให้เอาใจ และกายอยู่กับธรรมะ
ซึ่งไม่เกิดไม่ตาย แล้วใจก็สบาย
มนุษยธรรมก็เป็นธรรม เทวธรรม พรหมธรรม โลกุตรธรรม ล้วนเป็นธรรม
จึงต้องอยู่กับธรรมะตลอดเวลา จึงจะไม่เกิดไม่ตาย
ธรรมะนี้ คนเรียนเป็นวันเดียวจบ
คนเรียนไม่เป็น... ๘๐,๐๐๐ ปีก็เรียนไม่จบ

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 29-02-2012 09:09

๒๘.

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ ๆ อุทาน
(๔ ครั้งตามลำดับ หลังออกจากสุขวิหาร) ว่า
๑. สุขเพราะความสงัด
๒. สุขเพราะไม่เบียดเบียน
๓.
สุขเพราะปราศจากราคะ (ก้าวล่วงกามเสียได้)
๔. สุขอย่างยอดคือการหมดความถือตัว

เท่ากับหมดมานะแล้ว เท่ากับกายวิเวก จิตวิเวก อุปธิวิเวก
(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 01-03-2012 09:03

๒๙.

"ท่านไม่เหนื่อย เพราะธรรมะเหนื่อยไม่เป็น
(เพราะธรรมะเป็นนามธรรม เป็นคุณธรรม ไม่ต้องขี้ เยี่ยว และหิวเหมือนกาย
แสดงว่าตัวท่านคือธรรมะ ไม่ใช่กายเนื้อ ซึ่งต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา)
ท่านใช้ธรรมะเป็นอาหาร จึงไม่เหนื่อย"

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 02-03-2012 08:41

๓๐.

"การพูด-สนทนากันนี้

เป็นกิเลสก็ได้ เป็นธรรมะก็ได้ อยู่ที่เจตนา

เจตนาเป็นเหตุเป็นผล.. สุดแต่จะใช้
ใช้ให้โง่ก็ได้ ให้ฉลาดก็ได้ เป็นบุญได้ เป็นบาปได้
(ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา หรือจะว่าบุญ บาป สุข ทุกข์ อยู่ที่ความคิด หรือเจตนาของใจ)"

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 05-03-2012 08:24

๓๑.

"คนโง่ไปถูดง คนฉลาดไปธุดงค์
ซึ่งมีทั้งภายนอก ภายใน อยู่วัด อยู่บ้าน อยู่ป่าก็ทำได้
ในกายก็ทำได้ นอกกายก็ทำได้
คนฉลาดเขาทำได้
ธุดงค์ในกาย เวทนา จิต ธรรมก็ทำได้"

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 06-03-2012 08:19

๓๒.

"ผู้ถามอยากตามหลวงปู่ไว ๆ ...ตอบว่า
อยากตามไว ๆ ก็ตามปัจจุบันสิ
คนโง่ชอบตามอดีต อนาคต ก็โค้งไปโค้งมา"

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 08-03-2012 10:11

๓๓.

ฆ่าเปรต อสุรกาย สัตว์นรกนี่เป็นอาบัติทุกกฎ
ฆ่าสัตว์เดรัจฉาน.. ยุงตัวเดียว เป็นอาบัติปาจิตตีย์
คนจะบวชจึงต้องตัดขาดในศีล ๕ ให้ได้ก่อน
จึงจะเข้ามนุษยธรรม เทวธรรม พรหมธรรม โลกุตรธรรมได้
มีสุขก็เพราะศีล มีโภคทรัพย์ก็เพราะศีล ถึงนิพพานสมบัติก็เพราะศีล
หากไม่เชื่อศีลแล้วจะเชื่อใคร
(เพราะศีลเป็นแม่ของพระธรรม)


พอเข้าถึงธรรมะ เกาะธรรม (พระธรรม)
มันก็ไม่เกิด ไม่ตาย เพราะทั้งหมดสำเร็จเพราะศีล
เป็นสุข มีโภคทรัพย์ ถึงนิพพานสมบัติ ล้วนจากศีลทั้งสิ้น มีศีลเป็นหลัก
พระปาติโมกข์ทั้ง ๓ (พระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม)
ล้วนเอาศีลเป็นหลักทั้งสิ้น เอาศีลขึ้นต้นทั้งสิ้น
ธรรมะไม่เกิด ไม่ดับ (ถ้าศีลไม่ตาย สมาธิและปัญญาก็ไม่ตาย) สำเร็จเพราะศีล

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 09-03-2012 09:05

๓๔.

วิธีปฏิบัติให้เห็นตัวไม่ตาย
คือให้มีสติรู้ปัจจุบันที่กายกับจิต หรือรู้ปัจจุบันที่รูปกับนาม
ใช้โทรศัพท์เบอร์เดียวกัน ระหว่างกายกับจิต
หากอันหนึ่งตายก็พูดกันไม่รู้เรื่อง

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 12-03-2012 10:17

๓๕.

บวชพระต้องตอนก่อน
(ตอนจิตให้ไม่เป็นหญิงเป็นชาย)

เหมือนช้างม้าตัวผู้ เขาตอนกาย มิฉะนั้น มันหนีไปหาตัวเมียหมด

ส่วนพระ.. ใช้ตอนจิต
มิฉะนั้น มันก็วิ่งไปหาสาว ๆ หมด

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 13-03-2012 09:30

๓๖.

ทุกอย่างอยู่ที่ปัจจุบัน เวลาปัจจุบัน
อดีต อนาคต มันไม่ใช่ปัจจุบัน เท่ากับยังไม่ถึงเวลา
ทุกอย่างจึงสู้วันนี้ไม่ได้

การเทศน์ ก็เทศน์ที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
จิตนิโรธคู่กับสักกายะนิโรธ
จิตสมุทัยคู่กับสักกายะสมุทัย
หรือกายสมุทัย จิตก็สมุทัย

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 14-03-2012 08:39

๓๗.

"กิน อยู่ หลับนอน ทุกอิริยาบถให้อยู่กับธรรม
เท่ากับธรรมปฏิบัติได้ตลอดเวลา
ถ้าเข้าใจหรือถ้ามีปัญญา"
(ผู้ใดที่ใคร่ครวญธรรมะอยู่เสมอ ผู้นั้นไม่เสื่อมจากสัทธรรม)

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 15-03-2012 10:32

๓๘.

"ตัณหา อวิชชา ดับได้ที่ต้นเหตุ คือแก้หลงตัวเดียว
เช่น ขี้ออกไปแล้วยังว่า ขี้ของกูอีก
กายไม่ได้กินขี้ กินเยี่ยว แต่ผู้ยังกินอยู่คือ จิตที่มันหลง"
(โดยเฉพาะขี้ที่ห่วงมากคือ ขี้ ๓ กอง.. ขี้โกรธ ขี้โลภ(รัก) ขี้หลง)

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


หมายเหตุ ข้อความในวงเล็บเป็นความเห็นของคุณลุงหมอสมศักดิ์ สืบสงวน

ลัก...ยิ้ม 16-03-2012 10:15

๓๙.

"เชื่อธรรม อย่าเชื่อคน เพราะคนแปลว่ายุ่ง
ส่วนพระธรรมนั้น
แม้พระพุทธเจ้ายังเคารพในพระธรรม
พระธรรมไม่เกิด ไม่ตาย คนยังเกิด-ตายอยู่
พระธรรมเป็นสุดยอดของความดีในโลก"

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)

ลัก...ยิ้ม 19-03-2012 09:22

๔๐.

"เข้าหากาย หาจิต แล้วไม่ยุ่ง เท่ากับอย่าส่งจิตออกนอกกาย
และรู้อารมณ์จิตของตนเองตลอด อย่าให้มันคิดชั่ว
เท่ากับอยู่แต่ในห้องที่มีแต่วันนี้ เท่ากับอยู่กับมหาสติปัฏฐาน
เท่ากับอยู่ในสังขาร ๓ เท่ากับเอาสติคุมจิตไว้ อย่าให้มันคิดชั่ว"

(ของหลวงปู่บุดดา ถาวโร)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:22


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว