กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6319)

เถรี 05-09-2018 09:39

ถาม : จากเหตุการณ์ที่เนื่องกับพุทธศาสนาในขณะนี้ที่พระอาจารย์กล่าวว่าเข้าขั้นจะวิกฤต ไม่ทราบว่าท่านที่บำเพ็ญพระโพธิญาณ ถึงเวลาต้องออกมาปกป้องหรือยังครับ หรือว่าเหตุการณ์นี้ยังไม่ถึงเวลาครับ ?
ตอบ : ไปถามท่านเอง

ถาม : เหตุการณ์นี้หากเป็นฆราวาสทั่วไป สามารถทำอย่างไรถึงจะสามารถช่วยได้บ้างครับ ?
ตอบ : พยายามปฏิบัติตัวเองให้เป็นพระอรหันต์กันเยอะ ๆ จะได้มาช่วยยืนยันว่าพระพุทธศาสนาดีจริง

ถาม : ผู้ที่บำเพ็ญพระโพธิญาณ หากมีผู้ที่คิดจะทำลายพุทธศาสนา ต่อให้มีเป็นล้านคน ท่านก็สามารถฆ่าได้อย่างไม่ลังเลใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่รู้สิ..ถ้าเป็นอาตมาก็คงจะลังเลนะ ฆ่าคนที่คิดคนเดียวดีกว่า..จบเร็วดี...!

เถรี 05-09-2018 09:45

ถาม : ไม่ทราบว่าในอดีตชาติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน มีชาติไหนที่พระองค์ท่านเคยเกิดในพระพุทธศาสนา ได้บวชเป็นพระภิกษุ แล้วทรงกรรมฐานครบทั้ง ๔๐ กอง และสอนลูกศิษย์เป็นอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ อย่างเช่นหลวงปู่ปานบ้างครับ ?
ตอบ : เป็นไปไม่ได้ อย่าลืมว่าแม้แต่หลวงปู่ปานท่านก็ไม่ได้สอนใครให้บรรลุมรรคผล เพราะว่าช่วงท้ายท่านจะแนะนำให้ไปหาครูบาอาจารย์ที่เป็นของจริงของแท้ เราต้องไม่ลืมว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีกฎเกณฑ์ที่ถือว่าเป็นมารยาทเลยก็คือ ทำได้แค่ไหนควรที่จะสอนแค่นั้น

เถรี 05-09-2018 09:57

ถาม : ควรทำบุญ อธิษฐานจิต ทรงฌาน หรือทำอย่างไร จึงจะติดอยู่ในภูมิของมนุษย์ที่เป็นอมตะ ไม่แก่และไม่ตายครับ อยากอยู่บนดาวโลกไปนาน ๆ ?
ตอบ : เพิ่งเห็นมึงคนแรกนี่แหละ...! จะมีโลกที่ไหนเป็นอมตะไม่ตายบ้างวะ ? ขนาดพรหมหรือเทวดาถึงเวลาก็ยังต้องจุติเพราะหมดอายุ เขาเรียกว่าฟุ้งซ่านในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ถาม : จริงไหมคะที่เขาบอกว่า ความทุกข์ของพรหมเทวดา คือการจุติลงมาเป็นมนุษย์ ?
ตอบ : ความทุกข์ของท่านคือทำอย่างไรจะเข้าสู่พระนิพพาน

เถรี 05-09-2018 19:10

ถาม : ผมอ่านมาว่า ก่อนที่คนเราจะตาย จะเห็นภาพต่าง ๆ เช่น ถ้าเห็นพระมารับไปดีแน่นอน หรือเห็นพรหมมารับก็ไปเกิดเป็นพรหม เห็นเทวดาก็ไปเกิดเป็นเทวดา หรือถ้าเห็นเนื้อก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่บางคนก็เห็นมีผู้ชายนุ่งแดงมารับ หรือบางคนก็เห็นภาพในอดีตตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันอย่างไวมาก อยากทราบว่าตามความจริงคนเราก่อนที่จะตาย จะเห็นอะไรแน่ครับ ?
ตอบ : คนถามคงจะเห็นเนื้อแล้วไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแน่เลย ถ้าหากเห็นชิ้นเนื้อหรือเห็นก้อนเนื้อเขาไปเกิดเป็นมนุษย์กัน น่าจะเป็นมนุสสติรัจฉาโน แสดงว่าคนถามไปต่ำกว่าความเป็นจริงมาก

การจะเห็นอะไรก่อนตายขึ้นอยู่กับอาสันนกรรม คือ กรรมก่อนตาย กรรมตัวนี้จะเป็นตัวพลิกชีวิตหลังความตายของเราให้ดีหรือชั่ว ก็ตามสภาพจิตที่เคยมีความเคยชินนั้น ๆ เขาถึงสอนให้เกาะพระให้เคยชิน เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงว่าเราจะได้ไปที่ดีแน่ ๆ

เถรี 05-09-2018 19:35

ถาม : หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบำเพ็ญมาสายพระโพธิสัตว์ และบารมีใกล้จะเต็ม และท่านก็ลาพุทธภูมิ ณ จุด ๆ นี้หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเกิดมาหลายอสงไขยและมีบริวารมาก ผมสงสัยมีความเป็นไปได้ไหมครับ ที่บริวารของหลวงพ่อเกิดไม่ทันหลวงพ่อ แต่ลงมาเกิดหลังจากหลวงพ่อท่านไปแดนพระนิพพานแล้ว และถ้าเป็นไปได้ พอจะมีอะไรเป็นจุดสังเกตว่าคนนี้เป็นบริวารของหลวงพ่อครับ ?
ตอบ : มีมาก..สังเกตได้ว่าพวกนี้จะโง่เป็นพิเศษ ขนาดหัวแถวอยู่ทางไหนก็ยังหาไม่เจอ หัวแถวไปพระนิพพานแล้ว ตัวเองก็ยังงมโข่งอยู่นั่นแหละ

เถรี 05-09-2018 19:38

ถาม : คู่ปรับของพระโพธิสัตว์ ก็คือมารตัวเป็น ๆ ที่เป็นเทวดา และสมัยพระพุทธเจ้าตอนที่ท่านจะหนีบวชก็โดนมารกวน และตอนที่จะตรัสรู้ก็โดนมารกวน และในชาดกบางชาติพระโพธิสัตว์ก็โดนมารขัดขวาง ผมเลยสงสัยครับ ว่าพระโพธิสัตว์สมัยนี้ยังโดนมารตัวเป็น ๆ ขัดขวางไหมครับ ?
ตอบ : โดนเป็นปกติ

ถาม :แล้วในฐานะที่หลวงพ่อปฏิบัติทำสมาธิมานาน หลวงพ่อเคยเจอมารขัดขวางไหมครับ ?
ตอบ : เคย...ชอบมาถามปัญหาแบบนี้อยู่ทุกเดือน...!

เถรี 05-09-2018 19:45

ถาม : ผมอ่านประวัติพญามาร และทราบว่าท่านปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า และตอนนี้ท่านชื่อว่าท่านท้าวมาลัย และจะได้ตรัสรู้ในอนาคต ผมสงสัยว่าพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาจะขนย้ายดวงจิตไปแดนพระนิพพาน ทำกรรมแบบไหนดันไปเป็นพญามารที่คอยขัดขวางคนทำความดีได้ครับ ?
ตอบ : ก็แค่เป็นมิจฉาทิฐิ มีความเข้าใจผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด เพียงนิดเดียวเท่านั้น แสดงว่าอ่านประวัติไม่ครบ เพราะว่าท่านพระยามาราธิราชตัดใจแล้วว่าไม่ไปต่อ เข้าพระนิพพานเลยดีกว่า

เถรี 05-09-2018 19:47

ถาม : ผมอ่านอดีตชาติของพระอรหันต์ที่เป็นพระเอตทัคคะ ที่เก่งในด้านใดด้านหนึ่งกว่าพระสาวกองค์อื่น ๆ และท่านเหล่านี้ที่ได้เป็นเอตทัคคะ เพราะว่าได้ตั้งความปรารถนามาในศาสนาของพระพุทธเจ้าในอดีต และพระพุทธเจ้าในอดีตก็ประกาศบอกว่า เธอจะเป็นเอตทัคคะในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จนสุดท้ายท่านก็ได้เป็นตามที่ปรารถนา ผมเลยสงสัย การที่เราตั้งใจอะไรสักอย่าง แต่ยังไม่สำเร็จ ก็ต้องไปเกิดอีกจนกว่าจะได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถูกต้องแล้วครับ เพราะฉะนั้น...ตั้งใจอะไรที่ยาก ๆ เข้า ไว้ จะได้เกิดมาทุกข์เยอะ ๆ...!

เถรี 05-09-2018 20:09

ถาม : วันหนึ่งประมาณ ๒ ทุ่ม ผมกำลังคุยกับญาติ ๆ ในบ้าน แล้วผมเป็นคนชอบพูดเสียงดัง ทีนี้ญาติของผมนึกอย่างไรก็ไม่รู้ อยู่ดี ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า พูดเสียงดังมากระวังผีหลอกนะ ด้วยความคะนอง ผมก็เลยบอกว่า มาเลยผี ไม่กลัวหรอกจะเตะให้ปลิวไปเลย ว่าแล้วก็ยกเท้าไปที่ป่าช้าแถวบ้านหนึ่งที ที่บ้านห่างจากป่าช้าประมาณ ๒๐๐ - ๓๐๐ เมตร จนกระทั่งดึก ๆ ผมจะเดินไปเปิดประตูบ้าน เพื่อออกไปข้างนอก ก็ได้ทำการปลดล็อกกลอนทั้งหมด เสร็จแล้วก็ทำการผลักประตูออกไป กลายเป็นว่าผลักประตูไม่ออก ผลักอย่างไรประตูก็นิ่งสนิทไม่เขยื้อนเลย

ผมก็เลยคิดว่าที่หน้าประตูน่าจะมีอะไรมาขวางไว้ ก็เลยลองเดินออกไปทางประตูหลังบ้าน แล้วเดินอ้อมกลับมาดูที่หน้าบ้าน พบว่าไม่มีอะไรขวางประตูเลยครับ หน้าประตูโล่ง ไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ที่ผมตกใจกว่านั้นก็คือ มีรอยนิ้วมือตรงที่ประตู ลักษณะเหมือนกับเอามือทาบลงไปบนประตูทั้งสองบาน โดยเป็นรอยมือเดียว ซึ่งผมจำได้ว่าไม่เคยมีรอยนี้มาก่อน เลยสงสัยว่าน่าจะเป็นผีที่ผมไปพูดลบหลู่เอาไว้เมื่อตอนหัวค่ำ นึกได้ก็เลยยกมือไหว้กล่าวขอโทษขอขมาผีที่ได้พูดลบหลู่ไป ที่ผมอยากจะกราบเรียนถามพระอาจารย์ก็คือ

ถ้าเป็นผีที่ป่าช้าจริง ทำไมถึงเข้ามาในบ้านได้ครับ ทั้ง ๆ ที่ในบ้านก็น่าจะมีผีบ้านผีเรือนเฝ้าอยู่ และที่บ้านก็มีหิ้งพระ มีพระเครื่องเยอะแยะ ?

ตอบ : นึกว่าจะแน่จริง ท้ายสุดก็ต้องขอขมาก่อน ก็ต้องดูด้วยว่าผีระดับไหน ถ้าเป็นมหิทธิกาเปรตหรือกาลกัญจิกอสุรกาย เทวดาระดับล่าง ๆ ยังต้องหลีกให้เขา อีกอย่างคุยว่ามีหิ้งพระอยู่ในบ้าน ตัวเองเคยไหว้บ้างหรือเปล่า ?

ถาม : ถ้าเป็นผีจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีร่างกาย มีแต่จิตวิญญาณ ทำไมถึงได้มีแรงมาดันหรือบังประตูได้ครับ และดูเหมือนจะมีแรงต้านที่มากกว่าคนทั่วไปอีกด้วย เพราะดันอย่างไรประตูก็ไม่เขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียวครับ ?
ตอบ : ต้องบอกว่ายังไม่รู้จักผี ถ้าเขามีความสามารถมาก เขาสามารถทำให้กายหยาบขึ้นมาเพื่อใช้งานได้ ฉะนั้น...ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมผีถึงหักคอคนได้

เถรี 05-09-2018 20:14

ถาม : หลวงพ่อเคยสอนว่า ความกลัวทุกอย่างมาจากการที่เรากลัวตาย เพราะยังมีขันธ์ ๕ อยู่ แล้วการที่เรากลัวว่าคนอื่นจะมองเราอย่างไร เชื่อมไปถึงการที่เรากลัวตายอย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็เพราะเรากลัวว่าถ้าคนอื่นมองเราในแง่ไม่ดี แล้วจะไม่มีใครคบ ในเมื่อไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย เราก็อาจจะไม่มีงาน ไม่มีกิน ท้ายที่สุดก็ตาย ก็แปลว่า ที่กลัวก็คือกลัวตายนั่นเอง

เถรี 05-09-2018 20:15

ถาม : ควรพิจารณาอย่างไรในการปล่อยวางกำลังใจ ไม่ให้สนใจสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับตัวเราคะ ?
ตอบ : แล้วจะไปยุ่งอะไรกับความคิดของคนอื่น ? อยู่กับปัจจุบันคือลมหายใจเข้าออกตรงหน้าก็พอแล้ว

เถรี 05-09-2018 20:22

ถาม : วัยเรียนเป็นวัยที่ต้องคบหาสมาคมกับผู้อื่นอยู่มาก โดยเฉพาะเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมชั้น ซึ่งไม่ใช่คนปฏิบัติธรรม เราควรวางกำลังใจอย่างไรให้อยู่ร่วมกับเขาโดยไม่ทุกข์คะ ?
ตอบ : ไปแค่กรอบของศีล ถ้าไม่เกินกรอบของศีลก็บ้ากับเขาได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าจะทำให้ศีลขาดเราไม่เอาด้วย

เถรี 05-09-2018 20:33

ถาม : การที่พระโพธิสัตว์มีคู่บารมี หากคู่บารมีที่เป็นหญิงก็ปรารถนาพุทธภูมิเหมือนกัน ทำไมจึงมาเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ได้ ? เช่น ในกรณีหลวงพ่อฤๅษีปรารถนาพุทธภูมิ ท่านมีเจ้าแม่กวนอิมเป็นคู่บารมี ขณะที่เจ้าแม่กวนอิมก็ปรารถนาพุทธภูมิด้วย
ตอบ : จับแพะชนแกะไปเรื่อยนะ คนหนึ่งเป็นไทย คนหนึ่งเป็นเจ๊กก็เอามาปนกันได้...! การจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าต้องเกิดชนิดไม่ต้องนับ ในเมื่อเกิดกันไม่ต้องนับก็ต้องมาเจอกัน มีความสัมพันธ์กันบ้างเป็นปกติ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าความปรารถนาของแต่ละคนว่าของใครเข้มข้นกว่า ใครสร้างบารมีมามากกว่า ถ้าหากอีกฝ่ายหนึ่งเข้มข้นกว่า สร้างบารมีมามากกว่า อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องไหลตามไปเอง

เถรี 05-09-2018 20:35

ถาม : งานพุทธาภิเษกสืบชะตาตุ๊พ่อสิงห์ ที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ พระท่านให้พรเหรียญท้าวเวสสุวรรณในด้านป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคน อาถรรพ์ เหมือนกับที่ท่านให้พรในงานพุทธาภิเษกเป่ายันต์ฯ ด้วยไหมครับ ?
ตอบ : ท่านบอกแค่ไหนก็ได้แค่นั้นแหละ

เถรี 05-09-2018 20:39

ถาม : พญากาสรโพธิสัตว์มีอานุภาพด้านใดเป็นพิเศษครับ ?
ตอบ : ไปถามคนสร้างเอาเอง

เถรี 05-09-2018 21:19

ถาม : ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของพม่า ที่มีความเคร่งครัด จะส่งผลให้ผู้ที่เข้าไปบวชศึกษามีโอกาสเป็นพระโสดาบันได้หรือไม่ ถ้าได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้างคะ ?
ตอบ : ยากสุด ๆ เพราะว่าเป็นการกดดันผู้ปฏิบัติมากจนเกินไป จัดว่ามาในสายของทุกขาปฏิปทา คือปฏิบัติยาก ทันธาภิญญา บรรลุก็ลำบาก

ถ้าหากจะเป็นพระโสดาบันได้ กำลังใจจะต้องยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และท้ายที่สุดรู้ตัวอยู่เสมอว่าต้องตาย ถ้าตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพาน ถ้านอกเหนือไปจากกฎเกณฑ์กติกานี้ ก็แปลว่าเหนื่อยเปล่าไปชาติหนึ่ง

เถรี 05-09-2018 21:21

ถาม : ขณะนี้มีเพื่อนกัลยาณมิตรหลายท่าน มีกำลังใจคิดว่าชาตินี้คงไปพระนิพพานไม่ได้แน่ ๆ แล้ว ควรจะแก้ไขกำลังใจนี้อย่างไรคะ ?
ตอบ : ปล่อยเขาไป จะไปห่วงทำไม ? เอาตัวเองให้ไปพระนิพพานให้ได้ เดี๋ยวเขาเห็น เขาก็ตามมาเอง ส่วนใหญ่ไปห่วงเรื่องของคนอื่น คนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร คนอื่นเขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร ควรจะห่วงว่าตัวเราจะไปพระนิพพานได้หรือไม่มากกว่า

เถรี 05-09-2018 21:50

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเด็ก เราอาจจะเห็นว่าเด็กทุกข์น้อยกว่าเรา เพราะว่าความต้องการของเด็กมีน้อยกว่า สำหรับเด็กแล้ว แค่กินได้อย่างใจ เล่นได้อย่างใจแค่นี้ก็พอแล้ว แต่ผู้ใหญ่อย่างเราหวังมากกว่านั้น จึงทุกข์มากกว่า"

เถรี 05-09-2018 21:51

พระอาจารย์กล่าวว่า "เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นว่าพวกเรามีศักยภาพถึงระดับที่จะบรรลุมรรคผลได้ แต่ก็หาคนที่ปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลจริง ๆ จัง ๆ น้อยมาก โดยเฉพาะว่าแค่การพัฒนาศักยภาพของตนเองเพื่อให้อยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุขก็ยังไม่ค่อยจะทำกัน

ส่วนใหญ่ก็ครึ่ง ๆ กลาง ๆ สะเทินน้ำสะเทินบก ดีก็ดีไม่ทั่ว ชั่วก็ชั่วไม่หมด ไม่รู้ว่าจะเลี้ยวไปทางไหนดี ประเภทนี้ก่อนตายจะลำบาก ลำบากตรงที่ว่ากำลังใจ
ยังไม่แน่ว่าจะเกาะอะไร คราวนี้ก็รอลุ้นว่าจะมีใครมารับหรือเปล่า ? ถ้าไม่มีใครมารับก็ไปตรงเลย แสดงว่าไปตามยุคสมัย เพราะสมัยนี้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็นิยมรับตรง...!

พวกเราส่วนใหญ่ปฏิบัติธรรมแบบคนมีเวลามาก คำว่ามีเวลามากก็คือ เอาไว้ค่อยทำก็ได้ ในเมื่อไม่ทุ่มเทจริงจัง โอกาสที่จะได้อะไรชนิดเห็นหน้าเห็นหลังก็เป็นเรื่องที่ยาก แล้วก็ได้แต่ไปชมสมบัติเศรษฐีของคนอื่น ว่าคนนั้นทำแล้วดีอย่างนั้น คนนี้ทำแล้วดีอย่างนี้ แต่ตัวเราเองไม่มีอะไรดีที่จะอวดเขาได้ ต้องลองนึกถึงคำพิจารณาของพระที่ว่า คุณวิเศษของเรามีหรือไม่ ? เพื่อจะได้ไม่เก้อเขินเมื่อเพื่อนสหธรรมิกไต่ถาม"

เถรี 05-09-2018 21:56

"ทำอย่างไรที่กำลังใจของพวกเราจะยึดมั่นในพระรัตนตรัยอย่างชนิดมอบกายถวายชีวิตจริง ๆ ก็แปลว่าเราต้องปฏิบัติให้ได้ในส่วนใดส่วนหนึ่ง อย่างน้อย ๆ เรื่องสมาธิก็ต้องเข้าถึงปีติให้ได้ ถ้าตราบใดสมาธิยังเข้าไม่ถึงระดับปีติขึ้นไป ก็อยู่ในลักษณะที่ปฏิบัติไม่จริงไม่จัง ไม่ทุ่มเท เพราะว่ายังไม่เห็นประโยชน์อย่างแท้จริงว่าทำแล้วจะได้อะไร เขาเรียกว่ายังมีวิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัยอยู่เป็นปกติ"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:13


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว