กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=57)
-   -   มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๙ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3689)

คิมหันต์ 05-03-2013 23:17

มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๙
 
ลืมตาตอนตีสามครึ่ง เพราะลมหนาวพัดกรูเข้ามา ไอ้เกวียนบรรดาศักดิ์กระแทกจนขาล็อกหน้าต่างหลุด แหม..ลมข้างนอกเย็นเจี๊ยบบาดเนื้อเลย เย็นกว่าเครื่องปรับอากาศตั้งหลายเท่า โชเฟอร์พาแวะเข้าปั๊ม เอ็ม.พี.พี.อี. เขาไม่มีห้องสุขาแบบไทย ต้องอาศัยพุ่มไม้เป็นที่พึ่ง..!

ขนาดเข้าช่วงทางสี่เลนปะโก (หงสาวดี) – ย่างกุ้งแล้ว รถก็ยังกระแทกโครม ๆ อยู่ดี ตีห้าเศษมาจอดที่ข้างพระเจดีย์ซูเลในตัวเมืองย่างกุ้ง แท็กซี่โฉบเข้ามาประกบเหมือนฉลามได้กลิ่นเลือด มีแต่สภาพค่อนข้างเก่าทั้งนั้น จอดเป็นแพเต็มถนน ใครจะผ่านให้รอไปก่อน..!

อาตมาคว้าย่ามจะไปกราบพระเจดีย์ซูเล “เดี๋ยวครับ..ท่านอาจารย์.. หม่องหม่องพี่ชายท่านโชติกะเขามารอรับ” ให้มันได้อย่างนี้ซิพ่อคุณเอ๋ย..บริการสุดใจขาดดิ้นจริง ๆ..! เขาพาขึ้นแท็กซี่ตรงไปบ้านก่อน แต่ตัวเองออกมาเช้าเกินไป คนอื่นหลับหมดเรียกไม่ตื่น..!

บ้านเขาเป็นอพาร์ตเมนท์อยู่ชั้นที่สี่ ทั้งขว้างด้วยหิน ทั้งส่องด้วยไฟฉาย ให้เงียบไปเสียทั้งนั้น อาตมาจับกุญแจตรงประตูทางขึ้น กระแทกโครม ๆ ไปสามชุดใหญ่...ได้ผลแฮะ...แขกลังกาหน้าดำปี๋งัวเงียมาเปิดให้ มันคงจะทนง่วงไม่ไหว จึงล็อกประตูหลบไปนอน..!

คิมหันต์ 05-03-2013 23:20

ตื่นกันทั้งบ้านซิคราวนี้ ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งน้องสาว ทั้งน้องเขย พอทราบความก็อาสารับภารกิจเต็มที่ ทั้งรับจองตั๋วเครื่องบิน รับแลกเงิน และจะพาไปพักที่วัดตุยซีกัน (สระล้างเลือด) ข้างพระมหาเจดีย์ชุยดากง (ชเวดากอง) แต่ตอนนี้นิมนต์ฉันเช้าก่อน..!

พอชาร้อนกับมะตะบะลงไปนอนเรียบร้อยในกระเพาะ ทั้งพระทั้งโยมก็ยัดเข้าไปในรถคันเดียว ตรงไปกราบหลวงปู่วาระเจ้าอาวาส พอทราบว่าอาตมาเป็นคนโยเดีย (อยุธยา) ก็รีบพูดไทยชัดเจนว่า “ผมพูดไทยไม่ได้แล้วครับ..” ท่านไปเมืองไทยตั้งแต่ก่อนอาตมาเกิด ไม่ได้ใช้ภาษาไทยนาน ๆ เลยลืมหมด..!

แต่ไม่เป็นไร ท่านนันทะสาระ พรรษา ๑๒ พูดไทยได้ปร๋อเลย ไปอยู่วัดหวายเหนียว จ.กาญจนบุรี มา ๗ ปี เพิ่งกลับมาได้ ๒ ปีเอง เมื่อได้บารมีโยมที่เป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานโบสถ์วัดนี้เข้าไปด้วย ทำให้ได้ที่พักหรูหรามาก เป็นเตียงเดี่ยว มีฟูกมุ้งหมอนพร้อมสรรพ

จัดเก็บข้าวของแล้ว หลวงปู่วาระชี้ทางลัดให้ไปไหว้พระมหาเจดีย์ชุยดากง ส่วนโยมจะอยู่คุยธุระกับหลวงปู่ ปีนี้องค์เจดีย์ปิดทองใหม่ถึงคอระฆังแล้ว อาตมากับครูบาน้อยกราบถวายบูชาด้วยความปลาบปลื้มใจ จากนั้นตรงไปหาร้านค้าเจ้าประจำ

คิมหันต์ 05-03-2013 23:24

ปีนี้อาตมาตั้งใจจะมาบูชาพระพุทธรูปไม้จันทน์ขาว แต่ที่มีอยู่ยังไม่ถูกใจ ถามราคาดอลลาร์ เขาให้ ๓๒๐ จั๊ตเท่าปีที่แล้ว กลับขึ้นมาพบพี่ชายท่านโชติกะตามมา เขาเอาฟิล์มที่ครูบาน้อยฝากซื้อมาให้ ท่านยืมฟิล์มฟูจิของอาตมาไป คืนมาเป็นโคนิก้าที่เก่าจนกล่องซีดเชียว ดูท่าว่าต้องชักบังสุกุลก่อนใช้ เพราะหมดอายุไปตั้งนานแล้ว..!

กราบพระมหาเจดีย์องค์จำลอง ชมภาพปั้นพุทธประวัติที่เขาจัดเป็นห้องนิทรรศการทีละห้อง ประกอบแสงสีเสียงด้วย ชั้นบนเป็นภาพเขียนสีพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ จนสิบโมงครึ่งจึงออกมาเดินหาซื้อผลไม้ และเข้าร้านค้าเพื่อฉันเพล

ร้านนี้เป็นเบียร์ฮอลล์ เจอพระมาฉันข้าวเลยทำอะไรไม่ถูก จะบอกว่าไม่รับก็กลัวมีปัญหา เพราะทางพม่านั้นพระสงฆ์มีอิทธิพลต่อชาวบ้านสูงมาก อาตมาต้องย้ำแล้วย้ำอีก สั่งแล้วสั่งอีก กว่าอาหารจะมาครบก็เกือบลมใส่ ซ้ำร้ายแต่ละอย่างทำมานิดเดียว อาตมาจึงกวาดเรียบ ชนิดแทบจะฉันจานกับช้อนเข้าไปด้วย..!

ทั้งค่าผลไม้ ค่าอาหาร ค่าผงซักฟอก โยมจ่ายหมด ไม่ยอมให้พระควักย่ามเด็ดขาด อาตมาจึงออกอุบายกลับไปสรงน้ำ ซักผ้า บอกให้โยมกลับไปพักผ่อน ค่ำ ๆ ค่อยมาเจอกัน พอโยมลับตาไป จอมกระล่อนทั้งสองก็เผ่นขึ้นแท็กซี่ ให้ไปส่งที่บ้านของลูกแมว - ลูกเป็ดหน้าวัดไจ๊ไว จ่ายค่ารถสี่ร้อยจั๊ตสบายไป..!

คิมหันต์ 05-03-2013 23:32

ร้านค้าหายไปจากที่เดิม เดินข้ามถนนไปถึงบ้าน พบอูเมียวพ่อของสองสาวอยู่คนเดียว บอกว่าย้ายร้านเลยหน้าวัดไปนิดเดียว ยังไม่ทันขาดคำ เอเมียว (ลูกเป็ด) ก็เดินตัวกลมแทบกลิ้งเข้ามากราบด้วยความดีใจ แล้ววิ่งปร๋อหายวับไปกับตา..!

กลับมาพร้อมน้ำอัดลมสองขวด รับประเคนแล้วอาตมาส่งอัลบั้มรูปถ่ายปีที่แล้วให้ ยายเป็ดปลื้มกับภาพอ้วน ๆ ของตัวเอง บอกว่าสวย ครู่ต่อมาเอจีผู้เป็นแม่ แม่ออกกงซุ่ยผู้เป็นยาย ก็เข้ามาสนทนาสารทุกข์สุกดิบกันให้สมกับที่จากไปตั้งปี..!

“ท่านอาจารย์คะ..” ผอมชะลูดทรงเพรียวลมพร้อมเสียงอ้อนหวานมาแต่ไกล เขาล่ะ..ลูกแมวเจ้าเก่า ภาษาไทยที่สอนไว้ลืมเกือบหมดแล้ว “คิดถึงท่านอาจารย์ที่สุดเลย..” ยายนี่เขาติดเรียกแบบนี้มาตั้งแต่แรก เรียกหลวงพ่อไม่เป็นกับเขาหรอก ส่วนใหญ่เรียกแต่ท่านอาจารย์ วันไหนอารมณ์ไม่ดี ก็เรียกอาตมาแบบประชดว่า “อาเสี่ย”..!

อาตมาส่งพระแก้วมรกตกรอบทองไมครอนให้ลูกเป็ด แบมือบอกลูกแมวว่าหมดเกลี้ยง มีแค่นี้เอง หน้าบาน ๆ หุบหงิกแบบกะทันหัน ลูกเป็ดกับครูบาน้อยปล่อยก๊ากกันลั่นห้อง..! พออาตมาหยิบพระที่ซ่อนไว้ส่งให้ เสียงหัวเราะยิ่งดังเข้าไปใหญ่...

คิมหันต์ 11-03-2013 23:20

ปะหลับปะเหลือกอยู่ครู่ใหญ่จึงปรับอารมณ์ถูก ยิ้มบานเป็นจานเชิง ชมไม่ขาดปากว่าสวย ส่วนลูกเป็ดหอบเสื้อสามารถ กับประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่นของเมืองย่างกุ้งมาอวด

สองสาวเขาแข่งกันแบบไม่ต้องมีกรรมการมานานแล้ว ลูกแมวเรียนมหาวิทยาลัยเปิด จบแล้วจะไปหาอาตมาที่เมืองไทย ส่วนลูกเป็ดเขาจะติดทีมชาติไปแข่งที่เมืองไทยให้ได้ ดูว่าใครจะได้ไปก่อนกัน

สองคนอ้วนผอมแย่งพ่อ-แม่และยายพูดเสียหมด สรุปได้ว่า ตั้งแต่ไปเที่ยวกับหลวงพ่อปีที่แล้ว ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนอีกเลย..เวรกรรม..! นี่แปลว่าตกเป็นภาระตูต้องพาเที่ยวอีกแล้วหรือนี่...?

ตกกันลงว่า..พรุ่งนี้ให้ทั้งสองเช่ารถไปพบอาตมากับครูบาน้อยที่วัดตุยซีกันตอนสองโมงเช้า เสร็จแล้วโดดขึ้นแท็กซี่หนีมาก่อนที่จะหลวมตัวรับปากอะไรมากกว่านี้ จ่ายค่ารถไป ๓๕๐ จั๊ต ลงไปกราบบูชาและถ่ายรูปพระมหาเจดีย์มหาวิสะยะ (มหาวิชัย) สวดอิติปิโสถวายเป็นพุทธบูชา ๓ จบ

คิมหันต์ 11-03-2013 23:22

จากพระมหาเจดีย์มหาวิสะยะ มีทางเป็นสะพานลอยติดต่อกับพระมหาเจดีย์ชุยดากง กราบพระแล้วอาตมากับครูบาน้อยไปทดสอบความใจแข็งของแม่ค้า ผลคือใช้ได้ทีเดียว ไม่ได้ราคาที่ตั้งไว้ เธอไม่ยอมขายเด็ดขาด..!

กลับมาที่วัด ฉันน้ำร้อนเข้าไปล้างไข้ ๘ ถ้วยรวด เหงื่อออกท่วมตัว รอจนเหงื่อแห้งก็เล่นเอาค่ำ เช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วห่มดองพาดสังฆาฏิ ออกไปสวดคาถาเงินล้านที่พระมหาเจดีย์ชุยดากง ถวายพระประธานประจำทิศ ได้ทิศละ ๓๐ จบพอดี

ค่ำแล้วยุงเยอะมาก กว่าจะครบเล่นเอาลายเป็นตุ๊กแก พระประธานประจำทิศเหนือและตะวันออก มีผู้ถวายมรกตล้อมเพชร ด้านใต้เป็นบุษราคัมล้อมเพชร ตะวันตกเป็นไพลินล้อมเพชร ทุกทิศทุกอย่างล้วนเม็ดโตมหึมา..! จนเขาต้องใช้กระจกกันกระสุนมาทำบานประตูซุ้มพระประธาน ป้องกันพวกสิ้นคิดขโมยของ

ทิศใต้มีทีวีวงจรปิด ถ่ายภาพพระพุทธรูปจากที่ใดไม่ทราบ พระเนตรเป็นทับทิมโตกว่าหัวแม่มือเสียอีก ราคาคงจะเป็นล้าน ๆ จึงต้องปกปิดมิดชิดหน่อย อุทิศส่วนกุศลแล้วเดินกลับทางเดิม ชักจะจำแม่นกว่าปีก่อนมาก

หม่องหม่องพี่ชายท่านโชติกะเหมือนกับรู้เวลา อาตมากลับมาถึง เขาก็โผล่มาทันที บอกว่าราคาดอลลาร์ผันผวนมาก ต้องหาจังหวะดีที่สุดจึงจะแลก ทางเราแจ้งว่าเรื่องรถยนต์พรุ่งนี้ไม่ขอรบกวน เพราะให้ลูกแมวกับลูกเป็ดหามาเอง รู้เรื่องกันแล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย...

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:20


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว