กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=20)
-   -   เล่าสู่กันฟัง ภาค ๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=481)

เถรี 03-03-2010 16:39

พระอาจารย์เคยเล่าเรื่องให้ฟังว่า พระเจ้าปเสนทิโกศลเคยตรัสถามพระนางมัลลิกาว่า พระนางรักใครมากที่สุด?
พระนางตอบว่า "หม่อมฉันรักตัวเองมากที่สุด"

พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงน้อยพระทัย จึงนำเรื่องนี้ไปทูลต่อพระพุทธเจ้า และตรัสถามว่าทำไมพระมเหสีจึงกล่าวอย่างนั้น? พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า เพราะพระนางมัลลิกาเป็นคนตรง จึงกล้าพูดความจริงที่ว่า คนทุกคนรักตัวเองมากที่สุด

พระอาจารย์ย้อนถามกลับมาว่า "ถ้ามีก้อนถ่านร้อน ๆ ตกลงมาบนหัวของทั้งสองคน เราจะปัดของตัวเองก่อนหรือของเขาก่อน?"


เถรี : ปัดของตัวเองก่อนค่ะ

หลวงพ่อ : นั่นแหละ..จริง ๆ แล้วเราไม่ได้รักใครหรอก..เรารักตัวเองมากที่สุด



สิงหา ๕๑

เถรี 15-04-2010 10:33

วันที่ไปงานหล่อพระ วัดวีระโชติธรรมาราม พระอาจารย์ได้เมตตากล่าวสอนลูกศิษย์คนหนึ่งว่า

"มาจนถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่เวลาที่ไปเที่ยวหาอะไรข้างนอก ทุกอย่างที่เราศึกษาเรียนรู้มา มากจนเกินไปแล้ว เหลือแต่ว่าทำให้ได้ผลเท่านั้น"

๒๘ มีนา ๕๓

เถรี 26-04-2010 22:03

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า สมัยท่านเป็นฆราวาส ท่านจะมีคู่แข่งคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิง เป็นลูกสาวคนจีน สามารถนั่งคุยไล่ต้อนเรื่องอารมณ์การปฏิบัติได้ทั้งวันเลย ถ้าใครมีอารมณ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น ก็มานั่งไล่ซักไปซักมา จนกว่าอีกฝ่ายจะจนมุม ต้อนไปจนไม่มีอะไรจะให้ต้อนแล้ว ก็กลับไปทำใหม่ แล้วมาไล่ต้อนกันอีก

หลวงพ่อบอกว่าถ้าคนที่ทำได้จริง จะรู้และมองออก ว่าเขาทำได้จริง ตอนแรกเตี่ยของผู้หญิงคนนี้นึกว่าหลวงพ่อมาชอบลูกสาวเขา ถึงได้มานั่งคุยทุกวัน วันหนึ่งเตี่ยเขาก็เลยมานั่งฟังบ้าง ว่าคุยอะไรกัน ฟังไปฟังมา เตี่ยฟังไม่รู้เรื่อง เลยไม่ฟังแล้ว

หลวงพ่อสอนมาว่า "ถ้าเรามีคู่แข่งในการปฏิบัติ จะทำให้ก้าวหน้าได้เร็ว" บอกท่านไปว่า "หนูก็พยายามควานหาเหมือนกันค่ะ"

ท่านเตือนว่า "ให้ระวัง...ถ้าเป็นเพศตรงข้าม เราต้องมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างกัน"


๗ กรกฎา ๕๑

เถรี 26-04-2010 22:23

วันอาสาฬหบูชา ปี ๒๕๕๑ หลวงพ่อสมเด็จ ฯ วัดสระเกศ ท่านเทศน์เรื่อง มรรค ๘

ในเรื่องของสัมมาทิฐิ ท่านบอกว่า "สัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นชอบ ถ้าเห็นชอบในระดับสูง คือ เห็นชอบในการหลุดพ้น"

เรื่องสัมมาสติ ท่านบอกว่า "ถ้ายังใจลอยอยู่ ยังใช้ไม่ได้"

เรื่องสัมมาสมาธิ ท่านบอกว่า "ก่อนนอนให้ภาวนาพุทโธ สัก ๑๐ จบก่อนนอน แต่ถ้าเรามีสมาธิ จะภาวนาสัก ๑๐๐ จบ หรือ ๑,๐๐๐ จบก็ยังได้"

๑๗ กรกฎา ๕๑

เถรี 26-04-2010 22:34

ก่อนทำวัตรเย็น หลวงพ่อเล็กท่านเทศน์สอนในเรื่องการปฏิบัติว่า "อาตมาเคยบอกเอาไว้ในเรื่องการปฏิบัติ ว่าเหมือนกับการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าลวกแต่เส้นเฉย ๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าเติมเครื่องปรุงไป ใส่น้ำปลาบ้าง ใส่น้ำตาลบ้าง ใส่น้ำส้มบ้าง ก็รู้สึกน่ากิน อร่อย ทีนี้ล่ะกินไม่หยุด แต่ถ้าเราหยุดเสียตั้งแต่ต้นที่เป็นเส้นลวก ไม่ไปปรุงแต่ง มันก็ทำอะไรเราไม่ได้"

๓ ตุลา ๕๑

เถรี 26-04-2010 22:55

หลวงพ่อเล็กเมตตาเล่าเรื่องการรับงานของท่านให้ฟังว่า

เรื่องของงานต้องเป็นอย่างนี้ ต้องพิจารณาดูความหนักเบาของงาน ถ้ารู้สึกว่าที่นี่สำคัญกว่าก็ต้องเอาที่นี่เป็นหลัก งานนั้นก็ต้องตัด บางทีพรรคพวกเขารู้สึกว่าเราไม่ให้เกียรติเขา งานเขาแท้ ๆ แต่เราไม่ไป เขาก็ต้องรู้ว่าเราติดงานที่นี่

ส่วนใหญ่หลวงพ่อก่อนที่จะรับงานก็จะบอกไว้ชัดเจน ว่างานไหนรับได้..งานไหนรับไม่ได้ ช่วยได้แค่ไหนก็จะบอก ประเภทรับปากว่าจะไป...แต่ไปไม่ได้ จะทำให้เขาเสียเวลารอ

๒ มกราคม ๕๓

เถรี 27-04-2010 22:20

ถาม : เวลาปฏิบัติเกิดอารมณ์อย่างหนึ่ง เป็นอารมณ์ที่รู้สึกอึดอัดใจ อยากจะสะบัดร่างกายนี้ทิ้งออกไป แต่ก็ไม่ออกสักที รู้สึกอึดอัด ตัน ๆ อย่างบอกไม่ถูก
ตอบ : เพราะไม่ต้องการร่างกายนี้แล้ว ในเมื่อเราทนมาได้จนถึงทุกวันนี้ จะทนอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป ใกล้จะดีแล้ว

ถาม : แต่อารมณ์นี้มาบ่อยเหลือเกินค่ะ นั่งอยู่เฉย ๆ ก็มา
ตอบ : สมัยก่อนหลวงพ่อก็เป็น บางทีนั่งคุยกับเพื่อนอารมณ์นี้ก็เกิดขึ้น จนเพื่อนมองว่าเราบ้าก็มี เพราะเป็นแล้วไม่อยากคุยกับใคร ถ้ามีสมาธิเมื่อไร ก็จะเข้ามาทันที อารมณ์นี้เกิดขึ้นอยู่สักพักแล้วคลาย แล้วทำกลับไปสู่อารมณ์เดิมอีก

ถาม : กว่าจะคลายอารมณ์นี้ได้นานเหลือเกินค่ะ
ตอบ : ซ้อมบ่อย ๆ ตอนนี้เริ่มจะทรงตัวแล้ว

ถาม : พอคลายจากอารมณ์นี้แล้ว จะเป็นอารมณ์นิ่งมาก นิ่งเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เย็นชา เหมือนคนตายด้าน
ตอบ : (หัวเราะ) ถ้าเป็นแบบนี้ มีแฟน..แฟนคงโกรธ เพราะไม่ยอมคุยด้วย นั่นเป็นอารมณ์ฌาน

ถาม : ตอนแรกหนูก็ไม่แน่ใจค่ะ ว่าทำมาถูกทางหรือเปล่า ?
ตอบ : ถูกทางแล้ว เพราะใกล้บ้าแล้ว..!


๑ กันยา ๕๐

เถรี 27-04-2010 23:11

มีผู้หญิงคนหนึ่งมากราบหลวงพ่อ ลักษณะแปลก ๆ เขาพูดจาอยู่คนเดียว เหมือนคนขาดสติ หลังจากเขากลับไป หลวงพ่อหันมาสอนว่า

"เราต้องเห็นเป็นปกติ ก็คือ เห็นเป็นธรรมดาให้ได้

ภิกษุพึงทำใจเหมือนแผ่นดิน เพราะแผ่นดินรองรับทั้งสิ่งที่สะอาดและไม่สะอาด โดยไม่มีความหวั่นไหวใด ๆ
ภิกษุพึงทำใจเหมือนดั่งเปลวไฟ เพราะเปลวไฟไหม้ของที่สะอาดและไม่สะอาด โดยเสมอหน้ากันไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
ภิกษุพึงทำใจเหมือนสายน้ำ สายน้ำขึ้นเสมอทั้งสองฟากฝั่งโดยไม่เลือกว่าเป็นบ้านเศรษฐีหรือบ้านยาจก
ภิกษุพึงทำตนเหมือนสายลม สายลมย่อมพัดไปโดยมิได้ติดอยู่ ณ ที่ใด ๆ เลย


เราก็เปลี่ยนจากภิกษุเป็นพระโยคาวจร"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:39


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว