กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=43)
-   -   อารมณ์ใจร้อนเป็นปฏิฆะกับการบรรลุของพระอานนท์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2178)

ลัก...ยิ้ม 08-10-2010 15:43

อารมณ์ใจร้อนเป็นปฏิฆะกับการบรรลุของพระอานนท์
 
อารมณ์ใจร้อนเป็นปฏิฆะกับการบรรลุของพระอานนท์



เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ พ.ย. ๒๕๓๖ สมเด็จองค์ปฐมทรงพระเมตตา ตรัสสอนไว้ ดังนี้

๑. “อย่าฝืนอารมณ์ของจิต ให้ตามรู้อารมณ์ไปตลอด คิดชั่วก็รู้ คิดดีก็รู้ ให้ตามแก้ไขอารมณ์ชั่วที่ถูกกิเลสครอบงำด้วยกรรมฐานแก้จริต หากคิดดีอยู่แล้วก็หาทางส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้น อย่างที่เจ้าทำเมื่อเย็นนี้นั้นถูกต้องแล้ว แม้ผลจักยังไม่ทรงตัวเท่าที่ควร ก็ให้ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ อย่าท้อถอย”

๒. “การเข้าสู่สัจธรรมอยู่เสมอ ๆ นั้นเป็นของดี เพราะจักทำให้จิตยอมรับความเป็นจริงของขันธ์ ๕ ค่อย ๆ ทำไปอย่าใจร้อน ทำไปเรื่อย ๆ อย่างมีเป้าหมาย ดีกว่าใจร้อน ทำไปด้วยอารมณ์ตัณหาทะยานอยาก หวังมรรคผลจนเกิดความเศร้าหมองแห่งจิต ทำเช่นนั้นไม่สมควร”

๓. “ให้ใจเย็นเข้าไว้ เป็นการฝึกสมาธิจิตให้ตั้งมั่นอยู่ในความสงบเยือกเย็น เป็นการละได้จากอารมณ์ใจร้อน ซึ่งเป็นปฏิฆะตัวหนึ่งเช่นกัน ถ้าหากเจ้ารักษาอารมณ์ใจไปอย่างนี้เรื่อย ๆ อารมณ์ใจร้อนก็จักคลายลงไป ขอให้ดูท่านพระอานนท์เป็นตัวอย่าง ทีท่านเคร่งเครียดรีบเร่ง จักให้มรรคผลบังเกิดขึ้นฉับพลัน ตลอดคืนยันรุ่งก็ไม่บรรลุ พออารมณ์เย็นลง ความเครียดผ่อนคลาย จิตเริ่มมีความสบาย ตั้งใจจักเอนกายลงพักผ่อน ก็บรรลุพระอรหันต์ที่ตรงนั้นเอง”

๔. “ที่กล่าวมานี้ เพื่อให้เจ้าได้เข้าใจถึงสภาพจิตในจิต ต้องอาศัยหลักมัชฌิมาปฏิปทาเป็นที่ตั้งแห่งอารมณ์ของจิต ไม่ตึงไป ไม่หย่อนเกินไป ทำให้พอสบาย ๆ ใจเย็น ๆ เกี่ยวกับมรรคผลไปเรื่อย ๆ ก็จักถึงจุดหมายปลายทางได้เอง”

ลัก...ยิ้ม 11-10-2010 15:13

๕. “อย่าลืม เจ้าไม่ใช่บุคคลประเภทอุคคติตัญญู จักใจร้อนให้บรรลุมรรคผลเร็วมิได้ แม้อุคคติตัญญูการบรรลุมรรคผลก็มิใช่ได้เพราะความใจร้อน อาศัยบารมีธรรมที่บำเพ็ญมาเต็มแล้วแต่กาลก่อน จึงบรรลุได้เร็วตามนั้น”

๖. “พวกเจ้าเป็นวิปจิตัญญู ก็พึงจักต้องศึกษาและปฏิบัติไปตามคำสั่งสอนก่อน อีกทั้งมีการเวียนว่ายตายเกิดมานานนับอสงไขยกัปไม่ถ้วนเยี่ยงนี้ จู่ ๆ จักให้เคาะกิเลสหลุดไปได้อย่างฉับพลันนั้น ย่อมเป็นการยาก เพราะฉะนั้น จักต้องใจเย็น ๆ แต่มิใช่เย็นแบบมีความประมาทในชีวิต จักต้องคิดถึงความตาย ควบกับความเพียรในความใจเย็นอยู่เสมอ อุปสมานุสติ กายคตานุสติ ควบอสุภกรรมฐานตั้งมั่น ควบคู่กับอานาปานุสติไว้เสมอ กันความไม่ประมาทในชีวิต จิตสงบยอมรับความเป็นจริงในกฎของกรรมหรืออริยสัจ แล้วก็ปฏิบัติไปตามแนวคำสั่งสอนโดยไม่ย่อท้อ สักวันหนึ่งข้างหน้า ก็ย่อมจักถึงจุดหมายปลายทางได้”

๗. “อนึ่ง การคิดถึงหนทางระงับอารมณ์ปฏิฆะ โดยเอาจิตตนเองเป็นเครื่องวัดว่า ถ้าใครด่าเรา นินทาเรา เราไม่ชอบใจแน่ เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ไม่ควรด่าใคร นินทาใคร เราไม่ชอบให้ใครมาแสดงอารมณ์โกรธ เราก็ไม่ควรที่จักแสดงอารมณ์โกรธเขา นั่นเป็นการคิดตามคำสั่งสอนของตถาคต ที่ท่านฤๅษีนำมากล่าวในพรหมวิหาร ๔ กรณีนี้เป็นการคิดที่ถูกต้อง เจ้าควรจักคิดทบทวนอยู่เสมอ ๆ ซ้ำ ๆ จิตจักยอมรับตามความเป็นจริง เห็นโทษของอารมณ์โกรธ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จักยึดถืออารมณ์โกรธ เพราะจักเป็นเหยื่อของอบายภูมิได้โดยง่าย”

๘. “จุดนี้ ขอให้คิดถึงท่านฤๅษีสอนในเทป โทษละเมิดพระธรรมวินัยที่กบิลภิกษุ เมื่อขึ้นจากอเวจีมหานรก มาเกิดเป็นปลาเกล็ดสีทอง ต้องตายลงเพราะอารมณ์ปฏิฆะและโทสะ น้อยใจในกฎของกรรม มีความคับแค้นใจในกรรมที่ตนทำมาในอดีต จึงเอาศีรษะฟาดเรือตายไปอเวจีมหานรกก็ด้วยอารมณ์นี้ พวกเจ้าก็จักสามารถศึกษาโทษแห่งอารมณ์โทสะ ราคะได้จากพระสูตรต่าง ๆ เพราะล้วนแล้วแต่มีตัวอย่างให้ดูมาแล้วทั้งสิ้น ถ้าหากเข้าใจถึงโทษแห่งอารมณ์นั้น ๆ จิตก็จักคลายจากการเกาะติดอารมณ์นั้น ๆ ลงได้ เสมือนหนึ่งบุคคลผู้ดื่มยาพิษมานาน พอรู้จริงว่านี่คือยาพิษ อันทำให้เราตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เขาก็จักไม่ยอมหลงดื่มยาพิษนั้นอีกต่อไป ข้อนี้อุปมาฉันใด จิตของผู้รู้จริงก็จักเป็นฉันนั้น ขอให้ใช้ปัญญาศึกษากันให้ดี ๆ จักปล่อยวางอารมณ์ที่เสมือนหนึ่งยาพิษที่ฆ่าตัวให้ตายได้”


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:26


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว