กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=57)
-   -   มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3679)

คิมหันต์ 26-02-2013 21:54

มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๘
 
ไข้จับหนักเสียแล้วซิเรา ลุกขึ้นครองผ้า จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย กราบขอบารมีพระโปรดเมตตาสงเคราะห์ในการบวงสรวงวันนี้ จากนั้นนั่งภาวนาจนรู้สึกว่าทั้งโบสถ์สว่างไสวเหมือนพระอาทิตย์ยามเที่ยง พอถอนจิตออกมา ปรากฏว่าอาการไข้หายไปเกือบเหมือนปกติ..!

ตอนฉันเช้าอาตมาถูกครูบาอินพานดันหลังไปเข้าวงของพระเถระ พระผู้ใหญ่ทุกรูปให้ความเมตตาเป็นพิเศษ โอภาปราศรัยด้วยไมตรีจิตอันดียิ่ง หลายรูปพูดไทยชัดมาก ส่วนใหญ่เว้าลาวได้คักขนาด..!

เสร็จจากอาหารเช้า อาตมาตั้งโต๊ะบวงสรวงหน้าโบสถ์ ประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านทราบถึงพิธีกรรม แล้วบวงสรวงขอบารมีพระ ตลอดถึงพรหม เทวดาทั้งหมด ช่วยสงเคราะห์ให้ความสะดวก ขอให้สร้างวัดหนองบัวเสร็จในสามปีด้วยเถิด

หลังพรมน้ำมนต์ให้ทุกคนแล้ว ญาติโยมแห่กันเอาเงินเอาทองมาใส่ขัน เงินเอาไว้สร้างวัด ทองไว้บรรจุในหลุมศิลาฤกษ์ ทุกคนสบายอกสบายใจที่เห็นมีพิธีกรรมที่ถูกต้องตามความเชื่อถือ ทำให้เกิดศรัทธามากขึ้น

คิมหันต์ 26-02-2013 21:56

แปดโมงสามสิบนาที อาตมากำลังนั่งส้วมอยู่ เสียงเรียก “อูตุ๊ดัมมะ สะยาดอ (ท่านอาจารย์สุธัมมะ)” ออกลำโพงดังลั่น เผ่นออกมาชนิดเกือบไม่ทันล้างก้น ตายละวา...พิธีวางศิลาฤกษ์กำลังเริ่ม ครูบาอาจารย์สำคัญ ๆ ประจำทิศกันหมดแล้ว..!

อาตมาถูกบังคับให้ประจำหลุมกลางในฐานะเจ้าภาพ แม้จะรู้สึกว่าเกินไป แต่ครูบาอาจารย์ทุกท่านพยักหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สองคนกับครูบาน้อยจำกัดฟันรับหน้าที่สำคัญที่สุดในงานไปอย่างจำใจ ต้องเก่งเพราะถูกสถานการณ์บังคับ..!

พระสงฆ์ชยันโตพร้อมกับการโปรยข้าวตอกดอกไม้ อาตมาถือพานข้าวตอกดอกไม้ไปถวายพระเถระทีละทิศ เป็นการขอขมาไปในตัว แต่ทุกรูปหาได้ถือเนื้อถือตัวไม่ ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติ ทำให้โล่งใจไปเป็นกอง

นายช่างก่ออิฐปิดทับเงินทองที่ชาวบ้านบรรจุเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาตมากับครูบาน้อยโกยดินกลบ ทีนี้ชาวบ้านเฮละโลกันเข้ามาช่วย ต่างคนต่างกอบโกยส่วนบุญของตน พักเดียวทุกอย่างก็เรียบร้อยเหมือนเนรมิต

คิมหันต์ 26-02-2013 21:59

สิบโมงพระเจริญพระพุทธมนต์แล้วฉันเพล คราวนี้อาตมาถูกลากมาเป็น “หัวหมา” อยู่วงพระหนุ่มเณรน้อย ดีตรงที่จะฉันหรือไม่ฉันอย่างไรก็ได้ อยู่วงพระผู้ใหญ่ท่านส่งอะไรมาให้ก็ต้องฉันทั้งนั้น บางอย่างฉันเข้าไปแล้วอาการป่วยกำเริบปางตายเลยก็มี..!

ไอ้ร่างกายระยำนี่คบไม่ได้ พองานเสร็จก็หงิกรับประทาน กว่าจะใช้กำลังใจเยียวยามันขึ้นมาได้ พระผู้ใหญ่ก็กลับกันหมดแล้ว มีแต่ครูบาเอ วัดป่าหวาย ที่เป็นรุ่นพี่ กับ หลวงตาพลอย วัดป่าดอก ที่เป็นรุ่นน้องครูบาน้อยเท่านั้น ที่ได้ร่ำลากันอย่างสนิทสนม

จัดการซักผ้าและปลงผม เพื่อเตรียมตัวเดินทางพรุ่งนี้ ปรึกษางานกับครูบาน้อย วางแผนเสียดิบดีว่าจะจ่ายเงินอย่างไรระหว่างที่เราไม่อยู่ งานถึงจะเดินไปด้วยดี แผนมาพังไม่เป็นท่าตรงที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ธนาคารเขาปิด ฮ่วย..!

แวะไปเยี่ยมแม่ออกจี (โยมแม่ท่านนาวิน) ซึ่งป่วยเป็นโรคหืดมาสามปีแล้ว เลยต้องกลับมาทำน้ำมนต์รักษาโรคให้ ของจากที่บวงสรวงตอนเช้าหมดเรียบวุธ ตอนนี้ทั้งวัดเหลือแต่อาตมา ครูบาน้อย ท่านสุโภคะ ท่านญาณะ ท่านจันทะ ท่านซานดอ และเณรโซ จึงต้องกลับเข้าระเบียบด้วยการทำวัตรเย็นใหม่

คิมหันต์ 26-02-2013 22:06

หนาวจนหายใจเป็นควัน ญาติโยมนิมนต์ทำบุญฉลองพระอุปคุตส่งท้าย แล้วพากันควักเงินสมทบค่าเดินทางไปไหว้พระของอาตมา รับพลางแจกล็อกเก็ตพระแก้วมรกตไปพลาง พระหมดไม่รู้ตัว ได้เงินมา ๒๐,๑๕๐ จั๊ต..!

ลงเรือมาขึ้นที่สองแคว จ่ายค่าเรือไปสี่ร้อย เจอรถสองแถวซี้ปึ้กกับครูบาน้อย ให้เขาแหกคิวมาส่งพวกเรา โดยเดินไปดักขึ้นห่างจากท่า ก.ม.เศษ ระหว่างทางบริจาคเงินทำบุญไปหลายด่าน ข้ามเขาเจ็ดโค้งมาถึงเมืองมุด่งสิบโมงครึ่ง

ค่ารถนายช่างทำศาลาที่มาด้วยช่วยจ่ายให้ ประหยัดไปสี่ร้อย ครูบาน้อยพาเข้าร้านอาหารที่เป็นคิวรถไปด่านเจดีย์สามองค์ รอท่านโชติกะลูกศิษย์ท่านอาจารย์ใหญ่ ซึ่งอาสาวิ่งเต้นขอไม้ให้สร้างวัดหนองบัว งานนี้ต้องหยอดน้ำมันกันหลายเงิน เพราะต้องขอตามลำดับ ทั้งทางพระและทางราชการ

สามรูปร่วมกันฉันเพล อาหารเป็นข้าวสวยคนละ ๑ จาน ต้มยำ ๑ ชาม ไข่ดาว ๓ ฟอง น้ำเปล่า ๑ ขวด คิดเป็นเงิน ๔๒๐ จั๊ต จ่ายไป ๕๒๐ จั๊ต เด็กในร้านทอนกลับมา ๘๕ กับบุหรี่ ๒ ตัว บอกว่าไม่มีเศษเงิน ไอ้เวลล์..!

คิมหันต์ 26-02-2013 22:10

ตอนเที่ยงท่านโชติกะนำโยมที่ช่วยเดินเรื่องขอไม้มาพบ นายคนนี้เป็นตำรวจลับของรัฐบาลพม่าชื่อวินหน่อง สำหรับอาตมาไม่ได้นึกกลัวเลย ปล่อยเขาคุยธุระจนเรียบร้อย จากนั้นครูบาน้อยพาไปซื้อตั๋วรถทัวร์ บังเอิญผ่านบ้านนายช่างพอดี จึงแวะเข้าไปฉันน้ำอัดลมฟรีคนละขวด

เดินมาเกือบสองไมล์ถึงบริษัท วาย.เอ็น.ที.เอ๊กซ์เพรส ค่าตั๋วที่นั่งละ ๑,๑๐๐ จั๊ต ออกจากมุด่งบ่ายสามครึ่ง ถึงย่างกุ้งตีห้า..! ไปเกวียนน่าจะเร็วกว่ากระมัง..? เห็นเวลาเพิ่งบ่ายโมง จึงออกมาเรียกสามล้อพม่า (ไซด์การ์) ให้ไปส่งยังบึงกันจีหน่อย

กันจี (บึงใหญ่) นี้ เชื่อกันว่าเป็นบึงพญานาค ห้ามผู้หญิงลงในบึงอย่างเด็ดขาด เขาว่าลงไปแล้วน้ำจะแห้งหมด รอบบึงมีวัดเรียงกันเป็นตับ แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดต้องวัดกันจี เขากำลังบูรณะพระเจดีย์ที่ถูกฟ้าผ่าเมื่อหน้าฝนที่ผ่านมา

บรรดาแก้วแหวนเงินทองที่ชาวบ้านถวายบูชาพระเจดีย์ เขาใส่ไว้ให้ชมในตู้กระจก รอพระเจดีย์บูรณะเรียบร้อยจะบรรจุใหม่ อาตมาบริจาคร่วมบูรณะเจดีย์ไปห้าร้อย แล้วเดินชมรอบบึงที่น้ำลึกจนเขียว พอชมทั่วก็มานั่งรอเวลาอยู่ที่ใต้ต้นโพธิ์

คิมหันต์ 01-03-2013 22:36

ท่านโชติกะตามมามอบที่อยู่ของน้องสาวให้ เธอเป็นแอร์โฮสเตสสายการบิน Mandalay Air มีสิทธิ์ถือดอลลาร์ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องขอบคุณในความเมตตาของท่าน อุตส่าห์ตามมาทั้งที่ไม่ใช่ใกล้ ๆ คนเราบางทีก็ถูกชะตา ช่วยเหลือกันแบบไม่หวังผลเช่นกัน

ไปหาห้องส้วมจัดการธุระส่วนตัว ห้องส้วมของพม่าเหมือนกันหมด จะว่าสกปรกก็เบาไป ต้องใช้คำว่า “โสโครก” จึงพอจะนึกภาพออก

กลับไปท่ารถทัวร์ เจอพ่อตำรวจลับวินหน่องยิ้มร่าอยู่ บอกว่ามารอเจ้านายที่มาตรวจการบูรณะเจดีย์ แกพาไปเลี้ยงน้ำอ้อยคนละแก้ว บอกว่าจะขอตามไปเมืองไทยด้วย เอาซิ..ถ้ามีความสามารถเท่ากับอาตมา..!

นั่งไซด์การ์กลับมารอรถทัวร์ ขาไปมันไม่คิด อาตมาให้ไปห้าสิบ
ตอนนี้คิดคนละยี่จุ๊ ท่านโชติกะขอจ่าย ฮิ..ฮิ.. สิบห้านาทีก่อนเวลารถทัวร์ก็มาถึง ผู้โดยสารหลายคนเหมือนกัน ร่ำลาท่านโชติกะแล้วขึ้นไปทัศนาหน่อยว่า รถทัวร์พม่าที่เพิ่งมาฮิตกันนั้นเป็นฉันใด

คิมหันต์ 01-03-2013 22:38

ปรากฏว่าบริษัทเยานีทุน (แสงแดงฉาย = แสงอรุณ) ไปซื้อรถเก่าญี่ปุ่นมา ไอ้คันนี้ยังติดคำว่าฮาโกเน่อยู่เลย สภาพค่อนข้างโทรม ไม่มีห้องน้ำ แอร์ไม่เย็น กระจกเลื่อนเปิดได้ทุกบาน สรุปว่ารถ ป.๒ ของไทยกินขาด พอรถออกตัวอาตมาต้องคิดหนัก สภาพถนนแบบนี้มันก็นั่งเกวียนดี ๆ นี่เอง เพียงแต่ไม่กินฝุ่นเท่านั้น..!

ก่อนเข้าตัวเมืองมะละแหม่ง ผู้โดยสารทั้งหมดต้องลงเดินเข้าซองแสดงบัตรประจำตัว ใครไม่พกมาเป็นเจอแจ๊กพ็อต อาตมาถือสิทธิ์ที่เป็นพระ ไม่ยอมลงไปเดินกินฝุ่น เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขึ้นมาตรวจเหมือนกัน นับเป็นโชคดีของมันไป..!

รถมาเข้าท่าขนส่งที่ยังสร้างไม่เสร็จ บอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะออก กลายเป็นห้าสิบนาทียังไม่ยอมออก มันกวาดผู้โดยสารแบบเอาให้ได้มากที่สุด ขนาดเขาหอบปลาเค็มขึ้นมามันก็ยังรับ..! ยังดีที่แจกน้ำขวดกับผ้าเย็นให้ ไม่อย่างนั้นพ่อจะโวยให้ดู..! นั่งรอจนตูดด้าน ต้องลงไปเดินถ่ายรูปรอบ ๆ สถานีแก้เซ็ง

ห้าโมงกว่ารถจึงออก มาถึงทางแยกไจ๊มะยอ ต้องลงไปเข้าซองอีกตามเคย เดี๋ยวนี้จะเข้าเมืองออกเมืองมันต้อนเข้าซองหมด อาตมาไม่ลงไปให้ฉลาดหรอก วิ่งมาตามทางสายมะละแหม่ง - พะอาง ครู่หนึ่งก็ถึงสะพานข้ามแม่น้ำอัตทราน ถูกตรวจก่อนขึ้นสะพาน กะพริบตาครั้งต่อมาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำใจ ถูกตรวจอีก..เอากับพ่อมันซิ..!

คิมหันต์ 01-03-2013 22:42

ตะวันลับฟ้า เมื่อเกวียนติดแอร์วิ่งกระเด้งกระดอนไปตามทาง ฝุ่นฟุ้งตลบแทบมองอะไรไม่เห็น น่าสงสารแท้ชาวพม่าเอ๋ย..!

ทุ่มเศษมาถึงสะพานใหญ่ที่ข้ามแม่น้ำสาละวิน ซึ่งเป็นทางออกจากรัฐกะเหรี่ยง ที่นี่เจ้าหน้าที่ขึ้นมาตรวจบนรถ ศิษย์มีครูเสียอย่าง อยากถามใครถามไป มาถึงอาตมาดันเดินเลยไปถามพระข้างหลังเฉยเลย...ฮิ...ฮิ... ข้าวของมันส่องสป็อตไลท์ค้นจนพอใจจึงปล่อยผ่าน

สองทุ่มเศษถึงเมืองตะโทง เขาหยุดให้ผู้โดยสารกินข้าว อาตมากับครูบาน้อยลงไปล้างหน้า แปรงฟัน กลับขึ้นมาหลับ ๆ ตื่น ๆ จนห้าทุ่มครึ่ง มาถึงเมืองไจ๊โกรถหยุดให้ไปยิงกระต่าย อาตมาทั้งสองจัดการฉันยา ดับเครื่องตัวเองก่อนที่จะแย่..!

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:06


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว