กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5147)

เถรี 08-08-2016 08:41

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙
 
ถาม : โดยปกติหนูจะสวดพระคาถาเงินล้านทุกวัน วันละ ๓๐๐ จบ เนื่องจากไม่ได้ทำงาน หลังจากที่สวดพระคาถาเงินล้านมาได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดความคล่องตัวทั้งเรื่องงาน เรื่องเงินพอสมควร แต่ถ้าหนูทำงานคงไม่มีเวลาสวดพระคาถาเงินล้านได้วันละ ๓๐๐ จบเท่าเดิมแน่นอนเจ้าค่ะ หากหนูจะลดจำนวนลงเหลือเพียงวันละ ๑๐๘ จบ จะมีผลให้ความคล่องตัวเรื่องงาน เรื่องเงินลดลงไหมเจ้าคะ ? ควรทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ถ้ากังวลก็ลดจำนวนลงได้ เพราะสภาพจิตไม่เป็นสมาธิเท่าเดิมแล้ว ความจริงจะทำการทำงานอะไรก็ภาวนาได้อยู่แล้ว เพียงแต่พวกเราไม่ค่อยจะซักซ้อมให้คล่องตัว จึงมักจะภาวนาได้เฉพาะเวลาที่นั่งเฉย ๆ

การยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม กิน คิด พูด ทำอะไรก็ตาม ถ้าเราภาวนาควบไปด้วย เป็นเรื่องที่สามารถทำได้และไม่ยากเกินไป

เถรี 08-08-2016 08:43

ถาม : เกี่ยวกับศีลข้อสอง ตอนสมัยเรียนหนังสือ ได้ทำการถ่ายเอกสารหนังสือเรียนไว้หลายเล่ม เนื่องจากตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องของศีลมากนัก พอมาตอนหลังกำลังจะไปเรียนต่อ มาเห็นหนังสือที่ถ่ายเอกสารไว้ ไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไร หรือควรจะนำไปทิ้ง หรือทำลาย ?
ตอบ : ถ้าคิดมากเกินไปก็เอาไปชั่งกิโลขาย หรือไม่ก็ไปซื้อหนังสือใหม่เสียก็หมดเรื่อง ของเก่าที่ถ่ายเอกสารไว้ก็ตั้งไว้เฉย ๆ เอาไว้เป็นที่ระลึก

ถาม : สมัยที่เกณฑ์ทหาร เพื่อนทหารที่ย้ายสังกัด หรือวันที่ปลดประจำการ ได้ทิ้งของใช้ เช่น ถังน้ำ ผ้าห่ม ไว้ตามตึก ตามโรงนอน ของเหล่านี้จะถือว่าได้กลายเป็นของหลวงแล้วหรือไม่ ? ถ้าเรานำมาใช้ที่บ้านจะเป็นการผิดหรือไม่ ?
ตอบ : ไม่เป็นของหลวง แต่ไม่ควรที่จะเอามาใช้ที่บ้าน การที่เขาทิ้งแสดงว่าเจ้าของเขาไม่ต้องการแล้ว แต่ทิ้งไว้ในสถานที่ไหนก็ควรจะไว้ในที่นั้น ไม่ใช่เราไปกอบโกยกลับมาไว้ที่บ้านตัวเอง

ถาม : หากเรานำของหลวงมาใช้ ทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี สามารถชดใช้หนี้โดยการบริจาคให้กับมูลนิธิของหลวง หรือโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์ เช่น ราชประชานุเคราะห์ สายใจไทย ได้หรือไม่ แล้วก็ใช้ของเหล่านั้นต่อไป ?
ตอบ : เรียกว่าทดแทนกันไป...ว่าอย่างนั้นเถอะ เอาที่คุณสบายใจก็แล้วกัน ของหลวงก็เหมือนกับสังฆทาน เพราะเป็นของเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ถ้าติดใจว่าเราไปเอาของหลวงมาใช้ เป็นการเบียดบังทรัพย์สินของหลวง ได้บริจาคคืนมูลนิธิที่เป็นของหลวงไปก็นับว่าทำถูกต้องแล้ว

เถรี 08-08-2016 08:51

ถาม : หากมีความจำเป็นที่จะต้องช่วยบิดาหรือมารดาตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด โดยใช้เครื่องมือที่ใช้เข็มเจาะเลือดและเราต้องเป็นผู้ที่ลงมือเจาะเลือด อยากทราบว่าในกรณีนี้กรรมจะส่งผลลบกับตัวของบุตรที่เจาะเลือดให้บิดาหรือมารดาหรือไม่ โดยที่บุตรได้รับอนุญาตและได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่นี้ ถ้ามีผลลบเกิดขึ้น กราบขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมด้วยครับ ?
ตอบ : เรียกว่ากังวลเกินไป ถ้าเขาบอกให้เจาะเลือดแล้วคุณใช้มีดกรีดเอาก็ว่าไปอย่าง ในเมื่อเป็นการรักษาและได้รับการอนุญาตแล้วก็เป็นอันไม่มีกรรมต่อกัน ยังจะพยายามคิดหานรกอีก...!

เถรี 08-08-2016 08:54

ถาม : กระผมจะออกวิ่งเพื่อลดน้ำหนักตอนเย็น โดยเวลาวิ่งจะภาวนาคาถาเงินล้านสลับกับบทสวดพระจักพรรดิของหลวงปู่ดู่ โดยรู้สึกว่า ขณะที่วิ่งไปและภาวนาไปด้วยรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ส่ายไปไหน จะจับจุดกับคำภาวนามาก แต่ไม่ได้จับลมหายใจเข้าออก เพราะเวลาวิ่งจะหายใจแรงและเร็วครับ อยากจะกราบเรียนถามหลวงพ่อว่าจะมีผลไหมครับ ? สำหรับการภาวนาในขณะวิ่งครับ
ตอบ : ถ้ามีสติอยู่ตลอดถือว่าเป็นการภาวนาเหมือนกัน ความจริงอาตมาหากินทางวิ่งภาวนามาหลายปี ขอยืนยันว่าถ้าทำจนคล่องตัวจริง ๆ และสามารถจับลมหายใจไปด้วยได้ ทำให้เหนื่อยช้าลงหลายเท่า

เถรี 08-08-2016 09:24

ถาม : ผมอยากเรียนถามว่า พระเจ้าจักรพรรดิชื่อ "มันตุราช" ทำบุญอะไร จึงเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในพระไตรปิฎก ที่สามารถขึ้นไปครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้ และมีอายุนานถึง ๑ อสงไขยครับ ?
ตอบ : "พระเจ้ามันตุราช" ไม่ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดินะ พระเจ้ามันตุราชเป็นต้นตระกูลองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า กว่าจะมาถึงเจ้าชายสิทธัตถะ น่าจะเป็น "พระเจ้ามันธาตุราช" มากกว่า

ต้องไปถามท่านเองว่าทำบุญอะไรมา เพราะว่าท่านไม่ได้ครองแค่ดาวดึงส์เฉย ๆ ในพระไตรปิฎกบอกว่า เมื่อพระเจ้ามันธาตุราชได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ยึดครองทวีปทั้งสี่ มีทวีปน้อยอีกสองพันเป็นบริวาร ก็แปลว่ายึดดวงดาวไปอย่างน้อยก็สองพันดวง ท่านก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ ถามบรรดาเสวกามาตย์ว่ามีสมบัติอะไรที่ยิ่งไปกว่านี้อีก ? ข้าราชบริพารก็บอกว่าสวรรค์ ท่านจึงขึ้นจักรแก้วลุยขึ้นไป ท้าวมหาราชทั้งสี่ก็มอบราชสมบัติให้ ครองราชสมบัติจนกระทั่งเบื่อ ถามท้าวมหาราชว่ามีที่ดีกว่านี้อีกไหม ? ท้าวมหาราชก็บอกว่าต้องสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

พอขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระอินทร์ก็แบ่งสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ครองสมบัติร่วมกัน จนกระทั่งพระอินทร์จุติไปสามสิบกว่าพระองค์ ท่านเองยังไม่หมดอายุเลยนะ แล้วท่านก็เบื่อ คิดว่ามีอะไรยิ่งกว่านี้หรือเปล่า ? พอเกิดพระอินทร์องค์ใหม่ขึ้นมาอีกเพื่อครองสมบัติต่อ พระเจ้ามันธาตุราชอยากจะได้สมบัติคนเดียว ไม่ต้องแบ่งครึ่ง จึงคิดไม่ดีจะทำร้ายพระอินทร์องค์นั้น ตนเองก็เลยร่วงตกกลับมาที่โลกมนุษย์ตามเดิม บรรดาเสวกามาตย์เห็นเข้า อาตมารับประกันว่าไม่เคยรู้จักหรอก ขนาดพระอินทร์ยังผ่านไปสามสิบกว่าพระองค์ แต่เขาก็รู้ว่านี่คือพระเจ้าจักรพรรดิ จึงถามว่าจะให้ปฏิบัติกับพระองค์อย่างไร ท่านก็บอกว่าท่านแก่มากแล้ว ใกล้จะตายแล้ว

เถรี 08-08-2016 09:25

ส่วนที่อยากจะบอกกับทุกท่านก็คือ ความอยากของคนไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าไม่สามารถควบคุมความอยากได้ ชีวิตนี้จะหาความสุขที่แท้จริงไม่ได้ แล้วจะเดือดร้อนเหมือนกับพระองค์ท่านเอง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประชุมชาดกว่า พระเจ้ามันธาตุราชนั้นเกิดมาเป็นตถาคตในปัจจุบันนี้ ท่านไม่ได้บอกรายละเอียดว่าทำบุญอะไรไว้ แต่บุคคลที่จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดินั้น ต่ำสุดต้องเคยถวายสังฆทานไว้ในพุทธศาสนา ถ้าใครอยากเป็นก็สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๆ หน้าตักสัก ๔ ศอกก็ได้แล้ว ไม่ได้เป็นครั้งเดียวด้วย เป็นจนเบื่อไปเอง

อย่าจำสับสนกันนะ พระเจ้ามันธาตุราช กับ พระเจ้ามันตุราช เป็นคนละท่านกัน

เถรี 08-08-2016 16:09

ถาม : ข้าพเจ้าและบุตรของข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้านวันละ ๓๐๐ จบ บุตรของข้าพเจ้าสวดได้ประมาณ ๒๐ กว่าวัน ได้ถูกเรียกตัวให้ไปทำงานจากสถานที่ที่ได้ไปสมัครงานไว้หลายแห่ง และตอนนี้ได้ไปทำงานแล้ว แต่ไม่สามารถสวดครบ ๓๐๐ จบได้ โดยลดลงเหลือ ๑๐๘ จบ ส่วนตัวข้าพเจ้าเองสวดวันละ ๓๐๐ จบ โดยไม่ได้ขาด ผลปรากฏว่าในระยะ ๒ เดือนแรก จนถึงขณะปัจจุบันนี้ จากที่เป็นคนจ่ายเงินทุกอย่างอยู่คนเดียว กลับกลายเป็นว่ามีคนมาช่วยจ่ายให้บ้าง อาชีพของสามีรับจ้างซ่อมรถ จากที่ไม่ค่อยมีงานซ่อม ตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้าน กลับมีงานเข้ามาแทบจะไม่ได้ขาด จึงอยากทราบว่า ข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้านแต่สามีไม่ได้สวด แต่ทำไมงานของสามีถึงได้เยอะ เกี่ยวข้องกับการที่ข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้านหรือเปล่า ?
ตอบ : เรื่องของพระคาถาเงินล้าน เป็นการอำนวยความคล่องตัวในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม แต่ถ้าทำให้เราได้รับความสะดวกสบายจากทรัพย์สินนั้น ถือว่าเป็นผลของพระคาถาทั้งหมด

สามีคืออะไร ? ผัวหรือเปล่า ? คนข้างตัวแท้ ๆ กระเป๋าเงินของผัวก็กระเป๋าของเรานั่นแหละ ล้วงบ่อย ๆ หน่อยก็แล้วกัน

ถาม : ส่วนตัวข้าพเจ้าเองเชื่อในคำพูดของท่านในเรื่องของการสวดพระคาถาเงินล้าน โดยยังสวดวันละ ๓๐๐ จบ ไม่ได้ขาด ข้าพเจ้าหวังความไพบูลย์ของชีวิตเพราะยังมีหนี้สินอยู่ อยากมีความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต อยากทราบว่าจะต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ?
ตอบ : อยากทำจริงหรือ ? ถ้าอยากทำจริง ๆ ก็สวดภาวนาโดยจับลมหายใจไปด้วย จะได้ผลมากกว่านั้น นี่สักแต่ว่าสวดให้จบ ๆ ไปเท่านั้น ผลจึงน้อยไปนิดหนึ่ง

เถรี 08-08-2016 20:42

ถาม : วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เพื่อนชวนไปรับตุ๊กตาที่มีวิญญาณลูกของเขา ที่แท้งจากอุบัติเหตุคืนกลับมาจากหมอดูไพ่ยิปซี ที่อ้างว่าจะส่งวิญญาณไปเกิดให้ แต่กลับจะนำไปให้ผู้อื่นเช่าเป็นกุมาร ข้าพเจ้าถามเขาว่า เด็กตายก่อนอายุขัย ส่งไปเกิดได้ด้วยหรือ ? เขานิ่งไม่ตอบ แต่คืนให้ค่ะ

วันต่อมาข้าพเจ้าจะรู้สึกร้อนตามร่างกายมาก เหงื่อไหล หงุดหงิด อารมณ์เสียง่ายวันละหลาย ๆ ครั้ง ข้าพเจ้านึกถึงคาถาที่อ่านพบจากเก็บตกบ้านวิริยบารมี มาใช้เมื่อเกิดอาการดังกล่าวก็ลดลง ข้าพเจ้าตั้งใจบูชาพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดทองคำ แต่เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติกับร่างกายขึ้น จึงเปลี่ยนมาบูชาพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดนากแทนค่ะ ได้รับวัตถุมงคลวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙ และอาราธนาติดตัวทุกวัน อาการที่เกิดกับร่างกายลดลง ทำให้มั่นใจมากขึ้น

วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ วันอาสาฬหบูชาไปทำบุญ นั่งฟังเทศน์จนเกิดเหน็บชาก็ยังไม่จบ จึงนำคำสอนหลวงพ่อช่วงกรรมฐานมาใช้ โดยดึงให้คำเทศนาไหลตามลมหายใจเข้าออกจนจิตนิ่ง รู้สึกได้ว่ามีร่างบางเบาร่างหนึ่ง ล้มออกจากตัวข้าพเจ้าไปทางขวามือ เมื่อกลับจากทำบุญ ขณะนั่งดูภาพงานบุญวัดท่าขนุน ก็มีเสียงดังที่อกด้านซ้าย คล้ายแรงดันให้ของกระเด็นออก บริเวณที่พระขุนแผนเกราะเพชรห้อยอยู่ ตรวจดูคิดว่าตะกรุดดีดตัวออกจากองค์พระ แต่คงอยู่ในสภาพปกติค่ะ

ข้าพเจ้าโดนทำของใส่หรือเปล่าคะ ? ปัจจุบันไม่มีอาการร้อนตามร่างกายแล้วค่ะ
ตอบ : ประการแรก...ถ้ารู้สึกร้อน หงุดหงิดง่าย เหงื่อออกบ่อย อารมณ์เสียวันละหลาย ๆ รอบ ต้องดูว่าอายุเกิน ๓๕ หรือเปล่า ? ถ้าเกินก็แสดงว่าเริ่มเป็นวัยทอง..! ประการที่สอง...จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด มีแววเหมือนกันว่าอาจมีใครทำไสยศาสตร์ให้ แสดงว่าเป็นที่รักของคนอื่นมาก เขามีอะไรถึงได้แบ่งปันให้กับเรา...!


ถาม : หากรอบด้านที่เราอยู่ มีร่างทรง เจ้าพ่อ เจ้าแม่ หมอดูที่ปล่อยของดึงลูกค้า คนเล่นของ หลวงพ่อช่วยแนะนำวิธีป้องกันให้ด้วยค่ะ ?
ตอบ : วิธีที่ทำมาก็ใช้ได้แล้ว คือ ภาวนานึกถึงพระให้เป็นปกติ แล้วอธิษฐานภาพพระครอบตัวเราเอาไว้ก็จะปลอดภัย ตรงจุดนี้เป็นอุทาหรณ์ที่อาตมาเคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่า อย่าเที่ยวไปวิ่งหาร่างทรง ตำหนักทรง หรือพวกหมอผีต่าง ๆ เพราะคนเหล่านี้ไม่ค่อยมีจรรยาบรรณ ถึงเวลาเขาอยากได้เราเป็นบริวารหาเงินให้เขา เขาก็จะใช้ผีหรือไสยศาสตร์คุม ฉะนั้น...ส่วนใหญ่พวกที่หน้ามืดไปตามสถานที่นี้ก็มักจะได้ของแถมกลับมาเสมอ

จากกรณีนี้เดี๋ยวคงต้องขึ้นราคาพระขุนแผนตะกรุดนาก เพื่อเป็นการป้องกันการกักตุน...!

เถรี 08-08-2016 20:45

ถาม : ทำไมผมสวดมนต์หลายบทสวดแล้วอาการอยากบริกรรมภาวนาหายไปเลย ? เพราะปกติจะบริกรรมพุทโธหรือไม่ก็คาถาเงินล้านครับ ?
ตอบ : เกิดจากสองสาเหตุด้วยกัน สาเหตุที่หนึ่ง...การสวดมนต์ก็คือการภาวนา ในเมื่อเราสวดจนเต็มที่แล้วก็เหมือนกับภาวนาจนเต็มที่แล้ว ก็เลยไม่อยากที่จะภาวนาต่อ

สาเหตุที่สอง....สักแต่ว่าสวด ๆ ไป สภาพจิตไม่ได้เป็นสมาธิ เริ่มฟุ้งซ่าน จึงไม่อยากภาวนา เพราะปกติแล้วบุคคลที่สวดมนต์ไปเรื่อย ๆ สภาพจิตทรงตัว มักจะต้องการภาวนาต่อไปเลย

เถรี 08-08-2016 21:02

ถาม : ถ้าหนูนั่งสมาธิแล้วสวดคาถาเงินล้านในใจ ๑ ชั่วโมง บางทีเคลิ้ม ๆ ไป จะได้ผลเหมือนกับสวดคาถาเงินล้าน วันละ ๑๐๘ จบไหมคะ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าสภาพจิตตอนนั้นแบบไหนมีคุณภาพมากกว่ากัน เรื่องของจำนวนจบบางทีก็ไม่สำคัญเท่ากับสภาพจิตที่มีคุณภาพในขณะที่เราภาวนาพระคาถา

ถ้าสภาพจิตทรงตัวได้สูง แม้ว่าจะใช้เวลาน้อยในการภาวนาก็เกิด
ผลมาก แต่ถ้าเราภาวนานานแต่สภาพจิตทรงตัวในขั้นต่ำ ผลก็จะมีน้อยกว่า แต่จะมากจะน้อยก็เกิดผลทั้งนั้น ขอให้ทำจริงจังและสม่ำเสมอเท่านั้น

เถรี 08-08-2016 21:25

ถาม : รู้สึกว่าเจ้ากรรมนายเวรตามทัน คือ ทำอะไรติดขัดไปหมด ไม่สำเร็จ ต้องตั้งอารมณ์อย่างไรเจ้าคะ ?
ตอบ : ตั้งใจภาวนาให้เป็นปกติ เพราะตัวภาวนาเป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา ถ้าอารมณ์ใจของเราทรงตัว ผลบุญใหญ่นี้จะทำให้เราหนีห่างจากกรรมเก่าไปได้ โดยเฉพาะถ้าภาวนาพระคาถาเงินล้าน ความคล่องตัวต่าง ๆ จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เนื่องจากว่าในตัวพระคาถามีทั้งคาถาปัดอุปสรรค มีทั้งคาถาให้ลาภสารพัดรวม ๆ กันอยู่

เถรี 08-08-2016 21:29

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้เห็นพระครูหน่อยเปิดคลิปที่เด็กอนุบาลเถียงกับแม่ค้า มีใครได้ดูบ้างหรือยัง ? พระครูหน่อยไม่ได้ดูเอามันตรงนั้นหรอก ท่านถามว่า “หลวงพ่อครับ เขาเอากำลังใจที่ไหนมาสู้ผู้ใหญ่ครับ ?”

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ข้ามชาติข้ามภพ บุคคลที่เคยฝึกสมาธิมา ความเข้มแข็งของกำลังใจจะมีมาก คิดดู...เด็กคนนั้นยังเป็นเด็กวัยก่อนเกณฑ์นะ ไม่ใช่เข้าอนุบาลแล้ว กล้าเถียงป้าอายุ ๕๐-๖๐ ปีแล้ว เถียงมีเหตุมีผลด้วย แล้วลงท้ายว่าเรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ เด็กเขาฝากไว้อย่างนั้น โอ้โห...สุดยอดจริง ๆ

การฝึกฝนกำลังใจเป็นเรื่องข้ามชาติข้ามภพ พอถึงเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ก็จะแสดงออกมาเองโดยอัตโนมัติ คนก็ถ่ายคลิปไปหัวเราะไป ดูเด็กกับผู้ใหญ่ทะเลาะกัน แต่ถึงเด็กเขาโกรธแต่เขาพูดไพเราะนะ เขาไม่ด่าไม่หยาบคาย ต้องบอกว่าควบคุมตัวเองได้ดีกว่าผู้ใหญ่มากทีเดียว ผู้ใหญ่เวลาโกรธบางทีขาดสติยังด่าบ้าง หยาบคายบ้าง อันนี้เขาหาเหตุผลมาเถียง เพื่อปกป้องเด็กอีกคนหนึ่ง

แม่ค้าบอกว่าเด็กทะเลาะกับแม่ เด็กบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ทะเลาะกับแม่ก็บาปตายเลย ยิ่งใกล้วันแม่แล้วด้วย ต้องทำแต่ความดี นี่เป็นเหตุผลแบบเด็ก ๆ ที่ในใจมีแต่ความดี"

เถรี 08-08-2016 21:50

พระอาจารย์กล่าวว่า "จากคำถามของวันนี้ ส่วนที่เห็นชัด ๆ เลยก็คือ บุคคลที่ตั้งใจภาวนาพระคาถาเงินล้าน จะมีความคล่องตัวในความเป็นอยู่มากขึ้นจริง ๆ

แต่ส่วนที่อยากจะเสริมก็คือ
ให้พวกเราฝึกหัดภาวนาให้ได้ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะทำงานทำการอะไรก็ต้องภาวนาได้ ถ้าอย่างนั้นกำลังใจถึงจะมีโอกาสที่จะชนะกิเลสได้บ้าง ถ้าต้องรอให้มีเวลานั่งสมาธิแล้วถึงจะภาวนาได้ มีหวังโดนกิเลสก็กินตาย เพราะกิเลสเขาไม่ได้รอให้เรานั่งสมาธิก่อนแล้วค่อยมากินเรา เขากินเราอยู่ทุกอิริยาบถ

อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของไสยศาสตร์ต่าง ๆ ไม่สามารถที่จะสู้คุณพระได้อยู่แล้ว เพียงแต่วัตถุมงคลนั้นเป็นเหมือนกับเครื่องส่งพลัง วัตถุมงคลส่งพลังอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเครื่องรับของเราคือใจไม่เปิดรับ โอกาสที่วัตถุมงคลนั้นจะช่วยเราได้ก็มีน้อย การที่ใจเราจะเปิดรับพลังวัตถุมงคลนั้น ต้องประกอบไปด้วยศรัทธาเลื่อมใส มีการอาราธนาระลึกถึงเป็นปกติ ถ้ากำลังใจทรงตัว นึกถึงภาพวัตถุมงคลครอบตัวเราไว้ได้ก็ยิ่งดี"

เถรี 08-08-2016 22:07

"อีกเรื่องหนึ่งก็คือ บรรดาร่างทรงต่าง ๆ ตลอดจนพวกหมอผี เป็นอะไรที่หลีกให้ห่างได้เท่าไรก็ดีเท่านั้น ในส่วนที่ถามมานี้ก็คือ มีคนไปหาเพราะความจำเป็น เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุจนแท้งลูก แล้วก็ยังห่วงยังกังวลอยู่ ก็เลยให้หมอผีเรียกวิญญาณลูกเข้าไปอยู่ในตุ๊กตาแทน ยังโชคดีที่เขาไม่เอาไปขายเสียก่อน เพราะเจ้าของเขารู้ว่าเอาไปทำเป็นกุมาร ก็เลยไปขอคืน ทำให้เขาขาดรายได้ไป เขาจึงแถมของแถมมาให้เยอะทีเดียว...!

ช่วงก่อนมีงานเป่ายันต์ฯ มีโยมคณะหนึ่ง ๔ คนเดินเข้ามาทำบุญ อุ้มตุ๊กตาลูกเทพติดเอวมาด้วย นี่เขายังไม่หายเห่อกันอีกหรือ ? ตอนแรกอาตมาก็นึกว่าอุ้มเด็ก มองไปอีกที อ้าว...ตุ๊กตานี่นา แต่ถ้าเอามาเข้าพิธีเป่ายันต์ฯ ก็จะกลายเป็นลูกเทพจริง ๆ ที่ไปให้บรรดาสำนักต่าง ๆ เสกมา อาจจะได้ลูกผีลูกซาตานมาก็ได้ เรื่องพวกนี้ต้องระมัดระวังไว้ให้มาก

ไม่แต่เพียงสำนักต่าง ๆ แม้แต่กระทั่งวัดวาต่าง ๆ ก็มี ที่ใช้ผีหรือไสยศาสตร์คุมเพื่อให้คนเข้าวัดไปทำบุญอยู่ตลอดเวลา บางรายเป็นผู้หญิงหน้าตาดี ๆ ก็มีการดึงไปเพื่อเหตุอื่นด้วย เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังให้มาก อาตมาเกรงว่าถ้าพวกเราเผลอ อยู่ในช่วงวาระกรรมเข้ามา อาจจะหลุดวงโคจรไปชนิดกู่ไม่กลับ

เหมือนกับลูกศิษย์บางคน ทั้ง ๆ ที่รู้ แต่เนื่องจากโดนคุมจนไม่มีสติที่จะแก้ไขตัวเอง ถึงเวลาแต่ละเดือนก็เอาเงินไปให้เขาสามหมื่นสี่หมื่นบาท ไม่อย่างนั้นจะกินไม่ได้นอนหลับ อาตมาก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะเขาไม่ยอมไปงานที่วัดท่าขนุน เนื่องจากว่าได้ที่ซึ่งเหมาะสมกับวาระบุญวาระกรรมของตัวเองแล้วก็เป็นได้"

เถรี 08-08-2016 22:33

"จะว่าไปแล้วบรรดานักบวชที่แสบสุดยอดก็มีเยอะมาก หลายท่านก็เบากว่านั้นหน่อยหนึ่ง แค่ใช้วิธีโทรจิกทุกวัน เดี๋ยวก็จะทำบุญอย่างนั้น เดี๋ยวก็ทำบุญอย่างนี้ เดี๋ยวก็ขอให้เป็นประธานงานนั้นงานนี้ ต้องบริจาคเงินเท่านั้นเท่านี้ จนกระทั่งบางทีโยมทนไม่ไหวก็บริจาคซื้อรำคาญไป

อีกประเภทหนึ่งไม่ได้รู้จักกันหรอก แต่รู้ว่าโยมคนนี้ฐานะดี ท่านก็บุกไปยันบ้านเลย ตื๊อให้เป็นเจ้าภาพกฐิน เจ้าภาพผ้าป่า ให้เป็นเจ้าภาพสร้างศาลาสารพัด มีแต่จะสร้างความเสื่อมศรัทธาให้กับญาติโยม

อีกประเภทหนึ่ง โยมเคยไปทำบุญวัดของตัวเอง พอไปทำบุญที่อื่นถึงกับโทรไปด่า สมัยนี้ไม่ค่อยโทรด่าหรอก แต่ไปด่าลงเฟซบุ๊กแทน อาตมาก็ยังสงสัยเหมือนกันว่า ถ้าไปวัดของตัวเองแล้วนี่ห้ามไปที่อื่นเลยหรือ ? อาตมาเองไม่เคยหวงนะ ใครจะไปทำบุญวัดไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวก็กลับมาตายรังเองแหละ...!

เรื่องที่ว่ามาให้ถือเป็นอุทาหรณ์อย่างหนึ่ง ถ้าเป็นพวกร่างทรงหมอผีก็ถือว่าเป็นการหากินของเขา แต่ในส่วนของบุคคลในผ้าเหลืองนั้น บางสิ่งไม่ควรที่จะทำก็ทำกัน จะต้องเป็นหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่จะต้องว่ากล่าวสั่งสอน แต่ถ้าพ้นนิสัยมุตตกะไปแล้ว ไม่ต้องฟังคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์แล้ว ก็คงต้องรอท่านได้สติกันเอง"

เถรี 08-08-2016 22:41

"วิธีที่จะปลอดภัยในสมัยนี้ ไปวัดก็อย่าไปทิ้งเบอร์โทรศัพท์ อย่าไปทิ้งที่อยู่ไว้ให้ อาจจะปลอดภัยสัก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าใครแอดไลน์มา ถ้าหากว่าเป็นพระก็อย่ารับเป็นเพื่อน ถ้ารับแล้วก็อันเฟรนด์หรือบล็อกไปเลย..!"

เถรี 08-08-2016 22:47

พระอาจารย์ "มีใครไปไล่จับโปเกม่อนบ้าง ? ระวังรถจะชนตาย อาตมาเคยบอกอยู่เสมอว่า เทคโนโลยีเป็นผลงานของมาร ที่สร้างมาเพื่อดึงเราให้ติดอยู่กับโลก ถ้าเรามีฉันทะไปไล่จับโปเกม่อนทั้งวัน เราแค่เปลี่ยนฉันทะตัวนั้นมาภาวนาทั้งวันก็จบแล้ว จับโปเกม่อนได้แค่สนุก แต่ถ้าจับลมหายใจเข้าออกมีโอกาสที่จะพ้นทุกข์ จะเอาอย่างไรดี ? ตั้งตาตั้งตามาก...ขนาดในคูหากาบัตรยังจะไปจับโปเกม่อน ฉะนั้น...จับลมหายใจเข้าออกแทนน่าจะมีผลมากกว่า

บ้านเรามักจะเห่อตามกระแส อาตมาไม่เคยเล่นเกมก็เลยไม่เคยรู้ว่าเกมนี้ต้องเสียเงินให้เขาหรือเปล่า เวลาเราจะโหลดแอพฯ โหลดข้อมูลอะไร เราคงต้องจ่ายเงินเขาก่อน คาดว่าคงไม่สามารถที่จะแบ่งปันให้กับเพื่อนได้ ต้องต่างคนต่างโหลด ต่างคนต่างจ่าย

โปเกม่อนเป็นของญี่ปุ่นใช่ไหม ? แสดงว่าบ้านของเรานี่วัฒนธรรมเกาหลี ญี่ปุ่น ครองไปเรียบร้อยแล้ว พอถึงเวลาก็ต้องให้พวกร็อกเกอร์เกาหลีมาโกยเงินบาทกลับไปบ้านเขา พวกเราก็ไปกรี๊ด ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ
แต่ในเรื่องของโลกียสุข พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดว่า ความสุขนั้นมีน้อย แต่ความทุกข์นั้นมีมาก ในเมื่อความสุขมีน้อย ความทุกข์มีมาก ถ้าเราไปหลงใหลได้ปลื้ม ความทุกข์ที่มีมากเกิดขึ้นมา เราก็จะเดือดร้อนเอง"

เถรี 08-08-2016 22:59

มีคนตาบอดจูงมือกันมา "พวกเขาไปไหนไปด้วยกัน ไม่มีทิ้งกัน ที่อาตมาพูดไม่ได้หมายความว่าต้องให้พวกเราพิการทางสายตานะ แต่ที่พูดเพื่อให้พวกเราดูตัวอย่างของผู้พิการทางสายตา เขามีอะไรก็ต้องอิงอาศัยกัน ฉะนั้น...จะโกรธกันไม่ได้ เกลียดกันไม่ได้ บ้านเราเมืองเราทำอย่างไรจึงจะให้เป็นอย่างนี้บ้าง ?

ทำอย่างไรที่จะเห็นคนอื่นเป็นเหมือนเพื่อนร่วมหมู่บ้าน เหมือนคนร่วมชายคา ทำอย่างไรจะอนุเคราะห์สงเคราะห์คนอื่นได้เท่ากับที่เราอยากให้เขาทำให้กับเราเอง ต้องบอกว่าให้ทำไปก่อน ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้าก็คือเราต้องทำก่อน วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ"

เถรี 08-08-2016 23:05

ถาม : เมืองพระนิพพานเป็นอย่างไรคะ ? ...(เด็กถาม)...
ตอบ : ก็เป็นเมืองนิพพาน...! เป็นที่พ้นบุญพ้นบาปแล้ว ไม่ต้องทุกข์อีก ถ้าไม่ซนมากก็ไปได้ ถ้าซนมากไปไม่ได้ ไม่ให้ซนหนูยอมตายดีกว่า...ใช่ไหม ?

เถรี 08-08-2016 23:17

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขออภัยด้วย เมื่อคืนอาตมาด่า ค.ส.ช.เยอะไปหน่อย (งานสวดพระคาถาเงินล้าน) เลยมีคนในเครื่องแบบมาขอแสดงความนับถือ ฉวยโอกาสได้ออกทีวีก็เลยด่าประจาน รู้สึกปลื้มใจมากที่ทหารเห็นคุณค่าของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา"

เถรี 08-08-2016 23:20

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขออภัยที่ป่วยเพราะอาตมาไม่เจียมตัว เห็นสถานการณ์บ้านเมืองกำลังย่ำแย่ จะเอา "ท่าน" ออกจากโรงพยาบาลให้ได้ ตัวเองก็เลยหงิก

ธรรมดานะ สังขารัง โรคะนิทธัง สังขารเป็นรังของโรค โรคจะอาละวาดก็ปล่อยเขาไป แต่อย่างไรอาตมาก็ไม่เปลี่ยนความคิด จะเอา "ท่าน" ออกจากโรงพยาบาลให้ได้ ขอลองดูหน่อยว่าจะยากแค่ไหน

เมื่อวานที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส มีโยมคนหนึ่งมา “หลวงพ่อเป่าหัวให้ผมหายป่วยที” อาตมาบอกว่า “ถ้ากูเป่าตอนนี้มึงก็ป่วยหนักเลย เพราะกูกำลังป่วยอยู่...!”

เถรี 09-08-2016 17:02

ถาม : พวกสัมภเวสีเขาอยู่ภูมิเดียวกับเทวดาหรือครับ ?
ตอบ : เขาอยู่ภูมิเดียวกับเรานี่แหละ เพียงแต่พวกเรามองไม่ค่อยเห็น ...(หัวเราะ)... เป็นภูมิละเอียดที่ทับซ้อนกันอยู่ แต่ภุมมเทวดาละเอียดกว่าเยอะ ถ้าภุมมเทวดาไม่ต้องการให้เขาเห็น เขาก็เห็นไม่ได้

ถาม : ภุมมเทวดา ต้องอยู่เฉพาะบนพื้นบกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ภูมิ แปลว่า พื้นที่ ฉะนั้น...ท่านก็อยู่บนบกเท่านั้น ในทะเลก็มีพวกรักษาทะเลอีก พวกรักษาทะเลส่วนใหญ่เป็นลูกน้องของเจ้าแม่มณีเมขลา

ถาม : คนตายในทะเล ส่วนใหญ่กลายเป็นสัมภเวสีอยู่ในทะเลหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่ค่อยมีใครอยู่เท่าไรหรอก ด้วยความเคยชินส่วนใหญ่ก็จะกลับบ้านกัน เขาไม่รู้ว่าอยู่ในความเป็นทิพย์ แค่นึกก็ถึงแล้ว นึกถึงบ้านก็เลยไปอยู่ที่บ้าน

ถาม : ผีทะเล ?
ตอบ : ผีทะเลมีทั้งพวกเปรต พวกอสุรกาย หรือพวกอสูรกึ่งเทพกึ่งยักษ์ พวกปลาหรือสัตว์ยักษ์ในทะเลที่สายตาคนทั่วไปมองไม่เห็น ไม่รู้ว่าจะเป็นอชคราทิเปรตหรือเปล่า ? น่าจะใช่...เป็นเปรตประเภทเดียวที่อยู่ในร่างของสัตว์เดรัจฉาน ถ้าเป็นสมัยนี้แค่หนึ่งตัวสองตัวก็เต็มทะเลแล้ว เพราะตัวใหญ่มาก

ถาม : มองไม่เห็นพวกนี้หรือคะ ?
ตอบ : เขาอยู่ในภูมิละเอียด ถ้าเขาตั้งใจทำหยาบขึ้นมาก็เห็นได้ แต่ส่วนใหญ่เขาไม่อยากจะเดือดร้อนกันหรอก บางทีเขาก็ทำตัวหยาบขึ้นมา คนก็ไปส่องพบเข้าพอดี "อ้อ...ที่แท้ทะเลตรงนี้ตื้นแค่นี้เอง" พอไปส่องใหม่ "อ้าว..ทำไมตอนนี้ลึกจัง ?" ทำเอานักวิทยาศาสตร์หรือนักสมุทรศาสตร์เครียดกัน

เถรี 09-08-2016 17:30

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานเป่ายันต์เกราะเพชรที่ผ่านมา วัดท่าซุงมีงานหล่อรูปหลวงพ่อฤๅษีฯ ด้วยทองคำ อาตมาอุตส่าห์ยุให้คนไปทางด้านนั้นแล้ว คนก็ยังมางานเป่ายันต์ฯ กันเสียแน่นวัดท่าขนุนอยู่ดี เพราะหลายท่านตั้งใจจะไปร่วมพุทธาภิเษกแล้วค่อยไปหล่อพระที่วัดท่าซุง อีกหลายท่านตั้งใจรับยันต์รอบแรกแล้วค่อยไป

เสียดายว่างูกะปะมาถึงหลังเป่ายันต์ งานเสร็จแล้วค่อยโผล่มา ไม่อย่างนั้นรับยันต์แล้วจะได้ลองให้กัดดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาตมาโดนมาแล้วรสชาติเด็ดขาดมาก ปวดเหมือนอะไรแทงอยู่ในเนื้อ วิ่งขึ้นมาเป็นเส้น พอถึงข้อก็ย้อนกลับไป เดี๋ยวก็ขึ้นมาใหม่อีก ตื๊อกันไปตื๊อกันมาอยู่ ๔-๕ รอบกว่าจะยอมหายไป อาตมาทดสอบคุณภาพมาด้วยตัวเองแล้ว เพราะฉะนั้น...ถ้าใครมั่นใจว่ารักษายันต์ได้ ลุยไปเลย...ไม่ต้องไปกลัวงู"

เถรี 09-08-2016 17:34

พระอาจารย์กล่าวถึงงานสวดพระคาถาเงินล้านว่า "เจ้าประคุณเถอะ...ญาติโยมร่วมสวดอยู่ทางบ้าน ๖๐๐ กว่าราย อยู่ใน YouTube ๕๐๐ กว่า แสดงว่าเขาเห็นว่าไทยพีบีเอสที่แคบเกินไป ก็เลยอยู่บ้านดีกว่า ความจริงห้องคอนเวนชั่นฮอลล์เขาใหญ่นะ แต่คราวนี้ กกต. ดันมาแย่งพื้นที่เพื่อที่จะประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะลงประชามติ ก็เลยไล่พวกเราไปอยู่ตรงลานไม้หน้าอาคาร A

ต้องบอกว่าเล่นเอาด็อกเตอร์ตั้มประสาทกลับไปเลย ตอนแรกท้อใจจะไม่จัดเสียแล้ว ความจริงคุณตั้มกล้าจัดนะ ถามว่ามีทีมงานกี่คน ? “มีผมคนเดียวครับ” “เฮ้ย..กล้ามากว่ะ...!” ท้ายสุดคุณชยาคมน์กับคณะอื่น ๆ ก็ไปช่วยกัน สะพานบุญก็เข้าไปด้วย จัดแล้วไม่เสียหน้า คนแน่นดี แต่เนื่องจากว่าเลื่อนระยะเวลาขึ้นมาเร็วไป ๒ ชั่วโมง ก็เลยทำให้คนเลิกงานไม่ทันกันเสียเยอะ"

เถรี 09-08-2016 18:48

"จะว่าไปแล้วสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสนั้น ระดับผู้บริหารก็เป็นศาสนาอื่นเสียเกือบหมดแล้ว พวกเรากล้าหาญชาญชัยมากที่ไปจัดงานในนั้น โดนบี้ขนาดไหนก็จะจัด ถึงได้บอกว่าโปรดระวัง อยู่ ๆ มี ม.๔๔ สั่งมาให้ย้ายไปอยู่ต่างดาวก็ไม่ต้องแปลกใจหรอก..!"

เถรี 09-08-2016 19:10

พระอาจารย์กล่าวว่า "บาตรน้ำมนต์ที่อาตมาจะสร้าง ด้านบนเป็นยันต์พุทธบารมี ใต้ฝาบาตรเป็นยันต์สุริยันทรงกลด ก้นบาตรเป็นยันต์ทำน้ำมนต์ ไม่รู้ว่ายันต์สุริยันทรงกลดจะเสร็จเมื่อไร ถ้าอาจารย์แบงค์ทำงานของวัดท่าขนุนครบทุกชิ้น ก็ตั้งตนเป็นเกจิฯ ได้เลย"

เถรี 09-08-2016 19:11

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาเสียงหล่อมาก เป็นหวัดมาเกือบ ๒ อาทิตย์แล้ว รู้สึกว่าหวัดระยะหลังนี่หายยากมาก แต่ถ้าอยู่ที่วัดโอกาสที่จะหายก็ยาก เพราะว่าฝนตกทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะตกตอนบิณฑบาต พอเริ่มเดินจากวัดฝนก็จะตก พอเดินครบ ๕ กิโลเมตรกลับจะถึงวัด ฝนก็หยุด...! เจตนาแกล้งกันชัด ๆ ถ้าเปียกเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่ต้นทางนี่ไม่ว่าอะไร เพราะถือว่าออกไปก็ต้องเปียก แต่มีบางครั้งเดินมาจนถึงหัวสะพานจะเข้าวัดอยู่แล้ว ฝนเทตูมลงมา เหลือไม่กี่ก้าวจะเข้าวัด เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลย แกล้งกันจริง ๆ

แต่ว่าที่วัดมีกติกาที่บำเพ็ญมาโดยที่ไม่ต้องมีลายลักษณ์อักษร ก็คือ จะฝนตกแดดออก ฟ้าถล่มดินทลาย พระก็ต้องออกบิณฑบาต ญาติโยมหลายคนถามว่า “หลวงพ่อ...จนป่านนี้แล้วยังบิณฑบาตเองอีกหรือ ?” “ทำไมถึงพูดอย่างนั้นละโยม ?” โยมเขาบอกว่า “ที่อื่นเขาเป็นเจ้าอาวาส เขาก็ให้ลูกวัดบิณฑบาตให้ฉันแล้ว”


หลวงพ่อวัดท่าซุงไม่เคยสอนอย่างนั้น ไม่เคยสอนว่าเป็นเจ้าอาวาสแล้วให้ลูกวัดหรือเณรบิณฑบาตแทนได้ ไม่เคยสอนว่าเป็นเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ แล้วให้ลูกวัดบิณฑบาตแทนได้"

เถรี 09-08-2016 19:14

"พระพุทธเจ้าของเรายังบิณฑบาตจนวาระสุดท้ายของชีวิต พระองค์ท่านบิณฑบาตมื้อสุดท้ายที่บ้านของนายจุนทกัมมารบุตร เสวยลงไปแล้วถ่ายเป็นเลือด พระองค์เกรงว่าคนจะกล่าวหาว่านายจุนทะถวายบิณฑบาตแล้วทำให้พระพุทธเจ้าปรินิพพาน อุตส่าห์สั่งพระอานนท์ไว้ว่า

"อานันทะ...ดูก่อนอานนท์ ถ้าต่อไปมีใครกล่าวหานายจุนทกัมมารบุตร ขอเธอจงบอกกับเขาทั้งหลายเหล่านั้นว่า บิณฑบาต ๒ ครั้งในชีวิตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่กว่าบิณฑบาตทุกครั้ง นั่นคือบิณฑบาตที่เสวยแล้วตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ และบิณฑบาตที่เสวยแล้วเสด็จดับขันธปรินิพพาน"

ในพระพุทธศาสนาของเราผู้ที่ถวายบิณฑบาตพระพุทธเจ้าแล้วได้ผลานิสงส์มากที่สุด ก็คือ นางสุชาดาเสนิยบุตร กับนายจุนทกัมมารบุตร คนหนึ่งถวายพระองค์ท่านเสวยแล้วตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ อีกคนหนึ่งถวายเสวยแล้วปรินิพพาน"

เถรี 09-08-2016 19:16

"ยังมีแรงอาตมาก็เดินไปเรื่อย ๆ แต่อาตมาออกระเบียบวัดไว้แล้วว่า ภิกษุรูปใดอายุถึง ๖๐ ถ้าไม่ต้องการบิณฑบาต หรือเดินบิณฑบาตไม่สะดวก ก็ให้ไปฉันที่โรงครัวได้เลย ปัจจุบันนี้มีรูปเดียวที่ทำตามนั้น ก็คือ หลวงตาปรีชา อกิญฺจโน แต่ก็ไม่ได้ให้ท่านอยู่ว่าง ๆ นะ ระหว่างที่พระบิณฑบาต หลวงตาท่านก็เดินตรวจวัด ห้ามอยู่เฉย ๆ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพระออกไปหมด ใครมางัดแงะกุฏิก็ไม่รู้

แต่ก็อย่างว่า แก่ปานนั้นแล้วถึงโจรมาแงะจริง ๆ จะไปทำอะไรโจรได้ อาศัยที่หลวงตารูปร่างสูงใหญ่พอที่จะขู่เขาได้ แต่ต้องอย่าเดิน ยืนเฉย ๆ จ้องหน้าโจรก็พอ ถ้าเดินเดี๋ยวเขารู้ว่าแก่ เพราะว่าเดินเซแล้ว"

เถรี 09-08-2016 19:17

พระอาจารย์กล่าวว่า "การป่วยครั้งนี้เกิดจากการพยายามฝืนกฎของกรรม ช่วยผู้มีบารมีในแผ่นดินให้ออกจากโรงพยาบาล เห็นแล้วน่ากลัวมาก เจ้ากรรมนายเวรตรึงท่านตั้งแต่บนยันล่าง ไม่มีที่ให้ขยับเลย ไปลองปะทะกันมา อาตมาก็เลยน่วมอย่างที่เห็น ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวเอาใหม่ ดูว่าใครจะทนกว่ากัน

ไปไล่ทุบไล่ตีเขาเรื่อย ๆ ชนะไม่ได้ไปกวนให้ขุ่นเล่นก็ยังดี เห็นประเทศชาติของเราวุ่นวาย ชาวบ้านขาดหลักยึดทางใจก็จำเป็น ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น อาตมาถือว่าทำเต็มที่แล้ว ในเมื่อฝืนกฎของกรรม ตัวเองต้องรับบ้าง ก็ถือว่าปกติ"

เถรี 09-08-2016 19:31

"ช่วงที่สบายที่สุดในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็คือ ช่วงที่ไปอยู่ประเทศอังกฤษ มีอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นมัคคุเทศก์...! ปกติแล้วกรมอุตุนิยมวิทยาอังกฤษทำนายไม่เคยผิด บอกว่ามีฝนก็ต้องเตรียมร่ม วันนั้นบอกว่าอากาศหนาว ลมแรง มีฝน อาตมาไปถึงก็แดดดี ถ่ายรูปสวยทุกที่เลย

แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่อาตมาสงสัยเพราะเขาเถียงกันไม่เลิก ก็คือสโตนเฮนจ์ ใครเคยไปเที่ยวบ้าง ? ที่เป็นหมู่หินวงกลมแล้วก็มีหินก้อนยักษ์ ๆ พาดเป็นวงอยู่ข้างบน มีพรหมท่านหนึ่งมาบอกว่า เป็นวงกลมของนักบวชโบราณที่ใช้ทำพิธีเพื่อชัยชนะของกษัตริย์ แล้วตัวคนทำพิธีก็คือพรหมที่มาบอกนั่นแหละ เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องไปเถียงกับเขา ใครบอกว่าเป็นวงกลมสำหรับเป็นเครื่องหมายของจานบิน ใครบอกว่าเป็นนาฬิกาโบราณ เรารู้ว่าเป็นวงพิธีแล้วกัน เพราะเขาทำพิธีแล้วพลังจะมากเป็นพิเศษ ส่งไปช่วยกษัตริย์และกองทัพให้รบชนะ แสดงว่าไสยศาสตร์นี่เขาเล่นกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้ว"

เถรี 09-08-2016 19:41

"ไปอังกฤษเที่ยวนี้อาตมาเน้นไปบ้านนอก เพราะสงบน่าอยู่มาก บ้านเขาถนนหนทางดี ระยะทางไกล ๆ นี่รถวิ่ง ๒ - ๓ ชั่วโมงก็ถึง แต่เขาจำกัดความเร็วนะ ถ้าเขาไม่จำกัดความเร็ว จะถึงเร็วกว่านั้น ฝ่าฝืนกฎจราจรไม่ได้ เพราะเขามีกล้องเป็นระยะ ๆ ถ้าเร็วเกินกำหนดติดอยู่ในกล้องเมื่อไร ใบสั่งจะส่งถึงบ้าน ถ้าผ่านไป ๒ วันไม่จ่ายโดนปรับเพิ่ม

แต่บ้านเขาของแพงมากเพราะว่าเงินเขาใหญ่ จึงเป็นประเทศท้าย ๆ ในโลกที่อาตมาจะไป งานนี้โดนลูกสาวบังคับไปเพราะเขารับปริญญาโท อย่างไรก็ต้องเอาหลวงพ่อไปอวดชาวบ้านเขาให้ได้...ไปก็ไป

แต่ที่น่ากลัวอย่างหนึ่งก็คือ มหาวิทยาลัย Middlesex นักศึกษาที่รับปริญญารุ่นนี้เป็นอิสลามเกินครึ่ง แสดงว่าอิสลามเขาสร้างบุคลากรมากเป็นพิเศษ ส่งไปเรียนต่างประเทศ เข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ กัน ของเราเองกว่าจะไปได้ต้องต่อสู้กับโทเฟลแทบล้มประดาตาย กว่าภาษาจะเพียงพอใช้งาน ของเขาเหมือนกับง่าย ๆ ไปกันเต็มไปหมด ถึงเวลารับปริญญาพอประกาศชื่อมีการเป่าปากวี้ดวิ้ว โห่ร้อง ถ้าเป็นบ้านเราไปทำอย่างนั้นก็โดนไล่ออกจากหอประชุมเท่านั้น"

เถรี 09-08-2016 19:44

พระอาจารย์กล่าวถึงเหรียญพุทธบารมีรุ่น ๑ ที่ผ่านมาว่า "แค่เฉพาะค่ากล่องไม้ก็แพงมากแล้ว ทำทั้งทีก็ต้องทำให้ดีไปเลย"

เถรี 09-08-2016 20:11

ถาม : ถ้าในอดีตเราทำทานบารมีน้อย เกิดชาตินี้เราไม่คล่องตัว เราภาวนาพระคาถาเงินล้านเพื่อให้คล่องตัว ผลของคาถาจะช่วยให้คล่องตัวได้ไหมครับ ?
ตอบ : ช่วยได้ เพราะว่าเข้ามาเสริมในชาตินี้ อย่าลืมว่าสิ่งที่เรารับในปัจจุบันนั้นเกิดจากในอดีต ถ้าหากว่าวินาทีนี้ผ่านไป ก็จะเป็นอดีตแล้ว เพราะฉะนั้น...เราทำปัจจุบันของเราให้ดีต่อเนื่องยาวนานพอ ผลก็จะไปเกิด ไม่ใช่ว่าอดีตไม่เคยทำ อดีตชาตินี้ทำ แต่อดีตชาติก่อน ๆ อาจจะไม่ได้ทำ

เถรี 09-08-2016 20:38

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครเคยไปอังกฤษบ้าง ? สงสัยไหมว่า บ้านเมืองในอังกฤษลงท้ายด้วย bury เต็มไปหมด ท่านผู้รู้บอกว่า ก็ไปจากภาษาบาลีว่าบุรีนั่นแหละ

บุรี แปลว่า เมือง เช่น ชลบุรี สิงห์บุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เพียงแต่ที่โน่นเป็น Bibury Banbury คนคิดอักษรคิดศัพท์ไม่ทัน ก็ทับศัพท์ไปเลย ไปอังกฤษแล้วเสียดายเงิน เป็นประเทศท้าย ๆ ในโลกที่อาตมาจะไปเลย แต่คราวนี้โดนโยมลากไป

ที่ไม่คิดจะไปอังกฤษเพราะเงินเขาแพง ทำใจไม่ได้ ไปกินข้าวอุตส่าห์จิ้มที่ถูกที่สุดในเมนูแล้ว ยังตั้ง ๑๓.๕ ปอนด์ จานหนึ่งเกือบ ๗๐๐ บาท กินไม่อิ่มด้วย แต่ถ้าใครไปอังกฤษแล้วจะกินอาหารไทย ให้ไปให้ถึงซาลิสบิวรี่ ร้านอาหารไทยชื่อสโรชา เป็นร้านอาหารที่ทำอาหารไทยอร่อยโคตร ยังเป็นรสไทยแท้ ๆ อยู่ แต่ราคาฝรั่ง กินมื้อหนึ่งอย่างไม่มี ๆ ก็ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ บาท แต่ต้องบอกว่ากินแล้วไม่เสียรสมือ"

เถรี 09-08-2016 20:48

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมรุปลอดมลพิษวัดท่าขนุนประเดิมไปแล้ว ศพแรกคือ พระมหาทรงกลด กุสลจิตฺโต อายุ ๖๕ พรรษา ๓๑ วิทยฐานะ นักธรรมเอก เปรียญธรรม ๓ ประโยค ปริญญาโทสาขาวิปัสสนาภาวนา

ท่านไปฝากผีฝากไข้เพราะว่าท่านเป็นมะเร็งตับ คราวนี้ไปอยู่ได้เกือบเดือนอาตมาก็เอาเข้าโรงพยาบาล หมอดูแลดี แข็งแรงขึ้นมาขอกลับวัดไป กลับไปแล้วอาการกำเริบก็เลยกลับมาใหม่ คราวนี้ได้เผาจริง ๆ

อาตมาพยายามจะจับผิด เขาบอกว่าเตาปลอดมลพิษ ต้องไม่มีควัน แต่ทางด้านวิศวกรเขาบอกว่า เตายังใหม่อยู่ ความชื้นยังเยอะ ควันต้องมี อาตมาก็ไปจ้องจับผิด เออ...ไม่มีควันจริง ๆ จะเตาใหม่เตาเก่าก็ไม่มีควันสมกับราคาที่แพง เฉพาะเตาก็ตั้งล้านกว่าบาท"

เถรี 09-08-2016 21:04

ถาม : พระขุนแผนเกราะเพชรองค์นี้คุ้มครองได้ทั้งบ้านหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็อธิษฐานเผื่อสิวะ ถ้าเอาไปวางไว้เฉย ๆ ก็จะไปคุมอะไรได้

ถาม : ว่าคาถาให้ว่าครั้งเดียวหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าให้อธิษฐานภาพพระคลุมไว้ทั้งบ้านเลย

เถรี 09-08-2016 21:35

ถาม : ตอนที่ลูกจับภาพพระเฉย ๆ ก็สบาย แต่ถ้าเป็นภาพพระด้วย ลมหายใจด้วย ยังไม่ชัดค่ะ ?
ตอบ : แสดงว่าเรายังแบ่งใจไม่เป็น ก็เลือกเอาที่สบายสิ เพราะว่าที่สำคัญที่สุดคือให้ใจเราเกาะความดีได้

ถาม : เมื่อเรามีอาการเจ็บ เวทนา แสดงว่าเราไม่ได้เกาะพระใช่ไหมคะ ?
ตอบ : เจ็บแล้วไปเกาะร่างกายก็เจ็บตายชักสิวะ เจ็บก็ไปอยู่กับพระท่าน ไปอยู่ไกล ๆ ร่างกาย เดี๋ยวก็หายเจ็บไปเอง

เถรี 09-08-2016 21:42

พระอาจารย์เล่าว่า "ท่านอาจารย์พระมหาทรงกลดจบปริญญาโทวิปัสสนาภาวนา เป็นรุ่นน้องของพระครูแสง เวลาเจอกันท่านอาจารย์พระมหาทรงกลดอายุก็มากกว่า พรรษาก็มากกว่า พระครูแสงมาถึงก็ “เป็นอย่างไรรุ่นน้อง ?” นาน ๆ จะได้ขี่พี่สักที

ด้วยความที่ท่านเป็นมะเร็งแล้วรู้ตัวเพราะว่าเป็นนักปฏิบัติด้วย ท่านก็เตรียมเบื้องหลังไว้เรียบร้อย โอนเงินเข้าบัญชีอาตมา ๓๐๐,๐๐๐ กว่าบาท ถวายวัดท่าขนุน ๕๐,๐๐๐ บาท ถวายวัดตุ๊กตา นครชัยศรี ๕๐,๐๐๐ บาท ถวายวัดกลางบางแก้วของท่าน ๕๐,๐๐๐ บาท ถวายวัดพุทโธภาวนา ๕,๐๐๐ บาท ถวายสำนักสงฆ์ธรรมวิสุทธาจารย์ ๕,๐๐๐ บาท มอบให้โรงพยาบาลทองผาภูมิ ๕,๐๐๐ บาท รวมแล้ว ๑๖๕,๐๐๐ บาท

เหลือเงินอยู่อีก ๑๙๑,๐๐๐ บาทเศษ อาตมาเลยเติมให้ครบเป็น ๑๙๒,๐๐๐ บาท มอบให้น้องชายท่านไป เพราะตอนแรกบอกไว้แล้วว่าเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวก็ดี เรื่องงานศพก็ดี อาตมารับผิดชอบเอง แต่ท่านบอกว่าท่านมีสตางค์ ฉะนั้น...ขอจัดการเอง ก็เลยกลายเป็นว่าอาตมาได้ช่วยในเรื่องการเผาศพ

หมอบอกว่าอยู่ไม่เกินอาทิตย์ แต่ท่านอยู่ยาวมา ๓-๔ เดือน อาการที่หมอบอกอยู่ไม่เกินอาทิตย์ ก็คือ ท่านหายใจนิดเดียว อาตมาดูแล้วนี่เป็นลักษณะอาการของคนเข้าสมาธิ หมอไม่เข้าใจ เห็นสภาพร่างกายก็นึกว่าไม่ไหวแล้ว"

เถรี 09-08-2016 21:46

"ท่านอาจารย์พระมหาทรงกลดเป็นมะเร็งตับ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นนักภาวนา ก็เลยไม่รู้สึกอะไร อาตมาถามว่าไม่ปวดบ้างเลยหรือ ? เพราะหมอเขาบอกว่าถ้าปวดมากต้องฉีดมอร์ฟีน ท่านอาจารย์พระมหาทรงกลดบอกว่าตื้อ ๆ ก็คือรู้สึกแน่นอึดอัดเฉย ๆ ไม่รู้สึกอย่างอื่น

ถือว่าโชคดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะปกติมะเร็งนี่ปวดเห็นดาวเห็นเดือนเลย ต้องฉีดมอร์ฟีนกันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉีดจนติดมอร์ฟีนไปเลย ถ้าใครไม่อยากจะปวดแบบนั้น ก็ต้องภาวนาให้ได้อย่างท่าน


อานาปานสติระงับกายสังขาร ก็คือ ช่วยตัดความรู้สึกทางร่างกายออกไป เพราะว่าสมาธิไปจับอยู่ที่การภาวนาแทน ในเมื่อสมาธิจิตไปอยู่กับการภาวนา ไม่รับรู้อาการทางร่างกาย ถึงเจ็บเหมือนไม่เจ็บ ปวดก็เหมือนไม่ปวด ฉะนั้น...ท่านอาจารย์พระมหาทรงกลดก็ถือว่า เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องของอานาปานสติระงับกายสังขารได้ ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานมาก

รดน้ำศพเสร็จ ท่านอาจารย์พระมหาทรงกลดก็ตามอาตมากลับกุฏิไปด้วยความเคยชิน ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว ต้องบอกว่า “มีโลงก็ไปนอนโลงสิโว้ย...! อย่ามายุ่งที่นี่” ต้องให้สติท่านหน่อย"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:05


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว