กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=40)
-   -   ปกิณกธรรมก่อนแจกวุฒิบัตร ช่วงงานบวชเนกขัมมะวันแม่แห่งชาติ ปี ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6309)

เถรี 28-08-2018 22:00

ปกิณกธรรมก่อนแจกวุฒิบัตร ช่วงงานบวชเนกขัมมะวันแม่แห่งชาติ ปี ๒๕๖๑
 
ต้องขออนุโมทนากับพวกเราทั้งหมด ที่ร่วมกันสร้างความดีถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ถ้าใครดูข่าวในพระราชสำนักจะเห็นว่า พระองค์ท่านก็บำเพ็ญกุศลเป็นการส่วนพระองค์ แต่ไม่มีพระกำลังแล้ว ถึงขนาดประทับนั่งเอียงข้างแล้ว

การที่ไปฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อมะเร็ง ก็ทำให้พระฉวีวรรณบางส่วนไหม้เป็นหย่อม ๆ ก็แปลว่าแม่ของแผ่นดินของพวกเรา ซึ่งเจริญพระชนมายุ ๘๖ พรรษาแล้ว ถ้าหากว่าเป็นชาวบ้านก็ระดับคุณย่าคุณยาย อาจจะถึงคุณทวดแล้ว ในขณะนี้พระวรกายเสื่อมโทรมไปตามอายุสังขาร แม้ว่ากำลังพระทัยจะเข้มแข็งแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานความเสื่อมสภาพของร่างกายที่มีมาตามปกติได้

เราเห็นตรงส่วนนี้แล้วพึงระลึกอยู่เสมอว่า ตัวเราไม่นานก็เป็นเช่นนี้ เราจะต้องเป็นเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาพบกับร่างกายที่มีสภาพเยี่ยงนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก เราต้องการอย่างเดียวคือพระนิพพาน แล้วให้พวกเราตั้งกำลังใจสุดท้ายไว้ที่พระนิพพาน

ถ้าไม่รู้จักพระนิพพาน ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ตั้งใจว่านั่นคือองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน แต่ละวันพยายามรักษาอารมณ์ใจให้อยู่กับภาพพระอย่างนี้ไว้ให้นานที่สุด เพื่อเป็นเครื่องประกันว่า เมื่อถึงเวลาถ้าสิ้นอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราจะได้มีสุคติเป็นที่ไปเป็นอย่างน้อย ถ้าหากว่าสามารถรวบรัดตัดตรงมุ่งเข้าสู่พระนิพพานได้ นั่นคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเรา

เมื่อเลิกรากลับบ้านไปแล้ว ต้องพยายามประคับประคองรักษาอารมณ์ใจในการปฏิบัติของเราเอาไว้ ใครสามารถรักษาศีลแปดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานสืบต่อไปได้ก็ให้รักษาไปเลย ถ้าหากว่ารักษาไม่ได้ให้ลดลงมารักษาศีลห้า ต่ำกว่านี้ไม่มี ในเมื่อต่ำกว่านี้ไม่มี ก็แปลว่าอย่างน้อยศีลห้าเราต้องมี เมื่อเรามีศีล มีการระมัดระวังศีลเป็นปกติ สมาธิของเราก็จะทรงตัว แล้วก็ใช้กำลังสมาธิในการพิจารณาตัดละร่างกายของเราไป

ถ้าไม่เห็นความดีในร่างกายของเรา ก็จะไม่เห็นความดีในร่างกายคนอื่น จะไม่เห็นความดีในร่างกายสัตว์อื่น และไม่เห็นความดีอะไรเลยในโลกนี้ ในเมื่อเราไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะมาให้ห่วงให้พะวงให้ยึด เราก็จะเป็นผู้อยู่เหนือโลก เข้าถึงโลกุตรธรรม ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนเอาไว้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมก่อนแจกวุฒิบัตร ช่วงบวชเนกขัมมะวันแม่แห่งชาติ
วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:38


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว