กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   จินตนาการเตลิด กิเลสจะเกิดตามมา (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=236)

เถรี 10-03-2009 16:56

จินตนาการเตลิด กิเลสจะเกิดตามมา
 
พระสังขรักขิตเมื่อได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ก็เกิดความเลื่อมใสจึงขออุปสมบท เมื่ออุปสมบทไปได้ไม่กี่วันก็บรรลุเป็นพระอรหันต์

ทีนี้หลานชายของพระสังฆรักขิตได้มาบวชในสำนักของพระสังฆรักขิต (หลานชายของพระสังฆรักขิตนี้ ก็ชื่อ "สังฆรักขิต" เหมือนกัน) ก็กลายเป็นว่าลุงกับหลานชื่อเดียวกัน วันหนึ่งพระสังฆรักขิตผู้เป็นหลานได้ผ้าอาบน้ำฝนมา ตั้งใจจะนำไปถวายหลวงลุง ก็ไปดักรอ อ้อนวอนขอให้หลวงลุงรับไว้ แต่ปรากฏว่าหลวงลุงปฏิเสธ บอกว่าผ้าสำหรับใช้ของท่านมีพอแล้ว ขอให้พระสังฆรักขิตเอาไว้ใช้เองเถอะ พระสังฆรักขิตอ้อนวอนถึงสามครั้ง หลวงลุงก็ไม่รับ พระหลานชายก็เลยน้อยใจ คิดว่าลุงรังเกียจ คิดจะสึกไปเป็นฆราวาส

พระสังฆรักขิต ก็คิดต่อไปอีกว่า เมื่อเราสึกแล้ว เราจะเอาผ้าอาบน้ำฝนนี้ไปขาย พอขายได้เงินมาก็จะซื้อแพะมาตัวหนึ่ง เมื่อแม่แพะออกลูกแล้วเราจะขายลูกแพะ แล้วนำเงินนั้นมาทำเป็นต้นทุน เมื่อรวบรวมเงินได้มากก็จะหาหญิงคนหนึ่งมาเป็นเมีย เมื่อมีลูกด้วยกัน จะพาลูกนั่งเกวียนมาหาหลวงลุง เราจะอุ้มลูกแต่แม่เขาบอกให้เราขับเกวียน ส่วนเขาจะอุ้มเอง ด้วยความเผลอ ลูกหล่นไปอยู่ที่ทางเกวียน ล้อเกวียนจะทับลูก เราโกรธเมียจึงจับเอาด้ามปฏักตีหัวมัน...!

ถึงตอนนี้ พระสังฆรักขิตลืมไปว่าตนเองกำลังจินตนาการอยู่ จึงเอาพัดนั้นตีหัวหลวงลุง หลวงลุงพูดว่า "สังฆรักขิตเธอจะตีเมียไม่ใช่หรือ ? ทำไมมาตีลุงเสียล่ะ ?" พระสังฆรักขิตจึงรู้ตัวว่าตีผิด เมื่อครู่นี้จินตนาการจนเพลินไป

แต่พระสังฆรักขิตก็คิดอีกว่า "ตายจริง..! หลวงลุงรู้เรื่องที่เราคิดด้วย เราจะอยู่เป็นพระได้อย่างไรต่อไป ? เราจะสึกล่ะ" แล้วก็วางพัดใบตาล วิ่งหนีไป ตอนหลังพอพระสังฆรักขิตได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน

เรื่องนี้ สอนให้ระวังว่า "จินตนาการเตลิด กิเลสจะเกิดตามมา"


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนมีนาคม ๒๕๕๒

ทิดตู่ 10-03-2009 23:34

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี (โพสต์ 2044)
ตอนหลังพอพระสังฆรักขิตได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าก็บรรลุเป็นพระโสดาบันค่ะ

ธรรมบทนั้นท่านว่า

ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะเธอว่า “มาเถิดภิกษุ เธออย่าคิดไปเลย, ธรรมดาจิตนี่มีหน้าที่รับอารมณ์ แม้มีอยู่ในที่ไกล, ควรที่ภิกษุจักพยายามเพื่อประโยชน์แก่การพ้นจากเครื่องผูก คือราคะ โทสะ โมหะ”
ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า

ทูรงฺคมํ เอกจรํ อสรีรํ คุหาสยํ
เย จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา.

ชนเหล่าใด จักสำรวมจิต อันไปในที่ไกล เที่ยวไป

ดวงเดียว ไม่มีสรีระ มีถ้ำเป็นที่อาศัย ชนเหล่านั้น

จะพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร.

อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท จิตตวรรคที่ ๓


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:40


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว