กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5646)

เถรี 04-06-2017 19:12

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๐
 
ถาม : หลักในการทำความสะอาดที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ, พระพุทธรูป, รูปเหมือนพระเถระและรูปปั้นเทพเจ้า ต้องจัดการอย่างไร ?
ตอบ : ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า "ลงมือทำ"

ถาม : อุปกรณ์ ผ้าเช็ดทำความสะอาดต้องแยกต่างหากหรือไม่ ?
ตอบ : ควรทำด้วยความเคารพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะฉะนั้น...ในการทำความสะอาด เครื่องมือทุกอย่างควรจะเป็นของใหม่ทั้งหมด ถ้าทำเสร็จแล้วก็ควรแยกเก็บไว้ต่างหาก เผื่อไว้ทำใหม่ครั้งหน้า

เถรี 04-06-2017 19:12

ถาม : เบี้ยแก้พอกครั่งกับลูกอมหนังหน้าผากเสือพอกครั่ง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง มีคาถาอาราธนาและการใช้อย่างไรครับ ?
ตอบ : เอามาถวายอาตมา เดี๋ยวจะใช้ให้ดู...!

เถรี 04-06-2017 19:14

ถาม : เหตุใดพญานาคถึงไม่ปรากฏตนให้ผู้คนได้เห็นชัด ๆ ?
ตอบ : ไม่อยากจะโดนจับไปแสดงละครสัตว์ รู้จักความโลภของคนอื่นน้อยไป ถ้าจำภูริทัตชาดกได้ พราหมณ์อาลัมพายน์จับเอาพญานาคภูริทัตไปแสดง เหมือนกับแขกเอางูไปแสดงเต้นระบำ

ถาม : พระอาจารย์รูปหนึ่งบอกว่า ท่านโทสะแรง ควบคุมตนได้ยากมาก แล้วมนุษย์บางคนไม่ค่อยรู้เรื่องจะเผลอกระทำให้ท่านโทสะขึ้นจะเป็นอันตรายมาก เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?
ตอบ : ต้องถามท่าน เพราะท่านเป็นคนพูด อาตมาไม่ได้พูด ลองดูสิว่าพระยานาคภูริทัตโดนข่มเหงรังแกขนาดไหนก็อดทนอยู่ได้ เพราะฉะนั้น...ขึ้นอยู่กับแต่ละตนเหมือนกัน พญานาคแต่ละตนจุดเดือดต่ำสูงไม่เหมือนกัน ใครที่จุดเดือดต่ำก็ตบะแตกง่าย ใครจุดเดือดสูงก็ตบะแตกยาก เหมือนกับคนนี่แหละ

เถรี 04-06-2017 19:20

ถาม : ผมอยากปฏิบัติสมถกรรมฐานครับ เคยเข้าได้นิ่งมากจนรู้สึกมีความสุขมากแบบซาบซ่านครับ ตอนนั้นไม่รู้สึกถึงร่างกาย เห็นจิตค่อนข้างละเอียดว่ามีอะไรผ่านมาบ้าง แต่หลังจากนั้นก็นาน ๆ ถึงจะทำได้สักที ผมมีความลังเลสงสัยว่า ถ้าผมใช้พุทโธอย่างเดียวในการปฏิบัติ คือใช้สติจับแต่ลม ไม่สนใจร่างกายเลย เป็นวิธีเข้าฌานที่ถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : การปฏิบัติให้ตั้งกำลังใจว่าเรามีหน้าที่ภาวนา ส่วนจะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ช่างมัน ถ้าเราไปทำแล้วตั้งใจอยากได้แบบโน้นแบบนี้ กำลังใจจะไม่ทรงตัวเพราะว่าเกิดความฟุ้งซ่าน ฉะนั้น...อาจจะสงสัยว่าเราเคยทำได้ แล้วทำไมนาน ๆ ถึงทำได้ทีหนึ่ง ก็เพราะว่านาน ๆ เราถึงจะวางกำลังใจได้ถูกต้องสักทีหนึ่ง หลังจากที่ทำได้แล้วให้พยายามซักซ้อมบ่อย ๆ จะได้มีความคล่องตัวมากขึ้น

เถรี 04-06-2017 19:28

ถาม : ฆราวาสถ้าประสงค์จะได้คู่ครองที่ดีและเป็นที่พอใจ ต้องทำบุญและสร้างบารมีอย่างไร ?
ตอบ : พระท่านบอกว่า ให้มีทานเสมอกัน ให้มีศีลเสมอกัน ให้มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน เพราะฉะนั้น...ต้องนัดกันไปทำบุญ

เถรี 04-06-2017 19:51

ถาม : หนูเคยโอนเงินผ่าน Western Union เป็นครั้งแรก ไปให้พระที่วัดแห่งหนึ่ง เพื่อช่วยสร้างวัด หนูแจ้งพระ ผ่านทาง Facebook ไป ท่านก็รับทราบแล้วตอบกลับมา หนูกังวลใจ เกรงว่าตัวเองจะทำผิดพลาดเรื่องการโอน เพราะเป็นประสบการณ์ครั้งแรก จึงติดต่อไป ขอให้พระช่วยตอบกลับมา ถ้าหากมีปัญหารับเงินไม่ได้ ซึ่งท่านก็รับทราบ แต่ท่านก็ไม่ได้ให้การติดต่อกลับมาอีกเลย ตั้งแต่โอนเงินไป ก็ประมาณ ๑ เดือนกว่าแล้ว หนูจึงติดต่อไปครั้งสุดท้าย แล้วรอประมาณ ๑ สัปดาห์ ก็ไม่เห็นตอบกลับมา

หนูจึงไปติดต่อที่ Western Union พบว่าเงินยังอยู่ในระบบ ไม่ได้ถูกรับไป หนูแปลกใจ ที่เห็นสถานภาพ Facebook ของพระ ยัง Active อยู่ เป็นช่วง ๆ แต่ท่านไม่ติดต่อกลับมาบอก ว่าทำไมจึงรับเงินไม่ได้ ด้วยความกังวลใจ กลัวว่าทำอะไรผิดพลาด หลังจากพิจารณาแล้ว จึงตัดสินใจขอเงินคืนจาก Western Union ซึ่งเขาก็ให้คืนมา เพื่อความสบายใจ หนูจึงติดต่อไปที่พระอีกครั้ง ชี้แจงเหตุผลว่าได้ขอเงินคืนกลับมาแล้ว ขออย่าได้กังวลใจ ซึ่งท่านติดต่อกลับมาภายหลัง ให้เหตุผลว่า ชื่อที่หนูระบุไป เป็นชื่อสมญานามพระ ทำให้รับไม่ได้ ที่ไม่ได้ติดต่อกลับมา เพราะมีปัญหาเรื่องสัญญาณ Internet หนูจึงได้อธิบายไปว่า หนูได้รับเงินกลับมาแล้ว ซึ่งท่านก็รับทราบ

เงินจำนวนนี้ เป็นของกึ่งกลางสงฆ์ไหมคะ ?

ตอบ : เป็นของเรา เพราะว่าสงฆ์ท่านไม่สนใจที่จะเอา ขอให้ทราบว่าถ้ามีหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชื่อ เป็นฉายา เป็นสมณศักดิ์อะไร สามารถรับเงินได้ทั้งหมด

มีคนโอนไปให้อาตมา มีอยู่ครั้งเดียวที่รับยากที่สุด ก็คือเป็นการโอนผ่านระบบไปรษณีย์อะไรบางอย่างของญี่ปุ่น ปรากฏว่าต้องกรอกข้อมูลเป็นหน้ากระดาษเลย เพื่อที่จะถอนเงินตรงนั้น ข้อมูลต่อให้ไม่มีก็ต้องกรอกลงไปว่าไม่มี ถ้าปล่อยว่างไว้ก็เบิกไม่ได้ ใช้เวลานานเป็นเดือนเหมือนกันกว่าที่จะถอนออกมาได้ ยังดีว่าเขาโอนไปให้สามหมื่นกว่าบาท ก็เลยทนรอเบิกได้ ถ้าโอนไปน้อย ๆ หน่อยก็อาจจะตัดใจทิ้งไปแล้วเหมือนกัน

เอาเป็นว่าถ้าคาใจอยู่เราก็เอาไปทำบุญ อาจจะโอนให้ท่านอีกสักครั้งหนึ่งโดยวิธีอื่นก็ได้ ถ้าจะให้แน่ ๆ ก็ขอเลขบัญชีธนาคารของท่านมาแล้วโอนตรงไปเลย หรือไม่อีกทีก็ธนาณัติให้ท่านไปรับที่ไปรษณีย์เสียให้เข็ด

เถรี 04-06-2017 20:01

ถาม : ผมห้อยพระองค์ที่ ๑๑ อยู่ครับ เลยอยากทราบว่า พระองค์ที่ ๑๑ มีพุทธคุณด้านความเหนียว เช่นเดียวกับสมเด็จองค์ปฐม และเหรียญพุทธบารมีหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ความเหนียวเหมือนกันทุกอย่าง ถ้าไม่เชื่อก็ทดสอบได้ เพราะว่าเป็นเนื้อโลหะใกล้เคียงกัน...!

เถรี 04-06-2017 20:05

ถาม : มีหลวงปู่บางท่านบอกว่า "เรื่องของเมตตา ถ้าไม่ระวังให้ดี จะกลายเป็นกามราคะได้" อยากทราบว่าเหตุใดเมตตาจึงเปลี่ยนเป็นกามราคะได้ครับ ?
ตอบ : เพราะว่ากำลังใจของเอ็งนั้นห่วยแตก ไม่สามารถจะรักษาสัจจบารมีไว้ได้ สิ่งที่จะสงเคราะห์เขาโดยเมตตาก็เลยกลายเป็นราคะไปแทน

ถาม : แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าตอนนี้เรากำลังทำในสิ่งที่เป็นราคะ แต่ไม่ใช่เมตตา ?
ตอบ : คืออยากได้เขาเป็นเมีย โง่ขนาดไม่รู้เลยหรือวะ ?

เถรี 04-06-2017 20:10

ถาม : คาถา "รูปพระพุทโธ โหหิ" ถ้าผมลืมภาวนาคาถานี้ (เสกน้ำลายแล้วกลืนลงไป) ก่อนออกจากบ้านพอไปถึงระหว่างทางถ้านึกขึ้นได้แล้ว ต้องรีบภาวนาคาถานี้ตามวิธี เหมือนตอนลืมรับประทานยารักษาโรคตามแพทย์สั่งเลยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ทำได้บ่อยเท่าไรก็ดี แต่วิธีที่ถูกต้องก็คือ นึกถึงภาพพระคลุมตัวเราลงมา ถ้าสามารถนึกประคองภาพพระได้ตลอดทั้งวัน ก็แปลว่าปลอดภัยได้ทั้งวัน

เถรี 04-06-2017 20:14

ถาม : เพื่อนของผมเคยบอกว่า "การที่เราพูดถึงบุคคลอื่นแต่ในแง่ไม่ดี สักวันเราจะกลายเป็นคนไม่ดีนั้นเอง" ผมก็มาสังเกต พบว่าเป็นอย่างนั้นจริง พอว่าคนอื่นไม่ดีมากเท่าไร ตัวเองก็เหมือนจะไม่ดีตามเขามากเท่านั้น ผมสงสัยว่า ตรงนี้เป็นกฎของกรรมหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่กฎของกรรม เป็นความชั่วในใจของเราเอง เพราะว่าใจของเราชั่ว เราถึงได้มองคนอื่นแต่ในแง่ที่ชั่ว ๆ ทั้งหมด ในเมื่อกำลังใจของเราชั่วเอง ถึงเวลาจะไปในทางชั่วก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ

ถาม : ถ้าเราจะแก้นิสัยที่ชอบพูดแต่เรื่องไม่ดีของผู้อื่น จะแก้อย่างไรครับ ?
ตอบ : หาอะไรมาอมไว้ จะได้พูดให้น้อยลงหน่อย

เถรี 04-06-2017 20:16

ถาม : ซื้อบ้านหลังใหม่ พอเข้าบ้านไปรู้สึกว่ามีวิญญาณแฝงอยู่ มีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องแก้ จุดธูปบอกกล่าวท่านว่าเราขอมาอาศัยอยู่ด้วย ถ้าทำบุญสุนทานอะไรให้ท่านโมทนาได้โดยที่ไม่ต้องให้บอกกล่าว ขณะเดียวกัน ถ้ามีอะไรไม่เกินวิสัย ขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์ให้อยู่เย็นเป็นสุขหรือมีความเจริญอย่างไรก็ว่าไป

ถาม : กรณีแบบนี้ควรจุดธูปกี่ดอกครับ ?
ตอบ : เอาทั้งห่อเลย...! ยิ่งเยอะยิ่งดี

เถรี 04-06-2017 20:19

ถาม : หนูต้องการสร้างบ้านในที่ดินที่ซื้อมาจากคนอื่น พื้นที่ตรงนั้นเคยเป็นที่นา มีสระน้ำ เคยใช้เผาศพปู่และย่าของเขา และเคยมีเด็กจมน้ำตาย ๑ คน มานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันนี้หนูได้ถมดินพื้นที่นี้เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูสมควรสร้างบ้านในที่ดินผืนนี้ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าไม่มีที่อื่นก็สร้างตรงนั้นแหละ แต่สร้างเสร็จแล้วก็ให้ทำบุญบ้าน ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น

เถรี 05-06-2017 09:15

ถาม : ดิฉันเป็นฆราวาส ยังโสด ไม่มีครอบครัว มีความปรารถนาต้องการปฏิบัติเพื่อไปพระนิพพาน แต่ก็ยังมีความพอใจที่จะดูรายการบันเทิงยอดฮิต เช่น the mask singer หรือดูละครยอดฮิต เช่น นาคี หรือดูซีรี่ส์ของต่างประเทศ เช่น Game of thrones ดิฉันมักจะมีเหตุผลอยู่ในใจว่า ดูเพื่อต้องการคลายเครียด ดูเพื่อให้รู้เวลาคนอื่นเขาคุยกัน แต่อีกใจหนึ่งก็เถียงว่า ทำไมไม่เอาเวลาที่เหลือไปภาวนา เอาเวลาไปฟังเสียงธรรม สองอย่างนี้ตีกันไปตีกันมา แต่สุดท้ายซีรี่ส์ก็ชนะค่ะ
ตอบ : Devil ชนะ

ถาม : ดิฉันอยากทราบว่า หลังจากภาวนา เราสามารถคลายอารมณ์นั้นมาดูรายการบันเทิงได้หรือไม่คะ ?
ตอบ : เท่ากับทำไปแล้วเสียเปล่า เพราะถ้ากำลังใจเราไม่ทรงตัว ถึงเวลาก็จะไหลตามกิเลสไปหมด

ถาม : แล้วคนที่ชอบดูรายการเหล่านี้ ยังถือว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมได้หรือไม่คะ ?
ตอบ : เป็นได้...แต่เป็นน้อย

เถรี 05-06-2017 09:19

ถาม : เหตุใดพระสายปฏิบัติทั้งหลายจึงมาเกิดที่ประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่หากเกิดที่ทิเบตน่าจะมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติเร็วกว่า ประเทศไทยมีอะไรดี ท่านจึงมาเกิดที่นี่คะ ?
ตอบ : ประเทศไทยมีมรรคผล ทิเบตเป็นสายพระโพธิสัตว์ ถ้าคุณตั้งใจปฏิบัติเพื่อมรรคผลไปเกิดทิเบตก็สาหัสเลย ในเมื่อประเทศไทยเป็นเขตมรรคผล ท่านมาเกิดที่นี่ก็ถูกต้องแล้ว

เถรี 05-06-2017 09:24

ถาม : พระทิเบตที่มีตบมือ โต้กันไปโต้กันมา คืออะไรคะ ?
ตอบ : เขาเรียกตรรกวิภาษ เป็นการปุจฉาวิสัชชนาอย่างหนึ่ง ฝ่ายที่ถามพยายามรบกวนสมาธิอีกฝ่ายหนึ่งให้มากที่สุด ฝ่ายที่ตอบก็ต้องพยายามรักษาสมาธิเอาไว้ขณะที่ตัวเองกำลังค้นหาคำตอบอยู่ จัดเป็นการฝึกกรรมฐานแบบเคลื่อนไหวอย่างหนึ่ง

เถรี 05-06-2017 09:24

ถาม : ได้อ่าน Facebook คลังพระพุทธศาสนานำรูปลามะทุบเชอแห่งนิกายญิงมะ และภิกษุณีที่ปรากฎการณ์ร่างสังขารเป็น "ร่างรุ้ง" ภาวะร่างรุ้งเกิดขึ้นได้อย่างไร เหมือนกับการเกิดพระธาตุหรือร่างสังขารไม่เน่าเปื่อยของพระเถระต่าง ๆ หรือไม่ ?
ตอบ : พระที่ท่านปฏิบัติจนเข้าถึงแล้ว อย่างน้อย ๆ ในระดับฌานสี่ละเอียดมีความคล่องตัวอยู่ สภาพจิตจะเปล่งแสงออกมาเป็นปกติ

ในเมื่อเปล่งแสงออกมาเป็นปกติ บุคคลที่สามารถรู้เห็นและสัมผัสได้ก็จะรู้ ยิ่งสร้างบารมีมามากเท่าไร แสงสีก็มีมากเท่านั้น แต่สูงสุดไม่เกิน ๖ สี คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เถรี 05-06-2017 09:29

ถาม : ผมสงสัยว่า กรณีพระคึกฤทธิ์ วัดนาป่าพง ที่ท่านทำ "หนังสือพุทธวจน" นั้นถูกต้องตามคำสอนของศาสนาพุทธไหมครับ ?
ตอบ : ไปถามท่านเอง

ถาม : เห็นว่ามีชาวบ้านส่วนหนึ่งคัดค้าน ถ้าอ่านไปจะได้รับความรู้ผิด ๆ หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อ่านได้ ไม่เป็นไร อย่างน้อย ๆ ถ้าผิดจะได้รู้ว่าท่านผิดตรงไหน

เถรี 05-06-2017 09:42

ถาม : อยากทราบว่าถ้าเราเคยบวชแล้วติดหนี้สงฆ์ในช่วงที่บวชอยู่ เราจะสามารถชำระหนี้สงฆ์อันนั้นหลังจากที่ได้ลาสิกขาออกมาแล้วได้ไหมครับ ?
ตอบ : เป็นสงฆ์แล้วติดหนี้สงฆ์ อาตมากลัวว่าจะไม่ใช่พระ..! โยมเข้าใจคำตอบนี้ไหม ? ก็คือเป็นพระแล้วไปหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้มาจนติดหนี้ มีสิทธิ์โดนอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ ถ้าเป็นอาบัติปาราชิกก็ไม่ต้องไปชำระหนี้สงฆ์หรอก หมดสภาพความเป็นพระไปนานแล้ว โทษหนักกว่าเป็นหนี้สงฆ์มาก

เถรี 05-06-2017 09:43

ถาม : ที่ทำงานผมเขาใช้ผมไปเปลี่ยนแผ่นดักแมลง ดักจิ้งจก ดักหนู แต่ผมไม่อยากทำ อย่างนี้ศีลจะขาดไหม ?
ตอบ : ถ้าไม่ทำศีลก็ไม่ขาด

ถาม : ใจจริงไม่อยากทำเลยครับ ผมจะมีส่วนในบาปด้วยไหมครับ ?
ตอบ : มีแน่นอน ลงมือทำเมื่อไรถือว่ามีความผิดร่วมกัน

เถรี 05-06-2017 09:47

ถาม : ผมตั้งใจจะบวชในพรรษานี้ แล้วมีเหตุให้ไม่ได้บวชตามกำหนดที่วางไว้ โดยต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายนแทน ก่อนหน้านี้ผมได้อธิษฐานต่อหน้าพระประธานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่าจะขอบวชในพรรษานี้ ณ วัดแห่งนี้ และได้ขอบารมีพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้คุ้มครองและอนุโมทนาในบุญอุปสมบท

เมื่อไม่สามารถเข้าพิธีบวชได้ทันตามที่กำหนดไว้ในตอนแรก เท่ากับว่าผมผิดคำมั่นสัญญา ผมจะต้องขอขมาพระรัตนตรัยและบอกกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างไรบ้างครับ ?

ตอบ : ไม่ต้องขอขมา ไม่ต้องบอกกล่าว แต่รีบไปบวชให้เร็วที่สุด แล้วบอกกับท่านว่า เราสามารถทำได้เร็วที่สุดแค่นี้ ขออภัยด้วยที่ผิดคำพูด ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่ท่านจะเมตตา ถ้าเมตตามากก็แล้วไป ถ้าเมตตาน้อยก็อาจจะมีการแหย่เท้ามาคลึง ๆ เราหน่อย..!

เถรี 05-06-2017 09:53

ถาม : ทำไมพระสงฆ์ถึงมีเสน่ห์ พระสงฆ์ที่รู้จักทุกรูปมีผู้หญิงมาชอบเยอะมาก ?
ตอบ : พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ทำเสน่ห์ พระองค์ท่านสอนว่าต้องมีทาน รู้จักให้คนอื่น ปิยวาจา พูดดี พูดไพเราะ อัตถจริยา สร้างประโยชน์ให้แก่เขา สมานัตตา ทำความดีเหล่านี้โดยเสมอต้นเสมอปลาย แบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา จึง มีเสน่ห์ทุกคน

ถาม : อีกกรณีหนึ่งคิดสงสัยมาตลอด ไม่เข้าใจเลย เป็นแบบต่างสถานที่ ต่างเวลา พระรูปหนึ่งอายุสี่สิบใกล้จะห้าสิบ (เป็นพระปฏิบัติดี) ผู้หญิงที่ปฏิบัติธรรมด้วยกัน ๒ คน (อายุรุ่นเดียวกับพระ ก็เคยเห็นพระรูปนี้กันเสมอ) ครั้งนี้แปลก ๒ คนเห็นท่านแล้วจะมีอาการรน ๆ ตื่นเต้นมาก คนหนึ่งจะพูดซ้ำ ๆ อีกคนจะนั่งไม่ติด ย้ายที่นั่งไม่หยุด ข้าพเจ้าต้องดุแรง ๆ ทั้ง ๒ คน ถึงจะระงับอาการได้ อาการแบบนี้คืออะไร ทำไมพวกเขาถึงสติหลุดกัน ?
ตอบ : ก็เพราะว่าสติหลุดนั่นแหละ คำถามบอกตรง ๆ อยู่แล้ว เรื่องพวกนี้ขอให้ทราบว่า ถ้าเป็นการตบมือข้างเดียวจะไม่ดัง พระอย่าไปร่วมตบมือกับโยมก็แล้วกัน ถ้าร่วมด้วยเมื่อไรก็เป็นอันว่าบรรลัยทั้งสองฝ่าย

ถาม : ควรจะเตือนเพื่อนผู้หญิงสองคนที่ไปหลงเสน่ห์พระว่าอย่างไรคะ ?
ตอบ : ช่วยตบสักฉาด...เผื่อว่าจะได้สติ...!

เถรี 05-06-2017 09:55

ถาม : เหตุใดการที่ทหารพกชายผ้าถุงแม่เข้าทำสงครามจึงมีผลให้คงกระพันได้ครับ ?
ตอบ : ความมั่นใจว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตัวเอง ยิ่งมั่นอกมั่นใจได้มากเท่าไร ก็ยิ่งคุ้มครองตัวเองได้มากเท่านั้น

เถรี 05-06-2017 15:32

ถาม : เนื่องจากการทำแท้ง หากทำในครรภ์ที่มีอายุพอสมควร เด็กจะสามารถร้องส่งเสียง และขยับร่างกายได้ แต่ด้วยสภาพร่างกายและอวัยวะที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ไม่พร้อมต่อการดำรงชีวิต จึงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่พระอาจารย์กล่าวว่า มีบางกรณีที่ดวงจิตบางดวงมาจับหลังจากที่คลอดออกมาแล้ว จึงขอกราบเรียนถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เมื่อแท้งมาแล้วในลักษณะนั้น จนกระทั่งสิ้นลม จะยังคงไม่มีจิตดวงใดมาจับมาอยู่อาศัยครับ ?
ตอบ : ทำไมคุณจึงไปจับแค่ตรงนั้น ? แล้วคำตอบที่อาตมาบอกว่า บางคนตั้งแต่เชื้อของพ่อผสมกับไข่ของแม่ดวงจิตก็จับแล้ว ทำไมมึงไม่เอามา ? ก็แปลว่าอยากหาเรื่องฆ่าสัตว์ หรือฆ่าคนใช่ไหม ? เขาเรียกว่าเลือกเอาคำตอบส่วนที่มีประโยชน์แก่ตนมา ซ้ำยังจะพาให้คนอื่นเข้าใจผิดไปด้วย

ถาม : ในการตั้งครรภ์ จากการที่ดวงจิตมาจับในเวลาที่แตกต่างกัน ทั้งทันทีหลังจากปฏิสนธิ หรือแม้แต่หลังจากที่คลอดออกมาแล้ว อยากทราบว่ามีบุญกรรมใดที่ทำให้เวลาการจับแตกต่างกันครับ ?
ตอบ : บุญกรรมที่สัตว์ชนิดนั้นสร้างมานั่นแหละ ถ้าสร้างกรรมเอาไว้น้อย ก็ทนทุกข์ทรมานอยู่ในท้องแม่น้อยหน่อย ถ้าสร้างกรรมไว้มากก็ทนทุกข์ทรมานอยู่ในท้องแม่นานมาก พระสีวลีสร้างกรรมไว้มาก อยู่ในท้องแม่เสีย ๗ ปีกว่า ๆ

ถาม : และมีวิธีกำหนดสำหรับบุตรของตนเองหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็เห็นว่าหมอสมัยนี้เขาเลือกเพศได้แล้วนี่

เถรี 05-06-2017 15:43

ถาม : ด้วยคำกล่าวที่ว่า พ่อแม่คือพระอรหันต์ในบ้าน จึงขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า การทำบุญกับพ่อแม่ จะได้อานิสงส์เท่ากับการทำบุญกับพระอรหันต์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เอาให้แน่ ๆ ก่อน ถ้าในพระไตรปิฎกเถรวาทของเรากล่าวว่า พ่อแม่คือพรหมของบุตร ไม่เคยกล่าวว่าพ่อแม่คือพระอรหันต์ แต่ในนิทานธรรมบทของมหายานกล่าวว่า พ่อแม่คือพระอรหันต์ของลูก ๆ เพราะฉะนั้น...เลือกก่อนว่าจะเอามหายานหรือเอาเถรวาท

การทำบุญกับบุคคลในแต่ละระดับ ในกัมมวิภังคสูตรเขาบอกไว้ชัดเจนแล้ว ว่าแต่ละระดับของกำลังใจนั้นทำแล้วจะได้อานิสงส์เท่าไร ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์ ต่อให้เขาบอกว่าเปรียบเหมือนพระอรหันต์ ทำไปก็ไม่ได้เท่ากับพระอรหันต์หรอก

ถาม : และการทำบาปกับพ่อแม่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่การทำให้เสียชีวิต จะให้โทษเท่ากับการทำกับพระอรหันต์หรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ตอบไปแล้ว แม้ว่าจะไม่เท่า แต่ถ้าในส่วนของอนันตริยกรรมก็ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน

เถรี 05-06-2017 15:49

ถาม : การที่นิสัยของเราไม่ตรงกับความชอบใจของพ่อแม่ โดยที่เราไม่ได้กระทำกริยาอันใดไม่เหมาะสมกับพ่อแม่ แต่พ่อแม่ไม่ถูกใจกับคะแนนสอบ ทางเดินชีวิตหรือสายงานที่เราเลือก เพราะไม่ได้ตามมาตรฐานหรือความชอบของพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เกิดความไม่สบายใจหงุดหงิดใจเสียใจขึ้นนั้น ถือเป็นบาปของเราที่ทำให้ท่านไม่สบายใจหรือเปล่าครับ และจะมีวิธีแก้อย่างไรครับ ?
ตอบ : บาป แปลว่า เราต้องทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจของเรา ถ้าไม่ได้ทำก็ถือว่าเป็นบาปเป็นกรรมของพ่อแม่เองที่ท่านไปคิดอย่างนั้น พูดอย่างนั้น ทำอย่างนั้น วิธีแก้ก็คือ ทำให้ได้อย่างที่พ่อแม่ต้องการ

ถาม : แต่บางทีพ่อแม่อยากให้เป็นหมอก็ยากนะคะ ?
ตอบ : มีอยู่รายหนึ่งพ่อแม่อยากให้เป็นหมอ แต่ตัวเองอยากเรียนสถาปัตย์ฯ ก็เลยไปเอนทรานซ์เรียนหมออยู่ ๖ ปี จบหมอมาแล้วก็เอาปริญญาบัตรไปให้พ่อแม่ แล้วตัวเองก็เอนทรานซ์ใหม่เพื่อไปเรียนสถาปัตย์ฯ แล้วก็ทำได้ด้วย แสดงว่าเขาเก่งจริง

เถรี 05-06-2017 15:56

ถาม : การนำแผ่นดวงชะตาไปร่วมหลอมเพื่อสร้างองค์พระ มีอานิสงส์ทางด้านเสริมดวงชะตาเหนือกว่าการบริจาคเงินปัจจัยร่วมสร้างอย่างเดียวหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ไม่ได้อะไรเลย นอกจากรู้สึกว่าดีที่เราได้ทำแล้ว

ถาม : การนำแผ่นบรรจุดวงชะตาไปเข้ารับการสวดมนต์โดยพระสงฆ์ในช่วงระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้ มีผลให้ดวงชะตาดีขึ้นจริงหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีหมดทั้งประเทศแล้ว น่าจะเจริญกว่าญี่ปุ่นอีก...! ถ้าจะทำในลักษณะอย่างนั้น อย่าเอาไปแต่แผ่นดวง แต่ให้เอาตัวเองไปด้วย

เมื่อเราไปอยู่ในพิธี ตั้งใจฟัง สภาพจิตเป็นสมาธิ เห็นพระสงฆ์เป็นผู้สวดเป็นสังฆานุสติ สิ่งที่ท่านสวดคือพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นธัมมานุสติ ได้กราบได้ไหว้พระพุทธรูปในวัดเป็นพุทธานุสติ ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าได้ก็จะมี เพราะว่าเราสร้างความดีใหญ่อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราเอาไปแต่แผ่นดวง ก็ได้แค่ปลอบใจตัวเองว่าเราได้ทำแล้ว

เถรี 05-06-2017 16:03

ถาม : การที่พระสงฆ์ท่านให้พรนั้น จะสำเร็จตามพรที่ท่านว่าเนื่องด้วยเหตุใดหรือครับ เพราะกำลังสมาธิของแต่ละท่านใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ด้วยสาเหตุสองประการ ประการแรกคือตัวเรา สภาพจิตตอนนั้นของเราเป็นอย่างไร อีกประการหนึ่งก็คือ ตัวของท่าน สภาพจิตของท่านเป็นอย่างไร ถ้าต่างคนต่างดีมีกำลังสูง โอกาสสำเร็จก็มีมาก ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียมาก โอกาสสำเร็จก็น้อย

ถาม : การที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ แล้วพระท่านให้พร หากเรานำจิตน้อมรับพรนั้นไว้ด้วย เราจะได้รับพลังเช่นเดียวกันกับเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจกำลังใจถูกก็ได้เหมือนกัน

ถาม : การดูบันทึกเทปต่าง ๆ ที่พระสงฆ์ท่านให้พร การนำจิตน้อมรับพรนั้นจะทำให้เราได้รับพลังเช่นเดียวกันกับเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านโดยตรงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : อยู่ที่กำลังใจของเราว่ามีศรัทธาเลื่อมใสเท่าไร ถ้าหากมีศรัทธาเลื่อมใสเท่ากับอยู่ต่อหน้าท่านจริง ๆ ก็ได้เท่ากัน

เถรี 05-06-2017 16:11

ถาม : เมื่อขออาราธนาบารมีพระเพื่อพุทธาภิเษกวัตถุมงคลแล้ว วัตถุมงคลนั้นย่อมมีอานุภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัตถุที่รับพลังได้มาก เช่น ทองคำ หรือ ตะกั่ว แล้วการนำมวลสารสำคัญต่าง ๆ เป็นชนวน เพื่อสร้างเป็นวัตถุมงคลนั้น จะมีผลให้เพิ่มพลังงาน อานุภาพ หรือคุณประโยชน์แก่วัตถุมงคลที่สร้างใหม่นั้นหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ได้บ้างไม่ได้บ้าง เหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะบางท่านอธิษฐานจิตไว้ว่า ถ้าหากวัตถุนี้ละลายเป็นน้ำเมื่อไรก็หมดอานุภาพเมื่อนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ได้เศษโลหะไปช่วยการหล่อเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ถ้าเป็นท่านที่ไม่ได้จำกัดลักษณะนั้นก็ใช้ได้อยู่

เถรี 05-06-2017 16:17

ถาม : ผมรักหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงมาก ถ้ากระผมเป็นผู้ติดตามหลวงพ่อท่าน แต่ทำไมผมเกิดในเขตพญานาคศรีสุทโธ คือ คำชะโนด หรือเป็นเพราะปรารถนาพุทธภูมิครับ ?
ตอบ : ต้องถามตัวเอง จะเกิดที่ไหนไม่ได้เกี่ยวกัน

การเกิดของเราส่วนหนึ่งนั้น เกิดจากการพิจารณาแล้วจึงมาเกิด ก็คือ ชาตินี้ต้องมีโอกาสสักช่วงหนึ่ง ที่เราจะได้พบครูบาอาจารย์ที่เราศรัทธาเลื่อมใสองค์นี้ มีโอกาสปฏิบัติตามคำสอนของท่าน แต่ถ้าเราไม่ยอมเลือกเกิดในที่ลำบากแบบนั้น เราอาจจะไม่ได้เกิดอีกนานแสนนาน เพราะว่าจังหวะที่เหมาะสมไม่มี ก็จำเป็นจำยอมที่จะต้องลงมาเกิดในสถานที่ซึ่งลำบากในการเดินทางก็ดี ลำบากในการทำมาหากินก็ตาม เพื่อจะให้ได้พบครูบาอาจารย์หรือธรรมะตามที่ตนได้อธิษฐานเอาไว้ ซึ่งบุญสัมพันธ์หรือกรรมสัมพันธ์เหล่านั้น จะส่งผลให้ได้ดังที่ต้องการในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในชีวิต เราก็ยอมเลือกที่จะเกิดในสถานที่อย่างนั้น

เถรี 05-06-2017 16:20

ถาม : อยากทราบว่าเวลาคนเราจะเจอกับอะไร เช่น เดินอยู่ดี ๆ ก็มีความรู้สึกว่าจะมีฟุตบอลลอยมาโดนที่หัว และวินาทีต่อมาก็มีฟุตบอลลอยมาโดนที่หัวจริง ๆ อยากทราบว่าความรู้สึกที่ดูเหมือนจะรู้ก่อนหน้าที่จะโดนบอลจริง ๆ นั้นคืออะไรครับ ?
ตอบ : โบราณเรียกว่าลางสังหรณ์ ภาษาพระเรียกว่าทิพจักขุญาณอย่างอ่อน สามารถที่จะรู้ล่วงหน้าได้ แต่มักจะรู้ล่วงหน้าในระยะเวลาที่สั้นมาก ไม่เหมือนกับบุคคลที่ฝึกทบทวนทิพจักขุญาณของตัวเองให้มั่นคง จะสามารถรู้ล่วงหน้าได้นาน ๆ

เถรี 05-06-2017 17:36

ถาม : คนที่เป็นแชมป์แข่งขันกินจุ เขาทำบุญหรือทำกรรมอะไรไว้ครับ ทำไมเขาถึงกินอาหารได้เยอะกว่าคนอื่น ๆ ได้มากขนาดนั้น ?
ตอบ : ทำบุญผสมบาป หลายคนก็ทำแบบนี้กับอาตมา ก็คือถวายอาหารมาแล้วก็มานั่งเฝ้า "หลวงพ่อฉันเยอะ ๆ นะคะ" "หลวงพี่ฉันอีกหน่อยสิครับ" ทั้ง ๆ ที่ตูยัดจะตายห่...อยู่แล้วก็ต้องยัดเพิ่มเข้าไป พวกนี้ถึงเวลาเกิดใหม่ก็จะท้องยุ้งพุงกระสอบลักษณะอย่างนั้น แต่ว่ามีความดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือธาตุไฟดีมาก ย่อยอาหารได้ทีละมาก ๆ

หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยเล่าให้ฟังว่า มีโยมคนหนึ่งอยู่สมุทรสาคร จะได้กินข้าวอิ่มเฉพาะวันพระเท่านั้น นอกจากนั้นไม่ได้กินอิ่มเลยแม้แต่มื้อเดียว ถามว่ากินขนาดไหน ? พอถึงวันพระ พระท่านนำอาหารที่เหลือมาให้แก ๑ กระบุง แกก็กินไปเรื่อย สามารถที่จะกินหมดกระบุงได้

ส่วนอีกรายหนึ่งอยู่ที่วัดบางนมโคชื่อกำนันเถา เป็นคู่ปรับของหลวงพ่อวัดท่าซุง เพราะว่ากำนันเถาชอบจับผิดพระ แต่เป็นลูกศิษย์หลักคนหนึ่งของหลวงปู่ปาน กำนันเถากินข้าวทีละกะละมัง ยิ่งถ้าวันไหนมีน้ำพริกคลุกข้าว กำนันเถาจะเปิบแบบลืมตายเลย หลวงปู่ปานเรียกว่า "ไอ้เถากระเพาะยาง" เพราะว่ากระเพาะยืดได้เหมือนยาง

ส่วนอีกรายหนึ่งท่านว่าเป็นคนที่ไหนไม่รู้มาเที่ยวงานวัด เห็นเขากำลังตำลูกแป้งขนมจีนอยู่ ลูกแป้งขนมจีนเป็นแป้งนึ่งครึ่งดิบครึ่งสุก ตำให้เหนียวเพื่อที่จะเอาไปรีดเป็นเส้น เขาบอกว่าขอชิมหน่อยว่ารสชาติได้ที่หรือยัง ลูกแป้งขนาดเท่าลูกฟุตบอล แกชิม
หมดเกลี้ยงเลย เพราะฉะนั้น...ต่อไปใครอยากจะได้แชมป์ในการกิน ก็พยายามตื๊อให้พระฉันเยอะ ๆ เข้าไว้

เถรี 05-06-2017 17:37

ถาม : จะปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่มีอวิชชาคะ ?
ตอบ : เป็นพระอรหันต์ ถ้ายังเป็นอย่างอื่นมีอวิชชาทั้งนั้น

เถรี 05-06-2017 17:41

ถาม : น้องชายบวชพระอยู่ค่ะ กำลังหาฤกษ์สึก คุณแม่เลือกวันที่ ๒๙ มิถุนายนเป็นวันสึกให้ แต่ตรงกับฤกษ์ดิถีพิฆาตในปฏิทินฤกษ์พรหมประสิทธิ์ กราบเรียนถามว่า หากน้องชายสึกวันนี้ เข้าใจว่าเป็นวันดีเกินคนธรรมดา เลยสงสัยว่าถ้าสึกฤกษ์ดิถีพิฆาตจะเป็นโทษแก่น้องชายไหมคะ ?
ตอบ : ลองสึกดูก่อน ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้

ถาม : แล้วเสาร์ ๕ ละคะ ?
ตอบ : อยากจะสึกก็สึกไป ใครจะไปว่าอะไรถ้าเราไม่กลัวเสียอย่าง

ถาม : มีวันไหนที่ไม่ควรอีกไหมคะ ?
ตอบ : อาทิตย์ ๑๒ จันทร์ ๑๑ อังคาร ๗ พุธ ๓ พฤหัสฯ ๖ ศุกร์ ๙ เสาร์ ๘

เถรี 06-06-2017 14:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางคำถามของโยมก็ถามในลักษณะ "รู้เลยตาย" ก็คือ แทนที่จะคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย ให้เร่งการปฏิบัติ ก็ไปอยากรู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ก็เหมือนกับคนที่ "คัน" ถ้าไม่ได้เกาก็ไม่สามารถที่จะห้ามตัวเองได้ ท้ายที่สุดก็ต้องเกา เพราะฉะนั้น...อะไรที่พอสงเคราะห์ได้ก็สงเคราะห์ ถ้านอกทุ่งนอกท่ามากก็มีโดนด่าบ้าง"

เถรี 06-06-2017 14:10

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องที่ไปตื๊อให้พระฉัน ญาติโยมเป็นกันมากเลยนะ จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่อันตราย

ในวงการพระมีเรื่องแปลก ๆ อยู่หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งก็คือทิดสุริยา สมัยเป็นพระก็เป็นเพื่อนของอาตมาเอง ถามว่าทิดสุริยาฉันอย่างไร ? วันนั้นนั่งอยู่ด้วยกัน ท่านฉันก๋วยเตี๋ยวน้ำ ๒ ชาม ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ๒ ชาม ข้าว ๑ จานใหญ่ สายตาพระทั้งงานมองไปที่เขาคนเดียว เพราะท่านอื่นอิ่มกันไปนานแล้ว ท้ายสุดรังสีอำมหิตน่าจะแรงเขาก็เลยรู้ตัว เงยหน้าขึ้นมาแล้วก็วางช้อน เขาบอกว่ายังไม่ได้ครึ่งท้องเลย..!

เขาก็เล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจว่า ไปกิจนิมนต์งานหนึ่ง ตัวเองก็ฉันในลักษณะนี้ โยมน่าจะเป็นญาติของเจ้าภาพ อายุสัก ๗๐ ปี มาถึงก็ปูผ้าขาวม้าแล้วก็กราบแต่ทิดสุริยาคนเดียว "นิมนต์พระคุณท่านอยู่นาน ๆ นะครับ ฉันได้ชื่นใจโยมเหลือเกิน" ท่านสุริยายิ้มกริ่มเลย "เป็นอย่างไรโยม ? ถูกใจมากเลยหรือถึงนิมนต์ให้อยู่นาน ๆ" โยมบอกว่า "จะบอกว่าถูกใจก็ใช่ครับ แต่พิจารณาแล้ว อย่างท่านอย่าสึกเลย สึกไปทำอะไรก็ไม่พอแด...หรอกครับ" โยมว่าได้ตรงมาก"

เถรี 06-06-2017 14:23

"ส่วนอีก ๙ ราย ไปกิจนิมนต์งานทำบุญบ้าน โยมทำต้มยำกบมา พระฉันกันกระจาย ฉันไปได้พักหนึ่งก็ "โยม...เพิ่มต้มยำกบหน่อย" โยมก็ยกหม้อตักมาเพิ่มให้ อีกสักพักก็ "โยม...เพิ่มต้มยำกบหน่อย" ตักเพิ่มให้ พออีกสักพัก "โยม...เพิ่มต้มยำกบหน่อย" โยมตะแคงหม้อให้ดู "เหลือแค่นี้เจ้าค่ะ ถ้าท่านจะฉันมากกว่านี้ ดิฉันกับลูกก็ไม่ต้องแด...แล้วเจ้าค่ะ" ฟังแล้วรู้สึกอนาถอย่างไรพิกล"

เถรี 06-06-2017 17:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาญาติโยมถวายของพระก็เลือกแต่ของดี ๆ ทำให้พระป่วยเป็นโรคกันมาก

ปัจจุบันนี้ ๕ โรคหลัก ๆ ของโรงพยาบาลสงฆ์ ได้แก่ ๑.เบาหวาน ๒.ความดันสูง ๓.ปวดข้อเข่า ๔.โรคหัวใจ ๕.อ้วน เป็นโรคที่มาจากการกินหมดเลย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ท่านบอกเอง

เรื่องของโภชเนมัตตัญญุตา พระพุทธเจ้าให้เรารู้ประมาณในการกิน ถ้าเป็นพระสายวัดป่าท่านบอกว่า "รู้สึกว่าจะอิ่มก็ให้หยุด" แต่ในปัจจุบันนี้ "รู้สึกว่าจะจุกแล้วค่อยหยุด" ถ้าไม่รู้ประมาณในการกินจะลำบาก เพราะเรากินอาหารเข้าไป กว่าที่ร่างกายจะรับรู้ว่ามีอาหารอยู่ในท้อง ต้องใช้เวลา ๑๐-๑๕ นาที ถ้าเป็นพระวัดท่าขนุนนี่สาหัสเลย เพราะว่าเวลา ๑๐-๑๕ นาทีนี่ฉันได้สองอิ่ม..!

ฉะนั้น...ฉันช้า ๆ เคี้ยวช้า ๆ กลืนช้า ๆ ถ้าเอาอย่างการปฏิบัติสายสติปัฏฐานแบบพองยุบคือเคี้ยวให้ได้ ๕๐ ครั้ง กลืนคำแรกลงไปนี่ให้ร่างกายบอกว่าได้อาหารแล้ว เพราะเคี้ยวมาเกือบ ๑๐ นาทีแล้ว ถ้าแบบนี้จะอิ่มเร็ว ช่วยให้ไม่อ้วน"

เถรี 06-06-2017 19:19

"อาตมาเองไปผจญภัยมาแล้ว โยมน่าจะเคยเห็น ปิ่นโตสเตนเลสเถาเล็กสุด ใส่ข้าวต้มเล็กแค่นี้เขาให้เวลาฉัน ๑ ชั่วโมง ถ้าอาตมาอยู่วัดท่าขนุนกวาด ๓ ทีก็หมดแล้ว แต่อยู่ที่โน่นเขาให้เวลาฉัน ๑ ชั่วโมง ต้อง ค่อย ๆ เคี้ยว

เวลาไปส่งอารมณ์ ท่านอาจารย์ถามว่า "ได้พิจารณาตอนฉันอาหารไหม ?" "พิจารณาครับ" "เคี้ยวกี่ครั้งถึงกลืน ?" "ประมาณ ๓๐ ครั้งครับ" "น้อยไป...ครั้งหน้าให้เพิ่มเป็น ๕๐ ครั้ง" "เวลาเคี้ยวอาหารละเอียดอยู่ส่วนในของปากหรืออยู่ส่วนกลางของปาก ?" อาจารย์ท่านถามละเอียดเอาผลจริง ๆ นะ ก็เลยไปดัดจริตกับเขามา ๑๘ วัน

ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูต
สายวิปัสสนารุ่นที่ ๑ ทั้งหมด ๘๗ รูป ผ่านการอบรมแค่ ๑๕ รูป และ ๑๕ รูปที่ผ่าน พระอาจารย์เล็กได้ที่ ๑ เพราะว่าดัดจริตเก่ง เขาให้ทำอะไรอาตมาทำหมด หกโมงเย็นให้เดินออกจากห้องเพื่อไปฟังธรรม ห้องโถงที่ฟังธรรมอยู่ห่างไปประมาณ ๓๐ กว่าเมตร ให้เวลาเดินถึง ๑ ทุ่ม...ไหวไหม ? แต่ทำได้จริง ๆ นะ เดินก็เดินสิ อาตมาไม่ได้ห่วงอยู่แล้ว ยิ่งถึงช้าเท่าไรก็ต้องฟังน้อยเท่านั้น

แต่มีคนเก่งกว่านะ อาตมากราบ ๓ ครั้งใช้เวลา ๑๕ นาที นึกว่าเยอะแล้ว เขาบอกว่ามีคนแค่นั่งหนอ ยังไม่ทันจะกราบเลย ๑๕ นาทีเข้าไปแล้ว เขาเก่งกว่าว่ะ..! อย่าไปนินทาเขาเลยนะ นิสัยไม่ดี มาปฏิบัติธรรมกันเถอะ"

เถรี 06-06-2017 19:40

พระอาจารย์เล่าว่า "ก่อนอาตมาบวชสองปี วันนั้นปฏิบัติธรรมอยู่ที่บ้านสายลม พอกรรมฐานภาคค่ำเสร็จ หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า "พระเสด็จมาบอกว่า ทั้งหมดที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในวันนี้ ถ้าตั้งใจรักษาศีลแปด จะทำได้เลย ๗๐ คน" อาตมาได้ยินไม่รู้หรอกว่ามีกี่ร้อยกี่พันคน รู้แต่ว่าข้าคือ ๑ ในนั้น นี่เป็นความคิดตอนนั้น

ทันทีที่คิดแบบนั้นก็เหมือนกับคอหอยตันไปเลย ไม่นึกอยากกินอะไร การทดสอบกำลังใจก็มา พอเลิกงานแล้ว น้าโชค (คุณประสพโชค ปัจฉิมางกูร) ที่รู้จักสนิทสนมกัน บอกว่าวันนี้น้าไปส่ง แกก็ขับรถพาไป เพราะไปทางเดียวกัน อาตมาอยู่แถวสวนหลวง น้าโชคอยู่เลยไปหน่อยหนึ่ง

พอมาถึงแยกคลองตัน น้าโชคเลี้ยวเข้าร้านหม้อไฟ "เล็ก..น้าเลี้ยง" ยังเหลืออีกประมาณ ๒ กิโลเมตรกว่าก็จะถึงบ้าน บอก "เชิญคุณน้ากับน้อง ๆ กินตามสบายนะครับ ขอบคุณมากที่มาส่ง ผมไปแล้ว" ตั้งใจจะไม่กิน แล้วก็เดินกลับบ้านไปเลย

วันรุ่งขึ้นไม่ได้รู้สึกหิวนะ แต่อุปาทานว่าเราไม่ได้กินอาหารเย็นแล้ว ก็เลยกินเผื่อตอนเพลไป ๑ จาน จากที่เคยกิน ๑ จาน ก็กินเสีย ๒ จาน เสร็จแล้วก็มานึกว่า เอ็งบ้าหรือเปล่าวะ ? ไม่ได้นึกอยากแล้วไปกินเพิ่มทำไม ? ท้ายสุดวันต่อมาก็เลยไม่ได้กินเพิ่มอะไร หลังจากนั้นมาก็เลิกโดยเด็ดขาดและสิ้นเชิง

แต่มีปัญหาตรงที่บรรดาน้อง ๆ มีจำนวนมาก พอเวลาเย็นก็ไปร้านอาหาร ต้องไปเลี้ยงเขา เพราะเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม สรุปว่าไปนั่งดูเขากินและต้องควักเงินจ่ายให้ด้วย เพราะฉะนั้น...เรื่องที่จะมาหลอกให้อาตมาตบะแตกเพราะอาหารนี่ไม่สำเร็จหรอก ตั้งแต่ก่อนบวชสองปีก็ลาขาดกันไปแล้ว พอถึงเวลาเขาไม่หิวเอง ไม่รู้ว่าจะไปบังคับอย่างไร อาจจะเป็นเพราะไม่ได้กินนานเกินไป ร่างกายเลยไม่ได้ผลิตน้ำย่อยช่วงนั้น"

เถรี 06-06-2017 19:52

"แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่อยากจะให้โยมตั้งข้อสังเกตไว้ก็คือ การที่เราจะได้อะไรบางอย่าง ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ในเมื่อเราคิดว่าเราทำได้ ก็ตัดสินใจเลยว่า "เอา" ทำเดี๋ยวนั้นเลย ถ้ามีการตัดสินใจแบบนี้ โอกาสที่เราจะได้อะไร ๆ ก็มีมาก แต่ถ้าไม่มีการตัดสินใจลักษณะอย่างนี้ โอกาสที่จะได้ก็มีน้อย"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:49


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว