กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ใต้ฟ้าอิระวดี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=42)
-   -   ใต้ฟ้าอิระวดี ตอนที่ ๑๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1622)

คิมหันต์ 22-02-2010 23:11

ใต้ฟ้าอิระวดี ตอนที่ ๑๑
 
1 Attachment(s)
โซยุนท์มารับตั้งแต่ตีสี่ เอาธงฉัพพรรณรังสีผูกหน้ารถมาด้วย บอกว่าเป็นเครื่องหมายของการไปแสวงบุญ ช่วยให้ผ่านด่านตรวจต่าง ๆ ง่ายขึ้น ท่านอาจารย์ใหญ่เอารองเท้าแบบพม่ามาให้อาตมาเปลี่ยน ขนาดเปลี่ยนจีวรแล้วเชียว แต่จุดเล็ก ๆ แค่รองเท้าที่ไม่เหมือนเขายังสะดุดตาท่านจนได้ กราบขอบพระคุณครับ…

รถมาจอดรอแพขนานยนต์เพื่อข้ามอ่าวเมาะตะมะ มาเช้าขนาดนี้ยังต้องเข้าคิวยาวเหยียด รอจนน้ำขึ้นเต็มที่ก่อน แพจึงจะเข้าเทียบท่าได้ ตอนนี้ยังลอยอยู่กลางอ่าว ขนาดใหญ่โตไม่แพ้เรือเฟอรี่ที่เกาะสมุย สองข้างท่าแพเป็นร้านค้าดูคึกคักดีทีเดียว มีอาหารทะเลพวกกุ้งหอยปูปลาตากแห้งเต็มไปหมด…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1266855018
แพขนานยนต์ลอยลำอยู่กลางอ่าวเมาะตะมะ

๐๖.๓๐ น. รถลงแพขนานยนต์ คณะของเราโชคดีที่ได้ไปในเที่ยวแรก มีรถติดธงฉัพพรรณรังสีแบบของเราหลายคัน ทุกคันแออัดยัดทะนานชนิดแทบต้องขี่คอกันไป ไม่มีคันไหนสบายแบบคันของเราเลย เพราะมีแค่พระ ๕ ฆราวาส ๔ ดูโหรงเหรงไปถนัดตาเมื่อเทียบกับคันอื่น ๆ เขา ดูไปแล้วเป็นการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองเป็นบ้าเลย..!

ฝูงนกนางนวลแกลบบินเวียนว่อนตามแพมาเพื่อขออาหาร มีเด็กขึ้นมาขายขนมให้เลี้ยงนก เป็นก้อนคล้าย ๆ ข้าวซอยแห้ง หรือขนมรังนกของบ้านเรา พอบีบแตกเป็นชิ้น ๆ โปรยออกไปเท่านั้น บรรดาพวกพ้องของโจนาธานบินมาโฉบคว้ากันมืดไปหมด ที่ถูกลมตีตกน้ำก็ไม่มีปัญหา พวกมันลงไปลอยคอเก็บกินซะเกลี้ยง..!

คิมหันต์ 06-03-2010 06:23

1 Attachment(s)
อาทิตย์อุทัยเริ่มทอแสง ลมทะเลเย็นสะท้านกาย แพขนานยนต์วิ่งผ่านเกาะอองซีจุน ที่เป็นวัดไปทั้งเกาะ ท่านนาวินเล่าว่า ทางการขอสร้างถนนลอยฟ้าข้ามอ่าวเมาะตะมะ โดยขอปักเสาบนเกาะแค่จุดเดียว ทางวัดไม่ยอมให้เพราะถนนสูงกว่าเจดีย์ “ถ้าเป็นผมแล้ว สิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ผมยินดีสละให้ทันที…” อาตมาว่า…

ใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที แพขนานยนต์มาเทียบท่าฝั่งเมาะตะมะ พวกเราหยุดที่ร้านน้ำชาแบกะดินแบบยองยองเหลา เพื่อหาอาหารเช้าฉันกันก่อน ปกติเขาขายแต่น้ำชากาแฟ มีปาท่องโก๋ตัวยาวเป็นศอกไว้กินกับกาแฟด้วย แต่พอเราถามหาข้าว เขาก็จะจัดการผัดข้าวผัดพม่าใส่ถั่ว แถมไข่ดาวโปะหน้ามาให้ในเวลาอันรวดเร็ว…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1267831352
ฉันเช้าที่ยองยองเหลา ฝั่งเมืองเมาะตะมะ

กาแฟของเขากากเยอะอย่างกับใบชา แถมนมลงไปครึ่งค่อนถ้วยตามแบบฉบับของเขา ฉันเสร็จแล้วต้องวิ่งหาส้วมทันที ท่านนาวินที่เข้าเป็นคนแรกเดินบ่นว่า “อ้วกจะแตก..!” ท่านพรตามมาช่วยเสริมว่า “กลั้นใจสามเทื่อกะยังบ่สุด..!” อาตมาเฉย ๆ เพราะเคยเจอประเภทหนอนต่อตัวกันเป็นภูเขามาเยอะแล้ว..!

ถนนถึงจะลาดยางก็เป็นหลุมเป็นบ่อ ตามรายทางมีด่านเก็บเงินสลับกับด่านบุญ มีมากจนชักสับสนว่าใครมันมากกว่ากัน มีรถของสาธารณสุขออกมาประกาศ ให้ชาวบ้านพาเด็กไปหยอดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ จากเมืองเป่าเมี้ยวถึงเมืองตะโทง มีค่ายกักกันนักโทษ ที่เขาเอามาขนหินสำหรับสร้างทาง ใส่ชุดขาวมอ ๆ ดูน่าสงสาร ส่วนมากเป็นนักโทษการเมือง...

คิมหันต์ 08-03-2010 11:55

3 Attachment(s)
ดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านรายทาง มีผู้หญิงทูนกระจาดใบโตใส่ของสารพัด แม่ชีในชุดสีชมพูหวานพาดสังฆาฏิสีน้ำตาล ทูนบาตรออกบิณฑบาตข้าวสาร บางแห่งชาวบ้านสานกระพ้อมสำหรับใส่ข้าวเปลือก ใบหนึ่งโตล้นเกวียนเลย คงบรรจุข้าวเปลือกได้เกวียนหนึ่งพอดี เขาใช้ขี้วัวขี้ควายยารอยรั่วจนเต็มเนียนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งใบ…

โชเฟอร์ของเราจอดรถลงไปซื้อหมาก เขามีร้านขายหมากพลูแบบที่บ้านเราขายบุหรี่ ชาวบ้านทั้งชายหญิงกินหมากกันเป็นปกติ ทหาร ตำรวจ มีแทรกชาวบ้านอยู่ทั่วไป ด่านเก็บเงินมากเหลือเกิน เดี๋ยวค่าถนน เดี๋ยวค่าสะพาน เดี๋ยวค่าผ่านเมือง ไอ้ถนนกับสะพานก็โทรมสุดขีด ไม่รู้ว่าเงินมันไปทางไหนกันหมด..?

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1269581630
ธนบัตรใบละ ๓๕ จั๊ต

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1269581630
ธนบัตรใบละ ๔๕ จั๊ต

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1269581630
ธนบัตรใบละ ๗๕ จั๊ต


ด่านบอกบุญเรี่ยไรยิ่งมากเข้าไปใหญ่ เขาทำกันเป็นล่ำเป็นสันเลยทีเดียว ควักย่ามให้วินจีไป ๑,๐๐๐ จั๊ต เพื่อแลกเป็นแบงค์ย่อยมารับมือกับด่านโดยเฉพาะ เงินพม่าก็ประหลาดสิ้นดี มีราคาตั้งแต่ ๑ จั๊ต ๕ - ๑๐ - ๑๕ - ๒๐ - ๒๕ - ๓๐ - ๓๕ - ๔๐ - ๔๕ - ๕๐ - ๕๕ - ๖๐ - ๖๕ - ๗๐ - ๗๕ - ๘๐ - ๘๕ - ๙๐ - ๙๕ - ๑๐๐ - ๒๐๐ - ๕๐๐ จั๊ต ทอนกันมาแต่ละทีต้องนับจนตาเหล่ และที่แน่ ๆ ไม่เจอเหรียญเลยสักอันเดียว..!

คิมหันต์ 09-03-2010 11:55

1 Attachment(s)
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1271400685
คนงานกำลังตัดอ้อย โปรดสังเกตต้นอ้อยข้างหลังที่แกร็นนิดเดียวแถมออกดอกด้วย)

ผ่านเมืองบีลีนสู่เมืองไจ๊โท มีโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ด้วย แถวนี้เลยมีการปลูกอ้อยกันมาก แต่ต้นมันแคระแกร็นบอกไม่ถูก มีหมู่บ้านหนึ่งปลูกแต่ต้นตาลภูเขาไว้เป็นพัน ๆ ไร่ สำหรับตัดใบมาทำตับจากมุงหลังคา เขาตัดกันจนเหลือต้นละ ๓ - ๔ ใบ ถ้ามีใบที่ ๕ โผล่ขึ้นมาเมื่อไร ใบล่างสุดจะถูกตัดทันที..!

ที่น่าตกใจคือ เขาเอาแป๊บน้ำขนาดหกนิ้วมาทำเสาไฟฟ้าแรงสูง นอกจากลูกถ้วยที่เป็นเซรามิกแล้ว นอกนั้นเป็นโลหะทั้งหมด พลาดเมื่อไร ไม่ตายก็คางเหลือง..! แต่ดูเขาอยู่กันแบบมีความสุขดี ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนรำคาญใจสักคน เป็นเพราะอาตมาคิดมากไปคนเดียวกระมัง ? ของเขาขอแค่มีไฟฟ้าใช้ก็บุญแล้ว…

หยุดฉันเพลกันที่ร้านผิ่นอู (แรกแย้ม) นอกเมืองไจ๊โท ท่านพรเห็นอาตมาฉันอะไรอร่อยไปหมด ทั้งที่ของบางอย่างหน้าตาไม่น่าไว้วางใจ เลยเกิดการแซวขึ้นมาว่า อาตมาคงเกิดเป็นพม่าบ่อย จึงคุ้นเคยกับอาหารแปลก ๆ… “อิหยังบ่เคยสันหื้อสันหลาย ๆ มันกะสิแซ่บไปเองนั่นแล่ว…” อาตมาบอก…เป็นพระเป็นเจ้าฉันยากก็อดไปเถอะ..!

เก้าคนจ่ายไปแค่ ๑,๒๕๐ จั๊ต เฉลี่ยคนละไม่ถึง ๒๕ บาท คิดแล้วราคาถูกมากสำหรับเรา แต่ถ้าเจอเงินเดือน ๑,๓๐๐ จั๊ต แบบที่นี่ จ่ายมื้อเดียวอดไปอีก ๒๙ วัน..! คิดแล้วมันน่าเศร้าใจ ใครที่คิดว่าจะลดค่าครองชีพด้วยการมาเที่ยวพม่า จงคิดซะใหม่ มันจะเสียผู้เสียคนเพราะมาอยู่ดีกินดีกว่าเขานั่นแหละ…

คิมหันต์ 10-03-2010 16:28

1 Attachment(s)
นอกเมืองไปเริ่มดูแห้งแล้ง มีไร่ยูคาลิปตัสสลับกับมะม่วงหิมพานต์และยางพารา มีโรงโม่หินขนาดใหญ่ที่เอานักโทษมาทำงานตามเคย จนมาถึงสะพานเหล็กหน้าตาคล้ายสะพานกรุงธน ทอดข้ามแม่น้ำซิตต็อง แม่น้ำนี้แหละที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชยิงสุรกรรมาแม่ทัพพม่าตายด้วยกระสุนนัดเดียว ที่คนไทยเรียกว่าแม่น้ำสะโตงนั่นอย่างไร…

ความกว้างใกล้เคียงแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานขนาดใหญ่มีทางรถไฟอยู่ตรงกลาง สองข้างทางเป็นทางรถยนต์ ต้องจ่ายค่านักเลงตามเคย เด็ก ๆ วิ่งมาตื๊อให้ซื้อน้ำ บอกว่าจนป่านนี้ยังขายไม่ได้เลย “มันพูดอย่างนี้ตั้งแต่เช้ายันเย็นแหละครับ…” ท่านนาวินว่า อาตมาเลยไม่คิดจะซื้อ ขืนประเดิมอย่างมันว่า คงประเดิมความโง่ของตนแน่ ๆ..!

ข้ามสะพานไปก็พ้นเขตรัฐมอญ เข้าเขตมณฑลปะโก (พะโค) ซึ่งก็คือหงสาวดีนั่นเอง แต่ทางพม่าไม่ยอมให้ใช้หงสาวดี เพราะกลัวว่าพวกมอญจะยึดคืน ขนาดแบ่งออกมาจากรัฐมอญให้อยู่ในเขตมณฑลพะโค เพื่อป้องกันการเรียกร้องเมืองหลวงเก่าของพวกเขาคืน คนมอญคนไหนเป็นใหญ่ขึ้นมา มักจะถูกบอนไซทันที เขาทำกันขนาดนั้น..!

จากซิตต็องถึงเมืองวอ สะพานถูกน้ำพัดขาดไปสามแห่ง เกิดจากอุทกภัยเมื่อปีที่แล้ว มีคนตายไปร่วมสองหมื่นคน แต่ทางการเขาปิดข่าวได้ดีมาก แทบไม่มีเล็ดลอดออกไปสู่โลกภายนอกเลย ถ้าไม่ได้อยู่ติดชายแดน อาตมาคงไม่ทราบเช่นกัน รถต้องลงทางเบี่ยงหลบลงกลางนา มีแม่ค้าเอามันแกวมาขายกองเป็นภูเขาเลากา น่ากินดีเหมือนกัน…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1271400845
มันแกวที่วางกองขายตลอดเส้นทาง

คิมหันต์ 11-03-2010 13:41

1 Attachment(s)
ถึงเมืองพะยาจีเลี้ยวซ้ายไปพะโค โซยุนท์ขอเข้าปั๊มเพื่อเติมน้ำมันก่อน ปั๊มทั่วประเทศเขามียี่ห้อเดียวคือ เอ็มพีพีอี (เมียนมาร์ปิโตรเลียม โปรดัคเอนเตอร์ไพรส์) มีพีทีทีของเราแทรกเข้าไปได้บ้าง น้ำมันซูเปอร์ของเขาแกลลอนละ ๑๘๐ จั๊ต ถูกกว่าเมืองไทยเท่ากว่า แต่น้ำมันของเขาสีใสเหมือนกับน้ำเปล่าเลย..!

ไมล์แล้วไมล์เล่าที่ปู่เขียวพาพวกเรารุดหน้าไป ผ่านทุ่งนาแห้งแล้งกรอบเกรียม เหยี่ยวแดงขนาดใหญ่สองตัวบินวนอยู่บนฟ้า อากาศร้อนอบอ้าวชวนง่วงนอน ท่านนาวินคอพับไปแล้ว เหลืออาตมาถ่างตาเป็นเพื่อนอาจารย์จิต เอ๊ย...โซยุนท์ที่เคี้ยวหมากหยับ ๆ แก้ง่วง ไปไหนเป็นต้องรับหน้าที่เป็นเพื่อนคนขับทุกทีซีน่า…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1271514245
พระมหาธาตุชุยมอดอ กลางเมืองหงสาวดี

พระมหาธาตุชุยมอดอ ตระหง่านอยู่กลางเมืองพะโค แค่สิงห์โตหินตัวมหึมาหน้าวัดคู่นั้นก็ใหญ่เหลือขนาดแล้ว ในปากสิงห์โตเขาสร้าง พระอุปคุตองค์ใหญ่เอาไว้ด้วย ด้านหน้ามีหอพระไตรปิฎกหลังมหึมา หน้าหอพระไตรปิฎกมีเรือการเวกจำลอง รถสามารถแล่นเข้าไปถึงรั้วเจดีย์ได้เลย…

พระมหาธาตุองค์นี้เคยถล่มลงมาด้วยแผ่นดินไหว เมื่อ ๕ กรกฎาคม ๑๙๑๗ เขาบูรณะขึ้นมาใหม่ หุ้มด้วยทองคำทั้งองค์ เก็บเอาส่วนยอดเจดีย์ที่พังลงมาไว้ให้ดูเล่น ๑ ชิ้น มันใหญ่ขนาดสร้างเจดีย์เอาไว้ข้างบนได้ตั้งห้าองค์แน่ะ..! กราบพระมหาธาตุทั้งสี่ทิศ แล้วหามุมถ่ายรูป แดดกำลังจัด คงหาภาพดี ๆ ได้ยาก…

คิมหันต์ 12-03-2010 14:01

2 Attachment(s)
ออกจากพระมหาเจดีย์ชุยมอดอ ท่านนาวินพาไปกราบพระนอนองค์ใหญ่ที่วัดชุยตาเลียว (คนไทยเรียกชเวตาเลือง) เป็นพระไสยาสน์ลืมเนตร ขนาดยาว ๑๘๐ ฟุต อยู่ในศาลาใหญ่เหมือนกับหัวลำโพงของเรา หลังองค์พระเป็นภาพปูนปั้นประวัติการสร้างพระ ขนาดภาพประมาณ ๕ เมตร จำนวน ๑๐ ภาพ สีสันสดใสเจิดจ้าดีมาก คนมานมัสการกันมากมาย ร้านขายของที่ระลึกเต็มไปหมด คนขายพอจะพูดไทยได้บ้าง…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1268377233
หลวงพ่อโต วัดชุยตาเลียว มณฑลหงสาวดี

ย้อนมาหามุมสวย ๆ ถ่ายภาพพระมหาเจดีย์ชุยมอดอใหม่แล้ว ออกไปยังซูเปอร์ไฮเวย์เพื่อตรงไปมณฑลย่างกุ้ง ถนนลาดยางขนาดสี่เลน สภาพพอทนได้ ข้างทางมีร้านขายแตงโมเยอะแยะ อีกฝั่งเป็นร้านขายเครื่องปั้นดินเผา แต่ฝีมือหยาบมาก เทียบกับทางเกาะเกร็ดของเราไม่ติด บางตอนมีเกวียนวิ่งแข่งกับรถเป็นภาพที่ตัดกันน่าดู…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1268377340
สภาพในตัวเมืองย่างกุ้ง มีแต่รถยนต์รุ่นเก่า ๆ

ธงฉัพพรรณรังสีกับจีวรพระศักดิ์สิทธิ์พอสมควร ผ่านฟรีมาหลายด่าน กระทั่งด่านเข้าเมืองย่างกุ้ง ที่เหมือนด่านเก็บเงินทางด่วนของเราก็เช่นกัน พอเห็นก็รีบเปิดให้ผ่านทันที เข้าเมืองแล้วรถรามากขึ้น แต่เก่า ๆ ทั้งนั้น ขนาดใหม่สุดขีดอย่างโตโยต้าเซิร์ฟ นิสสันพรีเซีย มิตซูบิชิปาเจโร ล้วนแต่เป็นรุ่นที่ตกยุคจากบ้านเราไปหลายปีแล้ว…

คิมหันต์ 15-03-2010 22:17

2 Attachment(s)
ตึกทรงใหม่ ๆ มีมากขึ้น แต่ต้นไม้ยังเต็มสองข้างทาง คณะของเราตรงไปยังพระมหาเจดีย์ชุยดากง ที่คนไทยเรียกว่าชเวดากอง อยู่ตรงข้ามกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ รอบพระมหาเจดีย์เป็นต้นไม้ทึบ เหมือนป่ากลางเมือง มีอีกาเป็นฝูง ๆ คอยตามขออาหารจากนักท่องเที่ยว พอจอดรถมันบินมาเกาะหลังคารถทันทีเลยเชียว..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1271514419
พระมหาเจดีย์ชุยดากง หมายถึง พระเจดีย์ทองคำแห่งเมืองดากง(พม่าโบราณ)

ทางขึ้นพระมหาเจดีย์ชุยดากง เป็นบันไดเลื่อนแบบห้างสรรพสินค้าบ้านเรา ๔ ชุด เห็นแล้วทึ่งมาก เขาทุ่มเทให้ศาสนากันขนาดนี้ทีเดียว ผู้คนแออัดยัดเยียดกันขึ้นไปกราบพระมหาเจดีย์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักบวชสารพัดลัทธิ ที่มากที่สุดก็ชาวบ้านของเขาเอง ไปกราบไหว้สวดมนต์ภาวนากันมืดฟ้ามัวดิน ตู้บริจาคทุกใบเต็มเอี๊ยดไปซะทั้งนั้น..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1268666148
บันไดเลื่อนขึ้นพระมหาเจดีย์ชุยดากง (ชเวดากอง)

เขากำลังปรับปรุงปิดทองเจดีย์รายรอบพระมหาเจดีย์ นั่งร้านเกะกะไปหมด เดินทักษิณาวัตรรอบองค์เจดีย์ สวดอิติปิโสได้ ๔ จบพอดี แล้วลงมาเข้าห้องน้ำกัน จ่ายคนละ ๒ จั๊ต พระฟรีตามระเบียบ นั่งพักฉันน้ำอัดลมยี่ห้อเคว้นซ์ ขวดละ ๒๕ จั๊ต ท่านกุมาระพระพม่าเป็นผู้จ่าย จากนั้นไปกราบพระมหาเจดีย์วิสะยะที่อยู่ใกล้ ๆ กัน…

คิมหันต์ 16-03-2010 21:53

1 Attachment(s)
พระมหาเจดีย์มหาวิสะยะสร้างเพื่อระลึกถึงอูวิสะยะ (ท่านวิสาระ) ซึ่งเป็นพระภิกษุที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการเรียกร้องเอกราชคืนจากอังกฤษ อดข้าวประท้วงอยู่ ๑๖๖ วัน จนมรณภาพ จึงมีการสร้างพระมหาเจดีย์มหาวิสะยะเป็นที่ระลึกถึง ตรงสี่แยกมีอนุสาวรีย์ของท่านตั้งเอาไว้ด้วย พระมหาเจดีย์เป็นทรงคล้ายระฆังคว่ำแต่สอบกว่า กำลังห่มเสื่อลำแพนปิดทองอยู่เหมือนกัน ทางด้านนี้มีมุมพอจะถ่ายภาพพระมหาเจดีย์ชุยดากงได้…

หลงกับรถซะนี่...ออกมาหามุมสวย ๆ ถ่ายรูป เดินกลับเข้าไปดันหารถไม่เจอ วนอยู่สองรอบจนคิดว่างานนี้คงได้ลุยพม่าคนเดียวแน่ ๆ พอดีเหลือบเห็นเจ้าโตเดินวนหาอาตมาอยู่เหมือนกัน ที่แท้โซยุนท์จอดรถผิดที่ พอเจ้าหน้าที่มาสั่งให้เลื่อนไป เลยทำให้พลัดหลงกัน เตรียมใจไว้ว่าจะต้องลุยเดี่ยวแล้วเชียวนา ฮิ…ฮิ…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1268751204
พระมหาเจดีย์มหาวิสะยะ (มหาวิสาระ) เมืองย่างกุ้ง

ไปบ้านของลูกแมว ตามที่อยู่ซึ่งแม่ออกกงซุ่ยจดให้ท่านนาวินไว้ เป็นร้านอาหารหาไม่ยาก โซยุนท์มาจอดถามเขาเยื้อง ๆ กับร้านพอดี อู เมียว มินไตน์ กับดอว์นาน เอเอ จี ดีใจมากที่ได้ข่าวจากแม่ออก กำชับว่าให้ลูกแมวอยู่ที่ด่านเจดีย์สามองค์นาน ๆ เพราะหนุ่มน้อยที่เป็นคู่รักของลูกแมว ยังมาวนเวียนถามหาอยู่แทบทุกวัน… สรุปได้ความว่า เอจีให้แม่ออกพาลูกสาวหนีหนุ่มที่มาวอแว เพราะกลัวลูกแมวจะเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย อูเมียวให้ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ไว้ บอกว่าถ้าลูกเป็ดลูกสาวอีกคนจบชั้น ๑๐ แสตนดาร์ดแล้ว จะฝากไปเรียนภาษาไทยด้วย เห็นลักษณะซื่อ ๆ แจ่มใสของเธอแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย ขืนหูตาแพรวพราวแบบลูกแมว พระเณรคงลำบากใจแย่…

คิมหันต์ 17-03-2010 22:45

1 Attachment(s)
เสร็จธุระแล้วมาขอพักที่วัดไจ๊ดง เป็นวัดไทยใหญ่ มีท่านอาจารย์ปัญญาสามิเป็นเจ้าอาวาส เดิมท่านอยู่เชียงตุง เพิ่งมาอยู่พัฒนาวัดนี้ได้ ๑๐ ปี แต่ก็ทำได้ไม่น้อยหน้าวัดอื่น ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ กุฏิ ศาลาการเปรียญ ก่อสร้างได้แข็งแรงสวยงามมาก แถมยังติดแอร์อีกต่างหาก...แต่เจดีย์องค์เล็กมาก ถูกวัดไจ๊ไวพะยาฝั่งตรงข้ามข่มจ๋อยสนิทไปเลย…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1268840700
อูปัญญาสามิ เจ้าอาวาสวัดไจ๊ดง (เขมาราม) เมืองย่างกุ้ง

ท่านอาจารย์ปัญญาสามิพูดไทยกลางได้นิดหน่อย แต่อู้คำเมืองได้มาก ขอให้อาตมาพูดไทยกลางด้วย เพราะมีพระไทยมาขอพักด้วยทุกปี ท่านอยากจะหัดพูดภาษาไทยกลางให้เก่ง จะได้ปฏิสันถารกับอาคันตุกะสะดวกขึ้น ท่านให้คณะของเราพักอยู่ในโบสถ์ตามเคย ได้สรงน้ำซักผ้ากันเต็มที่ น้ำเป็นบ่อบาดาลสูบมาลงอ่างซีเมนต์ มีปัญญาจะอาบเท่าไรก็เชิญ…

คิมหันต์ 21-03-2010 17:14

1 Attachment(s)
ตอนค่ำมีขบวนพระไทยใหญ่มาจากเมืองโมกก (เมืองโคก) พาบรรดาสาว ๆ มางานแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยที่ย่างกุ้ง แล้วแวะมาทำบุญด้วย สาว ๆ เขาแต่งตัวเต็มยศ ประดับเครื่องเงินกันเต็มที่ อาตมาต้องใช้ถึง ๕-๖ ภาษา กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่อง บอกกับเขาว่าทางดอยอ่างขางของไทยมีพี่น้องเขาอยู่กันมาก…

พวกเขาสอบถามกันใหญ่ว่าพี่น้องของเขาอยู่กันอย่างไร ? อาตมาบอกว่าทำงานอยู่กับโครงการหลวง ในหลวงจัดพื้นที่ให้อยู่เป็นหมู่บ้านโดยเฉพาะ พวกเราเรียกเขาว่า “ดาระอั้ง” พอได้ยินดังนั้น ทั้งพระทั้งฆราวาสต่างแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า เขาว่าพวกพม่าไม่ให้เกียรติพวกเขาแบบนั้น มักเรียกเขาอย่างดูถูกว่า “ปะหล่อง”…

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1269166438
คณะแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยใหญ่ มาจากเมืองโมกก


ทุกคนย้ำนักย้ำหนาว่า ถ้าผ่านไปทางโมกกให้แวะเยี่ยมพวกเขาบ้าง อย่าลืมว่าต่างก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เพียงแต่ห่างกันจนไปมาหาสู่กันไม่ถูกแล้ว… จากนั้นเป็นการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก อาตมาบอกกับพวกเขาว่า ถ้าจะไปเมืองไทยให้เข้าทางแม่สายจะใกล้กว่า ถ้าไปทางด่านเจดีย์แบบอาตมา มันจะไกลโดยใช่เหตุ อาตมาจดที่อยู่ที่เกาะพระฤๅษีเป็นภาษาอังกฤษให้แก่พวกเขาด้วย…

บรรดาไทยใหญ่ทั้งหลายลากลับกันไปหมดแล้ว อาตมากับท่านนาวินสนทนากับท่านอาจารย์ปัญญาสามิ จนเกือบห้าทุ่มจึงลากลับไปพักผ่อน ท่านกุสะละ ท่านกุมาระ ท่านพร หลับกรนแข่งกัน เจ้าโตกับหนุ่มเจนอนอยู่อีกมุมหนึ่ง ไม่เห็นโซยุนท์กับวินจี คงจะไปนอนเฝ้ารถอยู่ด้วยกัน อาตมาส่งใจขึ้นกราบพระแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว…

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:48


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว