การขอพระ ขอเทวดาให้ช่วย
ถาม : คราวก่อนได้ถามว่า การอธิษฐานขอพรจากพระในเรื่องส่วนตัว เช่น ลาภ ยศ เป็นการไม่สมควร เมื่อได้ไปฟัง... เวลาท่านอธิษฐาน ท่านก็บอกว่าให้พระท่านช่วยเกื้อกูลสงเคราะห์ ต้องทำแบบไหนถึงเหมาะสม ?
ตอบ : อะไรก็ตาม ต้องเป็นเรื่องของเหตุกับผลเท่านั้น ถ้าเราสร้างเหตุเพียงพอ เราขออะไรผลนั้นก็จะได้ ถ้าเราสร้างเหตุไม่พอขอให้ตายก็ไม่ได้ การขอพระ ขอเทวดาให้ช่วย ต้องหมายความว่าเราขาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วเราตั้งใจจะทำความดีเพิ่มเติม ถ้าขาดเพียงเล็กน้อย แล้วตั้งใจทำดีเพิ่มเติมด้วย ท่านก็ช่วยสงเคราะห์ให้ก่อนได้ แต่ถ้าหากขาดเยอะท่านก็ช่วยไม่ไหวเหมือนกัน เพราะฉะนั้น..เรื่องศาสนาพุทธของเรา พระพุทธเจ้าบอกแต่ของจริง ในเมื่อพระองค์ท่านบอกของจริง เป็นเรื่องของเหตุและผล ร้องขอเฉย ๆ ไม่มีทางได้ ต้องสร้างเหตุเอาไว้ ผลถึงจะเกิด ถาม : ถ้าเราไม่ขอเลยครับ ? ตอบ : ไม่ขอเลย ก็บางครั้งก็อาจจะเจออย่างอานันทเศรษฐี การขอเขาเรียกว่าอธิษฐานบารมี คือความตั้งใจอยู่ว่า สิ่งที่เราทำนี้ เราต้องการอะไร ? ต้องการเป็นอย่างไร ? อานันทเศรษฐี ท่านเปลี่ยนจากเศรษฐีเป็นคหบดี เปลี่ยนจากคหบดี กลายเป็นขอทาน พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า อานันทเศรษฐี ตอนที่เป็นมหาเศรษฐี ถ้าฟังธรรมจะเป็นพระโสดาบัน แต่ตอนนี้เธอเป็นขอทาน จิตใจมัวแต่กังวลอยู่กับการทำมาหากิน ฟังธรรมไปก็ไม่มีผล พระอานนท์ถามว่า พระพุทธเจ้าตรัสทุกอย่างแล้วไม่เป็นสอง พระองค์เคยตรัสเอาไว้ว่า บุคคลใดมีวิสัยจะได้มรรคผล จะไม่เสื่อมจากวิสัยอันนั้น ทำไมอานันทเศรษฐีถึงเสื่อม ? พระพุทธเจ้าตรัสว่า อานันทเศรษฐีขาดอธิษฐานบารมี ในเมื่อไม่ตั้งใจเอาไว้ก่อนว่าต้องการให้เป็นอย่างไร ต้องการให้เป็นเมื่อไร เวลาที่ตัวเองต้องการก็เลยไม่มา สมมติว่าอยากจะกินข้าวตอนนี้ แต่อีก ๓ วันข้าวค่อยมา ก็ทนรอไปก็แล้วกัน..! สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:51 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.