กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5063)

เถรี 03-07-2016 22:46

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙
 
ถาม : แต่ก่อนผมสงสัยครับว่าพระสารีบุตร ท่านฟังธรรมจากพระอัสชิเถระแล้วบรรลุเป็นพระโสดาบัน โดยที่ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเลยได้อย่างไร ?

ธรรมที่พระอัสชิเถระ ท่านสอนว่า "ธรรมเหล่าใด เกิดแต่เหตุ พระตถาคตกล่าวเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีวาทะอย่างนี้" หลังจากฟังจบแล้ว พระสารีบุตรเป็นบรรลุเป็นพระโสดาบันทันที แล้วท่านก็เอาไปบอกพระโมคคัลลานะ ท่านก็บรรลุเป็นพระโสดาบันทันที

ผมสงสัยมาหลายเดือนมาก ผมเลยพิจารณาเลยสรุปได้ว่า ทุกอย่างในโลกนี้ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน และทุกอย่างในโลกนี้ ก็มีสภาพเปลี่ยนแปลงเสื่อมสลาย และในที่สุดก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เลยไปตรงกับคำสั่งสอนของพระที่ว่า "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" เลยอยากทราบว่า ท่านพิจารณาประมาณนี้เปล่าครับเลยได้เป็นพระโสดาบัน ?

ตอบ : ไม่ได้ถามท่านเสียด้วย ต้องบอกว่าคนถามฟุ้งซ่านได้ดีมาก ความจริงต้องแยกเป็นสองประเด็น ประเด็นแรกก็คือไม่ได้พบพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุมรรคผลได้อย่างไร ? ไม่มีกติกาข้อไหนที่ต้องพบพระพุทธเจ้าแล้วถึงบรรลุมรรคผล เพราะว่าหลักธรรมของพระองค์ท่านเป็นสากล เป็นอกาลิโก ผู้ใดที่เข้าใจ มั่นใจว่าตนเองทำได้ ตัดสินใจทำทันที บุคคลนั้นย่อมได้มรรคผลไปตามวาสนาบารมีของตน

ส่วนประเด็นที่สองก็ที่ว่าไปแล้ว ในเมื่อท่านฟังเข้าใจ มั่นใจว่าตนเองทำได้ ตัดสินใจว่าจะทำ ท่านก็ย่อมได้รับมรรคผลของท่านไป

เถรี 03-07-2016 22:50

ถาม : บางครั้งผมโดนเพื่อนร่วมชั้นแกล้ง และผมก็มีความรู้สึกโกรธ แต่ผมรู้ทัน ก็ยิ้ม ๆ ให้เขาไป ไม่ว่าอะไร แต่ก็อยากจะสั่งสอนด้วยการตักเตือนก่อน ถ้าไม่ฟังก็ต้องใช้กำลัง แต่จะออกแนวในลักษณะสั่งสอนเพื่อน ถ้าผมทำร้ายเขาแบบให้เขารู้สึกผิด เขาก็จะไม่ทำกับผมและเพื่อนคนอื่นอีก อยากถามพระอาจารย์ว่า ถ้าผมตักเตือนด้วยการใช้กำลัง แต่อยู่บนพื้นฐานเมตตา เพราะไม่อยากให้เขาสร้างบาปกรรมให้กับตัวเอง
และเลิกทำให้ผมและคนอื่น ๆ รำคาญ แบบนี้จะบาปไหมครับ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าอาจารย์ฝ่ายปกครองเขาจะเมตตากับเราแบบเดียวกันไหม ? ขณะเดียวกันพ่อแม่เขาจะเมตตาไม่แจ้งความไหม ? ถ้าใช้กำลังด้วยความเมตตา อาตมาก็ใช้ได้ แต่โยมจะน่วมเท่านั้น...!

เถรี 03-07-2016 22:56

ถาม : ตัวกระผมอยู่ต่างประเทศ แล้วอีกไม่นานจะปิดเทอมเป็นเวลา หนึ่งเดือนกว่า ๆ ผมเลยวางแผนว่า จะภาวนาคาถาอภิญญารวม " โสตัตตะภิญญา " จนได้อภิญญาขึ้นมา แต่ผมสงสัยว่า ถ้าในอดีตชาติผมไม่เคยฝึกกสิณมาเลย คาถาอภิญญารวมยังจะได้ผลไหมครับ ? แล้วผมก็วางแผนว่า ถ้าทำได้แล้วจะไปวัดท่าขนุนไปขอบคุณหลวงพ่อ เลยอยากทราบว่า คาถานี้พอจะมีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ดูท่าชาตินี้ตูไม่ได้รับคำขอบคุณแน่ ๆ...! ในเรื่องของคาถาอภิญญา ให้ไว้สำหรับบุคคลที่เคยได้อภิญญาในชาติก่อนเพื่อฟื้นกำลังของตัวเอง ถึงไม่เคยได้อภิญญามาก่อนก็ทำไปเถอะ อย่างน้อยก็ได้อานิสงส์ของการภาวนาอยู่

ส่วนเรื่องเคล็ดลับของคาถานั้นยาวเหยียดยืดยาด เวลา ๑ ชั่วโมงไม่น่าจะอธิบายหมด เอาไว้ถ้าไปขอบคุณเมื่อไรจะอธิบายให้ฟัง

เถรี 03-07-2016 23:13

ถาม : มีครั้งหนึ่งตอนที่ผมกลับเมืองไทยจากเดนมาร์ก ช่วงนั้นผมอายุ ๑๕ ผมนั่งสมาธิโดยที่ไม่ได้มีความรู้ด้านพระพุทธศาสนามากมายนัก แล้วภาวนาพุทโธ จนเข้าถึงฌานสมาบัติ แล้วเกิดญาณที่เป็นเครื่องรู้ขึ้นมา เพราะตอนนั้นผมมองไปที่พี่สาวผมคนหนึ่ง แล้วเห็นภาพซ้อนทับพี่สาวผม เป็นผู้หญิงแต่งตัวแบบโบราณ เหมือนสมัยรัชกาลที่ ๕ ความรู้สึกบอกผมเลยว่า พี่สาวผมต้องเคยมีความสัมพันธ์กับร.๕ แน่นอน แล้วแม่ของพี่สาวผมก็มาบอกทีหลังว่า ก่อนที่พี่สาวผมจะมาเกิด เขาฝันเห็น ร.๕ จูงเด็กผู้หญิงเอาลูกมาฝาก

และช่วงนั้น ผมทำสมาธิจะได้ยินเสียงดนตรีและเสียงสวดมนต์บ่อย ๆ เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงได้เลย ตอนแรกผมเอะใจว่า บ้านเราไม่ได้อยู่ใกล้วัดแล้วเสียงมาจากไหนกัน แล้วพอผมกลับเดนมาร์ก แล้วผมก็นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงดนตรี และเสียงสวดมนต์เหมือนเดิมเป็นเวลา ๑๕ นาที ผมเอะใจแล้วมองออกไปข้างนอก แล้วไม่เห็นมีอะไร ผมก็ไม่ใส่ใจอะไร ขณะนั่นจิตใจผมนิ่งมากรู้สึกเฉย ๆ หลังจากนั่นได้อ่านมาว่า เสียงดนตรีและสวดมนต์ นั่นมาจากสวรรค์ชั้นยามา และที่น่าขำมากที่สุดคือ ช่วงนั้นญาติ ๆ ผมคิดว่าผมเป็นบ้า พาผมไปหาหมอจิตแพทย์ เพราะผมไม่รู้กาลเทศะ

ณ จุดนี้ ผมมั่นใจว่าผมมีของเก่าแน่ ๆ เลยอยากถามหลวงพ่อครับว่า จะป้องกันการเกิดมานะทิฐิอย่างไรครับ ? เพราะผมอ่านหนังสือสมบัติพ่อให้ของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านย้ำหลายครั้งเลยว่า ถ้าสร้างอภิญญาหรือความสามารถเหนือมนุษย์ได้ ต้องอย่ามีมานะทิฐิ

ตอบ : ตูจำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ไหม ? ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะจับแพะชนแกะไปเรื่อย เรื่องของการภาวนาพอสภาพจิตเริ่มเป็นอุปจารสมาธิ บุคคลที่มีของเก่าอยู่จะเกิดทิพโสต คือได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน เกิดทิพจักขุ คือ เห็นในสิ่งที่คนทั่วไปเขาไม่เห็นกัน เพราะฉะนั้น...ไม่ใช่แค่พ่อแม่คุณเท่านั้นหรอกที่ว่าบ้า ไปบอกใครเขาก็ว่าบ้าเพราะเขาไม่ได้เห็นด้วย ไม่ได้ยินด้วย

ดังนั้น...ตอนแรกก็ควรจะตั้งสติ แล้วพยายามทำความเข้าใจว่า เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นเขาเห็นหรือได้ยินกัน จึงไม่ควรเอาไปเที่ยวบอก
เล่าแก่คนอื่นทั่วไป ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็โดนจับไปหาจิตแพทย์อีก แล้วคนเราเวลาไปหาหมอก็มักจะยืนยันกับหมอว่า "ผมไม่บ้า" แต่หมอเขาก็ยืนยันว่าคนบ้าพูดอย่างนี้ทุกคน ฉะนั้น...โปรดระมัดระวังด้วยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับเรา

เถรี 03-07-2016 23:29

ถาม : นักปฏิบัติเวลาทำสมาธิ ควรจะวางกำลังใจแบบไหนดีกว่ากันครับ ? ระหว่าง "ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น" หรือควรจะวางกำลังใจแบบพระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้ "ถึงแม้ว่าเลือดในร่างกายจะเหือดแห้งไป ก็จะปล่อยให้มันเหือดแห้งไป จะไม่ลุกขึ้นโดยเด็ดขาด ถ้าตราบใดที่ยังไม่ตรัสรู้ พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ "
ตอบ : ให้เลือกเอาที่สบายใจ ดูว่ากำลังใจของเรามีความบ้าพอไหม ? ถ้าบ้าพอก็ "ถ้าไม่บรรลุก็จะไม่ลุก" แต่ถ้าบ้าไม่พอ "ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น"

เถรี 03-07-2016 23:33

ถาม : ตัวกระผมเล่นเกมมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน สามารถเล่นได้ทั้งวัน และผมมีฉันทะกับการเล่นเกมมาก แต่อยากมีฉันทะในการภาวนา เหมือนกับตอนเล่นเกมด้วย ควรจะทำอย่างไรครับ ? เพราะเวลาผมนั่งสมาธิได้สัก ๕ นาที ผมก็รู้สึกสดชื่นสมองปลอดโปร่ง เลยเลิกนั่งสมาธิแล้วกลับไปเล่นเกมต่อ
ตอบ : สุดยอด สมควรตายจริง ๆ...! ทั้ง ๆ ที่รู้แล้วดันไม่ทำต่อ แล้วมาถามหาอะไร ? แบบนี้เรียกว่า "ดีชั่วก็รู้หมด แต่อดใจไม่ได้"

เถรี 03-07-2016 23:37

ถาม : มีครั้งหนึ่งหลายปีมาแล้ว ผมฝันเห็นพระรูปหนึ่งเหมือนหลวงพ่อวัดท่าซุง ในความฝันผมขับรถไปส่งท่านที่วัด หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ฝันเห็นหลวงพ่ออีกเลย สงสัยว่าหลวงพ่อท่านเก็บลูกศิษย์ด้วยวิธีนี้เปล่าครับ ? แล้วการฝันขับรถไปส่งพระที่วัด มีความหมายปริศนาธรรมอะไรหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่หมายถึงเลข ๘ กับเลข ๙ ออกไปแล้ว...! ส่วนใหญ่ถ้าลูกศิษย์เคยมีความเนื่องกับหลวงพ่อวัดท่าซุงมา ก็มักจะฝันเห็นท่านบ้าง นิมิตเห็นท่านบ้าง ส่วนจะเป็นวิธีเก็บลูกศิษย์ของท่านหรือเปล่า ต้องไปสอบถามท่านเองโดยตรง

เถรี 03-07-2016 23:44

ถาม :แม่บางคนก่อนที่จะคลอดหรือตั้งท้องมักจะฝันเห็นสิ่งต่าง ๆ นานา อย่างแม่ของพระพุทธเจ้า ท่านก็ยังฝัน ผมเลยสงสัยว่า แม่ที่ฝันก่อนที่จะคลอดลูก แปลว่าเด็กที่จะมาเกิด มาจาก สวรรค์ หรือ พรหมใช่ไหมครับ เลยสามารถทำให้แม่ฝันได้ ?
ตอบ : ถ้าเกิดฝันว่าตัวดำปี๋ ตาขาววอก โผล่จากใต้ดินขึ้นมา แล้วจะมาจากพรหมได้อย่างไรวะ ? ต้องขึ้นอยู่กับสภาพความฝันของเราด้วย ว่าฝันเกี่ยวกับอะไร อย่างกรรมนิมิต ไม่ใช่ฝันถึงเมื่อไรก็ฟันธงว่ามาจากเทวดา มาจากพรหมไปเสียหมด

เถรี 03-07-2016 23:46

ถาม :ผมสงสัยครับว่าสมัยพระพุทธเจ้า เวลาท่านเทศน์ทศชาติชาดก อย่างเวสสันดรชาดกซึ่งกินเวลานานมาก ๆ ในการเทศน์ พระพุทธองค์ท่านเทศน์ทีเดียวจบหรือว่าเทศน์เป็นกัณฑ์ ๆ เหมือนในสมัยปัจจุบันหรือครับ ?
ตอบ : ไปดูในพระไตรปิฎกได้ เขามีบอกรายละเอียดไว้ว่าพระองค์ท่านเทศน์เมื่อไร เทศน์ที่ไหน เทศน์อย่างไร

เถรี 03-07-2016 23:48

ถาม : อธิษฐานบารมีกับสัจบารมี แตกต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : แตกต่างกันตรงที่ว่า อธิษฐานบารมี เป็นความตั้งใจ ส่วนสัจบารมี เป็นการทำความตั้งใจนั้นให้เห็นผลจริง

เถรี 05-07-2016 00:08

ถาม : การที่ให้ฝึกกรรมฐานเพียงข้อใดข้อหนึ่ง ไม่ควรเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ นั้น หากกรรมฐานหลักของผมคืออานาปานสติ ควบคู่กับคำบริกรรม “พุทโธ” ผมก็ไม่ต้องสนใจเจริญพรหมวิหารเลย หรือว่าควรหาเวลาซักซ้อมบ้างมากน้อยเพียงใด ?
ตอบ : ควรซักซ้อมเอาไว้บ้าง เพราะว่าเป็นเครื่องหนุนเสริมอานาปานสติของเรา

เถรี 05-07-2016 00:19

ถาม : มีความรู้สึกเหมือนมีความโกรธ ผูกโกรธ ห่มในใจอยู่เนือง ๆ ตลอดทั้งวัน เป็นมานานแล้วครับ ควรทำอย่างไร ? จะใช้พรหมวิหารได้หรือไม่ หรือว่าใช้อานาปานสติ ? มีความรู้สึกว่าใช้พรหมวิหารจะมีผลต่ออาการขุ่น ๆ ที่อยู่ในใจมากกว่า แต่ไม่สามารถทรงไว้ได้นาน ?
ตอบ : นี่เขาเรียกว่าถามทั้งที่รู้ ทำอย่างไหนที่ดีต่อการปฏิบัติของตนเองก็ทำไป ไม่ใช่เสียเวลามาถามคนอื่นเขา เดี๋ยวได้กรรมฐานผิดไปก็เตลิดเข้าป่าเข้าดงไปอีก..!

ถาม : ที่พระอาจารย์เคยกล่าวถึงการเจริญเมตตาว่า “การฝึกซ้อมถ้ากำลังไม่มี ก็มีแต่จะโดนคู่ต่อสู้น็อกไปตลอด” นั้น อยากทราบว่าการพักจากการฝึกซ้อมก็คือการกำหนดรู้ลมหายใจ ใช่หรือไม่ ?
ตอบ : ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียดตามเคย...! ที่ว่ามาหมายถึงเฉพาะคนถามในช่วงนั้น กำลังใจการปฏิบัติไม่มีเลย แล้วคิดจะไปทำ ก็เหมือนกับคนไม่เจียมสังขาร ต่อยมวยไม่เป็นแต่ขอไปวัดกับแชมป์โลกบนเวที

จำไว้ว่าการปฏิบัติถ้าไม่ทำถึงที่สุดแล้ว เราไม่สามารถที่จะสู้กิเลสได้ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าเวลาใดเวลาหนึ่ง ก็ต้องมีกิเลสอย่างใดอย่างหนึ่ง โผล่เข้ามารบกวนเราอยู่เสมอ ดังนั้น...ถ้าเราไปตั้งใจว่าทำแล้วต้องได้ผล ต้องเกิดผลเลย เหมือนกับการกินยาไทยต้องค่อย ๆ กิน เพื่อสะสมรอ จนกระทั่งฤทธิ์ยาเพียงพอที่จะรักษาโรค ถึงจะระงับอาการของโรคนั้นได้

แต่เราเองคิดว่ากินไปแล้วต้องหายทันที จะเป็นไปได้อย่างไร ? โปรดเข้าใจเสียใหม่ว่า กรรมฐานทุกกองสามารถใช้งานได้จริงก็ต่อเมื่อเราทำอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนเกิดผลเท่านั้น ไม่ใช่เริ่มเอื้อมมือไปแตะก็ใช้ได้เลย

เถรี 05-07-2016 00:23

ถาม : เวลาทำสมาธิจะมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เป็นทุกข์อยู่ในใจ และเหมือนกับว่าเราใช้กำลังบีบข่มเอาไว้ตลอด เพื่อไม่ให้กำเริบ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร จะว่าเป็นกิเลสตัวไหนก็ไม่แน่ใจ ควรจะทำอย่างไร ?
ตอบ : ก็ข่มเอาไว้ต่อไป เพราะถ้าปล่อยให้อาละวาดได้ ถึงรู้ชัดก็แปลว่าซมซานไปแล้ว เพราะเวลากิเลสตีเราเขาไม่เคยปราณี มัวแต่อยากจะรู้ว่าคนตีกบาลเราเป็นใคร แล้วก็ไปปล่อยให้เขาเข้ามา เดี๋ยวก็ได้โดนอีกจนได้..!

เถรี 05-07-2016 00:27

ถาม : หลังจากทำสมาธิสักพักหนึ่ง พอรู้สึกว่ามีกำลัง ผมก็พิจารณาเส้นผม แล้วกำหนดให้แตกสลายกลายเป็นดินไป พอกลายเป็นดินก็จะมีความรู้สึกบางอย่าง เหมือนกับว่าใจสบายขึ้น แต่เป็นแค่ระยะสั้น ๆ เพียงเสี้ยววินาที ถือว่าทำถูกต้องหรือไม่ และเป็นการเจริญวิปัสสนาหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าหากพิจารณาได้อย่างนั้นก็ถือว่าเป็นการเจริญวิปัสสนา การเจริญวิปัสสนาจะมากหรือน้อย เพียงเท่าช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ก็มีอานิสงส์ทั้งสิ้น วิธีที่ดีที่สุดคือพยายามทบทวนบ่อย ๆ ทำให้ต่อเนื่องกัน แล้วรักษาอารมณ์ใจอย่างนั้นเอาไว้ ไม่ใช่ทำเสร็จแล้วก็มาเสวยผลจนกระทั่งหมด พอหมดแล้วกิเลสก็ตีเราหงายท้องต่อไปอีก

เถรี 05-07-2016 00:28

ถาม : การที่ทำตัวเหมือนเด็ก เพื่อให้ผู้ใหญ่เอ็นดู ทั้ง ๆ ที่ก็โตแล้ว เป็นลักษณะของโมหะใช่หรือไม่ ต้องแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : โมหะมีมาตั้งแต่ก่อนเกิดแล้ว...! ทำไปเถอะ...อย่างน้อยก็ดีกว่าทำให้คนเกลียด

เถรี 05-07-2016 00:31

ถาม : นอกจากการปฏิบัติตัวเป็นคนดีของบ้านเมืองและพุทธศาสนา และร่วมกันสวดบทโพชฌังคปริตร และร่วมกันอุทิศบุญใหญ่ต่าง ๆ เพื่อเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงของเราแล้ว ประชาชนชาวไทยสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ เพื่อช่วยให้ในหลวงได้รับพลังมากขึ้น มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น และมีพระชนมายุยิ่งยืนนานขึ้นอย่างมีความสุขมาก ๆ ครับ ?
ตอบ : สร้างสมาบัติแปดให้เกิดแล้วก็ไปช่วยท่าน...!

ถาม : การร่วมลงนามถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราช หรือสถานที่ต่าง ๆ ถ้าจะทำให้ได้ผลต่อในหลวงสูงสุด เราควรตั้งจิตและเขียนอย่างไรจึงจะได้ผลดีที่สุดต่อในหลวงครับ ? ขอเรียนถามเป็นความรู้เพิ่มเติมครับ
ตอบ : เขียนยันต์รักษาโรค...!

เถรี 05-07-2016 00:34

ถาม : หากแฟนของหนูซึ่งเป็นผัวเมียกันแล้ว วางแผนอนาคตร่วมกัน ผู้ชายได้ตั้งใจทำงานในช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา เก็บเงินแต่งงาน เพื่อทำให้ถูกตามประเพณี และให้เกียรติพ่อแม่ของหนู ต่อมาฝ่ายชายเครียดเรื่องงาน เรื่องเงิน เพราะไม่สามารถทำได้อย่างที่เขาคิดไว้ จึงตัดสินใจว่าจะบวช และบอกว่าจะบวชไม่สึก ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกันเลย แต่คิดว่าชีวิตนี้ไร้แก่นสาร มีแต่ความทุกข์ หนูควรจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดีเจ้าคะ ?
ตอบ : หาผัวใหม่...!

ถาม : หนูควรรอให้สามีของหนู บวชไปก่อนให้เขาสบายใจ แล้วค่อยไปคุยกับเขาใหม่จะดีไหมเจ้าคะ ?
ตอบ : สงสัยชาตินี้ไม่มีโอกาสแน่..!

เถรี 05-07-2016 00:38

ถาม : การที่เราไปกราบพระพุทธรูปและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามวัดต่าง ๆ ทั้งที่มีพระธาตุเจดีย์ตั้งอยู่หรือวัดที่ไม่มีก็ตาม คนเดินทางไปกราบไหว้เพื่อบูชาคุณพระพุทธ บูชาคุณพระธรรม บูชาคุณพระสงฆ์ วัดส่วนใหญ่ก็จะมีดอกไม้ ธูป เทียน คอยให้บริการ และให้ทำบุญ ซึ่งจะแตกต่างจากสมัยโบราณ ที่ผู้จะไปทำบุญต้องเตรียมไปจากบ้าน

ข้อสงสัยของผมคือ ดอกไม้ที่เป็นอามิสบูชา ที่ได้บูชา อธิษฐานขอพรพระ และได้ถวายพระไปแล้วนั้น ถูกเวียนกลับมาใช้อีก คนที่รับดอกไม้ไปบูชาพระต่อ (หลายคนถัดจากคนแรก) จะเป็นโทษไหมครับ ? เพราะถือว่าคนแรกได้ถวายบูชาไปแล้ว
ตอบ : เขาใช้คำว่าผาติกรรม คือแลกเปลี่ยนกัน ก็ในเมื่อแลกเปลี่ยนกันตามกติกาก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเรา

สมัยก่อนที่จัดหาไปเองเพราะวัดวาอารามไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้ สมัยนี้เพื่ออำนวยความสะดวกท่านจัดเตรียมเอาไว้ ดังนั้น...ในส่วนนี้ไม่ควรจะไปคิดหานรกใส่ตัวเอง เรื่องดี ๆ ก็คิดจนเสียได้เหมือนกัน

เถรี 05-07-2016 00:40

ถาม : การปล่อยปลาในสถานที่ ที่เป็นแม่น้ำไหลผ่านซึ่งมีคนมาจับปลาต่อ กับเขตอภัยทานซึ่งไม่มีคนมาจับปลาต่อ แตกต่างกันหรือไม่ครับ ? อันไหนเหมาะสมหรือดีกว่าครับผม
ตอบ : แค่นี้ตัดสินใจไม่ได้ก็ไปตายซะ...!

เถรี 05-07-2016 00:40

ถาม : ความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นในจิต เช่น ความอาลัย ความคิดถึง ความผูกพัน แบบนี้ถือว่าเป็นจิตกำหนัดไหมครับ ?
ตอบ : จิตกำหนัด หมายถึง มีอารมณ์ทางเพศ

เถรี 05-07-2016 00:42

ถาม : เมื่อก่อนผมเคยบวชวัดหนึ่ง ตอนนั้นผมไปสั่งน้ำอัดลม ๑ ขวด ราคา ๑๒ บาท เนื่องจากว่าคนขายทอนเงินช้า มัวแต่วุ่นกับธุระอย่างอื่นอยู่ ผมเกิดความรำคาญเลยเดินหนีมา ไม่จ่ายเงินค่าน้ำอัดลมนั้น ไม่ทราบว่าผมโดนอาบัติปาราชิกข้อลักทรัพย์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : โดนไปเต็ม ๆ อย่างรำคาญ

ถาม : ไปจ่ายเงินคืนจะหายไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มีประโยชน์เพราะขาดไปแล้ว

เถรี 05-07-2016 00:42

ถาม : การโอนเงินเข้าบัญชีวัดท่าขนุนโดยมิได้ระบุว่าใช้เพื่อการอันใด ถือว่าเป็นสังฆทานหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ที่วัดต่ำสุดจะใช้เป็นสังฆทาน

เถรี 05-07-2016 00:47

ถาม : พระขุนแผนของสำนักฆราวาส ที่มีการบรรยายถึงส่วนผสมของมวลสาร ผง ว่าน น้ำมัน ราก ดอก ใบของพืช ตลอดจนการลงอักขระ คาถา และรูปภาพในเชิงสังวาส พร้อมกับสรรพคุณในลักษณะทำให้คนรักคนหลง เรียกจิตผูกจิตเพศตรงข้าม ให้หลงหมกมุ่นอยู่กับกาม อยู่กับตน ของเหล่านี้มีอิทธิคุณจริงและมากน้อยเพียงใด ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับคนทำ ถ้าคนทำมีความสามารถจริงก็เกิดอิทธิคุณจริง ๆ

ถาม : เพราะอะไรครับ ?
ตอบ : ก็เพราะเขามีความสามารถพอ

ถาม : หากเราไม่ต้องการให้ลูกหลานของเรา ตกอยู่ในสภาพที่ถูกผู้ที่มีของเหล่านี้ กระทำเพื่อผลดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว เด็ก ๆ หรือลูกหลานของเราควรทำอย่างไร ?
ตอบ : ไปรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุนวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ นี้

เถรี 05-07-2016 00:52

ถาม : มีกรณีที่พระกล่าวโทษฆราวาสให้เสียหาย โดนที่พระรูปนั้นไม่มีหลักฐานว่าฆราวาสผิด แต่ทางฆราวาสนั้นมีหลักฐานว่าทางพระองค์นั้นผิด กรณีตัวอย่างพระรูปนั้นพูด "ว่าไม่แหกตาดูหรือไร ?" คำพูดนี้สุดท้ายพระรูปนั้นมาดูทีหลังก็รู้ว่าฝั่งตัวเองเป็นคนผิด แต่ได้กล่าวโทษฆราวาสนั้นออกมาก่อนแล้ว แบบนี้มีความผิดหรือไม่ประการใดครับ ?
ตอบ : ถ้าปรับอาบัติพระก็เป็นข้อทุพภาสิต ก็คือกล่าววาจาที่ไม่สมควร เป็นอาบัติที่เล็กที่สุดในโลกที่จะพึงมีพระวินัยของสงฆ์ ต้องบอกว่าเล็กกว่าจับเงินอีก

เถรี 05-07-2016 00:53

ถาม : ขอความกรุณาหลวงพ่อช่วยแนะนำวิธีการที่ถูกต้องในการนำเอาวัตถุมงคล ทั้งที่เป็นพระพุทธรูป เทวรูป และเครื่องรางของขลัง เข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าขนุน ในวันที่ ๙ กรกฎาคมนี้ เพื่อให้เกิดสิริมงคลสูงสุดแก่วัตถุมงคลเหล่านั้น และแก่ผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีด้วยครับ ?
ตอบ : แบกขึ้นไปไว้บนพระเจดีย์วัดท่าขนุน...!

เถรี 05-07-2016 01:03

ถาม : ลูกนั่งสมาธิช่วงเช้า พอจะออกจากห้องพระ ลูกมักสังเกตเห็นเทวดาองค์หนึ่งชัดเจนมาก ท่านสวมเครื่องทรงเป็นเพชร สวมชฎาในมือถือดาบ เทวดาองค์นี้ลูกเห็นประจำ ครั้งหนึ่งตอนที่ลูกเคยไปกราบเรียนหลวงพ่อเรื่องของวิธีหนีการเป็นร่างทรง พอกลับจากหลวงพ่อ ลูกก็เข้าวัดสร้างความเพียรอย่างหนัก วันหนึ่งขณะเดินจงกรมแก้ความกลัว เห็นเทวดาองค์นี้ลอยลงมาพุ่งชนลูก ลูกมีอาการเหมือนถูกชนอย่างรุนแรง ไปนั่งสมาธิก็เห็นท่านมาพุ่งชนลูกอีก หลังจากนั้นก็เห็นเทวดาองค์นี้เป็นประจำ จึงขอกราบเรียนถามหลวงพ่อ ลูกควรจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ควรบูชาท่านอย่างไรจึงจะเหมาะควร ?
ตอบ : อันดับแรกขอ ID Line ของท่านให้ได้ก่อน แล้วส่งข้อความไปถามท่านว่ามาด้วยธุระอะไร ? ถ้าหากท่านไม่เลิกชนก็ติดกันชนไว้ด้วย...! เจอกันนานเนกาเลขนาดนั้นก็ถามท่านสิ ว่าทำอะไรควรเหมาะสำหรับท่าน เดี๋ยวท่านก็บอกเอง

ถาม : หลายวันก่อน ลูกได้ทราบว่า ญาติธรรมเข้ารับการผ่าฝีครั้งที่ ๑๐ เมื่อทราบเช่นนี้ พลันมีภาพพระและหลวงพ่อผุดขึ้น บอกวิธีแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องของการขอขมาพระ และขอขมากรรม และการแนะนำให้สร้างบุญกุศล ลูกได้เห็นดังนั้นจึงทบทวนสิ่งหลวงพ่อสอน ว่าถ้าใครไม่ล้มทับเท้าหลวงพ่อ หลวงพ่อจะไม่ยุ่งเรื่องกรรมของใคร ลูกตัดสินใจเงียบ แต่ในช่องอกของลูกมีอาการเหมือนมีพัดลมหมุนอย่างรุนแรงจนลูกจะเป็นลมและ อาเจียน จึงได้บอกวิธีเขาไป อาการดังกล่าวก็พลันหาย ลูกมักมีอาการแบบนี้เสมอ ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนะวิธีต่อต้านพัดลมในอกที่ทำให้ลูกต้องเกี่ยวข้องกับกรรม ของผู้อื่นด้วยเจ้าค่ะ ?
ตอบ : ปิดสวิทช์...! คนบางประเภทจำเป็นต้องยุ่งเพราะเป็นหน้าที่ตัวเอง ฝืนไม่ได้ ลองดื้อดูก็ได้ว่าไหวไหม ? ถ้าไม่ไหวก็ยอมทำให้เขาเสียแต่โดยดี

เถรี 05-07-2016 01:09

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของคำถามที่เมื่อครู่ใช้คำพูดของลุงเท่งว่า "กูจำเป็นต้องรู้ด้วยหรือวะ ?" เพราะบางท่านเจตนาในการถามคำถามมีน้อย แต่เจตนาที่จะอวดผลการปฏิบัติของตัวเองมีมาก ก็เล่าไปเรื่อยเปื่อยจนออกทะเล บางทีก็ลืมไปว่าตนเองจะถามเรื่องอะไร ซึ่งถ้าถามว่าสมควรที่จะเล่าถึงขนาดนั้นไหม ? ก็ไม่จำเป็น แต่ขณะเดียวกันก็โดนกิเลสดันปากให้พูดออกมา ถือเป็นเครื่องวัดกำลังใจได้ว่า กำลังใจของเรายังต่ำมาก กิเลสสามารถจูงจมูกได้อยู่ จึงต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้"

เถรี 05-07-2016 01:20

"เมื่อครู่มีคำถามว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยในหลวงได้มากกว่านี้ ถ้าจะช่วยจริง ๆ พอวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ ก็ไปลงประชามติ จะได้มีการเลือกตั้งเสียที นี่เป็นครั้งแรกที่กล่าวสนับสนุนรัฐบาลนี้ เพราะฉะนั้น...จงเอาหน่วยทหารออกจากวัดท่าขนุนได้แล้ว...! ส่งไปก็คุมเจ้าอาวาสไม่อยู่ แล้วจะส่งไปทำไมให้เปลืองเงิน...?

มีใครไปวัดท่าขนุนแล้วเจอบ้างไหม ? สรุปก็คือ พวกเราเข้าไปไหว้พระที่ศาลาตีนเขาไม่ได้ อาตมายังแกล้ง ๆ บอกพวกลูกศิษย์วัดสาว ๆ ว่า ถึงเวลาให้พรวดพราดเข้าไปสัก ๔-๕ คน บอกว่าหนูจะมาไหว้พระ ดูว่าเขาจะกระโดดออกมาไหม ? เพราะเขาเอาตาข่ายพรางคลุมรอบศาลาเลย อาตมาก็ยังงง ๆ ว่าเขาตั้งกองบัญชาการลักษณะนี้ได้อย่างไร ? กลายเป็นชี้เป้าไปหรือเปล่า ?

แบบเดียวกับที่สามจังหวัดภาคใต้ จะมีการตั้งด่านและเอาเครื่องกีดขวางมาวางเพื่อให้รถไปช้า ๆ ถ้าเป็นอาตมาพวกทหารตายยับเยินแน่นอน ถึงเวลาขับรถกระบะมา ให้พรรคพวกนอนอยู่ข้างหลังสักสามคน วิ่งมาถึงเขากำลังเผลอก็ขว้างระเบิดและกราดยิง แล้วก็วิ่งต่อไป ซึ่งทหารจะไม่ผิดสังเกต เพราะรถทุกคันมาต้องชะลออยู่แล้ว แต่ถ้าเราปล่อยรถไปได้ตามปกติ ไม่ไปสร้างสิ่งกีดขวางไว้ รถคันไหนจะก่อเหตุ มาถึงต้องชะลอ เราจะผิดสังเกตและระวังตัวได้ทัน

สรุปว่าไปทำอะไรโง่ ๆ เปิดโอกาสให้เขาเล่นงานได้ตลอด แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองโง่..!"

เถรี 05-07-2016 15:05

"ช่วงนี้ทางต่างประเทศมีการก่อการร้ายกันหนักมือขึ้น บ้านเราถ้ามัวแต่มาไล่จับบุคคลที่เห็นต่างกับตนเองอยู่ ระวังว่าถ้าเขาก่อเหตุแล้วจะป้องกันไม่ทัน ถ้าเราสามารถทุ่มเททรัพยากร ในการติดตามผู้ก่อการร้ายที่จะเข้ามาในประเทศของเราได้ เหมือนกับทุ่มเททรัพยากรในการสืบข่าวเก็บข่าวจากฝ่ายตรงข้าม อาตมายืนยันว่าต่อให้สุดยอดผู้ก่อการร้ายก็ทำอะไรบ้านเราไม่ได้ ต้องบอกว่าเรื่องฉลาด ๆ ไม่ทำ แต่เรื่องโง่ ๆ ขยันกันนัก...!

ในการปกครองประเทศเราต้องดูตัวอย่างในหลวง พระองค์ท่านเอาปากท้องประชาชนเป็นใหญ่ โครงการพระราชดำริทุกโครงการเป็นไปเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนทั้งนั้น ทุกรัฐบาลก็เห็นอยู่ ก็แค่เอาแนวพระราชดำริมาปฏิบัติให้เกิดผลเท่านั้นเอง

เราไม่สามารถที่จะบังคับให้คนทุกคนเห็นเหมือนกับเรา คิดเหมือนกับเราได้ เพราะความต่างของสภาพจิต ตลอดจนกระทั่งประสบการณ์ และในสิ่งที่ตนเองโดนกระทำมา ย่อมทำให้คนคิดต่างกันได้ แต่ถ้ายึดถือตามกฎเกณฑ์กติกา ถึงเวลาเลือกตั้งกันใหม่ ถ้าหากอีกฝ่ายหนึ่งมีคนเห็นด้วยจำนวนมาก เขาชนะเข้าไปปกครอง เรื่องก็จบ

เพียงแต่ปัจจุบันนี้เราฉีกกฎเกณฑ์กติกาทิ้ง แล้วมาตั้งกฎเกณฑ์กติกาเองเสียใหม่ โดยอ้างว่าในขณะนี้ไม่ใช่ระยะเวลาปกติ ก็ที่ไม่ปกติเพราะคุณไปทำให้ไม่ปกติ แทนที่จะปล่อยให้เป็นปกติไว ๆ กลับพยายามที่จะอยู่ต่อไปเพื่อให้
ไม่ปกติยิ่ง ๆ ขึ้น ฟังแล้วเพลียจิต...!"

เถรี 05-07-2016 15:12

"วันก่อนเด็กวัดที่มาเรียนหนังสือ บอกว่าข้าวแกงจานละ ๔๕ บาท ตักไม่กี่ทีก็หมดแล้ว อาตมาจำได้ว่าเคยบอกไว้หลายปีแล้วว่า ถ้าบ้านเราข้าวแกงจานละ ๑๐๐ บาท ก็ไม่ใช่ของแปลก ตอนนี้เริ่มมีแล้วนะ แพงกว่าร้อยด้วย โดยเฉพาะในสโมสรทหารบกขายก่อนเพื่อน จานละ ๑๕๐ บาท แสดงว่าเขาต้องมั่นใจว่าชาวบ้านอยู่ดีกินดี มีเงินไปซื้อกินแน่นอน..!"

เถรี 05-07-2016 15:13

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมระวังเรื่องของน้ำไว้บ้างนะ ปีนี้ "น้องน้ำ" คิดถึงมาก รับรองว่ามาเยี่ยมแน่นอนโดยเฉพาะปักษ์ใต้"

เถรี 05-07-2016 15:18

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีหลายคนถามอาตมา โดยเฉพาะเพื่อนพระด้วยกัน ว่ามานั่งอยู่ตรงนี้เบื่อไหม ? ต้องบอกว่าเกินเบื่อไปแล้ว เกินเบื่อนี่ก็คือเคยชินจนตายด้านไปแล้ว ในเมื่อเป็นหน้าที่ก็ทำไปเรื่อย หมดหน้าที่เมื่อไรก็เลิก

เมื่อครู่ตอนเลิกจากที่นี่ขึ้นไปที่พัก เดินขึ้นบันไดไปก็บ่นไป เพราะชักจะขึ้นบันไดไม่ไหว ตั้งใจว่าถ้าอายุ ๖๐ แล้วจะอยู่วัด ใครอยากเจอก็ไปหาที่วัดก็แล้วกัน แล้วก็มีผู้คัดค้านว่าเป็นไปไม่ได้แน่"

เถรี 05-07-2016 15:20

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่ขึ้นไปก็คิดว่าจะควักวัตถุมงคลในตลับสีผึ้งลงมาให้เขาลงจำหน่ายในเว็บ แต่ดันลืม เอาไว้พอเขาเอาลงแล้วไปประมูลกันเอง ที่อยากจะควักออกมาเพราะตอนนี้วัตถุมงคลชักจะเยอะกว่าสีผึ้งแล้ว"

เถรี 05-07-2016 15:41

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ นี้ หากใครไม่ได้ไปวัด จะตั้งใจอธิษฐานรับยันต์ที่บ้านของตนเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดถ่ายทอดสด ให้ใช้ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม นั่งภาวนาตรงเวลาสัก ๓๐ นาที ถ้ารอบเช้าก็ ๑๐.๐๐ น. - ๑๐.๓๐ น. ถ้ารอบบ่ายก็ ๑๓.๐๐ น. - ๑๓.๓๐ น. เป็นต้น ภาวนาพุทโธง่าย ๆ ก็แล้วกัน หรือถ้าใครรู้สึกว่าสั้นไป จะใช้ อิติปิ โสฯ ทั้งบทก็เอา ตั้งใจว่าบารมีที่พระท่านสงเคราะห์มา เราขอรับทั้งหมด

แต่ท่านทั้งหลายที่ทำแบบนี้แล้วได้ผล แทนที่จะอยู่บ้านแล้วทำต่อไป ครั้งต่อไปก็มักจะวิ่งไปวัดอีก อาตมาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันในเมื่ออยู่บ้านก็รับได้ แต่กลับอยากจะไปรับที่วัด คงอยากจะไปกินบรรยากาศว่าโดนเขาเหยียบจะเป็นอย่างไร อุตส่าห์สร้างศาลาใหม่เสียใหญ่เบ้อเร่อ ไม่พอใช้อีกแล้ว"


เถรี 05-07-2016 16:42

พระอาจารย์กล่าวว่า "เทียนพรรษาวัดท่าขนุนระยะหลังนี้ไม่พอใช้งาน เพราะเอาไปใช้ผิดประเภท ถึงเวลาก็สับเป็นท่อน ๆ หล่อทำผางประทีปหมด หล่อผางประทีปแต่ละครั้งใช้ประมาณตันเศษ ๆ ที่ญาติโยมถวายมา ขอยืนยันว่าใช้หมดเกลี้ยง ไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งด้ายไส้เทียน เพราะว่าด้ายไส้เทียนเวลาหลอมแล้วเอาไปทำเชื้อเพลิงได้ดีมาก

ตอนนี้ก็มีท่านอ๊อด (พระพีระวิทย์ ชิตมาโร) เป็นหัวแรงใหญ่ ทำเตาหลอมเทียน แล้วก็มีทิดสึกใหม่รุ่นนี้อาสาว่าจะทำเตาหลอมเทียนให้ หลอมได้ทีละเป็น ๑๐๐ กิโลกรัม แล้วก็บอกว่าทำให้หลายวัดมาแล้ว อาตมาก็ยังงง ๆ เพราะยังไม่ได้ยินว่ามีวัดไหนหลอมเทียนเพื่อทำผางประทีป แต่ยังไม่ได้ยินจากไอ้ทิดด้วยตนเองก็เลยไม่ได้ซักถาม"

เถรี 05-07-2016 16:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์ ๕ นอกจากพุทธาภิเษกพระขุนแผนเกราะเพชรแล้ว อาตมายังทำเหรียญพุทธบารมีรุ่น ๒ เป็นเหรียญเล็ก เหรียญรุ่นแรกใหญ่บางคนบ่นว่าหนัก แต่เสี่ยตือบอกว่าเล็กไป แสดงว่าการสร้างเหรียญต้องดูน้ำหนักคนแขวนด้วย คนแขวนตัวใหญ่ยังบ่นว่ารุ่นเก่าเล็กไป ส่วนคนแขวนตัวเล็กบ่นว่ารุ่นเก่าใหญ่ไป ก็เลยทำรุ่นใหม่ โตประมาณเหรียญสิบบาท น้ำหนัก ๑ บาทถ้วน

เหตุที่น้ำหนัก ๑ บาทถ้วน เพราะว่าด้านหลังมียันต์มหาสะท้อน ถ้าเป็นทองคำหรือเงินไม่ถึง ๑ บาท เดี๋ยวจะไม่มีผลตามที่ครูบาอาจารย์ท่านกำชับเอาไว้ สร้างแค่ไม่กี่เหรียญ สร้างเอาดังเฉย ๆ ถึงเวลาก็ไปแย่งกันเองก็แล้วกัน กะว่าจะไม่เปิดจองในเว็บ จะให้ไปหัวทิ่มกันที่วัด

พระขุนแผนเกราะเพชรรุ่นนี้ตั้งใจทำจริง ๆ เพราะว่าเมืองกาญจน์เป็นบ้านขุนแผน ต้องบอกว่าไม่ใช่บ้านเกิดก็เป็นบ้านญาติ ไม่ใช่บ้านญาติก็เป็นบ้านที่ท่านไปครองเมืองอยู่ แล้วลูกหลานก็เป็นเจ้าเมืองต่อเนื่องกันมา อาราธนาท่านไว้แล้ว คาถาตอนปลุกเสกก็ได้มาแล้ว ถึงเวลามีหน้าที่รอว่าท่านจะให้ทำอะไรเท่านั้น"

เถรี 05-07-2016 16:50

พระอาจารย์เล่าว่า "ปีนี้พระและฆราวาสของวัดท่าขนุนเรียนปริญญาโทเพิ่มอีก ๖ รูป/คน เป็นการเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องไปผจญภัยกันเอง คำว่าผจญภัยกันเองก็คือ เรื่องที่พักจะลำบากนิดหนึ่ง เพราะว่าที่วัดศรีสุดารามที่พักเต็ม ไปขอเจ้าหน้าที่แล้ว เขาบอกว่าอนุญาตให้นอนในห้องเรียนได้

แต่คราวนี้นางสาวภัทรวรรณเธอเป็นผู้หญิง จะไปนอนห้องเรียนกับพระก็ไม่ได้ ท้ายสุดก็เลยไปขอที่นอนที่วัดไร่ขิง ถึงเวลาก็นั่งรถเมล์จากวัดไร่ขิงเข้าไปเรียนที่วัดศรีสุดาราม

บางทีเห็นเด็กวัดหรือพระภิกษุสามเณรเขาเรียนหนังสือแล้ว ตั้งใจเรียนกันมาก เพราะว่าทุกคนอยากเรียน พยายามดิ้นรนจนมีโอกาสได้เรียน ในขณะเดียวกันลูกชาวบ้านทั่ว ๆ ไป พ่อแม่ทุ่มเทชนิดทูนหัวทูนเกล้าให้ กลับไม่ค่อยอยากจะเรียน ต้องบอกว่าน่าตายมาก...!"

เถรี 05-07-2016 16:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันแม่ปีนี้ขาดหลวงพ่อยิ้มไปหนึ่งองค์ หลวงพ่อยิ้ม วัดบ้านไร่ ปีนี้ไปสมัครเป็นนักเรียน ป.บส. อาทิตย์ที่ ๑ อาตมาไม่เจอหน้าก็บ่นเอาไว้ อาทิตย์ที่ ๒ ไม่โผล่มาอีกก็เลยด่าเลย “เห็นว่าอาจารย์เป็นเพื่อนหรืออย่างไรวะ ? ถึงไม่มาเรียน” ปรากฏว่าเพื่อนนักเรียนบอกว่า “อาจารย์ยิ้มตาย เผาไปแล้วครับ” อาตมาก็คาดว่าคงจะไปดี ถึงได้มัวแต่เพลิดเพลินเจริญใจอยู่ แม้กระทั่งเพื่อนฝูงก็ไม่มาบอกมากล่าว

ผิดกับวันก่อน น้องเล็กวิ่งรถกลับวัด มีหมาวิ่งตัดหน้ากะทันหัน เสียงดังกร๊อบ..! แหง็ก..! แล้วก็ยื่นหน้ามาเสนอหน้าว่าตายไปแล้ว แสดงว่าหมาดีกว่าอาจารย์ยิ้มหน่อยหนึ่ง พอตายปุ๊บก็มารายงานตัวปั๊บ...!"

เถรี 05-07-2016 16:56

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาร่างกายไม่ค่อยดี ต้องฉันยาฟื้นฟูใหม่ ปีนี้อายุเข้า ๕๘ ปีแล้ว ปรากฏว่าคูณธาตุออกมา ธาตุไฟเหลือศูนย์ หมดสิทธิ์มีเมียโดยเด็ดขาดและสิ้นเชิง ไม่มีธาตุไฟก็คึกไม่ไหว ยางวดนี้ที่หมอให้มาเผ็ดกระโดดเลย มีพริกไทย มีดีปลี มีสะค้าน มีกานพลู ฯลฯ ประเภทถ้าคนทั่วไปกินลงไปแล้วอาจจะร้อนในตาแดง หรือไม่ก็เลือดกำเดาไหล แต่คนแก่ฉันลงไปแล้วก็ยังเฉย ๆ อยู่

ธาตุดินเหลือ ๒ ส่วน ธาตุไฟเหลือศูนย์ ก็ดีเหมือนกัน ถ้าไม่ตายสักทีก็ทนอยู่ไปเรื่อย ไปนึกถึงอาจารย์มหาทรงกลด (พระมหาทรงกลด กุสลจิตฺโต) วัดกลางบางแก้ว ป่วยเป็นมะเร็งตับ ความจริงก็บวชพรรษาเดียวกัน แต่ท่านแก่กว่า ๒ เดือน เพียงแต่ว่าอายุท่านแซงหน้าไป ๘ ปี ไปวัดท่าขนุน บอกว่าขอมาฝากผีฝากไข้ด้วย ก็คือตั้งใจไปตาย ตอนนี้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก อาตมาก็พิจารณาแล้วว่า แม้ว่าเมรุวัดท่าขนุนยังไม่เสร็จดี แต่ว่าเตาเผาเรียบร้อยแล้ว อาจจะได้ทดสอบคุณภาพเร็ว ๆ นี้...!"

เถรี 05-07-2016 16:59

"วันก่อนช่างเทคนิคมาแนะนำวิธีการใช้เตาเผาปลอดมลพิษ มีทั้งหมด ๑๒ ขั้นตอน ถ้ารวมตั้งแต่ยกคัตเอาต์ สับสวิทช์ก็ ๑๔ ขั้นตอน พอแนะนำเสร็จ อาตมาก็ลองเป็นคนแรก ทวนทำตามขั้นตอนให้ดู ช่างก็ชมว่าพระอาจารย์จำแม่นมากเลยครับ บอกครั้งเดียวก็ทำได้เลย ใคร ๆ เขาก็บอกตูครั้งเดียวตลอด ไม่เห็นเขาบอกซ้ำสักที...!

ตอนนี้ในส่วนที่ยากของเมรุก็คือ เรื่องของลายไทยและยอดเมรุ ยอดเมรุตามที่ช่างออกแบบมาจะเป็นฉัตร ๙ ชั้น แต่ช่างที่ทำฉัตรบอกว่า ในเรื่องของฉัตรนั้นโดยปกติแล้วเป็นเครื่องราชูปโภค ควรเปลี่ยนแบบเสียดีกว่า อาตมาก็เฉลียวใจคิดตอนเขาทักนี่แหละ ตอนก่อนหน้านั้นก็ลืมไป จึงตกลงเปลี่ยนเป็นยอดพุ่มข้าวบิณฑ์แทน

ส่วนในเรื่องของลาย ช่างก็กำลังปั้นลายอยู่ แล้วก็บอกว่าให้รีบทำหน้าบันเพื่อติดลายก่อน เพราะว่าช่างปูนมัวแต่ทำงานส่วนอื่น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ออกพรรษาน่าจะเรียบร้อยใช้งานได้ ตอนนี้กำลังรอประเดิม ช่างเทคนิคเขาบอกว่า
จะนัดวันเผาต้นกล้วยให้ดู ก็คือต้นกล้วยจะมีน้ำมากคล้าย ๆ กับร่างกายคน ลองเผาเพื่อจับเวลา แล้วก็ตรวจสอบว่าใช้น้ำมันเท่าไร แต่อาตมาอยากได้เผาจริงมากกว่า กำลังรอท่านอาจารย์มหาทรงกลดว่าจะตัดใจสิ้นลมวันไหน...!"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:51


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว