กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=140)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9852)

ตัวเล็ก 13-11-2023 18:59

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖



เถรี 13-11-2023 23:55

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ถ้าหากว่าญาติโยมได้ยินเสียงแปลก ๆ สอดแทรกเข้ามาในการบันทึกเสียง ก็โปรดทราบว่ากระผม/อาตมภาพกำลังเดินทางออกจากวัดกระจัง แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เนื่องจากว่ามาร่วมพิธีเปิดการใช้ถนนซอยที่เป็นเจ้าภาพร่วมในการขยายถนนขึ้นมา

เนื่องจากว่าของเก่านั้นไม่สามารถที่จะทำให้รถดับเพลิงเข้าออกได้ จนเกิดความเสียหายใหญ่เมื่อตอนที่มีไฟไหม้ เมื่อทำการขยายเสร็จแล้ว จึงได้มาฉลองกันในวันนี้ แล้วกระผม/อาตมภาพก็เป็นรถคันแรกที่เขาให้วิ่งออกจากวัดมาเพื่อฉลอง และได้เวลาในการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนแล้ว จึงได้ดำเนินการไปพร้อมกันเลย

ความจริงวันนี้ในช่วงเช้านั้น กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) เนื่องจากว่าเป็นคณะกรรมการในการตรวจข้อสอบนักธรรมชั้นตรีสนามหลวง ประจำปี ๒๕๖๖ การตรวจข้อสอบในวันนี้นั้น เป็นวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม ซึ่งข้อสอบปึกที่กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบอยู่นั้น ปรากฏว่านักเรียนนักธรรมชั้นตรีเขียนได้น่าชื่นใจมาก มีผู้ที่ได้คะแนนเต็มร้อยถึง ๔ รูป..! ซึ่งกระผม/อาตมภาพขอบอกว่า ตนเองให้คะแนนเต็มร้อยแก่ผู้อื่นยากมาก แต่ว่าในเมื่อนักเรียนนักธรรมชั้นตรีของเรา ที่ส่วนมากเป็นพระนวกะ สามารถที่จะเขียนได้สมเหตุสมผล อธิบายขยายความและเชื่อมกระทู้ได้ดีขนาดนั้น อีกทั้งลายมือก็สะอาดเรียบร้อย จึงได้ให้คะแนนเต็ม ๑๐๐ ไป ๔ รูป

ขณะที่อีก ๔๖ รูปนั้น น่าเสียดายว่ามีอยู่รูปหนึ่งที่เขียนมาได้แค่ครึ่งหน้าเท่านั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าไม่ได้เรียนแล้วเข้าสอบ หรือว่าไม่มีความสามารถในการเทศน์บนหน้ากระดาษจริง ๆ จึงเขียนมาแค่นั้น กระผม/อาตมภาพตัดสินใจให้คะแนนไป ๓๐ คะแนน เผื่อว่าวิชาอื่นของท่านผ่านแล้วมีคะแนนเหลือ มาบวกกับวิชานี้ก็อาจจะพอที่จะสอบได้บ้าง

หลังจากที่ตรวจเสร็จเรียบร้อย สองปึกรวม ๑๐๐ รูปแล้ว ก็ยังได้เซ็นร่วมกับหลวงพ่อพระครูบวรธรรมานุสิฐ (สอน ปวโร) เจ้าคณะอำเภอพุทธมณฑล เจ้าอาวาสวัดมะเกลือ ซึ่งเป็นคู่ตรวจร่วมกัน ก็คือต่างเป็นผู้ตรวจหลัก ๑๐๐ รูป และเป็นผู้ตรวจทานอีก ๑๐๐ รูป

เถรี 13-11-2023 23:58

ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วจึงได้ฉันเพล เมื่อได้เวลาก็เดินทางมายังวัดกระจัง ตามที่ท่านพระครูสิทธิวัฒนคุณ (พรพรหม ฐิตคุโณ) เจ้าอาวาสวัดกระจัง ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตตลิ่งชัน เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้นิมนต์มาเนื่องจากว่าเป็นประธานร่วมในการขยายถนนครั้งนี้ โดยประธานฝ่ายสงฆ์ก็คือ พระเทพประสิทธิมนต์ (โกศล มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร

ส่วนประธานฝ่ายฆราวาสนั้นมีสองราย ก็คือ ดร.สนธยา กล่อมเปลี่ยน อุบาสิกาผู้มีใจบุญใจกุศล ไม่ว่าจะเป็นงานบุญที่ไหนก็ไปถึงเสมอ อีกท่านหนึ่งนั้นเป็นทายาทของหม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ ซึ่งก็คือหม่อมราชวงศ์หญิงวไลยวัฒนา สวัสดิวัตน์ ท่านมาเป็นเจ้าภาพร่วม ในฐานะอุบาสิกาของวัดกระจัง

เมื่อทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ กระผม/อาตมภาพรู้สึกว่า การเจริญพระพุทธมนต์วันนี้ไพเราะมาก อานุภาพของพระปริตรนั้น สามารถขับไล่สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเหตุเภทภัย โดยเฉพาะอัคคีภัยได้อย่างแท้จริง

อานุภาพของพระปริตรนั้น มีพระอรรถกถาจารย์ได้ขยายความเอาไว้ว่า มีอานุภาพยิ่งกว่าช้างสารหนึ่งแสนเชือกโกญจนาทพร้อมกัน หรือว่า บุคคลหญิงชายอย่างละหนึ่งล้านคน เปล่งเสียงพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถที่จะสู้อานุภาพพระปริตร หรือว่าพระพุทธมนต์ได้ โดยเฉพาะองค์ประธานนั้นก็คือหลวงพ่อเณร (พระเทพประสิทธิมนต์) วัดศรีสุดารามวรวิหาร ท่านมีชื่อเสียงทางด้านนี้อยู่แล้ว

ครั้นเจริญพระพุทธมนต์เสร็จ ทางด้านเจ้าภาพก็ได้นิมนต์ให้หลวงพ่อพระเทพประสิทธิมนต์ กับกระผม/อาตมภาพ ทำการพรมน้ำพระพุทธมนต์ตลอดถนนที่ได้ขยายขึ้นมา โดยที่กระผม/อาตมภาพพรมออกไปทางปากซอยด้านซ้ายมือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเณร ท่านพรมทางด้านขวามือ แล้วญาติโยมทั้งหลายก็ยังเรียกร้องให้ไปพรมจนถึงสถานที่ซึ่งเกิดไฟไหม้อีกด้วย
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ทำตามที่เรียกร้องไป

เถรี 14-11-2023 00:01

โดยเฉพาะญาติโยมจำนวนมากที่เป็น FC วัดท่าขนุน โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่อยู่แถวฉิมพลี ตลิ่งชัน มารอทำบุญอยู่หลายราย กระผม/อาตมภาพก็มอบถวายให้กับพระครูสิทธิวัฒนคุณ หรือว่าพระครูพรพรหม เจ้าอาวาสวัดกระจังไปจนหมด เนื่องเพราะว่าครูบาอาจารย์ คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านสอนเอาไว้ว่า "เงินเกิดที่วัดไหน ก็มอบให้กับวัดนั้น"

กระผม/อาตมภาพเองมีนิสัยว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ต้องลงบัญชีตามที่ครูบาอาจารย์สอนเอาไว้ ในเมื่อต้องรับเงินมา ก็กลายเป็นภาระของตน ครูบาอาจารย์ท่านให้มอบให้กับทางวัดนั้น จึงเป็นเรื่องที่ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับวันนี้เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์อีกท่านหนึ่ง คือ พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) เลขานุการองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ และเพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ด้วยกัน ได้ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ก็ต้องบอกว่าพระครูพรพรหมท่านเอาประธานรุ่นกับเลขาฯ รุ่นมา ก็ถือว่าเพื่อนมาครบทุกรูปแล้ว

หลังจากนั้น เมื่อพิธีเปิดก็มีวงโยธวาทิตของทหารเรือเดินนำหน้า แล้วมีขบวนมังกรทองติดตามไป กระผม/อาตมภาพเป็นรถคันแรกที่แล่นออกจากถนนใหม่วัดกระจัง ที่บรรดาท่านผู้เป็นประธานได้ตัดริบบิ้นเปิด จึงกังวลอยู่เล็กน้อยว่า เสียงขบวนมังกรทองอาจจะเข้ามารบกวนก็ได้ แต่ถ้าหากว่าไม่มีเสียงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไป

แต่การที่ออกมาทางด้านนอกในช่วงระยะ ๖ โมงเย็นนี้ ต้องมาพบกับรถติดหนักหนาสาหัสเป็นปกติ เพราะว่ารถในกรุงเทพมหานครนั้น มีมากเกินถนนไปนานแล้ว ถนนในกรุงเทพมหานครสามารถรองรับรถยนต์ได้ ๔ ล้าน ๔ แสนคัน แต่รถยนต์ทุกประเภทที่จดทะเบียนเฉพาะกรุงเทพมหานคร มีถึง ๙ ล้านกว่าคัน แล้วยังบวกกับรถจากที่อื่นอีก รถจึงติดสาหัส นับว่าเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองน้ำมันเป็นอย่างยิ่ง

มีวิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรของกรุงเทพมหานครได้ ก็คือทำให้การขนส่งสาธารณะมีความสะดวก คล่องตัว และตรงเวลา แต่ว่าเรื่องนี้คงต้องรอกันอีกนานแสนนาน เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่ท่านผู้มีอำนาจในการแก้ไข ก็มักจะมาจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่มีบรรดาบริษัทรถยนต์เป็นผู้สนับสนุนให้ จึงต้องออกนโยบายที่ทำให้เขาสามารถจำหน่ายรถยนต์ได้ ไม่ใช่ทำให้จำนวนรถยนต์ลดลง จึงกลายเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่มีวันสำเร็จ เพราะว่ารถบ้านเราเพิ่มได้โดยไม่จำกัด

เถรี 14-11-2023 00:03

ในประเทศอื่น ๆ นั้น เขามีการจำกัดจำนวนรถ อย่างเช่นว่า เพิ่มได้ปีละไม่เกิน ๒ เปอร์เซ็นต์บ้าง คนซื้อรถต้องมีสถานที่จอดของตนเองอย่างแน่นอนแล้ว จึงสามารถที่จะซื้อรถยนต์ได้บ้าง ต้องนำเอารถคันเก่ามายุบทิ้ง แล้วถึงซื้อรถคันใหม่ได้บ้าง หรือว่าที่จอดรถแพงหนักหนาสาหัส จนกระทั่งคนไม่อยากที่จะซื้อรถมา แล้วจ่ายค่าจอดแพงขนาดนั้นบ้าง

แต่ในบ้านเรา วิธีการดี ๆ มีมากมาย แต่ว่าบรรดาผู้ที่แก้ไข ก็ไปติดขัดด้วยประการต่าง ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลเฉพาะตน เฉพาะพรรคพวกของตน ไม่ใช่เพื่อความสุขของประชาชนส่วนรวม จึงทำให้กระผม/อาตมภาพเห็นคุณเป็นอย่างยิ่งของสถาบันพระมหากษัตริย์

กระผม/อาตมภาพเองเป็นได้แค่บุคคล ๒ แผ่นดิน ก็คือเกิดในรัชกาลที่ ๙ อยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงรัชกาลที่ ๑๐ สถาบันพระมหากษัตริย์ของเรานั้นแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน สารพัดเรื่อง โดยที่ไม่มีการเรียกร้องข้อตอบแทน
ใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากทำเพื่อความสุขของส่วนรวม จึงยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมนักการเมืองของเรา จึงไม่ได้มี "หัวใจพระโพธิสัตว์" เหมือนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของเราบ้างเลย ?

ถ้านักการเมืองทุกคนนำเอาทศพิธราชธรรมก็ดี จักรวรรดิวัตรก็ตาม ไปปรับใช้ในการบริหารประเทศ โดยที่ไม่ต้องไปเน้นอะไร นอกจากเน้นในเรื่องของศีล ๕ ประเทศชาติของเรา คาดว่าจะเจริญรุ่งเรืองล้ำหน้านานาอารยประเทศอย่างแน่นอน ขนาดการบริหารกะพร่องกะแพร่งอยู่ทุกวันนี้ ปล่อยให้เป็นภาระของสถาบันพระพุทธศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วยกันประคับประคองลากถูลู่ถูกังไป ประเทศชาติของเรา ยังกลายเป็นประเทศที่บุคคลต่างประเทศ ต่างมุ่งหวังที่จะมาเยือน ถ้านักการเมืองของเรามีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมสักครึ่งหนึ่ง ประเทศชาติของเราคงจะน่าอยู่ยิ่งกว่าสวรรค์เสียอีก..!

ก็ได้แต่หวังว่าบรรดาผู้ที่เป็นนักการเมือง จะมีกำลังใจทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อประชาชนของเราให้มากกว่านี้ แต่คาดว่าในชีวิตที่เหลืออยู่ไม่มากนักของกระผม/อาตมภาพ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ยังคงไม่ได้เห็น แต่ก็จะพยายามทำหน้าที่ในส่วนของตนให้ดีที่สุดต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:55


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว