เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๖ |
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ หลังจากฉันเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังวัดประยุรวงศาวาส เพื่อร่วมงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๖๘ ปี ของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งหลวงพ่อพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) วัดปทุมคงคาวรวิหาร ท่านเกิดวันที่ ๑๖ กันยายน อายุ ๗๘ ปี พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมบัณฑิตเกิดวันที่ ๑๗ กันยายน อายุ ๖๘ ปี แปลว่ากรรมการมหาเถรสมาคมทั้งสองรูปนี้ อายุห่างกัน ๑๐ ปีถ้วน
เมื่อมาถึง กระผม/อาตมภาพก็เจอลูกศิษย์สองคน ซึ่งเคยเป็น "ตัวตึง" ประจำหลักสูตรปริญญาโท สาขา การจัดการเชิงพุทธ ของ วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) คือ พระมหาสมชาย รตนโชโต และพระมหากฤตติน ปภสฺสโร ซึ่งทั้งสองท่านถึงขนาดยอมย้ายไปสังกัดวัดพังตรุ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อจะได้มีสิทธิ์ขอทุนการศึกษาระดับปริญญาโทจากกระผม/อาตมภาพ ซึ่งเมื่อส่งเรียนไป ทั้งสองก็สร้างปัญหาให้กับครูบาอาจารย์ต้องปวดหัวไม่เว้นแต่ละเดือน เนื่องเพราะว่าเป็นบุคคลที่ค่อนข้างจะหัวรุนแรง มีอะไรก็เถียงครูบาอาจารย์ตรง ๆ..! เมื่อเจอกระผม/อาตมภาพ ทางครูบาอาจารย์ก็ฟ้องว่า "หลวงพ่อเล็ก..ช่วยจัดการให้หน่อย" แต่เมื่อถึงเวลา บรรดาลูกศิษย์ก็มาฟ้องว่าบรรดาครูบาอาจารย์ทำอย่างนั้นไม่ถูก ทำอย่างนี้ไม่ดี กระผม/อาตมภาพที่เป็น "หนังหน้าไฟ" อยู่ตรงกลาง บางทีก็ต้อง "ว้ากกระจาย" ไปทั้งสองฝ่าย แต่ก็ลากถูลู่ถูกังจนกระทั่งจบหลักสูตรไปได้เหมือนกัน เมื่อทักทายพรรคพวกเพื่อนฝูงแล้ว ท่านเจ้าคุณอาทิตย์ (พระโสภณวชิรวาที) เลขานุการวัดประยุรวงศาวาส ก็นำกระผม/อาตมภาพเข้าไปพักที่สำนักงานของท่านก่อน เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. กำลังต้อนรับท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนจิตรลดา ซึ่งถ้าว่าเพียงนี้อาจจะยังไม่น่าสนใจ แต่ถ้าทราบว่าท่านเป็นครูคนแรก ๆ ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ คราวนี้ทุกท่านก็คงจะเห็นความสำคัญแล้ว ท่านผู้หญิงแม้ว่าจะอายุถึง ๘๙ ปีแล้ว แต่ก็ยังลุกนั่งได้สะดวก ดูท่าทางแข็งแรงมาก เมื่อถึงเวลากระผม/อาตมภาพก็เข้าไปกราบมุทิตาสักการะท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. พร้อมกับถวายปัจจัย ๑ แสนบาท เพื่อเพิ่มกองทุนเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเป็นผู้เริ่มต้นในการถวายเข้ากองทุนนี้ไป ๑ ล้านบาท..! |
ความจริงกระผม/อาตมภาพก็แค่ตั้งใจจะช่วยในงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ว่าท่านเจ้าคุณอาจารย์ พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. นั้น ต้องบอกว่าสมองไวสมกับเป็นศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ ท่านจัดการตั้งเป็นกองทุนเผยแผ่พระพุทธศาสนาเลย แล้วก็ขอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ช่วยกันร่างระเบียบการใช้กองทุนนี้ ก็คือมีทั้งการจัดตั้งคณะกรรมการ มีทั้งคุณสมบัติของคณะกรรมการ มีกรรมการพ้นวาระด้วยสาเหตุประการใด ลักษณะของโครงการใดบ้างที่สามารถเบิกเงินจากกองทุนนี้ไปใช้ได้ เป็นต้น
กระผม/อาตมภาพเห็นความรอบคอบในการทำงานของเจ้าคุณอาจารย์ จึงได้ตกปากรับคำว่า "ถ้ามีโอกาสกระผมก็จะเพิ่มกองทุนไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากว่าหมดเมื่อไร ให้ท่านเจ้าคุณอาจารย์รีบบอก เพื่อที่กระผม/อาตมภาพจะได้เสริมเข้าไปได้ทันท่วงที แต่ถ้าหากว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดเห็นดีด้วย ก็สามารถที่จะติดต่อท่านเจ้าคุณอาทิตย์ (พระโสภณวชิรวาที) เลขานุการวัดประยุรวงศาวาส เพื่อที่ขอบริจาคเข้าร่วมกองทุนนี้ได้" เมื่อท่านเจ้าคุณอาจารย์ทราบว่ากระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการโครงการขับเคลื่อนหมู่บ้านศีล ๕ หนกลาง ก็รีบมอบของที่ระลึกให้ เมื่อกระผม/อาตมภาพกราบลาออกมา ปรากฏว่าถนนหนทางเกือบทั้งหมดในวัด โดนโต๊ะจีนตั้งขวางไปหมดแล้ว ยังโชคดีที่ว่าตรงประตูทางออก ที่จำเป็นต้องให้คนวิ่งเข้าออกเพื่อส่งอาหารนั้นยังเปิดอยู่ จึงสามารถที่จะหลุดออกมาได้ แล้วก็วิ่งยาวออกมาทางด้านถนนพระราม ๒ เพื่อมุ่งตรงสู่จังหวัดเพชรบุรี มาแวะฉันเพลที่แถวชะอำด้วยข้าวกล่องตามความเคยชินของตนเอง หลังจากที่อิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็วิ่งตรงไปยังวัดตาลเจ็ดยอด ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่คณะกรรมการได้นัดกันว่าจะไปประชุมในวันนี้ เมื่อไปถึง ทางเลขานุการเจ้าอาวาสก็ได้ให้การต้อนรับ พาไปกราบรูปหล่อหลวงพ่อโต วัดระฆัง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งสร้างใหญ่โตมโหฬารเกือบจะเต็มหลังคาศาลาหลังใหญ่ ถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของวัดตาลเจ็ดยอดแห่งนี้ เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อพระมหาจำนงค์ จรณธมฺโม เจ้าอาวาสวัดตาลเจ็ดยอดนั้น ท่านไปเรียนบาลีที่วัดระฆัง เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเจ้าคุณเที่ยง - พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม ป.ธ.๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งเพิ่งล่วงลับไปไม่นาน ดังนั้น..ท่านจึงได้สร้างรูปหล่อหลวงพ่อโต วัดระฆัง ขนาดมหึมาไว้บนหลังคาอาคาร แล้วหลังจากนั้นก็ได้สร้างรูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ตามมาด้วยรูปหล่อหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ สำหรับให้บุคคลได้มากราบไหว้บูชา |
เนื่องเพราะว่าสถานที่ใกล้เคียงแห่งหนึ่งก็คือ วัดห้วยมงคลนั้น ได้สร้างรูปหล่อหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่เอาไว้ จึงทำให้กลายเป็นวัดในเส้นทาง ก็คือถ้ามากราบหลวงปู่ทวด วัดห้วยมงคลแล้ว นักท่องเที่ยวก็จะเลยมากราบหลวงพ่อโต หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อสด ที่วัดตาลเจ็ดยอดแห่งนี้ ซึ่งดูแล้ววัดวาอารามของท่านใหญ่โตมโหฬาร สะอาดสะอ้านมาก และการจัดนิทรรศการต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งการจัดสถานที่ การฝึกซ้อมการแสดงของเด็ก ๆ ก็เป็นไปอย่างคึกคักทีเดียว
เมื่อกระผม/อาตมภาพดูสถานที่เรียบร้อยแล้ว รายงานเข้าไปในกลุ่มไลน์ ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณปัญญา (พระปริยัติวรานุกูล) เลขานุการโครงการขับเคลื่อนหมู่บ้านศีล ๕ หนกลาง แจ้งมาว่า ท่านปลัดเก่ง (นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ) ปลัดกระทรวงมหาดไทยติดภารกิจ ไม่สามารถเดินทางมาร่วมการประชุมวันนี้ได้ จึงขอยกเลิกการประชุม ให้กระผม/อาตมภาพเดินทางเข้าไปพักที่วัดอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เลย แต่เมื่อเดินทางมาแล้ว ปรากฏว่า "พี่กู" หรือว่ากูเกิ้ลแม็พ ก็ออกอาการเมา เพราะว่าเขามีการปิดสถานที่ สร้างสถานีรถไฟเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาในหลวงรัชกาลที่ ๙ แล้วมีการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟ ซึ่งเป็นทางใหม่ที่กูเกิ้ลแม็พยังไม่รู้ กระผม/อาตมภาพจึงลอดใต้ทางรถไฟ วิ่งเลาะทะเลตรงไปยังวัดอ่าวน้อย ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปรากฏว่าพอเข้ามาถึง เจอบุคคลที่วิ่งมารับ ก็คือ FC วัดท่าขนุน พระมหาวิจักษ์ กิตติวณฺโณ, ดร. นั่นเอง เมื่อเจอคนคุ้นเคยจึงกลายเป็นบุคคลวีไอพี สามารถที่จะเลือกสถานที่พักก่อน แต่คำว่าวีไอพีในที่นี้ ก็คือคุณมีกุฏิเดี่ยวเป็นส่วนตัว ถ้าหากว่าใครมาช้า อาจจะต้องไปพักในห้องรวมก็เป็นได้ สถานที่ก็เป็นเพียงกุฏิกรรมฐาน มีเพียงที่นอน หมอน ผ้าห่ม แล้วก็พัดลมให้ ๑ ตัวเท่านั้น แต่ว่าในส่วนที่ดีเลิศของที่นี่ก็คือมีถ้ำพระนอน ซึ่งเชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว และทีเด็ดมากกว่านั้นก็คือมีอ่าวส่วนตัว มีชายหาดของวัดเองด้วย เมื่อลงไปถึงริมชายหาด ลมทะเลพัดเย็นมาก แล้วขณะเดียวกัน ทิวทัศน์ต้องบอกว่า "ราคาเป็นล้าน" จึงทำให้เมื่อส่งรูปไปแล้ว มีคนออกอาการ "อิจฉามารศรี" เพราะว่าติดภารกิจแล้ว ไม่สามารถที่จะร่วมงานและพักในสถานที่นี้ได้ |
เมื่อถึงเวลา กระผม/อาตมภาพก็ขนข้าวของเข้าที่พัก พระมหาวิจักษ์, ดร. ยังอุตส่าห์นำเอากาน้ำร้อนมาถวาย ๑ ใบ เพราะทราบดีว่ากระผม/อาตมภาพนั้นไม่ฉันน้ำเย็น มีการนัดแนะว่าจะฉันเช้าเวลาเท่าไร ? แล้วคณะกรรมการนัดฉันเพลกันที่ไหน? เมื่อทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ไปสรงน้ำในบริเวณห้องน้ำทางด้านหลังศาลา
การสร้างห้องน้ำในลักษณะนี้ แสดงว่าติดนิสัยเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ก็คือว่าด้วยความเคยชินกับการที่ชาติก่อน ๆ นั้น เคยถวายการรับใช้องค์ในหลวงในสมัยโน้นบ้าง สมัยนี้บ้าง สมัยนั้นบุคคลที่จะสร้างห้องน้ำเอาไว้ในสถานที่อยู่ มีเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น ถ้าคนอื่นทำ ถือว่าบังอาจตีเสมอ อาจจะเจอข้อหากบฏได้ จึงทำให้ลักษณะของการกระทำติดข้ามชาติข้ามภพมา การสร้างห้องน้ำที่เกาะพระฤๅษี กระผม/อาตมภาพก็สร้างไว้นอกที่พัก การสร้างห้องน้ำที่วัดท่าขนุนก็ดี วัดพุทธบริษัทก็ดี ก็สร้างเอาไว้นอกสถานที่พักทั้งสิ้น ซึ่งบางท่านก็บ่นว่าทำให้ลำบาก ต้องเดินทางไปไกล ไม่สะดวก แต่ว่าเรื่องของความเคยชิน ข้ามชาติข้ามภพนั้น เป็นเรื่องที่แก้ไขกันไม่ได้ ในสถานที่ของวัดอ่าวน้อยแห่งนี้ยังอุดมไปด้วยสัตว์ต่าง ๆ ตกเย็นยังมีฝูงลิงมาขอกล้วยกิน และสัตว์หายากอย่างหนึ่งก็คือนกเอี้ยงถ้ำ ซึ่งมายืนให้กระผม/อาตมภาพถ่ายรูปด้วย ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าการที่อยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้าไม่มีผู้เบียดเบียน บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ก็ย่อมรู้ดีว่า สถานที่นั้นเหมาะสมกับตนเอง ก็มักจะไปอาศัยอยู่ใกล้ ๆ บ้าง หากินอยู่ใกล้ ๆ บ้าง หรือว่ามาขออาหารกินบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของวัดแห่งนี้ นอกจากทิวทัศน์ราคาเป็นล้านแล้ว หมู่ศาลาเรือนไทยยังเป็นเรือนไทยที่ดูแล้วโอ่อ่าสวยงามมาก ๆ เป็นหมู่เรือนไทยที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นหอกลาง หอขวาง หอซ้าย หอขวา มีครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะหลังคา ไม่ได้มักง่ายใช้เมทัลชีทแบบกระผม/อาตมภาพสร้าง แต่ว่าที่นี่ใช้กระเบื้องซีแพ็ค ซึ่งจะต้องทำโครงสร้างเครื่องบนให้แข็งแรงมาก ถึงจะรับน้ำหนักของกระเบื้องไหว มีญาติโยมทั้งหลายที่เข้าออก มาเพื่อที่จะถวายน้ำปานะบ้าง มาช่วยงานวัดบ้าง อยู่ปฏิบัติธรรมบ้าง เมื่อเจอกระผม/อาตมภาพก็รีบวิ่งเข้ามากราบ เพราะว่าส่วนใหญ่จะรู้จักผ่านทางสื่อโซเชียลแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงกลายเป็นจุดเด่นของงาน จนกระทั่งต้องเข้าไปแอบอยู่ในกุฏิ ไม่สามารถที่จะออกไปเดินข้างนอกได้ เพราะว่าไม่อยากให้กลายเป็นจุดเด่น แล้วอาจจะสร้างความหนักใจให้แก่เจ้าของสถานที่ได้ สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:48 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.