ดูแบบคำตอบเดียว
  #74  
เก่า 18-06-2009, 17:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,342 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คราวนี้เมื่อกษัตริย์แคว้นวัชชีประชุมกันเป็นปกติ ถึงเวลามีข่าวคราวอะไรก็แจ้งกันอย่างรวดเร็ว เวลาไปเก็บกวาดทรัพย์ทั้งหลายบนหุบเขา ก็เลยได้ก่อนพวกแคว้นมคธ ทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูโกรธ อยากไปทำลายแคว้นวัชชี อยากไปยึดเมืองเป็นของตัวเอง ถึงแม้แคว้นวัชชีจะเล็กกว่า แต่ผู้ปกครองนอกจากจะสมานสามัคคีกันแล้วยังเป็นสุดยอดฝีมือ เขาบอกว่ากษัตริย์แคว้นวัชชีมีฤทธิ์มาก อาจแผลงศรลอดดาลประตูได้ แสดงว่าแม่นมาก ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ยิงปืนตอกหัวตะปูได้

พระเจ้าอชาตศัตรูไม่รู้จะทำอย่างไร พอดีพระพุทธเจ้าเสด็จมายังที่นั้น พระเจ้าอชาตศัตรูก็เลยใช้วิธีส่งอำมาตย์ผู้ใหญ่ ก็คือวัสสการพราหมณ์ไปถาม ถามคนอื่นไม่ได้เรื่องแน่ ถามพระพุทธเจ้าต้องได้เรื่องแน่นอน วัสสการพราหมณ์พอรับคำสั่งก็ไปกราบพระพุทธเจ้า ปฏิสันถารตามสมควรแล้ว ก็กล่าวถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ลองทายซิว่าพระพุทธเจ้าท่านบอกหรือไม่บอก? ถ้าเราเป็นพระแล้วลูกศิษย์มาถามถึงวิธีตีเมือง เราจะบอกไหม?

พระพุทธเจ้าท่านไม่บอก แต่หันไปถามพระอานนท์ว่า "เหล่าแคว้นวัชชียังปฏิบัติอยู่ในอปริหานิยธรรม ๗ อยู่หรือไม่?" พระอานนท์ก็บอกว่ายังปฏิบัติอยู่ พระพุทธเจ้าก็ตรัสกับพระอานนท์ว่า "อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ ตราบใดที่แคว้นวัชชียังปฏิบัติในอปริหานิยธรรมตามที่ตถาคตกล่าวไว้ ตราบนั้นแคว้นวัชชีจะไม่ประสบกับความเสื่อม"

วัสสการพราหมณ์ก็สงสัย ทูลถามพระพุทธเจ้าว่าอปริหานิยธรรมมีอะไรบ้าง? พระพุทธเจ้าก็แสดงให้ฟัง ๗ ประการ วัสสการพราหมณ์พอได้ยิน ก็พูดว่า "อย่าว่าแต่ ๗ ประการเลย เพียงประการเดียวก็ไม่มีใครสามารถทำลายแคว้นวัชชีได้" เพราะว่าเขาสามัคคีพร้อมเพรียงกันมาก

บางข้อนี่เรานึกไม่ถึง อย่างเช่นว่าให้คุ้มครองพระอรหันต์ที่มาในแว่นแคว้น เมื่อพระอรหันต์ไปที่ไหนพรหมเทวดาจะตามไปให้การสงเคราะห์ ตราบใดที่พรหมเทวดายังให้การสงเคราะห์ สถานที่นั้นจะไม่ประสบภัยพิบัติ

วัสสการพราหมณ์ก็กราบลาพระุพุทธเจ้ากลับไป แล้วไปกราบทูลพระเจ้าอชาตศัตรู พระเจ้าอชาตศัตรูถามว่าท่านอาจารย์มีช่องทางใดบ้าง? วัสสการพราหมณ์ก็บอกว่า "มีทางเดียว ต้องทำลายความสามัคคีของแคว้นวัชชีให้ได้" เมื่อเป็นดังนั้น ก็เลยตกลงกับพระเจ้าอชาตศัตรูว่า ถ้าถึงเวลาพระเจ้าอชาตศัตรูเสนอขึ้นกลางที่ประชุมว่าให้ไปตีแคว้นวัชชี วัสสการพราหมณ์จะคัดค้าน พอคัดค้านแล้วให้พระเจ้าอชาตศัตรูลงโทษตนให้หนัก แล้วขับไล่ออกจากแว่นแคว้นไป เพื่อที่ตนจะได้หาทางเข้าไปยังแคว้นวัชชีแล้วจัดการ

พระเจ้าอชาตศัตรูก็ตกลง เป็นอันว่ารู้กันสองคน พอถึงเวลาออกมหาสมาคมประชุมข้าราชการ พระเจ้าอชาตศัตรูก็ปรารภเรื่องนี้ ว่าแคว้นวัชชีมันเอาเปรียบเราทุกที พื้นที่ส่วนเกินเป็นของทั้งสองฝ่าย แต่ทรัพย์เกิดขึ้นเมื่อไรทางแคว้นวัชชีเอาไปหมด ต้องสั่งสอนให้มันรู้เรื่องเสียบ้าง จะยกทัพไปตีมัน วัสสการพราหมณ์ก็ค้านขึ้นกลางที่ประชุม บอกว่าไม่สมควร เพราะว่าแคว้นวัชชีมีความสามัคคีกันมาก มีฤทธิ์มาก เรายกทัพไปไม่แน่ว่าจะชนะ เสียชีวิต สูญเสียทรัพยากรเปล่า ๆ พระเจ้าอชาตศัตรูก็แกล้งทำเป็นโกรธ สั่งราชบุรุษจับวัสสการพราหมณ์โบย

สมัยก่อนการโกนหัวเขาถือเป็นกาลกิณีไม่มีใครคบด้วย พระเจ้าอชาตศัตรูก็ให้จับวัสสการพราหมณ์โกนหัวและเฆี่ยนจนหลังลาย แล้วขับไล่ออกจากเมืองไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-04-2011 เมื่อ 11:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 101 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา